All Blog
แทกิล วันที่ 19 มกราคม 2555



“ข้าน่ะยังพอไปไหว แต่วังซอนแค่เดินก็ไม่ค่อยสะดวกแล้ว” แม่ทัพเชมองไปที่วังซอน

“ต้องเป็นเจ้าทุกที นี่เจ้าบาดเจ็บมาตั้ง 21 วันแล้ว จนป่านนี้ยังไม่หายอีกเหรอ”

“เหอะ ข้าแค่ไปคลอดลูกรึไง ฮิ พักรักษาตัวแค่ 21 วัน ก็กระโดดได้รึไง” วังซอนพูดประชด

“วังซอน งานเลี้ยงวันนี้เจ้าอย่าไปกินเหล้าเชียวล่ะ แทะเนื้อไปให้เต็มที่ เลือกแทะส่วนที่เนื้อแน่น ๆ หน่อยเข้าใจมั้ย”

“เข้าใจแล้ว แต่ว่าพี่หูเดียวจะจัดงาน เพราะแค่แม่สาวน้อยนั่นบอกจริง ๆ เหรอ?”

“ลูกพี่หูเดียวมันเป็นคนที่เชื่อฟังเด็กเป็นพิเศษอยู่แล้ว เพราะเมียเค้าต้องมาตายเพราะการคลอดลูก แต่ถ้าไม่เกิดเรื่องนั้นขึ้น เค้าคงจะกลายเป็นคนที่โหดเหี้ยมกว่านี้”

หูเดียวรักใคร่เอาอกเอาใจองค์ชายอย่างเห็นได้ชัด “ฮิ ๆ ๆ แทวอนกินข้าวรึยัง”

“กินแล้ว”

“ฮะ ๆ ๆ เดี๋ยวลุงสอนเต้นให้ดีรึเปล่า

“หูเดียวร้องเพลง “ฮิ ๆ ๆ ๆ เจ้าเป็นใครมาจากที่ไหน ทำอะไรข้าเดาไม่ออกเลย แต่อยู่บ้านคนอื่นสงบเสงี่ยมหน่อยล่ะ”

แทฮาเห็นท่าทางของหูเดียวที่เอ็นดูองค์ชายซ็อกยอนก็ไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะกลัวความลับเปิดเผย เขาจึงคิดจะอยู่ที่เขาวอรักไม่นาน “ข้าจะอยู่ที่นี่แค่ชั่วคราวเท่านั้น เจ้า

ไม่ต้องห่วงไปหรอก”

“จะเข้าออก ก็ต้องได้รับอนุญาตก่อน เพราะดีไม่ดีอาจถูกปืนยิงธนูยิงมาจากหลืบเขาได้ทุกที่ ฮะ ๆ ๆ ๆ ๆ ออกไปเล่นกับลุงข้างนอกมั้ย ฮะ ๆ ๆ”

หูเดียวชวนองค์ชาย เฮวอนเห็นท่าทางเป็นห่วงของแทฮาก็รีบพูดขึ้น “คือว่า คืนให้ข้าเถอะ”

“อ้อ นั่นสินะ ๆ ๆ อึ้ม..” หูเดียวส่งองค์ชายคืนให้เฮวอนและเดินออกไป

“ชื่อขององค์ชายเมื่อกี้..” แทฮาเอ่ยขึ้นเมื่ออยู่กับเฮวอนเพียงสองคน

“ข้าใช้คำว่าแทจากชื่อท่าน ผสมกับคำว่าวอนจากชื่อของข้า”

“องค์ชายจะมีชื่อตามลำดับเชื้อพระวงศ์”

“ได้ยินว่าในวังจะมีชื่อบอกลำดับรุ่น คงจะเป็นเรื่องจริง”

“ชื่อในลำดับราชวงศ์ ไม่ว่าจะในวังหรือนอกวัง ก็ห้ามคนอื่นมาใช้ซ้ำ เพื่อให้สะดวกจึงใช้อักษรเดียว”

