ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บบอร์ด Thailand Aquatic Pets เว็บบล็อคสำหรับ คนรักสัตว์น้ำ ( และ สัตว์ที่อยู่ในน้ำ ) ประเทศไทยจ้า

10 ที่ดำน้ำสุดสวย สวรรค์ใต้ทะเลไทย

สำหรับสถานที่ดำน้ำยอดฮิตทั้ง 10 แห่งคือส่วนหนึ่งของทะเลไทยที่รอให้ผู้สนใจไปค้นหาและสัมผัสในความงดงามของโลกใต้ทะเล โดยที่เราต้องไม่มองข้ามความปลอดภัย รวมถึงต้องปฏิบัติตามกฏกติกาต่างๆของการดำน้ำอย่างเคร่งครัด ให้การดำน้ำเป็นเพียงการไปเยี่ยมเยือน มิใช่การบุกรุก เพื่อให้ธรรมชาติอันงดงามใต้ท้องทะเลยังคงอยู่คู่ทะเลไทยไปอีกนานเท่านาน

ที่มา : //www.manager.co.th

10. หมู่เกาะช้าง จ.ตราด

ปิดท้ายกันด้วยอันดับ 10 ที่ภาคตะวันออกกับ หมู่เกาะช้าง จ.ตราด ซึ่งมีจุดดำน้ำน่าสนใจ คือ เกาะรังและเกาะยักษ์ นอกจากนี้ยังมีตามจุดเรือจมอย่าง เรือจมสุทธาทิพย์ (Hardeep) เรือกลไฟเหล็กของบริษัท Siam Steam Navigation ซึ่งจมอยู่ระหว่างเกาะโรงโขนกับเกาะจวง สภาพของเรือสุทธาทิพย์ในปัจจุบันยังคงทรงรูปเรือสวยงาม สำหรับการดำน้ำที่เรือสุทธาทิพย์ นักดำน้ำสามารถสัมผัสกับความงามของตัวเรือ และสัตว์ทะเลอันหลากหลายได้ เช่น ทากพู่, เต่า, กระเบน และปลาสาก ที่มีอยู่อย่างชุกชุม

9. เกาะเต่า-เกาะนางยวน จ.สุราษฎร์ธานี

ข้ามฝั่งมายังอ่าวไทยไปต่อกันที่อันดับ 9 ที่ เกาะเต่า-เกาะนางยวน จ.สุราษฎร์ธานี ที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่สวยงามที่สุดของอ่าวไทย และมีจุดดำน้ำขึ้นชื่อหลายจุด อาทิ หินนางยวน เป็นจุดดำน้ำกลางคืน ที่มักได้พบกับปูและปลาขนาดเล็กจำนวนมาก และเมื่อลงไปถึงก้นทะเลอาจพบปลากระเบนขนาดใหญ่ซุกอยู่ตามซอกตามมุม กองหินขาว บริเวณนี้มีปะการังดำ ดงดอกไม้ทะเล กัลปังหาพัด และปะการังอ่อนหลากสี กองชุมพร เป็นแหล่งชมปลาหมอทะเล ปลาเก๋าตัวใหญ่ ปะการังดำ ฟองน้ำ ถ้วยทะเล อีกทั้งยังอาจได้พบกับฉลามวาฬที่มักวนเวียนอยู่เป็นประจำ กองทรายแดง เป็นจุดชึ้นชื่อในเรื่องของปะการังอ่อนสีสด กัลปังหา และฟองน้ำครก ด้วยระดับน้ำที่ไม่ลึกมากจึงเหมาะสำหรับนักดำน้ำมือใหม่

8. หินหมูสังนอกและหินหมูสังใน จ.ภูเก็ต

หินหมูสังนอกและหินหมูสังใน จ.ภูเก็ต เป็นที่รู้จักในหมู่นักดำน้ำชาวต่างชาติในชื่อ Anemone Reef และ Shark Point หินหมูสังนอก เป็นดงของดอกไม้ทะเลและปะการังอ่อนที่เกาะหินใต้น้ำเป็นผืน ส่วนหินหมูสังใน เป็นจุดดำน้ำที่มีความหลากหลายของสัตว์ทะเลสูงทั้งปะการัง กัลปังหา ฟองน้ำ ปลาเก๋า ปลาผีเสื้อ ปลาสิงโต รวมถึงฉลามกบ

