กลุ่มผู้ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียว เดินหน้าคืนรางวัลแก่ ปตท. ด้าน "หมอหม่อง-รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์" กราบขออภัย "อานันท์ ปันยารชุน" หลังได้รับการติดต่อให้ทบทวนการคืนรางวัลดังกล่าว...

กลุ่มผู้ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียว จาก บมจ.ปตท. บางส่วนออกมาเคลื่อนไหว ผ่านโซเชียลมีเดีย ภายใต้ชื่อกลุ่ม คืนรางวัลลูกโลกสีเขียว ปตท. เพื่อแสดงจุดยืนด้านสิ่งแวดล้อม ภายหลังจากเกิดเหตุท่อส่งน้ำมันดิบของ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) รั่วไหลกลางทะเล จ.ระยอง เมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่่ผ่านมา โดยในวันนี้ (2 ส.ค.) ผู้ได้รับรางวัลลูกโลกสีเขียว ประมาณ  9 ราย จะนำถ้วยรางวัลพร้อมเงินไปคืนให้กับ ปตท.  

ล่าสุดเมื่อเวลา 06.00 น. นายเข็มทอง โมราษฎร์ หรือพี่จืด ผู้ก่อตั้งกลุ่มเด็กรักป่า จ.สุรินทร์ เจ้าของรางวัลลูกโลกสีเขียว ปี 2546 ได้เดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ ปตท. ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อแสดงเจตนารมณ์  พร้อมแสดงกิจกรรมทางสัญลักษณ์โดยการใช้ศิลปะการตัดแปะ เพื่อส่งข้อความไปยัง ปตท. นอกจากนี้ นายเข็มทอง และนายโอ๊ค Kata Mahakayi ยังอดข้าวอดน้ำเป็นเวลา 9 ชั่วโมง ก่อนยื่นคืนถ้วยรางวัลลูกโลกสีเขียวแก่ผู้แทนของ ปตท. ในเวลาประมาณ 16.00 น. โดยล่าสุดมีผู้แสดงเจตนาคืนรางวัลลูกโลกสีเขียวแล้ว 11 ราย 

ในขณะที่นายแพทย์รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า Rungsrit Kanjanavanit ได้โพสต์ข้อความผ่านหน้าเพจ กลุ่มคืนรางวัลลูกโลกสีเขียว  โดยมีใจความสำคัญว่า นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี และประธานสถาบันลูกโลกสีเขียว  และประธานคณะกรรมการรางวัลลูกโลกสีเขียว ได้โทรศัพท์ติดต่อขอให้ทบทวนกรณีการคืนถ้วยรางวัลและเงินรางวัลต่อ ปตท. โดยให้แยกแยะระหว่างรางวัลและคณะกรรมการลูกโลกสีเขียว กับ ปตท.  เนื่องจากคณะกรรมการลูกโลกสีเขียวทำงานเป็นอิสระกับ ปตท.อย่างสิ้นเชิง และเตือนว่าการประท้วงของ นายแพทย์รังสฤษฎ์ จะดึงสถาบันลูกโลกสีเขียวเข้ามาเกี่ยวข้อง อันจะทำให้โครงการต้องล้มเลิกในที่สุด  อย่างไรก็ตาม นายแพทย์รังสฤษฎ์ยอมรับว่าหนักใจกับเรื่องดังกล่าว แต่ยืนยันที่จะคืนถ้วยรางวัลให้กับ ปตท. เพราะมองว่า ปตท.ใช้รางวัลลูกโลกสีเขียวเป็นเครื่องมือในการสร้างภาพความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน แต่ขาดสำนึกความรับผิดชอบบดังกล่าวอย่างแท้จริง จึงไม่อาจแยกแยะรางวัลลูกโลกสีเขียว กับ ปตท. ออกจากกันได้ พร้อมกราบขออภัยต่อนายอานันท์ และคณะกรรมการรางวัลลูกโลกสีเขียว

