ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บบอร์ด Thailand Aquatic Pets เว็บบล็อคสำหรับ คนรักสัตว์น้ำ ( และ สัตว์ที่อยู่ในน้ำ ) ประเทศไทยจ้า

ตำนานสัตว์ผี ปีศาจ สัตว์ในตำนาน ในไทย

เสือสมิง

เสือสมิง เป็นผีหรือปีศาจตามความเชื่อของชาวไทยและชาวกะเหรี่ยง ที่เกี่ยวข้องกับป่าและภูติผีวิญญาณสิ่งชั่วร้าย

เสือสมิง คือ ผีหรือปีศาจที่มีรูปร่างเป็นเสือโคร่งขนาดใหญ่ อาละวาดกินคนเป็นอาหาร เชื่อว่า เสือสมิงเกิดจากเวทมนตร์คาถาทางไสยศาสตร์ หรือเป็นเสือที่กินคนเข้าไปมาก ๆ แล้ววิญญาณของคนที่ถูกกินไปสิงอยู่ในเสือตัวนั้นจนกลายเป็นเสือสมิง เสือสมิงโดยปกติจะมีร่างเป็นคน แต่สามารถแปลงร่างเป็นเสือได้ในเวลากลางคืน และออกหาเหยื่อ เมื่ออกล่าเหยื่อจะแปลงร่างเป็นบุคคลต่าง ๆ นานา เพื่อล่อลวง เช่น แปลงเป็นลูกเมียของเหยื่อ หรือแม้กระทั่งแปลงเป็นพระธุดงค์ก็มี

ตามความเชื่อของชาวกะเหรียง

เสือสมิงตามความเชื่อของชาวกะเหรี่ยง เชื่อว่าเป็นเจ้าป่าเจ้าเขาหรือพระภูมิเจ้าที่ ที่ดูแลรักษาปกป้องป่า จึงมีความเชื่อและข้อปฏิวัติว่า ห้ามล่าสัตว์หรือตั้งห้างบริเวณที่เป็นโป่ง ซึ่งเป็นแหล่งที่เป็นที่ชุมนุมของสัตว์ป่า มีผู้ที่เคยพบเห็นเจ้าของโป่งในเวลากลางคืน อ้างว่า มีดวงตาสามดวง ตาดวงที่สามอยู่กลางหน้าผากและเป็นสีเขียวเรืองแสงในความมืด มีเรื่องเล่ากันของชาวกะเหรี่ยงว่า ผู้ที่พบเจอกับเสือสมิง มักจะปรากฏเป็นผู้หญิงหรือเมียเข้ามาตามถึงในป่าแจ้งว่า ลูกป่วยให้กลับบ้าน เป็นต้น ถ้าลงไปก็จะถูกฆ่าตาย บ้างถึงกับว่า เมื่อมีผู้ไม่ยอมลงไป สักพักก็กลับมาใหม่พร้อมด้วยคนอีกสี่คนหามคานใส่ศพของลูกหรือเมียมาก็มี มีบางคนที่ยิงปืนใส่ เช้ามาเมื่อลงจากห้างพบว่า มีรอยเท้าเสือขนาดใหญ่เพ่นพ่านอยู่บริเวณนั้น โดยเชื่อว่าคนสี่คนที่เห็นว่าหามคานนั้น คือ ขาทั้งสี่ข้างของเสือ เป็นต้น

นกแสก หรือ นกแฝก หรือ นกเค้าหน้าลิง

นกแสกนับว่าเป็นนกจำพวกนกเค้าแมวที่อาจนับได้ว่าใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่ สุด ด้วยความที่มีถิ่นอาศัยใกล้หรืออยู่ในชุมชนของมนุษย์ จึงทำให้มีความเชื่อในบางวัฒนธรรมว่า เป็นนกที่ส่งสัญญาณเตือนถึงความตาย เช่น ในความเชื่อของไทย เชื่อว่า หากนกแสกบินข้ามหลังคาบ้านผู้ใดหรือไปเกาะที่หลังคาบ้านใคร หรือส่งเสียงร้องด้วย จะต้องมีบุคคลในที่แห่งนั้นถึงแก่ความตาย จึงทำให้เชื่อกันว่าเป็นนกผีหรือนกปีศาจ

