Group Blog
หน้าบ้านชานเรือน
เรื่องสั้น
เปาบุ้นจิ้น...ผู้ทรงความยุติธรรม
บันทึกของคนเดินเท้า
คุ้ยวรรณคดี สามก๊ก
สังสรรค์สนทนา
ฮ่องเต้ห้าแผ่นดิน
รวมร้อยกรอง
กว่าจะถึงวันนี้
ขุนโจรแห่งเขาเนียซัวเปาะ
ธรรมะคือคุณากร
ขุนช้างขุนแผน ฉบับรวบรัด
พระอภัยมณี ฉบับเร่งรัด
คนดีแผ่นดินซ้อง
คนซื่อแห่งกังหนำ
พงศาวดารจีนยุครัตนโกสินทร์
นักรบสองแผ่นดิน
ทหารเสือแผ่นดินถัง
ยอดคนแผ่นดินเหม็ง
คนชั่วแผ่นดินจิ้น
ย้อนอดีต ของ พญาเขินคำ
เรื่องสั้นหรรษา
เรื่องเล่าของคนวัยทอง
เรื่องธรรมดาของคนธรรมดา
ย้อนอดีต
สัพเพเหระคดี
อะไรก็ได้
บันทึกของผู้เฒ่า
ฝึกหัดวางภาพ
ภาพเก่าเล่าเรื่อง
ผู้เฒ่าเล่าอดีต
เรื่องของคนกับหมาและแมว
พลิกพงศาวดาร
หลานปู่
บันทึกของผู้เฒ่า ๒๕๕๕
เรื่องไม่ขำ
นิทานชาวสวน
หลากชีวิตในพงศาวดารจีน
สยุมภู ทศพล
สามก๊กฉบับคำกลอน
สามก๊กคำกลอนประกอบภาพ
สามก๊กฉบับคำกลอน ขบวนที่ ๒
เก็บตกจากตู้หนังสือ
คุยกับเจียวต้าย
โลกสดใส
ตำนานลิ่วล้อ
คุ้ยสามก๊ก
คลังแห่งปัญญา
ทบทวนนิยายจีน
สามก๊กฉบับคำกลอนขบวนที่ ๓
ทบทวนสามก๊ก
จากคลับสามก๊ก
เรื่องเล่าจากอดีต
จากกระทู้นอกเรื่อง
ภาพในอดีต
นิยายธรรมะ
สามก๊กฉบับมหาอุปราช
ภาพเก่าเล่าอดีต
ยิ้มคนเดียว
สามก๊กฉบับลายคราม
สามก๊กฉบับลิ่วล้อ
All Blogs
๕ ธ.ค.๕๙
วิทยุกระจายเสีบงและโทรทัศน์ของทหาร
เมื่อผมถูกสัมภาษณ์
คุ้ยของเก่า
ผู้เฒ่าเล่าอดีต(๒๕) ชื่อดีเป็นศรีแก่ตัว
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๒๔) การเขียนข่าว
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๒๓) คนหูตึง
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๒๒) สังคอมออนไลน์ ที่มีคุณภาพ
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๒๑) เราสู้
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๒๐) คำปู่สอน
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๑๙) เรื่องของนักเขียนชรา
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๑๘) สังคมออนไลน์ที่มีคุณภาพ
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๑๗) วารสารของทหาร
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๑๖) เรื่องของคำพูด
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๑๕) วรรณกรรมลอกเลียน
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๑๔) ขนมครกที่ราชประสงค์
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๑๓) รำลึกถึงนาย
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๑๒) คนมีเวร
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๑๑) อดีตของสะพานแดง
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๑๐) คนรักมนุษย์
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๙) ตำแหน่งที่ไม่อยากเป็น
ผู้เฒ่าเล่าอดัต (๘) สังสรรฉันท์มิตร
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๗) ทหารถือปากกา
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๖) สามก๊กฉบับลิ่วล้อ
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๔) เหตุเกิดที่พระรูป
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๕) บุญมีแต่กรรมบัง)
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๓) ที่ปรึกษาจำเป็น
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๒) โอกาสในการทำบุญ
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๑) เรื่องของคนอบากเขียน
คำปรารภ
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๒๓) คนหูตึง
ผู้เฒ่าเล่าอดีต (๒๓)
คนหูตึง
ถึงปี พ.ศ.๒๕๕๔ ซึ่งเป็นปีที่เรามีอายุครบ ๘๐ ปี บริบูรณ์ เลยเกณฑ์ที่จะเป็นคนแก่มาแล้ว แต่เราก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิม เว้นแต่อุปกรณ์ในการใช้ชีวิตได้เสื่อมลงหมดทุกอย่าง
คือตาก็มีอาการระคายเคือง เพราะมีขนตาแยงลูกตาเป็นประจำ ต้องไปหาหมอให้ช่วยถอนสองสามเดือนหนหนึ่ง ส่วนสายตานั้นกลับไปใช้แว่นตาสมัยที่เกษียณอายุใหม่ ๆ อ่านหนังสือได้ดีพอควร
