ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บบอร์ด Thailand Aquatic Pets เว็บบล็อคสำหรับ คนรักสัตว์น้ำ ( และ สัตว์ที่อยู่ในน้ำ ) ประเทศไทยจ้า

เนื้อฉลามเน่า อาหารสุดแปลกจากไอซ์แลนด์

คนส่วนใหญ่แล้วถ้าพูดถึง อาหารเน่า ก็เข้าใจได้เลยว่า เป็นของที่เสียแล้ว เอามากินไม่ได้ต้องทิ้งอย่างเดียว แต่บางครั้ง หลักการว่าของเน่ากินไม่ได้ ก็เอามาใช้กับอาหารบางอย่างไม่ได้ ลองดูจากบทความนี้ นี่คือ เนื้อฉลามเน่า อาหารแปลกๆ จากไอซ์แลนด์ ที่ต้องทิ้งให้เน่าแล้วเ่ท่านั้นถึงจะเอามากินได้

เนื้อฉลามเน่า หรือ Hakarl ในภาษาไอซ์แลนด์ ไม่เหมือนกับเนื้อฉลาม หรือหูฉลาม ที่เอามาทำเป็นอาหารจีนราคาแพงที่เรารู้จักกันดี วิธีการเตรียมและขั้นตอนการทำนั้นมีวิธีการเฉพาะที่ยุ่งยาก และใช้เวลาในการทำนานมากเลยทีเดียว

เนื้อฉลามเน่าถูกหั่นเป็นทรงลูกเต๋าอยู่ในแก้ว ดูสวยงามน่ากิน แต่อย่าให้หน้าตาภายนอกมาหลอกคุณได้

วิธีการเตรียมเนื้อฉลามเน่าแบบดั้งเดิมนั้น จะเริ่มจากการตัดหัวฉลามออก และทำความสะอาดก่อน (ทางเรามีรูปอยู่แต่คิดว่าไม่เอามาลงจะดีกว่า ใครอยากดูรูปฉลามถูกตัดหัวสามารถค้นหาได้ทั่วไปจากทางอินเตอร์เน็ต) จากนั้นก็นำไปฝังไว้ในหลุมที่เป็นดินกรวดบนภูเขา แล้วเอาหินหนักๆ มาวางทับไว้ เพื่อใช้กดเนื้อปลาฉลามให้แน่นๆ  แล้วทิ้งไว้ให้เน่าอย่างนั้น 6-12 สัปดาห์ หลังจากนั้น จึงขุดขึ้นมา ตัดเป็นชิ้นๆ แล้วตากแห้งไว้อีกหลายเดือน เมื่อตากได้ที่แล้วก็นำมารัปประทานได้เลย หรือถ้าเป็นสมัยนี้ก็จะบรรจุหีบห่ออย่างดี ขายกันตามซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป หากินได้ตลอดปี

ฝังกลบ ขุดขึ้นมาตากแห้ง แล้วก็บรรจุห่อ กินได้เลย

สาเหตุที่ไม่ใช้เนื้อปลาฉลามสดๆ มาทำ เนื่องจากว่าเนื้อปลาฉลามไอซ์แลนด์แบบสดๆ นั้นเป็นพิษ เนื่องมาจากมีปริมาณยูเรียมาก คนที่กินเข้าไปจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด จึงต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้นำมากินได้ (ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าจะเอามากินทำไมตั้งแต่แรก?) นอกจากจะอันตรายแล้ว ยังมีกลิ่นเหม็นมากด้วย ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะมีสารแอมโมเนีย (แบบเดียวกับที่อยู่ในปัสสาวะ) อยู่มากนั่นเอง

เนื้อฉลามเน่าที่ถูกแปรรูปและตากแห้งแล้ว จะยังคงมีกลิ่นเหม็นของแอมโมเนียติดอยู่ จึงกลายเป็นอาหารที่คนท้องถิ่นชอบเอามาหลอกให้ผู้มาเที่ยวที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ลองกิน แต่ก็มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เคยได้ยินกิตติศัพท์มาแล้ว และไปลองกินท้าพิสูจน์ ซึ่งส่วนมากก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นอาหารที่ “รสชาติเลวร้ายที่สุด” และไม่ค่อยมีใครกินลงไปได้ นอกจากชาวไอซ์แลนด์เอง จนได้ชื่อว่าเป็นอาหารสำหรับ “ขาโหด” และไม่เหมาะกับพวก “มือใหม่”

ภาพถ่ายผู้ทดลองกินเนื้อฉลามเน่า

เสื้อและเข็มกลัดประกาศความกล้า ว่าเคยได้ลองกินเนื้อฉลามเน่ามาแล้ว

ที่มา Wikipedia , Yahoo!Voices




 

Create Date : 07 เมษายน 2556   
Last Update : 7 เมษายน 2556 9:48:19 น.   
Counter : 2130 Pageviews.  

