ข้าวนาปู ข้าวออร์แกนิกส์ที่บูมที่สุดในหนิงเซี่ย อ่ะ น่าสนใจๆ
*** อยากให้บ้านเราลองดูบ้างครับ เพราะบ้านเรา บางทีใช้ยาเบื่อปู หรือ สารเคมี ทำให้เกิดสารเคมี ตกค้างในปู และ ธรรมชาติ เสียสมดุลไปครับ *** ข้าวนาปู ข้าวออร์แกนิกส์ที่บูมที่สุดในหนิงเซี่ย ยุคนี้กระแสการบริโภคอาหารชีวภาพกำลังมาแรงทั้งในตลาดตะวันตก ยุโรปและอเมริกา ไม่เว้นแม้แต่จีน เนื่องจากจีนมีการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วและมีเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้นจำนวนมากทุกปี ผู้บริโภคจีนหันมานิยมสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น นอกจากจะได้สินค้าที่ดีต่อตนเองแล้วยังรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งช่วยเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้กับเกษตรกร หลายคนคงเคยได้ยินคำว่าข้าวออร์แกนิกส์หรือข้าวอินทรีย์กันมาบ้าง ข้าวออร์แกนิกส์หรือข้าวอินทรีย์ก็คือ การปลูกข้าวที่ปลอดจากสารเคมีทุกขั้นตอน ไม่ใส่ปุ๋ยเคมียกเว้นปุ๋ยชีวภาพ จนถึงการควบคุมโรคแมลงด้วยวิธีพิเศษ แล้วคุณเคยได้ยินคำว่า ข้าวนาปู หรือไม่ ?? ข้าวนาปูมีชื่อภาษาจีนว่า ข้าวเซี่ยเถียน (蟹田米) ก็คือการปลูกข้าวควบคู่ไปพร้อม ๆ กับการเลี้ยงปูน้ำจืดนั่นเอง แต่หลายคนคงงง เพราะส่วนใหญ่เราเคยได้ยินแต่การกำจัดปูในนาข้าว เนื่องจากทำความเสียหายให้กับต้นข้าว บ้างก็เอามาทำปูนาดองไว้ใส่ส้มตำรสแซ่บหรือทำน้ำปูก็อร่อยดี (น้ำปูหรือทางภาคเหนือเรียกว่าน้ำปู๋ ทำจากปูนาที่นำมาตำและกรองเอาแต่น้ำ เคี้ยวจนเหนียวเป็นสีดำ ใช้ปรุงอาหารได้หลายชนิด เป็นสิ่งจำเป็นในครัวพอ ๆ กับปลาร้าในไหของภาคอีสาน) ข้าวนาปูคืออะไรและเป็นอย่างไร เราตามไปดูชาวหนิงเซี่ยเขาปลูกข้าวกันดีกว่า หนิงเซี่ยได้นำเทคนิคการปลูกข้าวควบคู่กับการเลี้ยงปูน้ำจืด หรือที่เรียกว่า ระบบ symbiosis (ซิมไบโอซิส คือ การอยู่รวมกันของสิ่งมีชีวิตสองชนิดที่เอี้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน) เข้ามาใช้ในแปลงนาข้าวตั้งแต่ปี 2552 นับเป็นการผสมผสานการเพาะปลูกควบคู่กับการเพาะเลี้ยงได้อย่างลงตัว เริ่มต้นได้มีการทดลองเพาะปลูกข้าวในนาปูจำนวน 1,000 หมู่ (ประมาณ 2.4 หมู่ เท่ากับ 1 ไร่) ใช้พันธุ์ข้าว Jing27 (หรือเรียกว่า Ji-T39 ,宁粳 27 号) และพันธุ์ 843 โดยแปลงนา 1 หมู่สามารถเพาะปลูกข้าวได้ 550 กิโลกรัม และเพาะเลี้ยงปูได้ 25 กิโลกรัม ทำรายได้ให้เกษตรกรเพิ่มขึ้นประมาณหมู่ละ 1,500 1,800 หยวน อีกทั้งได้ข้าวที่ปลอดสารเคมี แถมยังเป็นการเพาะปลูกเชิงนิเวศวิทยาที่รักษาสิ่งแวดล้อมและไม่ทำร้ายสังคมอีกด้วย สำหรับปี 2553 ได้มีการขยายผลปลูกในแปลงนาข้าวจำนวน 50,000 หมู่ ในอำเภอเห้อหลาน (นครอิ๋นชวน) เมืองชิงถงเสียและเมืองจงเว่ย นอกจากนี้ ยังคาดการณ์กันว่าจะขยายผลการปลูกข้าวนาปูถึง 