ซึ่งในเรื่องนี้ ได้ปรากฏเป็นข่าวครึกโครมผ่านหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2552 ว่าที่วัดแห่งหนึ่งที่อำเภอเสนา จังหวัดอยุธยา ชาวบ้านและพระที่จำวัด ณ วัดแห่งนั้น เชื่อว่าเมื่อใดที่นกแสกที่วัดส่งเสียงร้องดัง หรือเสียงแปลก ๆ จะมีคนตายส่งมาฌาปนกิจเสมอ โดยในช่วงเวลาที่เป็นข่าวก็มีคนตายไปแล้วถึง 6 คนด้วยกัน

ควายธนู

ควายธนู เป็นเครื่องรางตามความเชื่อทางไสยศาสตร์ สะท้อนให้เห็นระบบความเชื่อทางไสยศาสตร์ของสังคมเกษตรกรรม อันมีความผูกพันกับวัฒนธรรมข้าว ซึ่งเลี้ยงวัวควายไว้ใช้งานในด้านการเกษตร วิชาเหล่านี้เป็นการทำหุ่นพยนต์รูป แบบหนึ่ง หุ่นพยนต์สามารถทำได้ทั้งรูปคนและสัตว์ ที่นิยมมีทั้งวัวธนูและควายธนู สามารถสร้างได้หลายวิธี เช่น สานจากไม้ไผ่ ปั้นด้วยดินผสมมวลสาร ปั้นจากขี้ผึ้ง ไปจนถึงหล่อขึ้นด้วยโลหะอาถรรพ์ เช่น ตะปูโลงศพเจ็ดป่าช้า ,เหล็กขนันผีพราย ,เหล็กยอดเจดีย์ เป็นต้น เอามาหลอมรวมกันหล่อเป็นรูปควาย บางสำนักใช้โครงเป็นไม้ไผ่แล้วพอกด้วยครั่งที่ ได้จากต้นพุททรา เมื่อทำสำเร็จแล้วต้องปลุกเสกตามพิธีกรรม แล้วเลี้ยงไว้ให้ดี ต้องหาหญ้าและน้ำเลี้ยงเสมอ เชื่อว่าสามารถใช้ให้เฝ้าบ้านหรือไร่นา ใช้งานได้ตามความประสงค์ ทั้งป้องกันภูตผีและโจรผู้ร้าย และสามารถสั่งให้ไปสังหารคู่อริได้อีกด้วย มีคาถาใช้เสกเมื่อทำควายธนูว่า โอมปู่เจ้าสมิงไพร ปู่เจ้ากำแหงให้กูมาทำควาย เชิญพระอีศวรมาเป็นตาซ้าย เชิญพระอาทิตย์มาเป็นตาขวา เชิญพระนารายณ์มาเป็นเขา เชิญพระอินทร์เจ้าเข้ามาเป็นหาง เชิญพระพุทธคีเนตร์ พระพุทธคีนายมาเป็นสีข้างทั้งสอง เชิญพระจัตตุโลกบาลทั้งสี่มาเป็นสี่เท้า เชิญฝูงผีทั้งหลายเข้ามาเป็นไส้พุง นะมะสะตีติ

ความเชื่อเรื่องควายธนูมีอยู่ทุกภาคของประเทศไทย บางท้องถิ่นเชื่อว่าผู้เลี้ยงต้องดูแลอย่างดีหมั่นให้อาหารและปล่อยออกไปท่องเที่ยว จะประมาทหลงลืมไม่ได้ ไม่เช่นนั้นควายธนูจะหวนมาทำร้ายเจ้าของเสียเอง แต่บางแห่งก็ถือเป็นเสมือนเครื่องรางธรรมดาสำหรับใช้พกพาติดตัว การสานวัวหรือควายธนูที่ทำจากไม้ไผ่นั้นมีแบบมาจากสายพ่อค้า การทำธนูมือแต่วัวหรือควายธนูนี้จะแรงมากก็คือการปราบเสือเย็น(เสือสมิง)และ ยังใช้ทำน้ำมนต์ประพรมสิ่งของขายดีต่างๆนาเพราะแบบนี้จึงเป็นสายพ่อค้าแต่ แบบไหนก็ใช้ได้เหมือนกัน อาจต่างที่รูปมวลสารอาจเป็นผงเป็นโลหะไม้ไผ่แล้วแต่เจตนาของผู้สร้าง

แมวดำ

เรื่องราวของแมวมีปรากฎอยู่ในหลาย ๆ วัฒนธรรมของโลก ความเชื่อเรื่องแมวดำนั้นมีทั้งดีและร้าย โดยมีการเชื่อกันว่า แมวดำคือสัตว์แห่งความโชคร้ายแต่อีกมุมหนึ่งก็มีความเชื่อว่ามันคือสัตว์ แห่งความโชคดีด้วยเช่นกัน