เจ้าเงินเจ้าทอง 2 จระเข้แสนรู้เจอสภาพอากาศร้อนต้องนอนแอร์

สภาพอากาศที่ร้อนระอุ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ “เจ้าทอง” และ “เจ้าเงิน” จระเข้แสนรู้เจ้าของต้องคอยราดน้ำตลอดเวลา กลางคืนเข้าไปนอนในห้องทำงานติดแอร์เจ้าของบ้าน 

เจ้าเงินเจ้าทอง 2 จระเข้แสนรู้เจอสภาพอากาศร้อนต้องนอนแอร์ สภาพอากาศที่ร้อนระอุ อย่างต่อเนื่อง ทำให้ “เจ้าทอง” และ “เจ้าเงิน” จระเข้แสนรู้เจ้าของต้องคอยราดน้ำตลอดเวลา กลางคืนเข้าไปนอนในห้องทำงานติดแอร์เจ้าของบ้าน เมื่อเวลา 13.00 น.ของวันนี้ ( 3 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่ร้อนอย่างหนัก โดยเฉพาะในช่วงเที่ยงวัน อุณหภูมิจะสูงขึ้นเกือบ 40 องศา ส่งผลให้นายอวิรุทธิ์ นาทิพย์ อดีตสมาชิกสภาเทศบาลนครพิษณุโลก เจ้าของ “เจ้าทอง” และ เจ้าเงิน” จระเข้แสนรู้ที่ปล่อยเลี้ยงไว้ในบ้าน และเผ้าบ้านมานานกว่า 5 ปี ทางเจ้าของคือนายอวิรุทธิ์ นาทิพย์ ต้องคอยฉีดน้ำวันหนึ่งไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง เพื่อคลายร้อนให้แก่ จระเข้ ทั้งสองตัว บางครั้งเจ้าจระเข้ “เจ้าทอง” และ”เจ้าเงิน” ก็คอยจะหลบไปอยู่ใต้ถุนบ้านด้วยตนเองเป็นประจำ

นายอวิรุทธิ์ นาทิพย์ เจ้าของ เจ้าทอง และ เจ้าเงิน กล่าวว่า ในช่วงหน้าร้อน อย่างนี้ “เจ้าทอง” และ “เจ้าเงิน” จะอารมณ์หงุดหงิดง่าย เพราะว่าอากาศที่ร้อนมาก โดยเฉพาะเจ้าทอง หากร้อน ก็จะใช้หางฟาดกับเสาบ้าน ซึ่งหลังจากนั้นก็ต้องนำสายยางต่อก๊อกน้ำไปฉีดให้ผ่อนคลาย โดยในช่วงนี้จะนำน้ำไปราดไม่ต่ำกว่า 10 รอบทีเดียวส่วนในช่วงกลางคืน นั้น ส่วนใหญ่ เจ้าทอง ก็จะเดินเข้าไปอยู่ในห้องทำงานตน เป็นประจำทุกวัน 

เนื่องจากไปอาศัยแอร์ภายในห้องทำงานคลายร้อน ส่วน “เจ้าเงิน” ก็จะมีนิสัยดุกว่าเจ้าทอง นิดหนึ่งและอาศัยอยู่ในบ่อ ช่วงนี้ก็ต้องเติมน้ำในบ่อให้เป็นปลัก พร้อมกับราดน้ำช่วยให้คลายร้อนให้ตลอด ในช่วงกลางคืนก็จะขึ้นไปนอนในห้องทำงานของเจ้าของบ้านอีกด้วย..

ที่มา: teenee




 

Create Date : 03 เมษายน 2556   
Last Update : 3 เมษายน 2556 17:42:26 น.   
Counter : 1544 Pageviews.  

สาวรัสเซีย ใช้หน้าอก วาดภาพศิลปะที่สวยงาม

เจ๋ง สาวรัสเซีย ใช้หน้าอก วาดภาพศิลปะ

วิ คตอเรีย โรมาโนวา (Victoria Romanova)ศิลปิน วัย 26 ปี ชาวรัสเซีย สร้างสรรค์ผลงานศิลปะที่แหวกแนว โดยการใช้หน้าอก ละเลงสีน้ำแล้วป้ายลงบนกระดาษหรือผ้าใบ ที่ใช้เป็นฉากหลัง ซึ่งผลงานที่ได้เป็นภาพสิลปะที่สวยงาม

เธอ กล่าวว่า ภูมิใจที่ผลงาน สามารถถ่ายทอดสิ่งที่ต้องการจะสื่อได้ ไม่ว่าจะเป็นภาพบุคคล ภาพนามธรรม   หญิงทุกคนมีโครงสร้างของหน้าอกที่แตกต่างกัน และสวยงาม นั่นเป็นเหตุผลที่เธอเลือกใช้หน้าอกในการวาดภาพลงบนผ้าใบ เพราะภาพที่ได้มีความอ่อนโยนและสวยงามทีเดียว

ขณะ นี้เธอมีผลงานที่วาดด้วยหน้าอกแล้ว 25 ชิ้น ซึ่งในตอนแรกครอบครัวไม่สนับสนุนให้เธอทำเช่นนี้ แต่หลังจากนั้น เมื่อพวกเขาเห็นผลงานออกมา พวกเขาก็รู้สึกเลยว่า ภาพเหล่านั้นน่าทึ่งทีเดียว

วิ คตอเรียบอกว่า แม้ว่าจะไม่มีชายหนุ่มคนใดเข้ามาในชีวิตเธอ แต่เธอก็เชื่อว่า มีชายหลายคน ตื่นเต้นที่เห็นเธอใช้หน้าอกในการละเลงภาพดังกล่าว



ที่มา: //www.fwdder.com/topic/287633




 

Create Date : 31 มีนาคม 2556   
Last Update : 31 มีนาคม 2556 13:11:49 น.   
Counter : 2384 Pageviews.  