500,000 หมู่ภายในปี 2555 และเพาะเลี้ยงปูน้ำจืดได้อีก 4,000 ตัน จากผลการทดลองการปลูกข้าวควบคู่กับการเลี้ยงปูนั้นพบว่า ปูเจริญเติบโตได้ดี ปูช่วยกำจัดวัชพืชและแมลง ทำให้ดินร่วนซุย มูลของปูยังเป็นปุ๋ยแก่ต้นข้าว ตลอดการปลูกข้าวจึงไม่จำเป็นต้องใช้สารกำจัดศัตรูพืช ปุ๋ยเคมี ฮอร์โมน สารเคมีและเทคนิคการดัดแปลงพันธุกรรมใด ๆ เป็นการเพาะปลูกเชิงนิเวศวิทยาที่ส่งผลให้ต้นข้าวมีแร่ธาตุและสารอาหารสมบูรณ์ หลังข้าวนาปูออกสู่ตลาดก็ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคที่รักสุขภาพเป็นอย่างดี แถมข้าวก็มีรสชาติอร่อย หอมและเหนียวนุ่ม โดยเฉพาะเืมื่อช่วงเทศกาลตรุษจีนเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา ข้าวนาปูถูกเลือกให้เป็นของขวัญที่มีค่าสำหรับผู้ซื้อและผู้รับ ทำให้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ข้าวนาปูของหนิงเซี่ยได้จำหน่ายไปยังต่างมณฑลและต่างประเทศ อาทิเ่ช่น เซี่ยงไฮ้ กว่างโจว เซินเจิ้น ปักกิ่ง ส่านซี กานซู ชิงไห่ ประเทศมองโกเลียและกลุ่มประเทศอาหรับ โดยข้าวนาปูได้ถูกส่งออกจำหน่ายไปพร้อมกับข้าวออร์แกนิกส์ชนิดต่าง ๆ ของหนิงเซี่ยในปัจจุบัน เช่น ข้าวกล้องและข้าว Selenium-rich rice (ข้าวที่มีสารซีลีเนียมมากกว่าข้าวสารทั่วไป) ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้า High-end เป็นอย่างมาก ราคาโดยเฉลี่ยของข้าวออร์กานิกส์ทั่วไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 35 40 หยวน สำหรับข้าวนาปูราคาขายปลีกอยู่ที่กิโลกรัมละ 25 หยวน นับว่าแพงกว่าข้าวสารโดยทั่วไป 4 - 5 เท่า แถมแพงกว่าข้าวหอมมะลิของไทยเสียอีก วิธีการปลูกข้าวนาปู เทคนิคสำคัญของการปลูกข้าวนาปูคือ การเตรียมแปลงนาข้าวและการปลูกข้าวก่อนฤดูหรือเร็วกว่าปกติ โดยราวกลางเดือนเม.ย. เมื่อเกษตรกรถอนหญ้าในนาปูหรือบ่อปูเรียบร้อยแล้ว จะเริ่มนำต้นกล้าข้าวลงปลูกในนาปู หลังจากรอระยะเวลาให้ข้าวตั้งตัว ประมาณกลางเดือนพ.ค.ให้นำลูกปูปล่อยในแปลงนาข้าว ลูกปูและต้นข้าวจะเติบโตไปพร้อม ๆ กัน (เทคนิคสำคัญคือ ต้นข้าวจะต้องสูงกว่า 10 ซม.ขึ้นไปจึงจะปล่อยลูกปูเข้าแปลงนาได้ นอกจากนี้ ก่อนปล่อยลูกปูลงนาอุณหภูมิของน้ำในบ่อเลี้ยงปูกับแปลงนาไม่ควรต่างกันเกินกว่า 3 องศาเซลเซียส) เมื่อนาข้าวถูกแมลงรุกราน ปูจะไต่ไปตามต้นข้าวและกัดกินแมลง ดังนั้นข้าวจึงไม่จำเป็นต้องพึ่งยาฆ่าแมลงเลย ประมาณเดือนก.ค.ให้ใช้แรงงานคนถอนต้นหญ้า จากนั้นราวเดือนต.ค.จึงทำการเก็บเกี่ยวข้าว เคล็ดลับของการทำข้าวนาปู เคล็ดลับสำคัญของการทำข้าวนาปูอยู่ที่การเตรียมแปลงนา วิธีการคือ ต้องปรับบ่อเลี้ยงปูซึ่งมีความลึกให้ตื้นขึ้นและเรียบ ปรับคันนา 4 ทิศทางให้สูงขึ้นและล้อมด้วยพลาสติก ใช้ไม้ขนาดความสูง 60 65 ซม.