ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บบอร์ด Thailand Aquatic Pets เว็บบล็อคสำหรับ คนรักสัตว์น้ำ ( และ สัตว์ที่อยู่ในน้ำ ) ประเทศไทยจ้า

นิ่มนางฟ้าสีชมพู pink fairy armadillo

สิ่งมีชีวิตในโลกมีมากกว่าแสนล้านสายพันธุ์ แต่มีเพียงหยิบมือเดียวที่เรารู้จัก ติดตามเรื่องราวของ pink fairy armadillo สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดที่พวกเราอาจยังไม่เคยเห็น

นิ่มนางฟ้าสีชมพู (pink fairy armadillo) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ Pichiciego เป็นสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดของสายพันธุ์ตัวนิ่ม  นิ่มนางฟ้าสีชมพูนี้มีความยาวเฉลี่ย 9-12 ซม.(ไม่รวมหาง)  และมีน้ำหนักประมาณ 400 กรัม  เปลือกหลังแยกออกอย่างชัดเจนกับลำตัวของมัน

ถิ่นอาศัยอยุ่ในทุ่งหญ้าแห้งและที่ราบกลางทะเลทรายของประเทศอาร์เจนติน่า  ตั้งแต่อเมริกากลางไปถึงอเมริกาใต้  เจ้านิ่มนางฟ้าสีชมพูนี้สามารถอยู่ได้อย่างสบายทามกลางทะเลทราย  มันมีความสามารถในการขัดชั้นยอด  และก็สามารถขุดเพื่อฝังตัวเองในการหลบซ่อนได้อย่างชำนาญ

นิ่มนางฟ้าสีชมพูมีความสามารถในการขุดโพรงในพื้นที่ข้างอาณานิคมมดขนาดใหญ่  มดเป็นแหล่งอาหารอย่างดีสำหรับจากตัวนิ่มสายพันธุ์นี้ บางทีอาหารที่พวกเจ้านิ่มตัวน้อยกินก็อาจจะเป็นพวกหนอน  หอยทากและพืชด้วย แต่ดูเหมือนมันจะชอบมดมากกว่า

นิ่มพวกนี้ชอบที่จะมีชีวิตแบบลำพัง  โพรงใต้ดินเป็นสิ่งคุ้มครองมันจากศัตรูภายนอก  มันจะออกมาและอาหารในเวลากลางคืน แม้ว่าพวกมันจะโดดเดี่ยวก็เชื่อว่าตัวนิ่มนางฟ้าสีชมพูเป็นพวกที่ชอบผสมพันธุ์กับตัวเมียหลายตัว  ลูกที่เกิดใหม่เปลือกที่หลังของมันจะยังไม่แข็งจนกว่าจะมีการเจริญเติบโตเต็มวัยถึงจะมีลักษณะแข็ง

นิ่มนางฟ้าสีชมพูจะใช้เวลาส่วนใหญ่ของเวลาใต้ดินคล้ายกับตัวตุ่น  กรงเล็บหน้าขนาดใหญ่ช่วยให้พวกมันขุดโพรงได้อย่างสบายในดินหรือทะเลทราย

แต่เนื่องจากการทำลายสิ่งแวดล้อมของประชากรนิ่มนางฟ้าสีชมพูลดลง  พวกมันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสัตว์คุ้มครองตั้งแต่ปี 1970

ที่นำเรื่องนี้มาเขียนก็เพราะผมเองก็เพิ่งรู้จักเจ้านิ่มตัวน้อยเหมือนกัน  ลำตัวส่วนท้ายมันเหมือนถูกตัดดูแปลกตาน่ารักไปอีกแบบ  ก็หวังว่าเพื่อนๆ คงได้รู้จักสัตว์ตัวน้อยในโลกใบนี้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสายพันธุ์  ต้องขออภัยหากการแปลมีข้อผิดพลาดบ้าง  สำหรับเพื่อนที่มีข้อมูลมากกว่านี้ก็คอมเม้นท์เข้ามาเสริมความรู้กันได้นะครับ  พบกันใหม่ในบทความหน้า.....mata

แปลและเรียบเรียงโดย  พรชัย  สังเวียนวงศ์ (mata)

ขอบคุณภาพประกอบ  Google.co.th




 

Create Date : 17 ตุลาคม 2555   
Last Update : 17 ตุลาคม 2555 10:53:26 น.   
Counter : 4676 Pageviews.  

