แนะนำสายพันธุ์กุ้งเครย์ฟิช : Cambarus (Puncticambarus) scotti   เป็นกุ้งเครย์ฟิช ในสกุล Cambarus ที่มีสีสันโดดเด่นสวยงามอีกชนิดหนึ่ง ด้วยสีส้มที่ขอบกรี ด้านที่ติดกับส่วนของลูกตา และ ลำตัวที่ประกอบด้วยหลากสีสัน ประดับกัน โดยอาจจะมีพื้นฐานที่สีเขียวแก่ หรือ กระทั่งสีฟ้า ก็สามารถเป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมครับ ตรงส่วนปลายก้าม จะมีจุดตุ่มเล็กๆ สีออกส้มอ่อน หรือ แดงๆ โดดเด่น เห็นได้ค่อนข้างชัด เมื่อกุ้งเติบโตเต็มที่แล้ว ในส่วนของกรีนั้นจะค่อนข้างยาว และ ไม่ค่อยมี หนามมากนัก ตัวเมียของกุ้งชนิดนี้นั้น จากการที่มีการสำรวจโดยนักวิทยาศาสตร์ สามารถออกไข่ได้เป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว โดยมีการจดสถิติเอาไว้ที่ประมาณ 100 – 300 กว่าฟอง ขึ้นอยู่กับขนาด และความสมบูรณ์ของกุ้งพ่อ และ แม่พันธุ์นั่นเอง   ตามธรรมชาติกุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ ก็จะอาหารอยู่ตามช่องว่างระหว่างก้อนหินใต้น้ำ และพื้นที่ๆเป็นแหล่งน้ำไหลที่ใสสะอาด ปราศจากมลพิษครับ โดยสามารถพบได้มากในแม่น้ำ Chattooga และ ลำน้ำสาขาของแม่น้ำ Chattooga ตามชื่อสามัญนามของกุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้นั่นเองครับ   กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้นั้น มีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 3 ปี และ ในช่วงปีแรก จะมีการลอกคราบค่อนข้างบ่อย กว่าในปีหลังๆ ในที่เลี้ยงนั้น สามารถจัดตู้ให้มีที่หลบซ่อน เป็นพวกหินก้อนใหญ่ๆ และ ทำกระแสน้ำไหลแรงๆ หมุนเวียน ในที่เลี้ยงให้เขาก็สามารถทำได้ครับ เนื่องจากแหล่งที่อยู่อาศัยของกุ้งชนิดนี้ในธรรมชาตินั้น เป็นแหล่งน้ำไหลแรง และมีปริมาณของอ็อกซิเจน ที่ละลายในน้ำสูงมากครับ และ น้ำ ก็ควรจะติดตั้งเครื่องทำความเย็น เพื่อให้มีอุณหภูมิที่ต่ำด้วย ในส่วนของการกินอาหาร ก็เช่นเดียวกับกุ้งเครย์ฟิชชนิดอื่นๆ ที่สามารถกินได้ทุกอย่าง ทั้งพืช และ สัตว์ครับ และค่อนข้างจะชอบอาหารมีชีวิตเล็กๆ มาก เช่น พวกหอยต่างๆ ครับ , กุ้งต้มเล็กๆ หรือ หนอน และ แมลงน้ำต่างๆ ซึ่งพวกหอยเล็กๆ นี่ นอกจากจะใช้เป็นอาหารได้แล้ว ยังช่วยเก็บเศษอาหารต่างๆ ที่เหลือตกค้างในที่เลี้ยง เพื่อให้คุณภาพน้ำดีขึ้นได้ด้วยครับ ควรหามาลงเอาไว้เลี้ยงด้วยกันอย่างสม่ำเสมอครับ การให้อาหารที่มีโปรตีนสูง จะทำให้ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงกุ้งชนิดนี้ได้มากขึ้นครับ   เครดิต ภาพ https://gallery.kingsnake.com/data/165262C._scotti.jpg เรียบเรียง : กษิดิศ วรรณุรักษ์   ****************************************************** ถ้าพี่ๆน้องๆสนใจบทความ และ หนังสือน้องกุ้งแคระ & กุ้งเครย์ อื่นๆ อยากเก็บเอาไว้สะสม สามารถเข้าไปที่นี่ได้เด้อครับ https://ebooks.in.th/thaiaquaclub ติดตาม แฟนเพจ Thailand Crayfish เพื่อติดตามเรื่องราวน่าสนใจ เกี่ยวกับกุ้งสวยงาม และ สัตว์น้ำสวยงาม ที่น่าสนใจ ได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/ThailandCrayfishMagazine/   Create Date : 30 สิงหาคม 2559     0 comment Last Update : 20 เมษายน 2562 22:08:29 น.     Counter : 7767 Pageviews.   Share Tweet

แนะนำสายพันธุ์กุ้งเครย์ฟิช : กุ้งเครย์ฟิช pacifastacus leniusculus หรือ Signal Crayfish        เป็นอีกหนึ่งชนิดพันธุ์กุ้งเครย์ฟิช ที่มีผู้สนใจเลี้ยงกันมาก ทั้งในต่างประเทศ และ ในประเทศไทย ของเราเองที่เริ่มมีการนำเข้ามาเลี้ยงกันบ้างแล้ว สำหรับกุ้งเครย์ฟิช pacifastacus leniusculus หรือ มีชื่อสามัญนาม ที่นิยมเรียกกัน เพื่อให้เรียกได้ง่ายว่า “ Signal Crayfish “      กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ มีจุดเด่นที่ ตรงส่วนข้อของก้ามหนีบ จะมีรอยวงสีขาว เห็นได้เด่นชัด นับได้ว่าเป็นลักษณะเด่นของสายพันธุ์นี้ ที่สังเกตได้ง่ายอีกอย่างหนึ่ง กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้นั้น มีถิ่นกำเนิดในหลากหลายพื้นที่ในแถบ อเมริกาเหนือ ตั้งแต่ทางตะวันตกของเทือกเขาร็อคกี้ ไปจนถึงบางส่วนของประเทศแคนาดา และ อีกหลายรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่รัฐวอชิงตัน , ออเรก้อน หรือ รัฐไอดาโฮ เป็นต้น และ ในปัจจุบันก็มีการกระจายกันไปในหลายรัฐ เนื่องมาจากการแพร่พันธุ์ตามธรรมชาติ และ การนำเข้าไปเลี้ยงเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจโดยมนุษย์ สำหรับอย่างหลังนี้ จัดได้ว่า แพร่หลายไปข้ามทวีปเสียด้วย ไม่ว่าจะเป็นในประเทศแถบยุโรปหลายประเทศ และ ไปถึงกระทั่งประเทศญี่ปุ่น กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ก็หลุดจากที่เลี้ยง มาเป็นกุ้งที่พบเจอได้ในธรรมชาติ กันได้เลยทีเดียว      ด้วยพื้นฐานที่เป็นกุ้งเครย์ฟิช ที่สามารถปรับตัวได้ง่ายในธรรมชาติ เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซักพัก กุ้งเครย์ฟิช ชนิดนี้จึงสามารถแพร่พันธุ์ และ ขยายจำนวนประชากรได้เป็นอย่างดี ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับเขา อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ จัดว่าเป็นนักล่าที่ดุดัน และ มีความเป็นพาหะของโรคในกุ้งเครย์ฟิช ที่รุนแรง ( โรค Aphanomyces astaci Schikora ) และส่งผลกระทบโดยตรงกับเครย์ฟิชท้องถิ่น ในทวีปอื่นๆ ของโลก ( เช่นเดียวกันกับกุ้งเครย์ฟิชจากทวีปอเมริกาชนิดอื่นๆ ที่อาจจะเป็นพาหะของโรคได้เช่นกัน ) ไม่ว่าจะเป็นในอเมริกาเอง หรือ ในยุโรป ทำให้เครย์ฟิชพื้นถิ่น ในท้องที่ๆ กุ้งชนิดนี้ ระบาดเพิ่มจำนวนไป เช่น กุ้ง white-clawed crayfish หรือที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Austropotamobius pallipes มีโอกาสที่จะสูญพันธุ์ได้หมดในเวลาต่อมา ( กุ้งเครย์ฟิชที่ติดเชื้อ จะตายในเวลาไม่นานนัก )       รวมทั้งการที่กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ หากินเก่ง ทำให้กุ้งชนิดนี้ มักจะหากินพวกไข่ของสัตว์น้ำต่างๆ เช่น ไข่ปลาท้องถิ่น ที่ไม่เคยมีศัตรูมากินไข่ของมัน ตามธรรมชาติแต่เดิมมาก่อน แต่พอเจอกุ้งเครย์ฟิช ชนิดนี้เข้าไป ไข่ปลาที่วางไข่ตามแถวๆพื้นดิน ก็ ไม่เหลือ หรือ หลุดรอดกันมาได้น้อยลงอย่างมากๆ หรือ ในบางพื้นที่ ปลาพื้นถิ่นเหล่านั้น ก็สาบสูญไปเลยเหมือนกันครับ ดังนั้นกุ้งเครย์ฟิช ชนิดนี้ จึงจัดเป็น เอเลี่ยน สปีชียส์ในหลากหลายพื้นที่ ๆ ในยุโรป เนื่องจากมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติในแบบต่างๆ ได้อย่างดีเยี่ยมอย่างที่กล่าวมาก่อนหน้านี้นี่เอง เนื่องจากไม่ว่าจะเป็น แหล่งน้ำนิ่ง หรือ แหล่งน้ำไหล ห้วย หนอง คลอง บึงต่าง ๆ สามารถอยู่อาศัยแพร่พันธุ์ได้เป็นอย่างดีทั้งนั้น แต่ถ้าเป็นในบ้านเรา ก็อาจจะรอดชีวิตไม่ค่อยไหว เพราะแหล่งน้ำหลายแห่ง คุณภาพน้ำแย่เหลือทานทน เลยไม่รู้ว่าจะดีใจ หรือ เสียใจดีมีเหมือนกัน สำหรับเรื่องนี้ (ฮา) ดังนั้น ชาวประมงท้องถิ่นในหลายพื้นที่ในยุโรป จึงมีการประมงจับกุ้งชนิดนี้กันอย่างจริงจัง เพื่อลดจำนวนประชากรของกุ้งชนิดนี้ลงไปบ้างครับ งานนี้ ทางการในหลายพื้นที่ในยุโรปก็ให้การอนุญาตในการประมงได้เป็นอย่างดี คนจับก็สบายไป ได้ทั้งเงิน ทั้ง กล่องครับ ( ฮา )       ปัจจุบันนี้ กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ ได้เริ่มมีการนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ซึ่งถ้ากุ้งตัวนี้ สามารถปรับตัวได้เหมือนกับครั้งที่ได้เข้าไปในประเทศอื่นๆ ทั่วโลกแล้ว ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน ว่าจะกลายเป็นกุ้งเครย์ฟิชที่พบเจอในท้องตลาดได้มากขึ้นในอนาคตครับ   เรียบเรียง : กษิดิศ วรรณุรักษ์ เครดิตภาพ : https://wildlifearticles.co.uk/…/uploads/2016/04/crayfishfea… ถ้าพี่ๆน้องๆสนใจบทความ และ หนังสือน้องกุ้งแคระ & กุ้งเครย์ อื่นๆ อยากเก็บเอาไว้สะสม สามารถเข้าไปที่นี่ได้เด้อครับ https://ebooks.in.th/thaiaquaclub ติดตาม แฟนเพจ Thailand Crayfish เพื่อติดตามเรื่องราวน่าสนใจ เกี่ยวกับกุ้งสวยงาม และ สัตว์น้ำสวยงาม ที่น่าสนใจ ได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/ThailandCrayfishMagazine/     Create Date : 30 มิถุนายน 2559     0 comment Last Update : 20 เมษายน 2562 22:08:48 น.     Counter : 4611 Pageviews.   Share Tweet

