ผู้เฒ่าเล่าอดัต (๘) สังสรรฉันท์มิตร
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๘)
สังสรรค์ฉันท์มิตร
เราเดินเข้ามาในถนนนักเขียน ของห้องสมุดพันทิป เป็นครั้งแรกเมื่อกลางเดือน มกราคม ๒๕๔๘ และอีกไม่นานนักก็พบว่า ในถนนนี้มีนักเขียนเรื่องสั้น เรื่องยาว บทกวี และความเรียงอยู่มากมาย ที่เสนอข้อเขียนของตนเป็นประจำ และมีผู้อ่านอีกมากกว่า ที่อ่านเพียงอย่างเดียว ซึ่งติดตามอ่านมาเกือบทุกเรื่องอย่างเหนียวแน่น นับเป็นจำนวนร้อยคน หรือร้อยนามแฝง ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงผู้ที่อ่านเงียบโดยไม่ออกความเห็นอีกด้วย
เขาเหล่านั้นคงจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลย เพิ่งจะได้มาพูดคุยสังสันทน์กันในหน้าจออินเตอร์เนตนี้เอง ต่อมาจึงอยากจะรู้จักตัวตน ของคนที่มีรสนิยมใกล้เคียงกันนอกเหนือจากที่ได้พบกันบ้างในงานหนังสือประจำปี จึงได้เกิดการพบปะกันเป็นกลุ่มย่อย ๆ ซึ่งในรอบปีที่ผ่านไปเราได้คุ้ยหามาบันทึกไว้หลายรายการ
รายแรกดูเหมือนจะเป็นการร่วมทำบุญเข้าพรรษา ที่วัดปทุมวนาราม เมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๔๘ มีผู้ไปร่วมงานมากมาย
รายต่อมาเป็นการไปพักผ่อนที่ สวนห้อมล้อมดาว จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ ๓๐-๓๑ กรกฎาคม ๒๕๔๘ มีผู้ร่วมขบวนพอสมควร
ถัดมาเป็นการพบปะพูดคุยกันเพียงหกคน ที่ภัตตาคารพงหลี อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๔๘ เวลาประมาณ ๑๗.๐๐ ๒๒.๐๐ น.
และในคืนเดียวกันนั้นเอง ผู้ที่ร่วมกลุ่มพงหลี ได้นัดพบกับอีกกลุ่มหนึ่ง ที่บ้านสวนน้ำแล้วพากันไปต่อที่โรงเตี๊ยม แถวถนนรามอินทรา ตั้งแต่เวลาประมาณ ๒๓.๐๐ น.ไปจนถึงเกือบเช้า
จากนั้นก็มีการพบกันเพียงสองคน ที่สโมสรนายเรืออากาศ ดอนเมือง เมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๔๘ เวลาประมาณ ๑๑.๐๐ ๑๘.๐๐ น.
แล้วก็มีการกลับไปที่ สวนห้อมล้อมดาว นครราชสีมา อีกครั้งหนึ่ง เพื่อดู น้ำตก ม่านฟ้า ซึ่งครั้งก่อนไม่มีน้ำไหล เมื่อวันที่ ๑๙-๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ดูเหมือนจะมีผู้ร่วม ไปด้วยกันประมาณเจ็ดคน
ส่วนที่ผ่านไป เมื่อ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๔๘ เป็นการส่งท้ายปีเก่า ที่ร้าน ซิสเลอร์ เซ็นทรัล ลาดพร้าว มีผู้ไปร่วมงานสิบสามคน
