อีกครั้งกับการเดินทางด้วยรถจักรไอน้ำมุ่งหน้าสู่เมืองแปดริ้วกับ บรรยากาศครอบครัวอบอุ่น เป็นครั้งที่ 2 ของปี ที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดโอกาสให้ประชาชนคนไทยได้สัมผัสเสน่ห์ของรถจักรไอน้ำ เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ...

ทีมข่าว “ไทยรัฐออนไลน์” ได้ร่วมเดินทาง ไปกับรถจักรไอน้ำขบวนที่ 903 อายุนับ 100 ปี ปีนี้เปลี่ยนเส้นทางจากกรุงเทพ-พระนครศรีอยุธยา เป็นกรุงเทพ-ฉะเชิงเทรา นำนักท่องเที่ยวไปที่พาครอบครัวไปสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคที่เมืองแปดริ้วแทน

7.00 น. สถานีรถไฟหัวลำโพง เริ่มมีผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ คล้ายมีอะไรพิเศษบางอย่างเกิดขึ้นที่นี่ เสียเวลาเดินไม่นาน สิ่งที่ปรากฎต่อสายตา คือความงดงาม ของขบวนรถไฟพระที่นั่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเคยประทับโดยสาร  ประดับประดาด้วยดอกไม้อย่างสวยงาม
 
ปีละครั้งอีกเช่นกันที่ร.ฟ.ท. จะนำรถไฟพระที่นั่งมาจัดแสดง ให้ประชาชนคนไทยได้ร่วมย้อนรำลึกถึงความทรงจำอันงดงามที่ “ในหลวง” เคยเป็นผู้โดยสารของรถไฟไทย

นาทีนี้มีภาพประทัปใจเกิดขึ้นมากมาย พ่อคนหนึ่งอุ้มลูกโพสต์ท่า มีคุณแม่เป็นช่างภาพจำเป็น เห็นแล้วรู้สึกถึงความอบอุ่นของครอบครัวที่มาใช้ เวลาร่วมกัน

8.00 น.แกร๊ง! แกร๊ง! เสียงระฆังรถไฟดังเป็นสัญญาณ ได้เวลาออกเดินทาง รถจักรไอน้ำรุ่นหลังสงครามโลกแล่นฉิวออกจากชานชาลา พาครอบครัวทั้งไทยและต่างชาติ มุ่งหน้าสู่ฉะเชิงเทรา ระหว่างที่รถไฟเคลื่อนขบวน บรรยากาศบนรถไฟก็อบอวลไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แววตาตื่นตาตื่นใจของผู้เป็นลูก คอยพูดจาถามไถ่พ่อตลอดเวลา

ไทยรัฐออนไลน์เดินสำรวจบรรยากาศทั้ง 9 ตู้โดยสาร สะดุดตากับชาวลอนดอนที่ใส่เสื้อสีเหลือง ตรงอกซ้ายปักตราสัญลักษณ์
 
Brian Singleton ได้ชื่นชมพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในอัจฉริยภาพด้านต่าง ๆ ของท่าน และทุกปีจะเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยช่วงวันพ่อแห่งชาติ เช่นเดียวกับปีนี้ ที่มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในขบวนรถไฟประวัติศาสตร์ เฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 86 พรรษา

10.30 น. ขบวน 903 เทียบชานชลาชุมทางฉะเชิงเทรา ก่อนที่เราจะเปลี่ยนเป็นรถทัวร์ .... ใกล้ ๆ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองฉะเชิงเทรา อย่างพระพุทธโสธร พุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญกราบขอพรอย่างเนืองแน่น ส่วนใหญ่ใส่เสื้อสีเหลืองตราสัญลักษณ์ และไปต่อที่วัดเล่งฮกยี
 
พักเติมพลังตลาดบ้านใหม่ ริมแม่น้ำบางปะกง ขนมโบราณมากมาย เป็นที่ต้องตาต้องใจของเด็ก ๆ

อีกสถานที่สำคัญของทริปนี้ คือ สถานที่ตั้งพระพิฆเนตรปางนอนเสวยสุข ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เจ้าแม่กวนอิม หลวงพ่อดำ ณ วัดสมานรัตนาราม ก่อนจะซื้อของฝากกลับบ้าน

16.40 น.ได้เวลาเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร ขบวนเที่ยวนี้คือ 904 สิ้นเสียงประกาศ หวูดรถไฟก็ดังขึ้น เดินหน้ากลับหัวลำโพง
 
พอขบวนรถจักรไอน้ำ ค่อย ๆ เทียบท่าจอดชานชลาที่ 5 สถานีหัวลำโพง คู่ขนานกับขบวนรถไฟพระที่นั่ง พนักงานการรถไฟทุกระดับและประชาชนหลายร้อย ต่างยืนถือเทียนเตรียมถวายพระพรด้วยแววตาปลื้มปิติ

19.29 น. เปลวไฟจากปลายเทียนสว่างไสว เสียงเปล่งร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีมหาราชาดังกึกก้อง แห่งพสกนิกรที่แซ่ซ้องสรรเสริญพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ"
 
อีกหนึ่งความประทับใจที่หาได้เพียงปีละ 2 ครั้ง คือวันพ่อและวันแม่แห่งชาติ

ปีหน้าใครไม่อยากพลาดโอกาส รีบจับจองที่นั่งกันไว้น่าจะดี.