BlogGang.com : : amulet108 : ค้นตัวเองก้าวสู่ ฝัน You Can Do It!

ค้นตัวเองก้าวสู่ ฝัน You Can Do It!

ค้นตัวเองก้าวสู่ ฝัน You Can Do It!

สดจากเยาวชน
ปฤษณา กองวงค์

ความจริงกับความฝันต่างกันที่ว่าจะ "ลงมือทำ" หรือ "เพียงแค่คิด"

การเชื่อมั่นว่า "เราทำได้" ช่วยขยับเข้าใกล้ความฝันไปก้าวหนึ่งแล้ว

มูลนิธิไทยคม เดินหน้าจัดกิจกรรม "You Can Do It! เริ่มอนาคต ค้นพบตัวเอง" เพื่อให้เยาวชนตั้งเป้าหมายในชีวิตและเตรียมพร้อมสู่อนาคต ที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จ.เชียงใหม่ เมื่อไม่นานนี้

โดยนำองค์ความรู้จากองค์กร Save The Children ประเทศสิงคโปร์ มาปรับใช้และให้ความรู้เชิงพฤติกรรมเพื่อพัฒนาเยาวชนไทย โดยใช้ทฤษฎี DISC ของ วิลเลียม มาร์สตัน นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ดผู้ประดิษฐ์เครื่องจับโกหก ที่แบ่งพฤติกรรมคนออกเป็น 4 ประเภท ประกอบด้วยกลุ่ม D, I, S และ C ที่จะมาเป็นผู้ช่วยทำให้เด็กๆ เข้าใจตัวเอง เรียนรู้คนรอบข้าง และเรียนรู้ตัวเอง

อิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร กรรมการ ผู้จัดการมูลนิธิไทยคม กล่าวว่ากิจกรรมดำเนินงานมาแล้ว 7 ปี ใน 55 โรงเรียนทั่วประเทศ มีเด็กๆ เข้าร่วมกิจกรรมราว 3 หมื่นคน ได้รับเสียงตอบรับดีมาก เด็กๆ รับรู้ว่าตัวเองเป็นคนแบบไหน ถนัดอะไร และลักษณะนิสัยของเขาเหมาะกับอาชีพอะไรในอนาคต โดยโฟกัสไปที่นักเรียนชั้น ม.3 ซึ่งต้องเลือกว่าเขาจะเรียนต่อในสายอะไร เรียกได้ว่าเป็นก้าวแรกซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญมากที่จะทำให้น้องๆ รู้จักตัวเองและรู้ว่าอนาคตเราต้องการอะไร ภายหลังทำแบบฝึกหัดจะทำให้มองเห็นเส้นทางของตัวเองว่าเหมาะกับตัวเองหรือไม่ ดีกว่าที่ไม่มีไกด์เลย

"เด็กไทยในแต่ละภาค ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มไอซึ่งมากที่สุด คือมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เข้ากับคนง่าย ช่างเจรจา มองโลกในแง่ดี และมีความคิดสร้างสรรค์ ถัดมาเป็นกลุ่มดี เอส และซี ตามลำดับ สำหรับกลุ่มดีเป็นคนตรงไปตรงมา กล้าพูดกล้าคิด แล้วลงมือทำเลย มีทักษะการแก้ปัญหาและตัดสินใจรวดเร็ว

ส่วนกลุ่มเอสเป็นคนคอยสนับสนุนให้กำลังใจผู้อื่น รับฟัง แต่ไม่ชอบความเปลี่ยนแปลง ขณะที่กลุ่มซีเป็นคนรอบคอบ จดจำรายละเอียดมาก ทั้งนี้แม้เด็กๆ จะอยู่คนละภาคแต่เฉลี่ยแล้วอยู่ในกลุ่มไอมากที่สุดคือร้อยละ 70"

แพทองธารกล่าวอีกว่า การรู้จักตัวเองเป็นก้าวแรกที่สำคัญทุกวันนี้เสียดาย ถ้ามีกิจกรรมดีๆ แบบนี้ในสมัยอิ๊ง อาจค้นพบตัวเองเร็วกว่านี้ก็ได้ แต่ไม่ว่าน้องๆ จะค้นพบตัวเองจะเร็วจะช้าขอให้ประสบความสำเร็จและเป็นคนดี สำหรับโรงเรียนที่สนใจสามารถติดต่อผ่านมูลนิธิไทยคมได้ เรายินดีจัดกิจกรรมให้