7. หมู่เกาะราชา จ.ภูเก็ต

หมู่เกาะราชา จ.ภูเก็ต ซึ่งประกอบด้วยเกาะราชาใหญ่ และเกาะราชาน้อย จุดดำน้ำของเกาะราชาใหญ่อยู่ที่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของตัวเกาะ มีแนวปะการังแข็งปกคลุม แต้มด้วยปลาดาวขนนกสีสด ส่วนเกาะราชาน้อย จุดดำน้ำอยู่ที่หัวเกาะด้านเหนือ เป็นดงปะการังอ่อนและที่อยู่ของฝูงปลานานาชนิด รวมถึงยังเป็นจุดที่สามารถพบปลากบได้อีกด้วย

6. เกาะจาบัง หมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล

เกาะจาบัง หมู่เกาะตะรุเตา จ.สตูล เป็นแหล่งปะการังใต้น้ำเจ็ดสีที่สวยที่สุดจุดหนึ่ง กองหินใต้น้ำต่างๆบริเวณนี้ถูกปกคลุมไปด้วย ปะการังอ่อนสีชมพู สีม่วง สีฟ้า สีแดง ดอกไม้ทะเล ดาวขนนก ฟองน้ำครกขนาดใหญ่ และที่เพิ่มสีสันให้สวยงามขึ้น ก็ได้แก่ ฝูงปลาน้อยใหญ่ แวกว่ายกันอยู่ ไม่ว่าเป็น ปลาการ์ตูน ปลานกแก้ว ปลานกขุนทอง ที่นี่เป็นร่องน้ำลึกที่มีกระแสน้ำไหลเชี่ยว นักท่องเที่ยวที่ดำน้ำควรมีชูชีพ และเกาะเชือกที่ผูกไว้กับเรือไว้ขณะดำน้ำ

5. หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่

ไปดำดิ่งชมโลกใต้ทะเลต่อกันกับอันดับ 5 ที่ หมู่เกาะพีพี จ.กระบี่ ที่นี่มีจุดดำน้ำที่น่าสนใจ คือ บริเวณกองหินมูสัง มีลักษณะเป็นแนวกองหินใต้น้ำขนาดใหญ่หลายกองเชื่อมต่อกัน และถูกปกคลุมไปด้วยเหล่าปะการังสีชมพูสดใส มีฝูงปลานานาชนิด มีสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กให้ดูกันเป็นจำนวนมาก เกาะคู่ หรือกองหินปิดะ เป็นจุดดำน้ำที่มีโฮกาสได้พบกับฉลามเสือดาว กระเบนราหู รวมทั้งสัตว์เล็กๆ อย่าง ปลาจิ้มฟันจระเข้ปีศาจ หรือปลากบหลากหลายสีสัน ,Shark Point หรือกองหินสันฉลาม เป็นกองหินใต้น้ำที่มีโอกาสพบฉลามได้บ่อยครั้ง

4. หมู่เกาะลันตา

หมู่เกาะลันตา กับบริเวณเกาะห้าซึ่งเป็นเกาะหินปูนขนาดเล็ก ก็เป็นอีกหนึ่งจุดดำน้ำขึ้นชื่อ เพราะใต้ผิวน้ำมีถ้ำขนาดใหญ่สลับซับซ้อนกัน เวลาอยู่ในถ้ำแล้วมองออกมาจะเห็นแสงอาทิตย์สาดกระทบผิวน้ำสะท้อนภาพสู่ใต้น้ำงดงามราวสรวงสวรรค์ ส่วนทางด้านทิศตะวันตกของเกาะห้า มีกองหินขนาดใหญ่และปะการังอ่อนขึ้นอยู่ทั่วพื้นที่ และอาจจะเจอปลาไหลสวนที่มุดอยู่ชูคอออกมาดักอาหารให้นักดำน้ำได้ตื่นเต้นกันพอสมควร