“แม้พระราชาจะมีพระนามอยู่ แต่เมื่อไม่มีใครกล้าเรียก ก็ไม่ต่างกับไม่มี ชื่อประชาชนที่ใครก็เรียกได้ แต่กลับไม่มีคนสนใจจะจดจำ ก็ไม่ต่างกับไม่เคยมีคนคนนี้มาก่อน

องค์ชาย ชื่อของหม่อมฉัน คือเฮวอน แล้วก็เคยมี ชื่อว่าออนยอนด้วย”

“ไม่ว่าจะชื่ออะไร มันก็ไม่สำคัญหรอก เจ้าจะชื่อเฮวอน หรือว่าจะชื่อออนยอน เจ้าก็ยังคงเป็นภรรยาของข้า”

“เมื่อท่านยอมพูดอย่างนี้ ข้าถึงจะเป็นภรรยาท่านได้อย่างแท้จริง” เฮวอนรู้สึกดีขึ้น

“วันข้างหน้า ถ้าเรามีลูกของเราเมื่อไหร่ ถึงตอนนั้นก็ตั้งชื่อ..ลูกว่าแทวอนก็แล้วกัน” แทฮาบอกยิ้ม ๆ

มือปราบโอยังคงตามหาตัวแทกิล โดยเรียกจิตรกรบังมาพบเพื่อมอบหมายให้ช่วยตามหาแทกิลให้

“เจ้าแทกิลเองก็ไม่ได้ส่งข่าวอะไรมาเลย”

“ใช่”

“ไอ้เด็กที่เคยทำมาหากินกับมัน กับไอ้คนไร้ความรู้สึกเหมือนผีดิบด้วยเหรอ?”

“ใช่ ข้าหมายความอย่างนั้นแหละ ถูกแล้ว ๆ”

“แต่ที่มันน่าแปลกก็คือ จู่ ๆ เจ้าชอนจีโฮก็หายตัวไปด้วย” มือปราบโอแปลกใจมากที่ไม่มีข่าวคราวของชอนจีโฮเลย โดยที่หารู้ไม่ว่าชอนจีโฮถูกฆ่าตายไปแล้ว

“อืม..เจ้าหมอนั่นหายไป ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับบ้านเมืองเรา ข้าคิดว่าเจ้านั่นหายไปก็ดีแล้วนี่นา”

“เจ้าคงไม่ได้ตั้งใจปกปิดทั้ง ๆ ที่รู้หรอกนะ เจ้าหลอกข้าอยู่รึเปล่า?”

“ข้าบ้าไปแล้วรึ ข้าเนี่ยนะ ต่อให้ท่านเอาก้อนหินมาปา ข้ายังต้องเก็บก้อนหินส่งคืนให้ท่านเลย ท่านให้ขนมต๊อกข้า ข้าก็ต้องตอบแทนท่านด้วยต๊อกเหมือนกัน ข้าหมายความว่า

ข้าจะทำอะไรอย่างนั้นได้ยังไง ใช่มั้ย ๆ ๆ ฮิ ๆ”

“ทำไมถึงต้องขึ้นเสียงสูงอย่างนั้นด้วย หรือมีอะไรที่ให้ใครรู้ไม่ได้” มือปราบโอดักคอ

“มีที่ไหนเล่า ใครบอกว่าข้าทำเสียงสูงขึ้นมา แหะ ๆ ข้าออกจะสงบเสงี่ยม ฮิ ๆ ๆ”

“ฟังให้ดีนะ ช่วงนี้บ้านเมืองวุ่นวายมาก มีนักโทษถูกแขวนคอหลบหนีไปได้ แถมยังมีคนร้ายคอยซุ่มยิงชนชั้นสูงอีก ข้างบนก็คอยเร่งรัดให้คนอย่างพวกข้าคอยหาข่าว รู้มั้ยว่า