"ในชีวิตเราแม้แต่เดินยังสะดุดล้มได้ ก้าวผิดก้าวพลาดได้ แต่อยากให้เรียนรู้กับสิ่งที่ผิด นำมาเป็นกำลังใจ ครั้งหน้าเราจะได้ไม่ผิดซ้ำเรื่องเดิมๆ และพยายามทำให้ดีขึ้น อย่าท้อถอย เพราะตราบใดที่เราลืมตาขึ้นมาชีวิตมันต้องดำเนินต่อ ไม่ต้องกลัวที่จะก้าวพลาดหรือก้าวผิด เรียนรู้จากมันแล้วทำให้ดี ใจต้องคิดบวก ที่สำคัญรู้จักตัวเองและกล้าที่จะฝัน" อิ๊งทิ้งท้าย

ภายในงานคึกคักด้วยกิจกรรมที่ทีมงานนำมาให้น้องๆ ค้นหาตัวเอง ทั้งเกม คำพูดสั้นๆกินใจ วีดิทัศน์ ร่วมเรียนรู้และบอกเล่าสนุกๆ กับเรื่องราวของคนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา อย่าง สตีฟ จ็อบส์ พ่อมดไอที ผู้ก่อตั้งแอปเปิ้ล, มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก และ พันเอกฮาร์แลนด์ เดวิด แซนเดอร์ หรือผู้พันแซนเดอร์แห่งเคเอฟซี

จากนั้นชวนน้องๆ ทลายกำแพงความเชื่อพร้อมตั้งคำถามว่าทำไมต้องเหมือนคนอื่น สิ่งที่เขาว่าดีอาจไม่เหมาะกับเราก็ได้ พร้อมปลุกศรัทธาความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเองว่าในเมื่อคนอื่นทำได้ ทำไมเราทำไม่ได้กับเรื่องราวของ นิก วอยจิก หนุ่มผู้พิการแขนขาและไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ผู้สร้างแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก ก่อนจะวิเคราะห์ลักษณะเด่นของแต่ละบุคคลรวมถึงตัวเราเองว่าเป็นคนกลุ่มใด มีลักษณะนิสัยจุดเด่นและจุดด้อยเป็นอย่างไร เพื่อให้รู้จักตัวเอง ยอมรับ ปรับปรุง นำมาสู่ความเปลี่ยนแปลง ก่อนมอบโจทย์ "อาชีพและความฝันของฉัน" ให้หยุดคิดและจุดไฟแห่งฝัน

นายพีรพงษ์ เด่นสะท้าน หรือ พี และ น.ส.ณัฐกมล กิจจานุกิจ หรือ แบม เพื่อนชั้นเดียวกันร่วมบอกเล่าถึงการเข้าร่วมกิจกรรม โดยพีบอกว่าได้รู้จักตัวเองว่าคนกลุ่มดี ใจร้อน ชอบเป็นผู้นำ พูดตรง ไม่ชอบทำตามคำสั่งใคร และต้องปรับปรุงเพื่อให้อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ ส่วนคำถามที่ว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ผมอยากเป็นผู้กำกับละคร ซึ่งต้องมุ่งมั่นไม่อย่างนั้นความฝันจะไม่สำเร็จ

"อนาคตเป็นของเรา อย่าเลือกตามคนอื่น ให้เลือกตามที่ใจเราต้องการ นอกจากนี้จงไม่ลืมว่าถ้าตัวเรามีพฤติกรรมอย่างไรจะส่งผลต่ออนาคตเราอย่างนั้น" พีกล่าว

ด้านสาวแบมซึ่งฝันอยากเป็นหมอ แนะว่า "อยากให้เพื่อนๆ ทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ทำในสิ่งที่เรารัก เพราะถ้าเราทำงานที่เราไม่ได้รักจะไม่มีความสุข ดังนั้นขอให้เพื่อนๆ ทุกคนรีบค้นหาตัวเองให้เจอเร็วๆ"

Create Date : 19 พฤศจิกายน 2556

Last Update : 19 พฤศจิกายน 2556 5:07:46 น.

0 comments

Counter : 964 Pageviews.