3. หินม่วง หินแดง หมู่เกาะลันตา จ.กระบี่

เป็นแหล่งดำน้ำที่อุดมไปด้วยธรรมชาติอันสวยงาม เป็นแหล่งปะการังอ่อนหลากสีสัน และมีสัตว์น้ำขนาดใหญ่ อย่าง วาฬ, ฉลามวาฬ และแมนต้าเรย์ รวมถึงกระเบนราหู กระเบนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีโอกาสพบฉลามเสือดาวนอนหมอบอยู่ตามพื้นทรายหรือพบกับฝูงปลาสากยักษ์ ถ้าโชคดี

2. หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา

หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา ซึ่งเป็นแหล่งชมปลาการ์ตูนและเต่าทะเลที่หาดูได้ยาก เป็นจุด ดำน้ำที่พบฉลามวาฬบ่อยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยจุดดำน้ำลึกอันโดดเด่นอยู่บริเวณ กองหินริเซลิว ซึ่งเป็นกองหินใต้น้ำหลากหลายขนาด ลักษณะคล้ายกับเป็นคอนโดมิเนียม มีสัตว์น้ำเล็กๆ อาศัยอยู่ตามซอกมุมของหิน เช่น ปลากบ กุ้งตัวตลก ม้าน้ำ ทากทะเล ปะการังอ่อนหลากสี บางครั้งคุณอาจได้พบกับฝูงปลาสากยักษ์ และปลากะพงขนาดใหญ่จำนวนมาก
ส่วนจุดดำน้ำตื้น ในบริเวณอ่าวรอบๆ หมู่เกาะสุรินทร์เกือบทุกอ่าวจะเต็มไปด้วยแนวปะการังแข็งที่สมบูรณ์ที่สุดของท้องทะเลไทย เป็นที่อาศัย หากิน หลบภัย และขยายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก ซึ่งนักดำน้ำหลายคนยกให้เกาะสุรินทร์เป็นแหล่งดำน้ำตื้นที่สวยงามที่สุดในเมืองไทย

1. หมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา

หมู่เกาะแห่งนี้มี 9 เกาะเดิม และ 2 เกาะใหม่ มีสัญลักษณ์ คือหินเรือใบที่เกาะแปด(สิมิลัน) อันเลื่องชื่อ หมู่เกาะสิมิลันคือหนึ่งในสุดยอดแหล่งดำน้ำลึกของเมืองไทย มีความงดงามติด1 ใน 10 แหล่งดำน้ำลึกยอดนิยมของโลก ในขณะที่จุดดำน้ำตื้นที่สิมิลันก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะแถวบริเวณเกาะสี่ (เมียง)และเกาะแปด ถ้าโชคดีเพียงแค่ดำสน็อคเกิ้ลก็อาจจะได้พบกับเต่าทะเล มาแหวกว่ายเป็นเพื่อนเคียงคู่ไปกับนักท่องเที่ยว
สิมิลันมีจุดดำน้ำเด่นๆ อาทิ แฟนตาซีรีฟ ที่มีกองหินใต้น้ำ 3 ลูก เป็นจุดรวมของปะการัง กัลปังหา และสัตว์น้ำหลากชนิด เกาะปาหยูหรือเกาะเจ็ด ด้านตะวันออกมีทั้งจุดดำน้ำตื้นและน้ำลึก มีทั้งปะการังแข็ง ปะการังอ่อน กัลปังหา และฝูงปลาหลากชนิด หินปูซาหรือหินหัวกะโหลก เป็นเกาะขนาดเล็กซึ่งมีก้อนหินรูปร่างคล้ายหัวกะโหลกอยู่เหนือน้ำ ส่วนใต้น้ำก็แปลกตาด้วยก้อนหินที่มีรูโพรงและมีช่องให้นักดำน้ำตื่นตาตื่นใจ เรือนกล้วยไม้บริเวณเกาะหก มีปะการังอ่อนสวยงามมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง และมักพบปลาสิงโตและกระเบนธงขนาดใหญ่ เกาะบางูหรือเกาะเก้า และบริเวณหินสันฉลาม ซึ่งเป็นกองหินปริ่มน้ำใกล้เกาะปาหยันหรือเกาะสาม นักดำน้ำมักได้พบกับฉลามครีบเงิน ฉลามเสือดาว และฉลามหูขาว
นอกจากนี้บริเวณ 2 เกาะใหม่ที่ผนวกเป็นหมู่เกาะสิมิลันได้ไม่นานก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดย เกาะตาชัย เต็มไปด้วยปะการังหลากสีสันและฝูงปลานานาชนิด รวมถึงยังสามารถพบสัตว์ใหญ่อย่าง ฉลามวาฬ ฉลามเสือดาว กระเบนราหู ได้บ่อยครั้ง ส่วน เกาะบอน เต็มไปด้วยปะการังอ่อนขนาดเล็ก และมีโอกาสพบกระเบนราหูได้บ่อยครั้ง ส่วนใครโชคดีจะได้พบกับฉลามครีบดำที่นานจะโผล่มาโชว์ตัวสักที