แนะนำ สายพันธุ์กุ้งเครย์ฟิช : Procambarus ouachita             เป็นกุ้งเครย์ฟิช ที่มีสีสันโดดเด่นอีกชนิดหนึ่ง ด้วยลวดลายสีสันที่เป็นเอกลักษณ์สวยงาม ด้วยลายสีแทน หรือ น้ำตาล พาดผ่านที่ลำตัว ( หรือ อาจจะเป็นสีฟ้า สีน้ำเงินอ่อนๆ สำหรับ ตัวที่มีการคัดเลือกสีสัน มาเป็นอย่างดี ) มีหนามเล็กๆ ที่บริเวณกรี และ ด้านข้างของส่วนหัว ส่วนปลายของหนวดมีลักษณะค่อนข้างแหลม ดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ครับ      กุ้งเครย์ฟิช ชนิดนี้ เป็นกุ้งเครย์ฟิช สาย Procambarus ที่มีขนาดประมาณ 3 – 5 นิ้ว ในด้านความยาว ในธรรมชาติ กุ้งเครย์ฟิช ชนิดนี้ ชอบอาศัยในแหล่งน้ำไหล ที่มีความใสสะอาด เป็นอย่างมาก มีพื้นท้องน้ำเป็น ทรายละเอียดผสมกับ หินก้อนแข็งเล็กๆ หรือไม่ก็พื้นหินโล่งๆและน้ำที่มีความเย็น ( ประมาณ 19 องศาเซลเซียส ) สามารถพบกุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ได้มากใน ระบบแม่น้ำ ของแม่น้ำ Ouachita และ Arkansas ในทางตะวันตกเฉียงใต้ ของรัฐ Arkansas และในบางพื้นที่ของรัฐมิสซิสซิปปี้ ( Mississippi ) โดยลูกกุ้งตัวเล็กๆ มักจะพบได้ในบริเวณที่มีพืชน้ำปกคลุมท้องน้ำอยู่อย่างหนาแน่น ส่วนตัวที่โตเต็มวัย มักพบว่าจะชอบหลบซ่อนอยู่ในหลุมที่ขุดเอาไว้ของแต่ละตัว      ในธรรมชาตินั้น กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ จะมีลักษณะของรูปร่างและสีสัน ใกล้เคียงกับ Procambarus vioscai ทั้งสองชนิดจะมีสีของลำตัวที่ใกล้เคียงกัน แตกต่างกันที่ลวดลายที่ในส่วนก้ามเล็กน้อยเท่านั้น       ดังนั้นในการจัดตู้เลี้ยงกุ้งเครย์ฟิช ชนิดนี้นั้น ทางผู้เลี้ยงอาจจะจัดตู้เลียนแบบที่อยู่ในธรรมชาติของเขา โดยการปูพื้นหิน หรือ กรวด ปนทรายก็ได้ครับ แต่ระบบกรองนั้น ก็ต้องดีหน่อยนะครับ และควรจะเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ ในน้ำเย็นใกล้เคียงกับในธรรมชาติ ก็จะทำให้เลี้ยงได้ผลเป็นอย่างดีครับ     เรียบเรียง : กษิดิศ วรรณุรักษ์ เครดิตภาพ : https://www.geocities.jp/ideryusei/image1psgjy.jpg     *************************************************************** ถ้าพี่ๆน้องๆสนใจบทความ และ หนังสือน้องกุ้งแคระ & กุ้งเครย์ อื่นๆ อยากเก็บเอาไว้สะสม สามารถเข้าไปที่นี่ได้เด้อครับ https://ebooks.in.th/thaiaquaclub ติดตาม แฟนเพจ Thailand Crayfish เพื่อติดตามเรื่องราวน่าสนใจ เกี่ยวกับกุ้งสวยงาม และ สัตว์น้ำสวยงาม ที่น่าสนใจ ได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/ThailandCrayfishMagazine/     Create Date : 30 มิถุนายน 2559     0 comment Last Update : 24 พฤศจิกายน 2563 13:57:23 น.     Counter : 2908 Pageviews.   Share Tweet

