สภาผู้แทนราษฎรอุรุกวัยมีมติผ่านร่างกฎหมาย อนุญาตให้กัญชาเป็นสินค้าถูกกฎหมาย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลของประธานาธิบดี โชเซ มุจิกาแล้ว ทำให้อุรุกวัยกลายเป็นประเทศแรกที่ อนุญาตให้มีการผลิต, จำหน่ายจ่ายแจก และค้าขายกัญชา...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 1 ส.ค. ว่า สภาผู้แทนราษฎรแห่งประเทศอุรุกวัยมีมติผ่านร่างกฎหมาย อนุญาตให้กัญชาเป็นสินค้าถูกกฎหมาย ซึ่งหากกฎหมายนี้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา อุรุกวัยจะกลายเป็นประเทศแรกที่ อนุญาตให้มีการผลิต, จำหน่ายจ่ายแจก และค้าขายกัญชา

ภายใต้กฎหมายฉบับนี้ รัฐบาลจะเป็นผู้ได้รับอนุญาตขายกัญชาแต่เพียงผู้เดียว และจะเป็นผู้ควบคุมการนำเข้า, ส่งออก, การเพาะปลูก, การเตรียมที่ดิน, การเก็บเกี่ยว, การผลิต, การครอบครอง, การเก็บรักษา, การหาช่องทางจำหน่าย และการกระจายกัญชาและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากกัญชา โดยผู้ซื้อจะต้องได้รับการลงทะเบียนในฐานข้อมูล และต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป ผู้ซื้อแต่ละรายจะซื้อกัญชาได้ไม่เกิน 40 กรัมต่อเดือนจากร้านขายยาที่มีใบอนุญาตพิเศษ หรือสามารถปลูกเองที่บ้านได้ไม่เกิน 6 ต้น ส่วนชายต่างชาติจะไม่ได้รับสิทธิตามกฎหมายนี้

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (31 ก.ค.) สภาผู้แทนราษฎรโหวตรับรองร่างกฎหมายฉบับนี้ด้วยคะแนนเสียงเห็นชอบ 50 เสียงจากส.ส. 96 คนที่เข้าร่วมประชุม ภายหลังจากการโต้อภิปรายนานกว่า 13 ชั่วโมง ที่กรุงมอนเตวิเดโอ โดยนาย เซบาสเตียน ซาบินี จากพรรครัฐบาล 'เฟรนเต แอมปลิโอ' สายกลางซ้าย ระบุว่ากฎหมายนี้ไม่ใช่การสนับสนุนการบริโภคกัญชา

ด้าน นายเกราร์โด อมาริญา ฝ่ายค้านจากพรรคชาติ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังเล่นกับไฟ ทำให้สาธารณสุขของประชาชนอยู่ในความเสี่ยง ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นขององค์กรจัดทำโพล 'ซิฟรา' ระบุว่า ชาวอุรุกวัย 63% ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้

คาดว่ากฎหมายฉบับนี้จะผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา ที่รัฐบาลฝ่ายซ้ายครองเสียงข้างมาก ส่วนนักการเมืองฝ่ายค้านคนอื่นๆ ขู่ว่าแม้กฎหมายนี้จะผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา พวกเขาก็จะฟ้องร้อง เพื่อล้มล้างกฎหมายนี้ให้ได้

ทั้งนี้ ข้อมูลจากคณะกรรมการยาเสพติดแห่งชาติแห่งอุรุกวัยระบุว่า อัตราการบริโภคกัญชาในประเทศเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปีที่ผ่านมา มีผู้เสพประจำราวทุกวัน 20,000 คน และมีการขายกัญชาประมาณ 22 ตันในแต่ละปี.