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2556   
Last Update : 29 ธันวาคม 2556 11:14:45 น.   
Counter : 2160 Pageviews.  

อาหารมงคล 11 อย่าง ที่เชื่อว่าทานแล้วจะโชคดี

ในช่วงเทศกาลปีใหม่ประเทศต่างๆเขามีความเชื่อกันอย่างไรบ้าง?

            อาหารมงคล 11 อย่าง ของประเทศต่างๆ ที่ทานแล้วจะโชคดี



- ญี่ปุ่น นิยมทานกุ้งตามความเชื่อแล้วว่าจะมีอายุยืนยาว




- บราซิล
 คือซุปถั่วเพราะถั่วถือเป็นอาหารนำโชคและนำมาซึ่งเงินทอง



- โปรแลนด์
 เลือกปลาแฮร์ริ่งเสิร์ฟขึ้นโต๊ะต้อนรับโชคดีวันปีใหม่




- ชาวเดนมาร์ก
 นิยมกินสตูผักคะน้าโรยน้ำตาลและซินนามอนตามความเชื่อที่จะช่วยให้ร่ำรวยเงินทอง


- นอร์เวย์
 มีประเพณีกินพุดดิ้งข้าวสอดไส้ถั่วอัลมอนด์หากตักเจอเมล็ดถั่วก็จะโชคดี



- คนเยอรมัน
 นิยมกินกะหล่ำในคืนส่งท้ายปีเก่าและมีความเชื่อว่ารูปร่างใบกะหล่ำที่เรียงตัวซ้อนกันเปรียบเสมือนปึกธนบัตร



- ชาวตุรกี
 จะกินผลไม้สีแดงสวยอย่างผลทับทิมที่จะนำโชคมาให้ในปีใหม่


- ชาวอิตาลี
 หลังเที่ยงคืนวันที่31ธันวาคมชาวอิตาลีจะกินไส้กรอกกับถั่วเมล็ดแบนเพราะเป็นอาหารนำโชค


- ชาวยุโรป เชื่อว่ากินโดนัทจะโชคดี บางคนว่าจะได้กลับไปคืนดีกับคนรู้ใจ


- ฮังการี
 ออสเตรีย สวีเดน อเมริกา จะกินเลกูมส์หรืออาหารรวมถั่วหลายชนิดจะได้ร่ำรวยเงินทอง



- ชาวอิตาลี นิยมทานริชอตโตเพราะเป็นเมนูนำโชคดีรับปีใหม่ 

ซ้ำขออภัยค่ะ  

ที่มา: teenee.com




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2556   
Last Update : 29 ธันวาคม 2556 11:13:46 น.   
Counter : 2905 Pageviews.  

ในหลวงพระพักตร์สดใสเสด็จฯ ร.ร.อานันท์เยี่ยมราษฎร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จไปยังโรงเรียนอานันท์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทรงเยี่ยมราษฎร และทอดพระเนตรการแสดงของนักเรียน เกี่ยวกับความเป็นมาของโครงการตามพระราชดำริ ขณะพสกนิกรปลาบปลื้มปีติ

1004826_574655852605425_1604502965_n

วันนี้ เวลา 11.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินจากพระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปยังโรงเรียนอานันท์ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทรงเยี่ยมราษฎรและทอดพระเนตรการแสดงของนักเรียนที่จัดแสดงเกี่ยวกับความเป็น มาของโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ป่าเด็ง-ป่าละอู ตั้งขึ้นตามพระราชดำริ เมื่อปี 2510 โดยให้ตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวรหัวหิน ตั้งชุดพัฒนาการขึ้น เพื่อรวบรวมชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงให้ได้อยู่อาศัยอย่างมั่นคง เป็นกลุ่มก้อน ง่ายต่อการพัฒนา และเพื่อเป็นการรักษาป่าไม้แหล่งต้นน้ำลำธาร