แนะนำสายพันธุ์กุ้งเครย์ฟิช : กุ้ง Florida crayfish หรือ Procambarus alleni   แนะนำสายพันธุ์กุ้งเครย์ฟิช : กุ้ง Florida crayfish หรือ Procambarus alleni สมัยหนึ่งหลังจากมีการเลี้ยงกุ้ง Procambarus clarkii อย่างแพร่หลายแล้ว และราคาของกุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ เริ่มมีราคาลดลง ก็เริ่มมีการนำเข้ากุ้งเครย์ฟิช สายก้ามหนามชนิดหนึ่งเข้ามา ในประเทศไทย ซึ่งด้วยสีสันน้ำเงินเข้ม สดใส ซึ่งสร้างความแตกต่าง กับสีฟ้าอ่อนๆ หรือ “ บลู สปอต “ ของ Procambarus clarkii ที่มีมาแต่เดิมอยู่มากครับ ทำให้เกิดความฮือฮาขึ้นมาไม่น้อยเลยทีเดียว และ ในขณะที่มีการนำเข้ามาใหม่ๆ นั้น ก็มีราคาที่สูงมาก ถึงราว 1500 – 2000 บาทต่อคู่กันเลยทีเดียวในช่วงนั้น และเมื่อเวลาผ่านไปนานหลายปี มีการเพาะพันธุ์กันได้มากๆเข้า กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ ก็มีการปรับราคาลดลง เหลือสนนราคาหลักสิบ หลักร้อยบาทต้นๆ เท่านั้น กลายเป็นกุ้งเครย์ฟิชพื้นฐาน ที่ได้รับความนิยมในการนำมาเลี้ยงกันมากอีกชนิดหนึ่งครับ เนื่องจากมีความสวยงาม และ สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในประเทศไทยได้เป็นอย่างดีนั่นเอง กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้นั้น มีแหล่งกำเนิดอยู่ในพื้นที่ทางตะวันออก ของแม่น้ำ เซนต์ จอห์น ไปจนถึงแถบพื้นที่ เพนนิซูล่า ฟอร์ริด้า และ พื้นที่ใกล้เคียงบางส่วน ในธรรมชาติพบได้ในหลากหลายรูปแบบพื้นที่ของธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น แหล่งน้ำไหล ลำธาร และ แม่น้ำต่างๆ กุ้งชนิดนี้นั้น สีสันตามธรรมชาติ จะเป็นสีเทา และ น้ำตาลเป็นหลัก ส่วนสีน้ำเงินเข้ม ( ทางตะวันตก นิยมเรียกสีน้ำเงินเข้ม โทนนี้ว่า Cobalt blue )ที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงนั้น เกิดจากการพัฒนาสีสัน โดยมนุษย์ มาเป็นเวลานานปี ก่อนจะมีสีน้ำเงินเข้มสดใสอย่างที่เห็นอยู่ในปัจจุบันครับ สำหรับในที่เลี้ยงนั้น ผู้เลี้ยงสามารถเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ได้ใน ตู้ที่มีขนาดไม่เล็กเกินไปนัก คือตั้งแต่ 20 – 24 นิ้วขึ้นไปได้ จะเป็นการดี เพื่อให้ดูแลระบบต่างๆ ได้สะดวกขึ้นครับ กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ สามารถเลี้ยงได้ในน้ำสะอาด ไม่มีค่าของเสีย เช่น ไนไตรท์ หรือ แอมโมเนีย ปะปนในปริมาณมากเกินไป ส่วนค่าของ pH ควรอยู่ที่ประมาณ 6.5 – 8.5 