ในไทย งานศพสมัยก่อน  ถ้ามีแมวดำปลอด  (สีดำทั้งตัว)  กระโดดข้ามโลงศพ  เชื่อว่าวิญญาณจะดุร้าย หรือวิญญาณฟื้นขึ้นมาไม่ยอมไปผุดไปเกิด

หมาดำ

เชื่อกันว่าน้ำตาหมาดำเมื่อเอามาป้ายเปลือกตา แล้วมองลอดหว่างขาจะทำให้เรามองเห็นผี และเลือดหมาดำสามารถนำไปล้างคาคมหรือทำให้อาคมของ แม่มดหมอผี เสื่อมลงได้ แต่บางความเชื่อก็บอกว่าหมาดำคือสิ่งที่ปกป้องความชั่วร้ายไม่ให้เข้าบ้าน

พญาครุฑ

ตามคติไทยโบราณ เชื่อว่าครุฑเป็นพญาแห่งนก และเป็นพาหนะของพระนารายณ์ ปกติอาศัยอยู่ที่วิมานฉิมพลี มีรูปเป็นครึ่งคนครึ่งนกอินทรี ได้รับพรให้เป็นอมตะ ไม่มีอาวุธใดทำลายลงได้ แม้กระทั่งสายฟ้าของพระอินทร์ก็ ได้แต่เพียงทำให้ขนของครุฑหลุดร่วงลงมาเพียงเส้นหนึ่งเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ ครุฑจึงมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า "สุบรรณ" ซึ่งหมายถึง "ขนวิเศษ"

ครุฑเป็นสัตว์ใหญ่ มีอานุภาพและพละกำลังมหาศาล แข็งแรง บินได้รวดเร็ว มีสติปัญญาเฉียบแหลม อ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ

พญานาค

ลักษณะของพญานาคตามความเชื่อในแต่ละภูมิภาคจะแตกต่างกันไป แต่พื้นฐานคือพญานาคนั้นมีลักษณะตัวเป็นงูตัวใหญ่มีหงอนสีทองและตาสีแดง เกล็ดเหมือนปลามีหลายสีแตกต่างกันไปตามบารมี บ้างก็มีสีเขียว บ้างก็มีสีดำ หรือบ้างก็มี 7 สี เหมือนสีของรุ้ง และที่สำคัญคือนาคตระกูลธรรมดาจะมีเศียรเดียว แต่ตระกูลที่สูงขึ้นไปนั้นจะมีสามเศียร ห้าเศียร เจ็ดเศียรและเก้าเศียร นาคจำพวกนี้จะสืบเชื้อสายมาจาก พญาเศษนาคราช (อนันตนาคราช) ผู้เป็นบัลลังก์ของพระวิษณุนารายณ์ปรมนาท ณ เกษียรสมุทร อนันตนาคราชนั้น เล่ากันว่ามีกายใหญ่โตมหึมามีความยาวไม่สิ้นสุด มีพันศีรษะ พญานาคนั้นมีทั้งเกิดในนำและบนบก เกิดจากครรภ์และจากไข่ มีอิทฤทธิ์สามารถบันดาลให้เกิดคุณและโทษได้ นาคนั้นมักจะแปลงร่างเป็นมนุษย์รูปร่างสวยงาม

ที่มา:
ขอบคุณ
Pantip.com/topic/30678531
วิกิพีเดีย ภาษาไทย/ตำนานเรื่องลึกลับ




 

Create Date : 07 กรกฎาคม 2556   
Last Update : 7 กรกฎาคม 2556 13:29:02 น.   
Counter : 4329 Pageviews.  

ไอศกรีมของชาวเอสกิโม

คุณรู้หรือไม่ ว่าชาวเอสกิโมมีไอศกรีมกินกันด้วย แถมยังเป็นเมนูประจำบ้านที่สืบทอดกันมานาน เป็นที่ภาคภูมิใจของชาวเอสกิโม สงสัยรึเปล่า ว่าหนาวขนาดนั้นแล้วจะยังทำไอศกรีมกินกันอีกทำไม ลองมาดูสูตรไอศกรีมของชาวเอสกิโมที่ไม่เหมือนใครที่ไหนในโลก

