โอเปร่า-คอนแชร์โตซิมโฟนี-บัลเลต์ (คอลัมน์ รู้ไปโม้ด น้าชาติ ประชาชื่น)
โอเปร่า-คอนแชร์โตซิมโฟนี-บัลเลต์
คอลัมน์ รู้ไปโม้ด น้าชาติ ประชาชื่น nachart@yahoo.com
โอเปร่า คอนแชร์โต ซิมโฟ นี บัลเลต์ น้าชาติช่วยอธิบายอย่างง่ายๆ นะคะ
สาวน้อย
ตอบ สาวน้อย
มีคำอธิบายเข้าใจง่ายอยู่ในเอกสารการสอนหน่วยดนตรีตะวันตก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ดังนี้
โอเปร่า (Opera) คือละครที่มีเพลงและดนตรีเป็นหลักสำคัญในการดำเนินเรื่องราว ถือได้ว่าเป็นการรวมกันของศิลปะการละครและดนตรี ปกติการแสดงโอเปร่า ผู้แสดงจะเป็นนักร้องที่สามารถแสดงละครได้ เพราะในการดำเนินเรื่องใช้การร้องเป็นหลัก มีวงออร์เคสตร้าบรรเลงดนตรีประกอบ ทั้งนี้ ส่วนประกอบสำคัญประการหนึ่งของโอเปร่าคือฉากการเต้นรำในลักษณะต่างๆ ที่มักจะปรากฏอยู่ในโอเปร่าแทบทุกเรื่อง โอเปร่าจึงเป็นผลรวมของศิลปะหลายชนิดเข้าด้วยกัน
โอเปร่าถือกำเนิดขึ้นในทศวรรษสุดท้ายของศตวรรษที่ 16 เป็นผลจากการศึกษาค้นคว้าของกลุ่มผู้ประพันธ์เพลงและกวีที่อยู่ในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี โดยพยายามที่จะรื้อฟื้นและสร้างสรรค์ศิลปะการละครแบบหนึ่งของกรีซที่สูญหายไป ซึ่งมีลักษณะเป็นละครเพลง รูปแบบของโอเปร่าได้พัฒนาอย่างมากต่อมาในเมืองเวนิซ ซึ่งเป็นแหล่งวัฒนธรรมทางดนตรีที่สำคัญในเวลานั้น มีการเปิดโรงละครโอเปร่าให้ประชาชนเข้าชมเป็นแห่งแรกราวปี ค.ศ.1630 โอเปร่าแบบอิตาเลียนเริ่มแพร่ขยายเข้าไปสู่ประเทศต่างๆ ในยุโรปตั้งแต่นั้นมา และในบางประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมนี ได้คิดหารูปแบบโอเปร่าของตนเองในเวลาต่อมา
คอนแชร์โต (Concerto) เป็นคำในภาษาฝรั่งเศสมีความหมายว่าการนำมารวมกัน ซึ่งหมายถึงการบรรเลงดนตรีร่วมกัน เช่น ผู้ขับร้องเดี่ยวร้องร่วมกับวงประสานเสียง ผู้บรรเลงเครื่องดนตรีเดี่ยวบรรเลงกับวงออร์เคสตร้า คอนแชร์โตมีอยู่ 2 ประเภทคือ 1.คอนแชร์โต กรอสโซ (Concerto Grosso) เป็นลักษณะของคอนแชร์โตในยุคบาโร้ก บทเพลงมีจำนวนท่อนไม่แน่นอน ปกติมักจะมี 3-4 ท่อน เป็นการบรรเลงของเครื่องดนตรี 2 กลุ่ม กลุ่มที่หนึ่งคือวงออร์เคสตร้า ซึ่งเป็น กลุ่มใหญ่ อีกกลุ่มหนึ่งเป็นกลุ่มของเครื่องดนตรีที่บรรเลงเดี่ยว ประกอบด้วยเครื่องดนตรี 2-3 ชิ้น ทั้งสองกลุ่มจะผลัดกันบรรเลง เน้นความแตกต่างของสีสันและความดัง-ค่อย บทบรรเลงของเครื่องดนตรีเดี่ยวเรียกว่า คอนแชร์ติโน (Concertino) ส่วนบทบรรเลงของวงออร์เคสตร้าเรียกว่าทูที (Tutti)
2.โซโลคอนแชร์โต (Solo Concerto) นิยมเรียกสั้นๆ ว่าคอนแชร์โต หมายถึงบทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นสำหรับการบรรเลงเดี่ยวของเครื่องดนตรีหนึ่งชนิดกับวงออร์เคสตร้า เช่น เปียโนคอนแชร์โต ไวโอลินคอนแชร์โต เป็นลักษณะของคอนแชร์โตในยุคคลาสสิค ประกอบท่อนจำนวน 3 ท่อน คือ เร็ว-ช้า-เร็ว เช่นเดียวกับซิมโฟนีที่ตัดท่อนที่ 3 ออกไป
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะในการบรรเลงบทเพลงคอนแชร์โตประกอบไปด้วยส่วนที่บรรเลงโดยเครื่องดนตรีเดี่ยว และส่วนที่บรรเลงโดยวงออร์เคสตร้าดังกล่าว ซึ่งย่อมทำให้บทเพลงแต่ละท่อนมีความยาวขึ้น หากมี 4 ท่อน คอนแชร์โตจะมีความยาวเกินไป
ซิมโฟนี (Symphony) เป็นภาษาเยอรมันหมายถึงเสียงที่รวมกัน เป็นบทเพลงที่ประพันธ์ขึ้นสำหรับบรรเลงโดยวงออร์เคสตร้า ประกอบด้วยจำนวนท่อนซึ่งปกติจะมี 3-4 ท่อนคือ เร็ว-ช้า-เร็ว หรือเร็ว-ช้า-เร็วปานกลาง-เร็ว บทเพลงซิมโฟนีไม่มีการบรรเลงเดี่ยวของเครื่องดนตรีอย่างเด่นชัด แต่เป็นการบรรเลงของเครื่องดนตรีทั้งหมด
บัลเลต์ (Ballet) ประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญคือ การเต้น และดนตรี บัลเลต์มีลักษณะคล้ายโอเปร่า เป็นการแสดงบนเวทีโดยมีตัวละครซึ่งใช้การเต้นเป็นหลัก ไม่มีบทเจรจา แต่มีการแบ่งเป็นองก์เป็นฉาก ใช้ดนตรีบรรเลงประกอบในลักษณะเช่นเดียวกัน ลักษณะของเพลงอาจเป็นการบรรยายเรื่องราวหรือการใช้ทำนองสั้นๆ เช่นเดียวกันกับโอเปร่า คือการใช้แนวทำนองแทนตัวละครหรือเหตุการณ์ต่างๆ และเพราะบัลเลต์ไม่มีการร้องหรือเจรจา ดนตรีจึงมีความสำคัญมากในการถ่ายทอดสื่อภาษาต่างๆ ร่วมกับการเคลื่อนไหวร่างกาย เปรียบเทียบได้กับบทละครของโอเปร่า ผู้คิดท่าเต้นจึงเป็นผู้หนึ่งที่มีความสำคัญมากเช่นกัน
Create Date : 04 พฤศจิกายน 2556 |
Last Update : 4 พฤศจิกายน 2556 11:06:09 น. |
|
0 comments
|
Counter : 936 Pageviews. |
|
|
|
|
|