วุฒิสภาสหรัฐฯประกาศจะโหวตตกร่างกฎหมายงบประมาณของสภาผู้แทนฯแน่นอน หลังสภาผู้แทนฯแก้ร่างงบฯดังกล่าวซึ่งจะตัดงบประมาณของกฎหมายโอบามาแคร์ เมื่อวันจันทร์...
รัฐสภาสหรัฐฯมีกำหนดที่จะต้องผ่านร่างกฎหมายงบประมาณประจำปี 2557 ให้ได้ภายในก่อนเที่ยงคืนวันที่ 30 ก.ย. หรือประมาณ 12.00 น. ของวันที่ 1 ต.ค.นี้ตามเวลาไทย มิฉะนั้นจะต้องเผชิญกับสภาหน่วยงานรัฐบาลเป็นอัมพาต เพราะไร้งบประมาณ และจะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐกว่าล้านคนตามหน่วยงานต่างๆ ต้องหยุดพักงานอยู่บ้านไปจนกว่าจะผ่านร่างกฎหมายออกมาได้
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าหลังจากสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันฝ่ายค้านครองเสียงข้างมาก ได้ผ่านการโหวตแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายงบประมาณส่งเข้าวุฒิสภาไปเมื่อวันที่ 29 ก.ย. ที่มีรายละเอียดให้ตัดงบประมาณ อุดหนุนกฎหมายปฏิรูประบบดูแลรักษาสุขภาพของนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือ โอบามาแคร์ ออกไป 1 ปี รวมทั้งการยกเลิกการเก็บภาษีอุปกรณ์การแพทย์ โดยเมื่อวันที่ 30 ก.ย. โฆษกนายแฮร์รี รีด ผู้นำ ส.ว.เสียงข้างมากของพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา ยังคงยืนยันว่าวุฒิสภาจะโหวตตกข้อแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวอย่างแน่นอน ในการประชุมเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันเดียวกันนี้ ซึ่งพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนฯก็จะเหลือทางเลือกเพียงแค่ยอมโหวตผ่านร่างกฎหมายไปโดยดี หรือโหวตให้รัฐบาลต้องกลายเป็นอัมพาต
ขณะที่นายเควิน แม็คคาร์ธีย์ แกนนำ ส.ส.รีพับลิกันในสภาผู้แทนฯ เผยว่า หากวุฒิสภาส่งร่างกฎหมายกลับมา ก็คิดว่า ส.ส.น่าจะมารวมตัวกันโหวตใหม่ได้ทันก่อนเส้นตาย ซึ่งทางพรรคก็อาจเสนอแผนใหม่ มีการแก้ไขร่างกฎหมายอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นรายละเอียดที่เกี่ยวกับงบโอบามาแคร์ ที่คราวนี้คิดว่าทางวุฒิสภาน่าจะยอมรับได้ แต่รายละเอียดบางอย่างก็จะคงไว้ ซึ่งทางนักวิเคราะห์มองว่าอาจจะเป็นการยกเลิกเก็บภาษีอุปกรณ์การแพทย์ ส่วนนายดิค เดอร์บิน แกนนำ ส.ว.เดโมแครตในวุฒิสภา กล่าวถึงข้อเสนอนี้ว่า พวกเราพร้อมที่จะเปิดรับความเป็นไปได้ของข้อเสนอนี้ แต่ไม่ใช่ช่วงเวลาที่เสมือนกำลังถูกปืนจ่อหัว รัฐบาลกำลังจะเป็นอัมพาต
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นในเอเชียก็เริ่มตกจากความวิตกกังวลว่าสหรัฐฯจะผ่านร่างงบประมาณไม่ทัน ทั้งตลาดญี่ปุ่น ฮ่องกง ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้ ขณะที่สถาบันจัดอันดับหลายแห่งประเมินว่า การเป็นอัมพาตครั้งนี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีสหรัฐฯหายไป 1.4 เปอร์เซ็นต์
สำหรับผู้ที่จะได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ไม่สำคัญ ทั้งในทำเนียบขาว กระทรวงต่างประเทศ ที่การให้บริการเรื่องวีซ่าและหนังสือ เดินทางก็จะหยุดชะงัก เจ้าหน้าที่พลเรือนกระทรวงกลาโหมเพนตากอน ศูนย์วิจัยสถาบันสุขภาพแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์ และอุทยาน 368 แห่งทั่วประเทศ.