ไอศกรีมของชาวเอสกิโม มีชื่อเรียกจริงๆ คือ akutaq (อ่านว่า อกูดัก) ไม่ได้ทำมาจากครีมเหมือนไอศกรีมทั่วๆไป แต่ทำมาจากไขมันและเนื้อของสัตว์ที่ล่าได้แถวๆ นั้น เช่น ไขมันแมวน้ำ ไขมันหมีขั้วโลก หรือไขมันกวางเรนเดียร์ ผสมกับเนื้อปลา และกับลูกเบอร์รี่ต่างๆ ที่หาได้จากในป่า แล้วตีด้วยมือจนขึ้นเป็นครีม พอทิ้งไว้ในอากาศเย็นก็จะเปลี่ยนเป็นไอศกรีมนั่นเอง อ่านดูแล้วไม่น่ากินเท่าไหร่ แต่ชาวเอสกิโมชอบกันมาก เพราะว่าเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง เหมาะกับการใช้ชีวิตในที่หนาวๆ นั่นเอง



โดยปกติแล้วผู้หญิงชาวเอสกิโมจะทำไอศกรีมในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น งานศพ งานฉลองการล่าสัตว์ครั้งแรกของเด็กหนุ่มในหมู่บ้าน แต่ละบ้านจะมีไอศกรีมสูตรเฉพาะของตัวเอง ซึ่งจะเลือกเองว่าอยากใส่ลูกเบอร์รี่ชนิดไหน และจะทำโดยใช้สูตรนั้นเท่านั้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แต่ละบ้านจะรับประทานไอศกรีมของคนอื่นได้ แต่ถ้าบ้านไหนทำไอศกรีมสูตรอื่นที่ไม่ใช่ของบ้านตัวเองจะเสียสิทธิ์ในสังคมทันทีที่โดนจับได้



ปัจจุบันนี้ ไอศกรีมเอสกิโมส่วนมากจะใช้เนยขาวแทนพวกไขมันสัตว์ และใส่ลูกเกดกับน้ำตาลลงไปด้วย แต่ยังคงมีการใส่เนื้อปลาแซลมอนและผลเบอร์รี่ต่างๆ ลงไปเหมือนเดิม ของว่างชนิดนี้มักจะถูกเสิร์พให้กับแขกที่มาเที่ยว หรือผู้ที่ย้ายมาใหม่เป็นการต้อนรับ (ดูเหมือนเป็นการลองใจมากกว่าว่ากล้ากินไหม)
โดยมารยาทอันดีแล้ว แขกก็ไม่ควรปฏิเสธ ควรจะลองชิมดูสักหน่อย หรือไม่ถ้ากินไม่ไหวจริงๆ ก็สามารถยกไปเสิร์ฟให้กับผู้อาวุโสที่สุดในห้องได้ เป็นการแสดงความเคารพแทน
แต่เท่าที่อ่านดูมา คนที่เคยกินก็บอกว่าอร่อยกันทั้งนั้น ถ้าใครอยากลองต้องไปแถวรัฐอลาสก้า สหรัฐอเมริกา ถึงจะได้กินรสชาติแบบต้นตำรับ

เครดิต : //women.postjung.com/686145.html




 

Create Date : 23 มิถุนายน 2556   
Last Update : 23 มิถุนายน 2556 14:14:23 น.   
Counter : 2694 Pageviews.  

30 เกร็ดความรู้ แปลกๆ รอบโลก !

1. การชกมวยที่ยาวนานที่สุด ชกกันถึง 110 ยก โดยใช้เวลานานถึง 7 ชั่วโมง 19 นาที

          2. สุนัขอายุยืนที่สุดในโลก คือ เจ้าเบลล่า จากอังกฤษ มีอายุยืนถึง 29 ปี หรือเทียบได้กับคนอายุ 203 ปี

          3. ถั่วลิสงเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำระเบิด เพราะในถั่วมีกรีเซอรีน ซึ่งเป็นสารสำคัญที่จะประกอบเป็นไนโตรกรีเซอรีนซึ่งใช้ในการทำระเบิดนั่นเอง

          4. ฮิปโปดุร้ายพอที่จะฆ่าคนได้เหมือนสัตว์ดุร้ายชนิดอื่น โดยเฉพาะในแอฟริกา ฮิปโปฆ่าคนได้มากกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดอื่นเสียอีก

          5. เวย์น ออลไวน์ ผู้พากษ์เสียงมิกกี้เม้าส์ แต่งงานกันจริง ๆ กับ รัสซี เทย์เลอร์ ผู้พากษ์เสียงมินนี่