ประมูลไข่นกยักษ์ คาดทำเงินกว่าล้านบาท

ประมูลไข่นกยักษ์ คาดทำเงินกว่าล้านบาท

สถานประมูลในอังกฤษเปิดประชันราคาไข่นกสูญพันธุ์หายาก มีขนาดโตกว่าไข่ไก่ถึง 160 เท่า คาดทำเงินทะลุล้านบาท

ไข่ที่ว่านี้เป็นของนกช้าง (elephant egg) หรืออีพีออร์นิส (Aepyornis) มีขนาดสูง 30 ซ.ม. กว้าง 21 ซ.ม.

นกช้างได้สูญพันธุ์ไปจากเกาะมาดากัสการ์ทางฝั่งตะวันออกของทวีปแอฟริกาเมื่อราวคริสต์ศตวรรษที่ 13-17

นกยักษ์ชนิดนี้มีรูปร่างคล้ายนกกระจอกเทศ แต่ตัวสูงถึง 3.3 เมตร มีน้ำหนักตัว 400 กิโลกรัม ถือเป็นนกตัวใหญ่ที่สุดในโลกในยุคนั้น

คาดว่าพวกมันสูญพันธุ์เพราะถูกมนุษย์ล่ากินเป็นอาหาร และถิ่นที่อยู่ถูกทำลาย

นักโบราณคดีเคยพบเศษเปลือกไข่ของนกช้างในซากกองไฟที่มนุษย์ได้ก่อขึ้น แสดงว่า คนได้เก็บไข่ของนกยักษ์ชนิดนี้กินด้วย แค่ฟองเดียวคงอิ่มไปทั้งครอบครัว

เจมส์ ฮิสล็อป แห่งสถานประมูลคริสตี้ บอกว่า ไข่นกช้างที่นำออกประมูลในครั้งนี้ มีสภาพสมบูรณ์มาก และเป็นของหายาก คาดว่าจะทำเงินได้ 30,000 ปอนด์ หรือราว 1.33 ล้านบาท.




 

Create Date : 29 มีนาคม 2556   
Last Update : 29 มีนาคม 2556 13:23:16 น.   
Counter : 3763 Pageviews.  

ชาวเน็ตจีนผงะ! อบกุ้งแม่น้ำ หัวเป็นสีเขียว


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า (21 มี.ค.) ในเว่ยปั่ว เว็บไซต์จีน มีการส่งต่อภาพจากผู้โพสต์ชื่อ @Christy เผยให้เห็นภาพกุ้งแม่น้ำที่ตัวสุกเป็นสีแดง แต่ที่หัวเป็นสีเขียว โดยเธอเปิดเผยว่าซื้อกุ้งตัวนี้มาจากตลาดอาหารทะเลในเซี้ยงไฮ้ ราคาปอนด์ละ 58 หยวน ซึ่งตอนแรกเธอไม่เห็นความผิดปกติใดๆ แต่เมื่อนำมาประกอบอาหารด้วยไมโครเวฟ กุ้งที่น่าจะเป็นสีแดงทั้งตัวก็เป็นดังที่เห็น เธอจึงโพสต์ภาพดังกล่าวเพื่อเตือนผู้คนที่จะซื้อกุ้ง และถามผู้มีความรู้เพื่อไขปริศนา จนมีผู้โพสต์ส่งต่อและแสดงความคิดเห็นกันมากมาย

ทั้งนี้ ยังไม่มีใครสามารถตอบได้ว่ามันคืออะไร บางความเห็นบอกว่าเป็นกุ้งมรกตอีกสายพันธุ์ เป็นของดีราคาแพง ขณะที่หลายคนสงสัยว่าอาจเป็นสารปนเปื้อนซึ่งเป็นพิษและอาจก่อมะเร็ง ไม่ควรทาน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญฯดูรูปแล้วกล่าวว่า น่าจะเป็นพืชน้ำจำพวกสาหร่ายมากกว่า

ที่มา: //news.sanook.com




 

Create Date : 26 มีนาคม 2556   
Last Update : 26 มีนาคม 2556 9:27:47 น.   
Counter : 1652 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  

เหมียวกุ่ย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




ยินดีต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกท่านเข้าเยี่ยมชม เว็บบล็อคแห่งนี้ หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในการชมบล็อคของกระผมนะครับ










View My Stats
New Comments
[Add เหมียวกุ่ย's blog to your web]