เราไม่ได้สมัครไปกับกลุ่มนี้ ด้วยเหตุผลหลายประการคือ เราเป็นคนโบราณไม่เคยเข้าไปเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เลย ไม่รู้ว่าร้านอะไรตั้งอยู่ที่ด้านไหน ประการต่อมาก็คือ เราไม่รู้ว่าร้านซิสเลอร์เขาขายอะไรที่เรากินได้บ้าง ไม่รู้ว่าเขามีเบียร์มีโซดาขายหรือเปล่า และประการหลังนั้นมีสุภาพสตรีไปกันเป็นส่วนใหญ่ ถ้าเราจะกินดื่มตามรสนิยมของเรา จะกลายเป็นตัวประหลาดไปหรือไม่ ส่วนประการสุดท้ายก็คือ เรามีวัยแตกต่างกับผู้ร่วมงานท่านอื่น ๆ มากเสียจนเราอาจจะอ้าปากค้าง ฟังท่านคุยกันไม่รู้เรื่องก็ได้ เราจึงต้องสงวนตัวสงวนใจไว้ก่อน แต่เมื่อเราได้อ่านรายงานของท่านที่ไปกันแล้ว เราก็พลอยมีความสุขไปด้วย และได้ถือโอกาสฝากกลอนไปอ้อนไว้ว่า
อ่านรายงานกลุ่มสังสรรค์มันปนเผือก หนุกหนานกันเป็นเทือกที่ซิสเลอร์ สิบสามคนหนนี้ที่เพิ่งเจอ เล่าให้คนอ่านเพ้อเพราะอยากไป
ชาวถนนพบกันแต่ละกลุ่ม พวกสาวหนุ่มแสนดีจะมีไหน ส่วนคนแก่ตั้งวงอยู่ห่างไกล ถูกแยกไว้พวกย้ายที่กินเหล้า
โอ้....อีกนานสักเท่าไรจะได้แจม ช่วยแต่งแต้มแสงสีสิ้นปีเก่า ขอบอกน้องพวกพี่ไม่มีเมา คอยจนเข้าปีใหม่อีกไม่นาน
ปีสี่แปดผ่านไปให้หมดทุกข์ มีแต่สุขสดใสหลายสถาน ปีสี่เก้าจะเข้ามาอย่ารำคาญ ท่านผู้อ่านหวังสิ่งใดไม่พลาดเอย.
และแล้วเมื่อวันที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๔๘ นี้เอง เจียวต้าย กับคุณGTW และ(คุณ)นายทิวา ก็คบคิดกันไปสังสรรค์ฉันท์มิตร ที่เก่าเวลาเพล และให้คุณทิวาชวนใครอีกก็ได้ตามความพอใจ จึงได้พบกันทั้งหมด ๑๐ คน ดังนี้
ที่สิบเจ็ดธันวามาพงหลี สิบเอ็ดโมงพอดีไม่เหหัน เจียวต้ายถึงก่อนใครไม่ช้าพลัน ขมีขมันจัดทำเลห้อง เอ.สี่
ตั้งโต๊ะกลมเก้าอี้วางข้างหน้าต่าง วิวกว้างขวางเตรียมรับรองพวกน้องพี่ คนถัดมาเพิ่งเห็นหน้า คุณอาร์พี สวัสดีทักทายกันจำนรรจา
คุณรวี บอกอ รูปหล่อแท้ ผลิตหนังสือทำมือแน่รีบมาหา อีกเดี๋ยวเดียวนิรนามก็ตามมา รอไม่ช้าหมอโมโนก็โผล่ร่าง
คุณจันทร์แห้ง เพิ่งรู้ข่าวเมื่อเช้านี้ รีบเร็วรี่มาทันใดห้ามใครขวาง ท่านตัวใหญ่น้ำใจดีมีสตางค์ ดื่มเบียร์สิงห์ไปพลางกับเจียวต้าย
อีกสักพักศาลาไทยก็ไปถึง อาศัยพึ่ง คุณทิวา มาที่หมาย สั่งร้อยปีดื่มแต่น้อยค่อยผ่อนคลาย เกือบสุดท้ายจึงเห็นหน้าอาจารย์ G
คนที่สิบ จอมยุทธ ณ เมรัย แต่วันนี้เหตุไฉนไม่ดื่มปี่ นั่งรอบโต๊ะครบแล้วยกแก้วที ร่วมแสดงความยินดีให้หิ่งห้อย
ขออาศัยอาศรมโคลงเชื่อมโยงเพื่อน สะกิดเตือนคนช่างฝันคุยกันหน่อย อีกหลายคนไม่ได้มาพากันคอย อย่าใจน้อยไว้คราวหน้ามาพบกัน
ขอเกริ่นกล่าวเล่าเรียงแต่เพียงนี้ กินเนื้อที่อาศรมชมรมขยัน อยากอ่านโคลงศาลาไทยเล่าให้มัน เจียวต้ายนั้นหลบไปนอนพักผ่อนเอย.