          6. ปลาที่เคลื่อนไหวได้เชื่องช้าที่สุด คือ ม้าน้ำ

          7. เท้าของคนวัยผู้ใหญ่ผลิตเหงื่อวันละกว่า 1/4 ของถ้วยกาแฟ

          8. รถเต่าเป็นรถที่ออกแบบตามไอเดียของ อด็อฟ ฮิตเลอร์ส เมื่อปี 1933

          9. มนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์มีขนาดสมองใหญ่กว่ามนุษย์ยุคปัจจุบัน

          10. ไส้เดือนมีหัวใจมากที่สุดถึง 9 ดวง

          11. ชื่อหนังสือที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวมากถึง 670 คำ

          12. ไก่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้ถึง 18 เดือน หลังจากหัวขาด น่าประหลาดและอธิบายไม่ได้

          13. หัวใจของคนเราเต้นไหวทั้งชีวิตประมาณ 3 พันล้านครั้งโดยเฉลี่ย

          14. สัตว์จำพวกกบเป็นสัตว์ที่ไม่กินน้ำ แต่รับน้ำโดยการดูดซึมผ่านผิวหนัง

          15. ผู้ชายมักจะถูกฟ้าผ่ามากกว่าผู้หญิง

          16. การยกคนน้ำหนัก 50 กิโลกรัมลอยขึ้นเหนือพื้นได้ ต้องใช้ลูกโป่งอัดฮีเลียมกว่า 4,000 ลูก

          17. อีกหนึ่งโรคประหลาดในโลกนี้ คือโรคกลัวหนวด หรือ Pogonophobia

          18. โยโย่ แรกเริ่มเดิมทีแล้วเป็นอาวุธล่าสัตว์ ใช้ขว้างเกี่ยวขาสัตว์ ก่อนจะมาประยุกต์กลายเป็นของเล่นในปัจจุบัน

          19. ยีราฟมีลิ้นที่ยาวมาก มันทำความสะอาดหูของมันด้วยลิ้นที่ยาวไม่ต่ำกว่า 18 นิ้ว

          20. คุณไม่สามารถตั้งชื่อโฟลเดอร์ว่า “Con” ในคอมพิวเตอร์ได้ เพราะคำนี้ตรงกับชื่อ Device ซึ่งจะทำให้ระบบสับสนได้

          21. ตาสีฟ้าเป็นตาที่ไวต่อแสงมากกว่าสีอื่น

          22. หนอนริบบิ้นจะกินตัวเองเพื่อประทังชีวิต ถ้ามันหาอาหารไม่ได้

          23. ดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะหมุนทวนเข็มนาฬิกาทั้งหมด ยกเว้นดาวศุกร์ที่หมุนตามเข็มนาฬิกา

          24. สินค้าชิ้นแรกที่มีบาร์โค้ด คือ หมากฝรั่งริกลีย์

          25. นินเทนโด นอกจากจะเป็นบริษัทผลิตเกมยอดฮิตแล้ว ยังเคยทำธุรกิจแท็กซี่มาแล้วด้วย

          26. นกฟลามิงโกเป็นสีชมพู เพราะอาหารที่พวกมันกิน นั่นก็คือ กุ้ง

          27. จิงโจ้เกิดใหม่ มีขนาดเล็กมาก เล็กขนาดที่ว่าพอจะอยู่บนช้อนได้อย่างสบายเลยทีเดียว

          28. วัวเป็นสัตว์ที่ขับเหงื่อทางจมูก

          29. ผู้หญิงมีอายุเฉลี่ยมากกว่าผู้ชาย

          30. ฌอน คอนเนอรี เป็นมิสเตอร์ยูนิเวิร์สคนที่ 3 ของโลก

ถือว่า อ่านเพลินๆนะคะ ได้เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ บางทีเพื่อนๆอาจจะนำไปเล่นตอยคำถามกับเพื่อนๆอีกทีก็ได้นะ ได้ความรู้อีกด้วย ^^

ขอบคุณข้อมูล  learnsomethingeveryday.co.uk




 

Create Date : 18 มิถุนายน 2556   
Last Update : 18 มิถุนายน 2556 17:35:29 น.   
Counter : 1629 Pageviews.  