ปักรอบคันนาและให้มีระยะห่างกันประมาณ 1 เมตร โดยไม้จะต้องห่อหุ้มด้วยพลาสติกเช่นกัน การปักไม้ตามคันนาตัวไม้โผล่พ้นจากพื้นดิน 50 ซม. และปักลงไปในดินราว 10 15 ซม. จากนั้นนำดินมาอุดรอบไม้ให้แน่น เพื่อไม่ให้น้ำเข้าไปในไม้ ต่อมาให้ทำการขุดร่องน้ำรอบคันนาภายในแปลงข้าวขนาดความกว้าง 2 2.5 เมตร ความลึก 0.8 เมตร และความลาดเอียง 1 : 3 โดยร่องน้ำมีระยะห่างจากคันนาราว 1 เมตร ดังนั้นจึงสามารถปลูกข้าวได้ทั้งบริเวณภายในและภายนอกร่องน้ำ ระบบน้ำเข้า-ออกใช้ปั๊มสูบน้ำ และการสูบน้ำเข้าและออกให้อยู่ทิศตรงข้ามกัน ท่อสูบน้ำเข้าให้ใช้ตาข่ายไนลอนขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง (รูตาข่าย) 0.33 มม. ปิดท่อไว้เวลาสูบน้ำเข้า เพื่อป้องกันสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เช่น ลูกปลาและไข่ปลา เข้าไปทำร้ายลูกปูหรือแย่งออกซิเจนและอาหารของลูกปู ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของลูกปูได้
ไทยเราเองก็มีการพัฒนาข้าวเพื่อสุขภาพหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นข้าวกล้องงอก ข้าวฮาง (ข้าวหอมมะลินึ่ง) และข้าวเคลือบสมุนไพร เพื่อยกระดับข้าวธรรมดา ๆ ของชาวนาให้มี คุณค่า และ มูลค่า มากยิ่งขึ้น หากจะว่าไปแล้ว ข้าวนาปู ก็มีแนวความคิดที่คล้ายคลึงกับ การเลี้ยงกุ้งก้ามร่วมกับการปลูกข้าว ของโครงการหลวงในไทย ที่หยิบยกเอาเอกลักษณ์ ภูมิปัญญา และข้อดีที่มีอยู่แล้วมาปรับประยุกต์ให้เป็น จุดเด่น ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งนี้ ข้าวนาปู ไม่เพียงแต่เป็นเทคโนโลยีผลิตข้าวออแกนิกส์ที่เป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมโดยวิธีเรียบง่าย หากแต่ยังเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรอย่างมั่นคง ยั่งยืน และคง Concept รักษ์โลก ไว้ได้อย่างสมบูรณ์ หมายเหตุ
กุ้งก้าม เป็นชื่อที่หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ทรงเป็นผู้ตั้งชื่อเป็นภาษาไทย เป็นกุ้งน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Red Craw Crayfish ชื่อวิทยาศาสตร์ Cherax quadricarinatus กุ้งก้ามถูกนำมาเลี้ยงครั้งแรกเมื่อต้นปี 2549 ที่งานวิจัยประมงที่สูงอินทนนท์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด จังหวัดเชียงใหม่ โดยเพาะเลี้ยงในบ่อดิน เป็นสายพันธุ์มาจากประเทศออสเตรเลีย (จาก www.numsai.com)
แหล่งข้อมูล www.nx.xinhuanet.com วันที่ 16 มิถุนายน 2553 , 12 กรกฎาคม 2553 และ 15 กรกฎาคม 2553 www.baidu.com www.chinadami.com
เขียนโดย : ธิดารัตน์ วนพฤกษาศิลป์ ศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในจีน ณ นครซีอาน วันที่ 5 สิงหาคม 2553
Create Date : 21 พฤษภาคม 2556 |
| |
|
Last Update : 21 พฤษภาคม 2556 20:09:48 น. |
| |
Counter : 2475 Pageviews. |
| |
|
|