ฟันก็ผุหมดทุกซี่ แต่จะค่อย ๆ ถอนออกไปเฉพาะที่มันโยก หรือมันโบ๋จนปวดประสาท ถ้ายังพอทนก็ใช้ไปก่อน จนเหลือไม่เกิน ๑๔ ซี่ และข้างบนข้างล่างไม่ตรงกัน จึงเคี้ยวอะไรไม่ขาด ต้องกินขนมปังปั่นกับนมเย็น เป็นมื้อเช้า โจ๊กซองใส่ไข่เองเป็นมื้อกลางวัน และข้าวต้มปลาหรือข้ามต้มซี่โครงหมู เป็นมื้อเย็น
เป็นประจำจะเข้าปีที่สามแล้ว นอกจากจะไปงานเลี้ยงรุ่นเดือนละสองครั้ง ที่จะได้เครื่องดื่มที่ไม่ต้องเคี้ยว พอชุ่มชื่นใจหน่อย
หูตึงมากประมาณเอาเองว่า การได้ยินลดลงกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เวลาคุยกันหรือดูทีวี ก็ได้ยินว่าเขาพูดแต่จับความไม่ได้ว่าเขาพูดเรื่องอะไร ไปให้หมอตรวจแล้วบอกว่าเป็นไปตามอายุขัย ถ้าต้องการให้ได้ยินชัดขึ้นก็ต้องใช้เครื่องช่วยฟัง ให้เข้าไปปรึกษากับบริษัทที่มาตั้งสาชาอยู่ในโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่หญิงของบริษัทก็ทดลอง สอบสมรรถภาพการได้ยินด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วก็จดบันทึกเป็น ตัวเลขต่าง ๆ แล้วก็บอกว่า หูข้างขวาเสื่อมมากกว่าหูข้างซ้าย ถ้าจะใส่เครื่องฟังควรจะใส่ข้างซ้าย เพื่อชะลอไว้ไม่ให้เสื่อมเร็ว สอบถามราคาเครื่องช่วยฟังก็ได้ความว่า มีตั้งแต่หลักหมื่นถึงแสน
เราก็มีเงินก้อนสุดท้ายอยู่แค่สามหมื่น อยากจะได้ไว้ใช้บ้าง เขาก็หยิบมาให้ดูสองเครื่อง ราคา สี่หมื่นกว่า กับสองหมื่นกว่า เราจึงต้องเลือกเอาอย่างราคาต่ำ เพราะมีเงินแค่นั้นเอง
เมื่อได้เครื่องมาเสียบหูฟังแล้ว ปรากฏว่าเสียงต่าง ๆ ที่ได้ยินก็ดังขึ้นกว่าเดิม เท่า ๆ กันหมด ทั้งเสียงคนพูดและเสียงรอบตัว แต่เสียงพูดนั้นก็ต้องตั้งใจฟังเหมือนเดิม เทียบกับการฟังข่าวทีวี เดิมต้องเปิดเสียงถึงเลข ๗ จึงจะพอรู้เรื่อง ใส่เครื่องแล้วเปิดแค่เลข ๔ ก็ดังเท่ากัน คือยังต้องตะแคงหูฟังเหมือนเดิม
ไม่เหมือนที่คิดไว้ว่าใช้แล้วจะฟังเสียงพูดได้ชัดเจนขึ้น แต่ก็เป็นความรู้ว่าอวัยวะของคนนั้นเสื่อมแล้ว ไม่มีอะไหล่มาเปลี่ยนเหมือนเครื่องยนต์ เครื่องโทรทัศน์ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์
เมื่อได้คุยกับเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายสิบ ที่มีอายุอ่อนกว่านิดหน่อย ซึ่งก็หูตึงเหมือนกัน ก็พอจะคุยกันได้เพราะต้องตะโกนพอ ๆกัน และก็คอยดูปากกันให้แน่ใจว่าพูดเรื่องอะไร ก็ได้ความรู้ว่า เขาก็ซื้อเครื่องช่วยฟังมาใช้เหมือนกัน แต่เป็นโรงพยาบาลของทหาร จึงเสียเงินเพียงครึ่งเดียว ในราคาที่ใกล้เคียงกับของเรา แต่ก็มีค่าเท่าเดิมเหมือนกัน
เราก็เสริมว่า ถ้าจะให้ชัดเจนอย่างที่เราต้องการ ก็จะต้องใช้เครื่องที่มีราคาเป็นแสน เจ้าเพื่อนบอกว่า ไม่ใช่แสนเดียวแต่ราคาเครื่องละสามแสน ถ้าใส่ทั้งสองข้างก็หกแสน
เราก็เลยยอมรับสภาพคนหูตึงแต่โดยดี เพราะการไม่ได้ยินเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา ก็น่าจะทำให้มีความสุขมากขึ้นก็ได้
พระท่านยังว่า สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบ..........ไม่มี.
#########
Create Date : 16 กันยายน 2555
Last Update : 16 กันยายน 2555 8:50:13 น.
2 comments
Counter : 1308 Pageviews.
Share
Tweet
สุขอื่นยิ่งกว่าความสงบ..........ไม่มี ....
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
โดย:
AsWeChange
วันที่: 16 กันยายน 2555 เวลา:22:39:52 น.
เพราะฉะนั้น คนหูตึงจึงมีความสุขมากกว่าคนหูดี ครับ.
โดย:
เจียวต้าย
วันที่: 17 กันยายน 2555 เวลา:5:06:11 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
เจียวต้าย
Location :
[Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [
?
]
เชิญหารายละเอียดได้ ที่หน้าบ้านชานเรือนครับ
Friends' blogs
เจียวต้าย
เจียวต้าย
GTW
silverqueen
oreocream
หมอ-ยา-ผู้-น่า-รัก
sugarhut
สีน้ำฟ้า
เปียร์รุส
กริชครับผม
เอ่อ่อ่ะนะคะ
~ เจ๊ล่ะเบื่อ!!!! ~
กลิ่นกาแฟครับ
พิธันดร
จริง
O-HO
i_tua_yung
Handmade
โสมรัศมี
ข้าวโพดแมวติสต์แตก
อาคุงกล่อง
pink-worm
Webmaster - BlogGang
[Add เจียวต้าย's blog to your web]
Links
Bloggang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