กบแก้วไฟลส์ชแมน ตัวใสจนเห็นอวัยวะข้างใน

กบแก้วไฟลส์ชแมน (Fleischmann's Glass Frog) มีลักษณะผิวหนังเป็นสีเขียวใสและบางจนสามาถมองทะลุเห็นอวัยวะภายในของมันและ พื้นผิวที่มันยืนอยู่ได้ นอกจากนั้นยังเห็นการเคลื่อนไหวของไข่ได้อย่างชัดเจนอีกด้วย กบแก้วออกไข่ครั้งละ 18-30 ฟองบนใบไม้หรือใกล้ ๆกับบริเวณน้ำไหว มักจะอาศัยอยู่ตามต้นไม้ และมีบางครั้งที่อาจพบพวกมันกระโดดอยู่บนผิวน้ำเรียบ โดยมีถิ่นอาศัยอยู่ในป่าของแอฟริกากลางจนถึงแอฟริกาใต้ ในประเทศ บราซิล คอสตาริกา โคลอมเบีย กัวเตมาลา ฮอนดูรัส เม็กซิโก และปานามา










 

Create Date : 18 มิถุนายน 2556   
Last Update : 18 มิถุนายน 2556 17:34:14 น.   
Counter : 2154 Pageviews.  

ดวงเห็นผีตามวันเกิดจ้า บรื๋อออออ.....

ดวงเห็นผีตามวันเกิด


ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์ 

หลีกเลี่ยงที่จะใกล้ชิดกับหญิงตั้งครรภ์ 
ในสภาพที่คุณอ่อนแอไม่ทางกายก็ทางใจ 
เพราะบางสิ่งที่กำลังจะเกิดกับหญิงตั้งครรภ์ 
อาจทำให้คุณเห็นบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ 

ผู้ที่เกิดวันจันทร์ 

ผู้ที่เกิดวันนี้ควรหลีกเลี่ยงหรือห่างไกลการมองสะท้อนของกระจก 
โดยเฉพาะกระจกร้าว ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป 
และอย่าทักเสียงแปลกที่เหมือนเสียงเรียกร้อง 
เพราะนั่นอาจจะเป็นเสียงทวงถามวิญญาณของคุณ 

ผู้ที่เกิดวันอังคาร

ห้องน้ำเป็นสถานที่ที่ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะก้าวเท้าผ่านถ้าไม่จำเป็น 
เพราะอาจมีบางสิ่งแฝงกายและติดตามตัวคุณ 
มิฉะนั้นคุณอาจเห็นบางอย่างที่ไม่ควรเห็น หรือคุณอยากลองดีก็เชิญ 

ผู้ที่เกิดวันพุธ 

ห้ามเด็ดขาดกับการไปงานศพ เพราะว่าจะมีภูตผีตายโหงสิงสถิตติดตามตัว 
แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ 
หลังกลับจากพิธีให้รีบอาบน้ำ(โดยเฉพาะน้ำว่าน)ก่อนเที่ยงคืน 

ผู้ที่เกิดวันพฤหัส 

อย่ามองหัวบันไดในที่มืด อย่าทักเสียงแปลกที่เหมือนเรียกชื่อคุณ 
คุณไม่ได้หูแว่วหรอก เพียงแต่มีบางสิ่งต้องการที่จะสื่อบางอย่างกับคุณ 
ให้คุณหลับตาแล้วถอยหลัง 1 ก้าวแล้วเสียงจะหายไป 

ผู้ที่เกิดวันศุกร์

กรรมอดีตจากชาติภพที่แล้วกำลังติดตามเป็นเงา 
ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางโดยทางน้ำเพราะว่าธาตุน้ำ 
อาจเป็นตัวเชื่อมต่อระหว่างโลกวิญญาณกับโลกมนุษย์ 

ผู้ที่เกิดวันเสาร์ 

อย่าแปลกใจที่คุณจะได้ยินเสียงสุนัขเห่าหอนอย่างโหยหวน 
เพราะว่าดวงวิญญาณกำลังรายล้อมรอบตัวคุณ 
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนเกิดวันนี้ก็คือ อย่าจ้องมองศาลพระภูมิ 



Cradit//blog.school.net.th/blogs/pimteeda55.php/2009/05/03/-215




 

Create Date : 16 มิถุนายน 2556   
Last Update : 16 มิถุนายน 2556 10:05:09 น.   
Counter : 1255 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  

เหมียวกุ่ย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




ยินดีต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกท่านเข้าเยี่ยมชม เว็บบล็อคแห่งนี้ หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในการชมบล็อคของกระผมนะครับ










View My Stats
New Comments
[Add เหมียวกุ่ย's blog to your web]