ต่อมาในปี 2520 มีพระราชดำรัส ให้หน่วยราชการ เข้าไปให้การช่วยเหลือด้านการทำมาหากิน และส่งเสริมให้จัดตั้งสหกรณ์ขึ้น 2 แห่ง โดยเงินทุนพระราชทาน คือสหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด และสหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ค ห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด

และยังได้จัดตั้งโรงเรียนอานันท์ขึ้น ในปี 2509 ซึ่งสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้พระราชทานนาม และพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ สร้างขึ้น เพื่อให้ราษฎรมีการศึกษา นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน

ในการนี้ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับเกษตรกรและราษฎรในโครงการฯ ที่นำผลผลิตทางการเกษตร มาทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายโดยทรงซักถามเกี่ยวกับชีวิตความเป็นอยู่ และผลการดำเนินงานโครงการฯ ที่ได้พระราชทานพระราชดำริไว้ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ วังไกลกังวล
1512283_574655922605418_586815403_n

1483586_574655815938762_659269371_o

ภาพโดยฝ่ายช่างภาพส่วนพระองค์ สำนักพระราชวัง

innnews
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2556   
Last Update : 29 ธันวาคม 2556 11:08:36 น.   
Counter : 1212 Pageviews.  

10 เมนูสุขภาพดี แถมต้านชราได้ด้วย

ในช่วงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองปีใหม่ หลายคนคงมีโอกาสได้ไปงานเลี้ยง งานปาร์ตี้ ซึ่งทำให้เราได้รับประทานอาหารในปริมาณมาก แถมส่วนใหญ่ยังเป็นอาหารหนัก ๆ หรืออาหารฝรั่งที่ดูแล้วไม่ค่อยเป็นมิตรกับสุขภาพเลยเสียด้วย เป็นเช่นนี้ไม่ดีแน่ ๆ

ดังนั้น นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ จึงขอแนะนำสุดยอดอาหารสไตล์อายุรวัฒน์ ต้านชรา ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 10 เมนู ให้ทุกคนได้เลือกไปรับประทานกัน จะได้มีสุขภาพดีรับปีใหม่ มาดูกันเลยว่ามีอาหารจานไหนบ้าง

1. ส้มตำ ไก่ย่าง
นี่คือสุดยอดของอาหารต้านชรา เพราะในส้มตำมี "มะเขือเทศ" ที่ช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านม แต่ที่เด็ดกว่านั้นก็คือ "มะละกอ" ส่วนผสมหลักของส้มตำที่จะช่วยล้างพิษให้กับลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ได้ โดยในมะละกอจะมีน้ำย่อย "ปาเปน" ช่วยล้างทำความสะอาดลำไส้ให้ปลอดคราบโปรตีนเกาะ ทั้งนี้ แนะนำให้ทานส้มตำคู่กับไก่ย่าง เพราะจะได้โปรตีนจากเนื้อไก่ และเนื้อไก่ก็ไม่ทำให้อ้วนด้วยเมื่อเทียบกับ "ข้าวเหนียว" ที่เป็นแป้ง

2. แกงเขียวหวานไก่
จัดเป็นอาหารจานทิพย์ที่อุดมไปด้วยวิตามิน เพราะในน้ำแกงนั้นมีทั้งวิตามินเอ ดี อี เค ที่ละลายอยู่ในกะทิ ส่วนเนื้อไก่ก็มีวิตามินบีช่วยบำรุงสมอง แม้แต่พริกที่ปรุงลงไปในแกงชามอร่อยนี้ก็ยังมีกรดแคปไซซิน และเบต้าแคโรทีน ช่วยบำรุงสายตาด้วย

3. เมี่ยงปลาทู 
ทราบกันดีกว่า "เนื้อปลาทู" มีทั้งกรดไขมันดี และแอสตาแซนทิน นอกจากนี้ใบคะน้าที่ห่อเมี่ยงยังให้สาร "ซัลโฟราเฟน" ที่เป็นกลุ่มสารต้านมะเร็ง และหากหยิบ "มะเขือเทศราชินี" หั่นเสี้ยวใส่เข้าไปในเมี่ยงด้วยก็จะช่วยให้ผิวพรรณสวยใส