ช่วงเวลานี้ควรทำไง”

“เข้าใจ เข้าใจอยู่แล้วครับ ฮิ ๆ”

“เฮ้อ ยังเล่นอีก”

“หมายความว่า จะไปไหนมาไหน ถ้าเจออะไรผิดปกติก็ให้รีบแจ้งท่านทันทีเลย ใช่ ๆ ๆ ๆ”

“เอาเป็นว่าข้าก็หวังพึ่งเจ้านี่แหละ ถ้ามีอะไรให้รีบมาบอกข้าทันทีเลย”

“ครับ ๆ” จิตรกรบังรับคำ

“ถ้าข้ามีอนาคตที่ดีได้ รับรองว่าข้าจะไม่ลืมเจ้าเลย หืม”

“ฮิ ๆ โอ๊ย ๆ ๆ มันเป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้ว”

มือปราบโอให้จิตรกรบังติดตามข่าวคราวของแทกิล เพราะคิดจะเอาข่าวคราวไปบอกทางการ เพื่อหวังเงินรางวัล

อ๊บบ๊กและพวกยังออกฆ่าชนชั้นสูงและนำเงินจากการว่าจ้างมาซื้อปืนเก็บไว้ เพื่อทำการใหญ่ โดยให้คียูนเป็นคนไปซื้อ

“มีแค่นี้เหรอพี่ เท่าที่ข้ารู้มา น่าจะซื้อได้ยี่สิบกว่ากระบอกนะ” ชายหน้าหล่อผู้บงการถามอย่างสงสัย

“โธ่ น้องชาย”

“ทำไมพูดจาไม่มีมารยาทเลย”

“ไม่เป็นไรหรอกพี่ เชิญท่านพูดมาเถอะ”

“ช่วงนี้น่ะ ราคามันขึ้นไปเยอะ วัตถุดิบน่ะ” ตียูนบอก

“จู่ ๆ ก็ขึ้นราคาน่ะเหรอ?”

“เจ้าไม่รู้เลยล่ะสิ จู่ ๆ ก็ขึ้นอะไรกัน มีชนชั้นสูงตายทุกคืน แถมทรัพย์สินถูกปล้นไปทุกวัน จนลือกันไปทั่วแล้วว่ามีโจรอาละวาดในเมือง คนพวกนั้นก็ไม่ได้

โง่นะ ในเมืองวุ่นวายอย่างนี้ใครจะยอมทำปืนออกมาขายแล้วมาถูกยิงเล่า ตอนนี้ราคามันปั่นสูงขึ้นไปสามเท่า ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน”

“แต่ถึงอย่างนั้นก็น่าจะได้มาอีกสองกระบอกไม่ใช่เหรอ?” อ๊บบ๊กถามอย่างสงสัย

“เจ้านี่มัน พอแล้ว ๆ เอาคืนมา ๆ” คียูน ทำท่าจะเอาปืนคืน

“เอาคืนทำไม”

“เอามา พวกนี้ ข้าจะเอาไปคืนเอาเงินมาคืนให้เอง พวกเจ้าไปซื้อเองเลย เพราะเป็นข้าหรอกนะ เวลาอย่างนี้ยังซื้อมาได้น่ะ” คียูนเล่นตัว

“ไม่เอาน่าพี่ชาย ถือว่าข้าพูดไม่ดีเอง” ผู้บงการไกล่เกลี่ย

“ช่างเหอะ น้องชายก็ไม่ควรทำแบบนี้ ต่อให้คนอื่น ๆ ไม่ยอมไว้ใจข้า แต่เจ้าควรจะไว้ใจข้าถึงจะถูก อีกอย่างนึง ทาสทุกคนที่นั่งอยู่นี่มีใครรู้โลกภายนอกบ้าง ก็มีแต่เจ้ากับข้าสองคนเท่านั้นแหละ”

“อย่าโกรธไปเลยนะ ถือว่าข้าไม่รู้สถานการณ์ตอนนี้เอง”