โดยนายแพทย์รังสฤษฎ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กดังนี้ "วันนี้หัวใจหนักอึ้ง ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน โทรมาหา หลังทราบข่าวว่าผมจะคืนรางวัลลูกโลกสีเขียวกับ ปตท. ท่านเป็นผู้ที่ผมให้ความเคารพรักอย่างยิ่งมาโดยตลอด ท่านขอให้ผม แยกระหว่างรางวัล และคณะกรรมการลูกโลกสีเขียว กับ ปตท. เนื่องจาก คณะกรรมการลูกโลกสีเขียว ทำงานเป็นอิสระ กับ ปตท. อย่างสิ้นเชิง ท่านเตือนว่าการ การประท้วง ปตท. ของผม จะดึงสถาบันลูกโลกสีเขียว เข้ามาเกี่ยวข้อง จะทำให้ท่านคณะกรรมการฯ และสิ่งที่คณะกรรมการฯ เพียรสร้างมาหลายปี เช่น เครือข่ายอนุรักษ์ชุมชนเสียหาย จนอาจทำให้โครงการนี้ล้มเลิกไป ผมเรียนท่านว่า ผมเสียใจอย่างมากที่การตัดสินใจของผมมีผลต่อคณะกรรมการฯขนาดนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมคาดไม่ถึง ผมรู้สึกหนักอึ้ง จากการตั้งใจที่ทำเพื่อความสบายใจของตนเอง ตอนนี้มีคนร่วมคืนรางวัลหลายท่านและกลายเป็นประเด็นที่ส่งผลกระทบไปไกลกว่าที่ตนคาดไว้ และเกิดผลข้างเคียงที่ตนขาดไม่ถึง แต่หลังจากไตร่ตรองอีกครั้ง ผมยังมองเห็นว่า แม้การทำงานของคณะกรรมการ ลูกโลกสีเขียว จะเป็นอิสระ จาก ปตท. แต่เนื่องจาก ปตท. ใช้ รางวัลลูกโลกสีเขียว เป็น เครื่องมือสำคัญในการสร้างภาพ ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนของบริษัท ในขณะที่สำนึกนี้ กลับขาดหายไปในเนื้องานและกระบวนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ผมจึงมองว่า ผมไม่อาจ แยกรางวัลลูกโลกสีเขียวออกจาก ปตท. ได้"

นายแพทย์รังสฤษฎ์ยังโพสต์ข้อความต่อไปด้วยว่า ได้นำข้อความที่ ดร.สรณรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์ พี่สาวเขียนไว้ว่า "แม้ว่าเป้าหมายและการดำเนินงานของรางวัลลูกโลกสีเขียวจะเป็นงานที่เราเคารพและตระหนักในแรงงานแรงใจที่คณะกรรมการและทีมงานลูกโลกฯ ได้ทุ่มเทลงไปเป็นเวลาต่อเนื่องยาวนานหลายปี และเราคงเคารพนับถือการทำงานและตัวบุคคลเหล่านั้นไม่เสื่อมคลาย และเราขอยืนยันว่าการตัดสินใจคืนรางวัลไม่ได้เป็นการลดคุณค่าการทำงานของทีมงานนี้" และสิ่งที่ นางอัจฉราวดี บัวคลี่ กล่าวไว้ "ด้วยความเคารพและภูมิใจในการตัดสินใจของกรรมการทุกท่าน ที่ตัวเองเชื่อมั่นว่าปรารถนาดีต่อการมอบรางวัล และด้วยเหตุนี้คิดว่ารางวัลมีความหมาย จึงอยากส่งมอบกลับให้รางวัลได้ทำหน้าที่เตือนใจองค์กรให้รีบทำในสิ่งที่เหมาะสมกับเจตนาที่ทุกฝ่ายอยากให้เป็น"

อย่างไรก็ตามนายแพทย์รังสฤษฎ์ยังได้กล่าวในตอนท้ายว่า  "ผมกราบขออภัย ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน และคณะกรรมการรางวัลลูกโลกสีเขียว ด้วยความเคารพอย่างที่สุด อีกครั้ง ผมจำเป็นต้องยืนยันเจตนาเดิมครับ"