และอุณหภูมิที่เหมาะสม จะอยู่ในช่วง 25 – 28 องศาเซลเซียสครับ ในที่เลี้ยงก็ไม่ควรจะปลูกต้นไม้น้ำ เพราะว่ากุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ สามารถกัดแทะไม้น้ำได้อย่างสบายๆครับ ถ้าจะเลี้ยงปลาด้วย ก็ต้องเป็นปลาที่ไม่ดุ และ ถ้าไม่ต้องการให้ปลาถูกจับกินได้ง่ายนัก ก็ควรจะเป็นปลาเล็กๆ ที่ว่ายน้ำด้วยความไว และ อาศัยอยู่กลาง หรือ ผิวน้ำเป็นหลักครับ กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้นั้น เป็นกุ้งที่ทานอาหารได้ง่าย สามารถทานอาหารได้หลากหลายประเภท ทั้งอาหารสด และ อาหารสำเร็จรูปจมน้ำครับ   เครดิตรูปภาพ : https://i.ytimg.com/vi/T9tRJYg_w2c/hqdefault.jpg เรียบเรียง : กษิดิศ วรรณุรักษ์   ถ้าพี่ๆน้องๆสนใจบทความ และ หนังสือน้องกุ้งแคระ & กุ้งเครย์ อื่นๆ อยากเก็บเอาไว้สะสม สามารถเข้าไปที่นี่ได้เด้อครับ https://ebooks.in.th/thaiaquaclub ติดตาม แฟนเพจ Thailand Crayfish เพื่อติดตามเรื่องราวน่าสนใจ เกี่ยวกับกุ้งสวยงาม และ สัตว์น้ำสวยงาม ที่น่าสนใจ ได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/ThailandCrayfishMagazine/       Create Date : 20 พฤษภาคม 2559     0 comment Last Update : 24 พฤศจิกายน 2563 13:58:16 น.     Counter : 4928 Pageviews.   Share Tweet

แนะนำสายพันธุ์กุ้งเครย์ฟิช : กุ้ง Oranger Tip ( Cherax Holthuisi )     กุ้งออเร็นทจ์ ทิป เป็นกุ้งเครย์ฟิช ที่ได้ชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Cherax Holthuisi เหมือนๆกับ ญาติๆ ของมันหลายๆตัว ที่ได้กำเนิดอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เช่น เจ้ากุ้งแอพพลิคอต เป็นต้น ( Apricot Crayfish – Cherax holthuisi var. “ Apricot “ นั่นเอง ( ด้วยลักษณะร่วมกันที่คล้ายกันหลายประการ เช่น ในส่วนปลายกรีที่บีบแคบ และ ลักษณะของดวงตา ที่เล็ก ลักษณะของปลายก้ามเทียบเคียงแล้วใกล้เคียงกันมาก จึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มชื่อทางวิทยาศาสตร์เดียวกัน ต่างกันตรงชื่อสามัญนามเพียงเล็กน้อย ตามแต่สีสัน และ แหล่งที่พบเจอครับ ) กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้นั้น มีถิ่นกำเนิดอยู่ในบริเวณ แถบ ปาปัวนิวกินี และ แถบหมู่เกาะ อีเรียนจายา ของประเทศอินโดนีเซีย ด้วยจุดเด่น อันงามงด และ สง่างาม แฝงด้วยความเข้มขลัง ที่ไม่เหมือนใครด้วย สีสันที่ลำตัว เป็นสีเขียวเข้ม ที่เรียกได้ว่า สีเขียว แบบ Olive ตัดกับปลายก้าม และ ตัดกับสีส้มเข้ม บริเวณขอบและปลายก้าม , ลวดลายที่ลำตัว สลับ เลื่อมแพรว พราวไปด้วย สีส้มสลับสีเขียว และ ปลายหางสีส้มระเรื่อ ช่างเป็นงานศิลปะตามธรรมชาติ ที่สวยงามยิ่งนัก และ ทำให้เกิดความประทับใจเมื่อแรกเห็น แก่ผู้รักและนิยมการเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิชสวยงามทั่วโลกเป็นอย่างมาก ในประเทศไทยเรา ก็มีเจ้ากุ้งชนิดนี้มาจำหน่ายบ้างเป็นบางระยะ รวมถึงบางครั้ง ก็มีผู้นำลูกๆหลานๆของกุ้งชนิดนี้มาขายเช่นกันครับ และ ด้วยความสวยงามของเจ้าตัวนี้ ทำให้ ยังเป็นกุ้งที่เป็นที่ต้องการของท้องตลาดอยู่เสมอครับ กุ้งชนิดนี้ เป็นกุ้งที่ชื่นชอบต่อการหลบซ่อน ค่อนข้างมาก มักจะใช้เวลาส่วนใหญ่หลบอยู่ในถ้ำ หรือ ที่พักหลบซ่อนของตัวเองอย่างปกติสุข สามารถนำมาเลี้ยงรวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ได้ เพราะเป็นกุ้งเครย์ฟิชที่มีความก้าวร้าวไม่มากนัก ถ้ากุ้งปรับตัวได้ดีแล้ว ก็มีโอกาสที่ผู้เลี้ยงจะได้เห็นเขาออกมาเดินเล่นโชว์ตัวกันอยู่บ่อยๆครับ ขนาดของตู้ที่เลี้ยงควรจะมีขนาดประมาณ 80 เซนติเมตรขึ้นไป พร้อมกับการติดตั้งระบบกรองที่มีประสิทธิภาพ และระบบการให้อากาศที่มีคุณภาพสูง จะทำให้การเลี้ยงกุ้งชนิดนี้ประสบความสำเร็จมากขึ้นครับ เนื่องจากในธรรมชาตินั้น กุ้งชนิดนี้นั้น อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่มีคุณภาพดี และ มีปริมาณอ็อกซิเจนในธรรมชาติสูงครับ ขนาดของกุ้งตัวผู้และตัวเมียชนิดนี้นั้น จะไม่ต่างกันมากนัก โดยในขนาดที่โตเต็มที่แล้วนั้น จะมีความยาวได้ราวๆ 10 – 12 เซนติเมตร การผสมพันธุ์ของกุ้งชนิดนี้นั้น กุ้งออเร็นทจ์ ทิป เป็นกุ้งที่ผสมพันธุ์ได้หลายครั้ง ใน 1 รอบปีหนึ่งๆ ขึ้น อยู่กับความสมบูรณ์ของพ่อและแม่พันธุ์ ซึ่งถ้าได้รับการดูแลอย่างดีแล้ว วงจรการผสมพันธุ์ของเขา ก็จะอยู่ที่ประมาณ 3 – 4 ครั้ง ต่อปี โดยอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการจับคู่ผสมพันธุ์ของกุ้งชนิดนี้ อยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส กุ้งตัวผู้และตัวเมียจะผสมพันธุ์กัน และ จับคู่อยู่ด้วยกัน ( แต่ถ้าเป็นในที่เลี้ยง ผู้เลี้ยงจะแยกตัวผู้ และ ตัวเมีย ออกจากกันก็ได้นะครับ ) ตัวเมีย จะทำการฟูมฟักไข่ โดยการกระพือระยางค์ใต้ส่วนท้อง เพื่อให้อ็อกซิเจนแก่ไข่ และไข่จะฟักเป็นตัวในระยะประมาณ 6 – 8 สัปดาห์ครับ ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ความสมบูรณ์ของไข่ และ สภาพแวดล้อม แม่กุ้งจะให้ไข่ได้ประมาณครั้งละ 40 – 100 ฟอง ลูกกุ้งที่ฟักออกมาจะมีขนาดเล็ก และ ไม่ค่อยดุร้ายต่อกันมากนัก แต่ก็อย่าประมาท ผู้เลี้ยงควรหมั่นให้อาหาร ทีละน้อยๆ อย่างสม่ำเสมอครับ ในช่วงนี้ขอให้รักษาเรื่องอุณหภูมิ และ ค่าน้ำต่างๆ อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ลูกกุ้งวัยอ่อน มีโอกาศเหลือรอดได้มากขึ้นครับ แต่ลูกกุ้งชนิดนี้ ก็จัดได้ว่าเป็นลูกกุ้งที่ค่อนข้างมีอัตราการเจริญเติบโตที่ช้า และ ผู้เลี้ยงต้องให้การดูแลและทะนุถนอมเป็นอย่างดีครับ เพราะค่อนข้างจะบอบบาง พอสมควร และ ผู้เลี้ยงควรจัดเตรียมพื้นที่หลบซ่อนเอาไว้ให้มากเพียงพอ สำหรับลูกกุ้งที่เกิดใหม่ออกมา เพราะลูกกุ้งเมื่อเป็นตัววัยอ่อน จะมีอัตราการลอกคราบบ่อย และ ถ้าอาหารไม่เพียงพอ มักจะกินกันเองครับ การแยกลูกกุ้งไปอนุบาลในขวด หรือ ระบบเพาะอย่างเป็นระบบ จะช่วยเพิ่มอัตราการรอดของลูกกุ้งให้สูงขึ้นได้ครับ กุ้งเครย์ฟิชชนิดนี้ เป็นกุ้งที่สามารถกินอาหารได้อย่างหลากหลาย ซึ่งผู้เลี้ยงควรที่จะพยายามให้อาหารต่างๆ ที่เป็นพวกผักและผลไม้ รวมทั้งใบไม้ต่างๆ เป็นหลัก เสริมด้วยอาหารประเภทโปรตีน ไม่ว่าจะเป็นอาหารแบบแผ่นจมน้ำ หรือ อาหารเม็ดสำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำพื้นตู้ก็ได้ แต่การให้อาหารประเภทโปรตีนสูงเป็นจำนวนมาก ๆ ไม่ใช่สิ่งที่ดีเสมอไป เพราะจะทำให้กุ้งเติบโตเร็วจนเกินไป อาจจะสะสมแร่ธาตุต่างๆสำหรับการลอกคราบได้ไม่เพียงพอ อาจจะทำให้เกิดความสูญเสียในการลอกคราบได้ เรียบเรียง : กษิดิศ วรรณุรักษ์ เครดิตรูปภาพ : https://aqua.c1ub.net/forum/lite.php?topic=65079.15 ------------------------------------------------------------------------ ผลวิเคราะห์ ความน่าเลี้ยง - โปรดใช้จักรยานในการรับชม อิอิอิ ------------------------------------------------------------------------ ความละเอียดอ่อนในการเลี้ยง 3.5/5 - ตามประสากุ้งไม่ได้อดทนมาก แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอ ตายง่ายจนเกินไปครับ ความน่าลงทุน 4/5 - จัดว่าเป็นสัตว์เลี้ยงราคาเริ่มต้นไม่แพงมาก และ ต่อยอดโดยการเพาะพันธุ์๋ได้ ถ้าเพาะได้เยอะๆ หาร้านส่งได้ก็กินยาวๆ ครับ ต้นทุนเริ่มต้น / ค่าเซ็ตอัพระบบ 3/5 - ต้นทุนเริ่มต้น ในการจัดตู้ ให้เหมาะสมนั้น ลงทุนพอประมาณ แต่พอตู้อยู่ตัวแล้ว ก็ใช้ได้เป็นระยะเวลานานพอสมควรครับ ค่าดูแล 2/5 สนนราคา กินอยู่ ระยะยาวไม่แพงเลยครับ ช่องทางจำหน่ายในตลาด 3/5 - ถ้าเพาะลูกได้ ส่วนใหญ่จะขายได้ตลอดครับ แต่ลูกๆ อาจจะโตช้าหน่อย ให้ 3 ดาวครับ ถ้าพี่ๆน้องๆสนใจบทความ และ หนังสือน้องกุ้งแคระ & กุ้งเครย์ อื่นๆ อยากเก็บเอาไว้สะสม สามารถเข้าไปที่นี่ได้เด้อครับ https://ebooks.in.th/thaiaquaclub ติดตาม แฟนเพจ Thailand Crayfish เพื่อติดตามเรื่องราวน่าสนใจ เกี่ยวกับกุ้งสวยงาม และ สัตว์น้ำสวยงาม ที่น่าสนใจ ได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/ThailandCrayfishMagazine/   Create Date : 01 ตุลาคม 2558     0 comment Last Update : 20 เมษายน 2562 22:10:09 น.     Counter : 3515 Pageviews.   Share Tweet