เราได้หวังไว้ว่ากลุ่มย่อย ๆ เหล่านี้ อาจจะรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ ในอนาคตอันใกล้ อย่างน้อยก็คงจะไม่เกินห้าปี เพราะถ้าเลยไปแล้ว เราก็คงจะหมดโอกาสที่จะมาร่วมวงละครับ สุดท้ายก็ขออวยพรปีใหม่ให้แด่ ทุกคนในถนนนักเขียนอีกครั้งหนึ่ง
ขึ้นปีใหม่สี่เก้าหนาวในจิต แต่จะคิดสิ่งใดให้สมหวัง มีความสุขทุกวันคืนชื่นใจจัง อยู่กระทั่งร้อยปีกว่าอย่าเหี่ยวเอย.
แต่เวลาก็ได้ล่วงมากว่าห้าปี ก็ไม่มีโอกาสได้จัดงานสังสรรค์เช่นนั้น อีกเลย นอกจาก การทำบุญที่วัดเทพธิดาราม ในวาระครบห้าปีอาศรมโคลง และรำลึกถึงท่านสุนทรภู่
จนกระทั่ง ถึงวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ จึงมีการสังสรรค์ครั้งหลังสุด ที่ภัตตาคารพงหลี ดั้งเดิม โดยไม่มีท่านที่มีชื่อก่อนหน้านี้เลย เว้นแต่อาจารย์จีกับเราเท่านั้น คราวนี้มีผู้มาร่วมวง สิบกว่าท่าน ซึ่งเราได้นำมาเล่าแล้ว ในเรื่อง นัดพบกันคราวนี้มีเพื่อนมาก นัดพบกันครั้งนี้มีเพื่อนมาก
ที่สิบสองกุมภามาพงหลี เป็นวันดีรวมพลถนนนักเขียน วันอาทิตย์สิบเอ็ดนอขอแวะเวียน คุยแลกเปลี่ยนกันเต็มที่สิบสี่คน
เจียวต้ายมาก่อนใครไม่ผิดพลาด สิบโมงครึ่งดังคาดเหมือนทุกหน ห้องเอห้าร้านเขาจัดอยู่ชั้นบน ยังไม่เห็นมีผู้คนมืดตื๋อเลย
ไม่เปิดแอร์อยู่ได้ไงลงไปก่อน พอหลบร้อนซดเบียร์ไปไม่อยู่เฉย อ้าว...นั่นใครนั่งรออยู่ดูคุ้นเคย พิโธ่เอ๋ย...อาจารย์จีคนนี้เอง
ท่านอยู่ถึงดอนเมืองไม่เชื่องช้า กลับมาถึงเร็วกว่ายกว่าเก่ง อย่ารอท่าสั่งเบียร์มาเริ่มบรรเลง ไม่กลัวเกรงใครจะว่าค้ากำไร
หนึ่งชั่วโมงผ่านไปไวเหมือนฝัน ห้าโมงครึ่งเข้าไปนั่นรอไม่ไหว ชวนกันเข้าห้องที่จองด้วยทันใด พอนั่งปุ๊บแขกผู้ใหญ่ก็เข้ามา
อรุสา (npuiy) ชื่อเก่าเราจำแม่น เธอเป็นแฟนห้องชานเรือนเพื่อนมากหน้า กลายมาเป็นนักเขียนไม่ธรรมดา ฝากฝีมือให้ลือชาทุกวันนี้
KTH (KTHc) มากับผู้ติดตาม ใกล้คนงามชื่อเรียกยากจริงพับผี่ คุณaritsumemoon ฟังกี่ที คนยิ่งหูไม่ดีเลยไม่จำ
เกือบเที่ยงแล้วเอาเมนูมาดูเล่น เดี๋ยวเพื่อนเห็นโต๊ะว่างจะไม่ขำ สั่งออร์เดิร์ฟ ปลาผัด และกุ้งยำ เพื่อนมาหลังหิวหน้าคล้ำต้องเอาใจ