“เลิกงอนได้แล้วน่า รีบแบ่ง ๆ ปืนกันเถอะ” แคลองบอก

“เฮ้อ ถึงเจ้านายข้าจะทอดทิ้งข้า แต่ทุกคนที่นั่งอยู่ในนี้ก็ควรต้อนรับข้าสิ”

“ขอโทษด้วยเพราะข้าไม่ดีเอง”

“ไม่เป็นไรหรอกครับ”

“จะให้เกียรติไปไหน เค้าอายุน้อยกว่าเรานะ”

“หน็อย ดูปากเหม็น ๆ ของเจ้าสิ” กี๊ตบงไม่พอใจมาก

“ไม่เป็นไรครับ พี่อ๊บบ๊กครับ ท่านช่วยสอนการยิงปืนให้ทุกคนที ในสองสามวัน คนที่รับผิดชอบในแถบฮันยาง กับคยองกีจะมารวมตัวกันแล้ว สงครามกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว จะเริ่มจากไปเผากองเสบียงก่อน สงครามเริ่มอย่างเป็นทางการ”

“จะเริ่มต้นสงครามแล้วจริงเหรอ?” อ๊บบ๊ก

“ครับ การต่อสู้กำลังจะเริ่มแล้ว” น้ำเสียงผู้บงการหนักแน่นจริงจัง

“ถ้าโลกนี้สลับขั้วกันแล้ว เจ้าคิดจะทำอะไร” อ๊บบ๊กถามโชบ๊ก

“ข้าเหรอ เวลางานก็ทำงาน เวลาเที่ยวเล่นก็ไปเที่ยว ข้าอยากมีชีวิตแบบนั้น เพราะชีวิตที่ผ่านมา นอกจากทำงานไม่เคยทำอย่างอื่น”

“เจ้าอยากจะไปเล่นอะไรล่ะ ไปเล่นไม้กระดก เล่นโล้ชิงช้า?”

“อืม ฤดูใบไม้ผลิก็ไปชมดอกไม้ พอหน้าร้อนก็ไปเล่นน้ำ ใบไม้ผลิก็ไปชมใบไม้ร่วง พอหน้าหนาวก็จะไปเขาคิมกัง”

“นี่ เจ้า เป็นเด็กผู้หญิงจะไปไหนมาไหนคนเดียวอย่างนั้นได้ยังไง”

“ไปคนเดียวทำไมล่ะ ข้าก็จะไปกับท่านไงล่ะ”

“ข้า ทำไมข้าต้องไป..”

“พูดให้จบสิ”

“พูดอะไร เจ้าคิดว่าข้าแกล้งได้ง่าย ๆ รึไงหะ?”

“ใครบอกว่าจะพาไปแกล้งล่ะ ข้ากะว่าเวลาเดินเหนื่อยจะได้ขี่หลังท่านได้ต่างหาก” โชบ๊ก บอก

“ต้องขึ้นเขาข้าถึงจะแบกรึไง”

“แปลว่าท่าน จะแบกข้าเดี๋ยวนี้เลยเหรอ?”

“เจ้าเจ็บขาอีกแล้วเหรอ? ดูไม่เหมือนเจ็บขาเลย ขึ้นมาสิ”

“ท่านอาไม่มี ความฝันเลยจริง ๆ เหรอ?”

“แค่ไม่ต้องเป็นทาสก็พอ ยังจะมีความฝันอะไร”

“แต่ว่าท่าน น่าจะมีอะไรสักอย่างที่อยากจะทำอยู่บ้างสิ”

“ไม่มีแล้ว ถ้าโลกแบบนั้นมาถึง มีโอกาสได้แบกเจ้าขี่หลังก็พอแล้ว”




//www.dailynews.co.th



Create Date : 04 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 4 กุมภาพันธ์ 2555 13:57:33 น.
Counter : 250 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

มิกัง
Location :
ชลบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]