4.ผัดไทย
อาหารขึ้นชื่อประจำชาติไทยที่จะช่วยเติมวิตามินซีให้ร่างกายจาก "ถั่วงอก" และส่วนผสมอย่าง "ถั่ว", "เต้าหู้" ยังให้วิตามินอี แคลเซียม และสารพฤกษฮอร์โมนที่เป็นไฟโตเอสโตรเจนป้องกันมะเร็งและลดไขมันได้ด้วย แต่ข้อควรระวังคือ อย่าใส่ "เส้น" มากไป เพราะนี่คือแป้งที่หากทานไปย่อมไม่ดีต่อสุขภาพแน่ ๆ

5.ข้าวหอมนิล
ข้าวสีม่วงเข้มเตะตาอัดแน่นไปด้วย "พฤกษเคมี" ที่มีพลังมากกว่าวิตามินอีกับซีรวมกัน ลองทานข้าวหอมนิลแทนข้าวขาว ทานคู่กับอาหารจานอื่น ๆ เช่น น้ำพริกปลาทูข้าวหอมนิล หรือไข่เจียวร้อน ๆ รับรองอร่อยอย่าบอกใคร

6.ข้าวตอกน้ำกะทิ
เป็นขนมไทยช่วงปีใหม่ที่ถูกลืมไปนาน แต่รู้ไหมว่า "ข้าวตอกน้ำกะทิ" เป็นขนมไทยที่มีคุณค่าทางอายุรวัฒน์มาก เพราะ "ข้าวตอก" มีเส้นใยช่วยลดไขมันและน้ำตาลได้ ส่วนวิตามินข้างในนั้นก็เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยป้องกันมะเร็ง และต้านความชราที่คนไม่ต้องการอีกด้วย

7.ข้าวต้มมัด หรือข้าวเหนียวปิ้งใส่ไส้
นอกจากอร่อยอิ่มท้องแล้ว เมนูขนมไทยอย่าง "ข้าวต้มมัด" และ "ข้าวเหนียวปิ้งใส่ไส้" ก็เป็นเมนูที่มีประโยชน์ครบเครื่องไปด้วยสารอาหาร 5 หมู่ และยังมีวิตามินเอ บี ซี ส่วน "กล้วย" ที่ใส่ไส้มาก็มีเส้นใยกับสารกลุ่มฟีนอล ชื่อ "กรดเอลลาจิก" ช่วยต้านมะเร็งและเนื้องอกได้ด้วย

8.ข้าวเหนียวดำน้ำกะทิ
เป็นขนมหวานแบบไทย ๆ ที่เป็นแหล่งรวมไฟเบอร์ชั้นสูง เพราะมีส่วนผสมของ เผือก ลำไย ลูกเดือย และธัญพืชอื่น ๆ ที่จะช่วยขัดล้างตั้งแต่หลอดอาหารลงมาถึงลำไส้ใหญ่ ส่วนตัวข้าวเหนียวดำเองก็มีวิตามินอี และธาตุเหล็กสูงมาก รวมถึงธาตุม่วงต้านร่วงโรย (OPCs) ที่เหมาะกับเป็นอาหารต้านชราช่วยให้สุขภาพดีจริง ๆ

9. ข้าวโพดม่วง
หลายคนเห็นสีของ "ข้าวโพดม่วง" แล้ว รู้สึกว่าอาจจะไม่น่าลิ้มลองเช่น "ข้าวโพดเหลือง" แต่รู้ไหมว่า "ข้าวโพดสีม่วง" นี้ เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินบำรุงตาอย่าง "ลูทีน" กับ "ซีแซนทิน" และยังนำไปประกอบอาหารได้หลายเมนูไม่แพ้ข้าวโพดสีเหลืองเลย หรือถ้าชอบทานของหวานจะนำข้าวโพดม่วงไปราดกะทิกิน ทำเป็นข้าวโพดปิ้ง ข้าวโพดม่วงคลุกก็เข้าท่า

10. น้ำสมุนไพรแสนชื่นใจ
ปิดท้ายด้วยเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพอย่าง น้ำสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัญชัน, กระเจี๊ยบ, น้ำย่านาง, น้ำใบบัวบก เครื่องดื่มเหล่านี้ถือเป็นน้ำวิตามินชั้นดี จัดเป็นน้ำนางเอกของแท้ อย่างเช่น "น้ำอัญชัน" มีวิตามินสีม่วงที่ช่วยปกป้องผิวและบำรุงตับ ส่วน "น้ำกระเจี๊ยบ" ก็มีวิตามินซี และวิตามินเอ ช่วยบำรุงไตได้ ขณะที่ "น้ำใบย่านาง" กับ "น้ำใบบัวบก" ประกอบด้วยคลอโรฟิลล์ และกลูต้าไทโอน ที่แค่ได้ยินชื่อก็รู้แล้วว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชั้นยอด ดื่มบ่อย ๆ นอกจากจะชื่นใจแล้ว ยังช่วยทำให้ดูอ่อนเยาว์ได้อีกนะ


เห็นแต่ละเมนูแล้วต้องบอกว่าน่ารับประทานทั้งนั้นเลย ทั้งอร่อย ทั้งได้ประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างนี้ มาฉลองปีใหม่ด้วยอาหารเพื่อสุขภาพแบบนี้ดีกว่าจ้า

ที่มา : kapook.com

ที่มา: //www.soccersuck.com/boards/topic/968574
ที่มา : kapook.com




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2556   
Last Update : 29 ธันวาคม 2556 11:08:07 น.   
Counter : 1145 Pageviews.  

10 อันดับของขวัญปีใหม่ที่น่าให้กัน



1. ผลงาน Hand Made ของคุณ เพราะ มันแสดงถึงความตั้งใจไม่ว่าจะสวยหรือไม่ก็ตาม และยังเป็นของชิ้นเดียวในโลกอีกเสียด้วยน่าประทับใจจะตายไป และถ้าคุณไม่มีฝีมือจริงๆล่ะก็ลองหาชุดสำเร็จรูปที่คุณสามารถนำมาประกอบ นำมาเย็บ หรือหาหนังสือเกี่ยวการประดิษฐ์สิ่งของ อาจจะมีอะไรที่คุณสามารถทำได้ ไม่ลองก็ไม่รู้ใช่มั้ยล่ะคะ



2. เครื่องประดับ ถ้า หากคุณผู้ชายคิดจะเลือกซื้อเครื่องประดับให้แฟนสาวล่ะก็ รับรองว่าเธอต้องชอบแน่นอน เพราะผู้หญิงกับเรื่องสวยๆงามๆน่ะ ไปด้วยกันได้เสมอ ไม่ต้องดูว่าราคาแพงมั้ยแต่ว่าดูว่าเหมาะกับเธอหรือเปล่า การเลือกเครื่องประดับให้คู่รักเป็นสิ่งหนึ่งที่จะบอกเขาหรือเธอได้ว่า คุณน่ะสังเกตเขามากแค่ไหน และแสดงถึงรสนิยมในตัวคุณได้อีกด้วย



3. ตั๋วเครื่องบิน/โปรแกรมทัวร์ เป็น เรื่องเซอร์ไพรส์ที่โรแมนติกมากๆและมากที่สุด ที่คุณคิดว่าวางแผนสำหรับการพักผ่อนที่มีเพียงคุณสองคนเท่านั้น ลองเก็บเงินสักนิด ลดการซื้อของฟุ่มเฟือยสักพัก และเซอร์ไพรส์คนรักด้วยการพาเขาท่องเที่ยว ตอบแทนที่เขาช่างแสนดีและที่เขาพาคุณเที่ยวไหนต่อไหนมาตลอด



4. ดินเนอร์กับคนรัก คง ต้องมีสักครั้งนึงในชีวิตของเราที่ต้องการอยากจะทานอาหาร ดินเนอร์สองต่อสองกับคนรักในสถานที่ที่โรแมนติก เพื่อกระชับความสัมพันธ์ โดยเฉพาะในวันพิเศษต่างๆ ลองนึกถึงการล่องเรือทานอาหาร หรือจองโต๊ะในร้านอาหารที่คุณสองชอบ อาจจะเป็นร้านที่บรรยากาศดี ริมแม่น้ำก็ไม่เลวนะคะ