คุณ ZOI ซามูไรพ่อลูกอ่อน นั่งหัวโต๊ะตามขั้นตอนเพื่อชิดใกล้ อาจารย์จีบอกเด็กชงให้ทันใจ เบียร์ของไทยเขาดีเรามีเพื่อน
อีกสามสาวรีบตามมาไม่ช้านาน รุริกะ เป็นประธานไม่คลาดเคลื่อน มาแต่เช้ายางชำรุดสุดบิดเบือน อีกสองเพื่อน แอนู Kiwi_brown
ทิ้งรถไว้ต่อรถไฟวิ่งบนฟ้า จึงได้มาถึงก่อนบ่ายพอหายหนาว สั่งข้าวสวยกับต้มยำเหมือนทุกคราว ให้หลายสาวช่วยกันซดได้คล่องคอ
อีกครอบครัวมาด้วยกันจากบางพลัด ไม่ติดขัดสามคนแม่ลูกพ่อ กาแฟเย็นฯ ห่วงลูกชายคงต้องรอ ลูกซามูไรวิ่งปร๋อเสริฟข้าวผัด
คนสุดท้าย แพรวดาว แสนร้าวจิต ไม่ทันคิดคอเจ็บจังนั่งอึดอัด แวะหาหมอได้ยาสารพัด ไม่ผิดนัดอุตส่าห์มาจากออสซี่
มีของฝากมากมายแจกให้หมด ไม่รันทดพูดเสียงใสไม่ต้องหรี่ นั่งติดกันกับผู้เฒ่าดูเข้าที เธอใจดีถามอาการขาอ่อนแรง
กินอิ่มแล้วเริ่มซุกซนไม่ทนนั่ง ถ่ายรูปหมู่รูปคู่มั่งช่างขันแข็ง แต่คงเก็บไว้ดูเองไม่แสดง ให้ผิดแผลงไปจากที่นิยมกัน
ต่างก็มีความสุขหมดทุกข์โศก ได้พบหน้าเพื่อนร่วมโลกของคนฝัน คุยกันไปแซวกันมาพอมันมัน เว้นตัวฉันยิ้มเรื่อยไปไม่ได้ยิน
นัดพบกันครั้งนี้มีเพื่อนมาก ล้วนคนใหม่มาจากถนนฯ สิ้น ส่วนเกลอเก่าเหลืออาจารย์เคยดื่มกิน มาจากถิ่นช่วยเป็นล่ามตามขอร้อง
ขอทุกท่านจงสุขขีในปีใหม่ คิดสิ่งใดไม่ทันช้ามาสนอง ห่างโรคภัยไร้ระทมสมใจปอง ทรัพย์เนืองนองอยู่ยืนไปไม่เหี่ยวเอย.
๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เวลาประมาณสองทุ่ม
จากคุณ : เจียวต้าย เขียนเมื่อ : 13 ก.พ. 55 06:45:15 และได้พิจารณาตนเองแล้วเห็นว่า สังขารได้ร่วงโรยลงไปจากเมื่อก่อนนั้นเป็นอันมาก ทั้ง ตา หู และฟัน จนงานนี้อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายก็ได้ แล้วจึงได้หวนรำลึกถึงความหลัง ที่ผ่านมาหลายครั้ง ในถนนนักเขียน ตลอดช่วงเวลาเจ็ดปี ที่ผ่านมา ซึ่งยังฝังอยู่ในความทรงจำมิรู้ลืม แม้จะไม่มีผุ้ใดจำได้เลยก็ตาม.
##########
Create Date : 25 มีนาคม 2555 |
Last Update : 25 มีนาคม 2555 9:17:05 น. |
|
2 comments
|
Counter : 933 Pageviews. |
 |
|
ช่างไพเราะเหลือเกินค่ะ ขอให้คุณปู่สุขภาพแข็งแรง
และมีความสุขทุกวันนะคะ