5. ความรู้สึกที่ดี บาง ครั้งของขวัญราคาแพงก็เทียบไม่ได้กับความรู้สึกดีๆที่คุณมีให้แก่กัน การทะนุถนอมความสัมพันธ์ ความไว้ใจ ซื่อสัตย์ต่อกันเป็นเรื่องที่อาจจะทำได้ยากในสังคมปัจจุบัน แต่หากคุณสามารถทำได้นั่นก็เป็นของขวัญที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่คุณสามารถมอบ ให้กันและกันได้



6. รถยนต์ หาก คุณเป็นคนที่มีเงินเหลือกินเหลือใช้ การมอบรถยนต์ให้เขาหรือเธอสักคันก็คงเป็นสิ่งที่พิเศษมาก แสดงถึงความห่วงใยที่คุณมี ไม่ต้องการให้ลำบากนั่งรถเมล์ที่แน่นเป็นปลากระป๋อง และที่สำคัญอย่าลืมมอบบัตรเติมน้ำมันฟรีให้เขาหรือเธอด้วยล่ะ ขอย้ำข้อนี้สำหรับคนกระเป๋าหนักจริงๆ



7. ชุดผลิตภัณฑ์ความงาม/สปา สมัย นี้ไม่ว่าจะหญิงหรือชายต่างก็สนใจในเรื่องสุขภาพ เสริมหล่อ เสริมสวยกันทั้งนั้นล่ะค่ะ ลองเลือกซื้อกิ๊ฟเซทที่เหมาะกับคนรัก หรือจะเป็นคอร์สนวดตัวที่สปา รับรองได้ว่าคนรักของคุณจะต้องเป็นปลื้มแน่นอน


8. โทรศัพท์มือถือ ต้อง ยอมรับกันล่ะค่ะว่าปัจจัยที่ 5 ยังคงเป็นโทรศัพท์มือถือที่หมุนเวียนเปลี่ยนรุ่นมาให้เราเลือกใช้อยู่เสมอ และราคาในตอนนี้ก็ไม่ได้แพงมากเหมือนสมัยแรกแล้วด้วยค่ะ หากว่าคนรักของคุณกำลังมีปัญหากับโทรศัพท์ ลองหาเครื่องใหม่ให้เขาดูสิคะ หรือถ้าเป็นมีเงินมากพอลองเลือกเครื่องที่รองรับเทคโนโลยีต่างๆได้ ผู้ชายส่วนมากมักจะชอบเทคโนโลยี แต่อย่าลืมว่าหากซื้อของแพงก็ไม่ควรจะลำบากกระเป๋าคุณนะคะ



9. ดอกไม้ คลา สสิคมากๆและเป็นอะไรที่โรแมนติก การมอบดอกไม้ให้แก่กันในโอกาสพิเศษจะทำให้เขาประทับใจไม่รู้ลืม ไม่จำเป็นต้องเป็นช่อโต แค่ดอกเดียวและการ์ดอีกหนึ่งใบ ก็จะสามารถบอกเขาได้แล้วว่าคุณแคร์เขามากแค่ไหน (อุ้ย...โรแมนติก)


10. เสื้อผ้า การ ซื้อเสื้อผ้าให้กัน ชี้ได้ว่าคุณเอาใจใส่เขาหรือเธอมากแค่ไหน โดยเฉพาะคุณต้องสังเกตการแต่งกาย และการใช้ชีวิตประจำวันของคนรัก เพื่อที่คุณจะสามารถเลือกได้เหมาะสมกับตัวเขาและสามารถนำมาใส่ได้เสมอ และอย่าเลือกอะไรที่มันนำสมัยเกินไป เลือกแบบที่สามารถใส่ได้ประจำ หรือหลายสถานการณ์




 

Create Date : 29 ธันวาคม 2556   
Last Update : 29 ธันวาคม 2556 11:07:31 น.   
Counter : 1701 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  

เหมียวกุ่ย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




ยินดีต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกท่านเข้าเยี่ยมชม เว็บบล็อคแห่งนี้ หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในการชมบล็อคของกระผมนะครับ










View My Stats
New Comments
[Add เหมียวกุ่ย's blog to your web]