ฮือฮา! พบดาบโบราณ เชื่อใช้นำทัพพระนเรศวร

วัดดังเชียงใหม่โชว์ดาบโบราณ เชื่อเป็นดาบคู่้กายของพระนเรศวรที่ใช้สำหรับนำทัพ กรมศิลปากรเร่งตรวจสอบอักขระจารึกบนดาบ

 

(30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ วัดเมืองกื้ด ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ มีชาวบ้านจากหลายพื้นที่เดินทางเพื่อมา กราบไหว้สักการะดาบโบราณเล่มหนึ่งที่เก็บรักษาไว้ภายในวัด โดยเชื่อกันว่า ในอดีตดาบเล่มนี้เป็นดาบคู่กายที่ใช้สำหรับการนำทัพของสมเด็จพระนเรศวรในการสงคราม และวัดแห่งนี้ยังอยู่ในเส้นทางการเดินทัพ และเคยเป็นที่พักทัพก่อนที่จะเสด็จสวรรคตในเขต อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ในปัจจุบัน

พระอธิการอินถา รตนวรรณโณ เจ้าอาวาสวัดเมืองกื้ด กล่าวว่าตามตำนานเล่าขานของวัด เล่าสืบต่อกันว่าในยุคสมัยที่สมเด็จพระนเรศวร ทรงทำศึกสงครามกับพม่า สมเด็จพระนเรศวร ได้นำทัพออกจากเชียงใหม่ เพื่อจะไปตีเมืองอังวะ และได้ทรงพักทัพคืนที่สามที่วัดแห่งนี้ โดยการกรีฑาทัพของสมเด็จพระนเรศวร ทุกครั้งจะมีการใช้ดาบศักดิ์สิทธิ์ ทำพิธีปลุกเสกน้ำมนต์ประพรมเหล่าทหาร เพื่อความเป็นสิริมงคล ขณะที่ก่อนออกรบจะมีการปั้นหุ่นจำลองของอริราชศัตรู และใช้ดาบเล่มนี้ฟันคอหุ่นจนขาด เพื่อปลุกใจเหล่าทหาร

อีกทั้งตามประวัติของวัดเล่าสืบทอดกันมาว่า ครูบาน้อยอดีตเจ้าอาวาส เคยปรารภธรรมกับสมเด็จพระนเรศวร เมื่อครั้งทรงพักทัพที่วัด และสมเด็จพระนเรศวร ได้มอบดาบนำทัพเล่มนี้ไว้ เพื่อความเป็นสิริมงคลและเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่วัด ก่อนที่จะยกทัพเสด็จไปตามลำน้ำแม่แตงไปถึงเมืองคอง เมืองแหง และทรงสวรรคตในปี พ.ศ. 2248 ขณะที่หลังจากนั้นทางวัดได้เก็บรักษา ดาบเล่มนี้ไว้ในโบสถ์จากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน

 

 

สำหรับดาบโบราณเล่มนี้มีความยาวจากด้ามจรดปลายประมาณ 1.2 เมตร มีความกว้างช่วง กลางดาบประมาณ 4 นิ้ว ด้ามดาบทำด้วยงาช้าง ขณะที่ตัวเล่มดาบคาดว่าทำจากเหล็กน้ำพี้ บนเล่มดาบยัง ปรากฏอักขระอักษรขอม และภาพราหูจารึกประทับไว้ตลอดทั้งเล่มทั้งสองด้าน ซึ่งจากภาพอักษรและตารางทรงกลมที่ปรากฏ เชื่อว่าดาบเล่มนี้จะถูกใช้ในการคำนวนฤกษ์ยามในการออกทัพด้วย

ด้านนายไกรสิน อุ่นใจจินต์ หัวหน้ากลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยเดินทางลงพื้นที่ตำบลกื้ดช้างกับ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล และอาจารย์ชัยยง ไชยศรี นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ เพื่อศึกษาเส้นทางเดินทัพจากเชียงใหม่ไปถึงเวียงแหง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ลงตัว ส่วนดาบโบราณเล่มนี้จะต้องตรวจสอบสภาพและอักระที่จารึกไว้ เพราะตัวอักษรหรืออักขระจะบ่งชี้ ถึงช่วงเวลาและสิ่งอื่นที่จะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลถึงกันได้เป็นอย่างดี ส่วนความเชื่อของเจ้าอาวาสหรือชาวบ้าน ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล

ขอบคุณสนุกดอทคอมv




 

Create Date : 02 กรกฎาคม 2555   
Last Update : 2 กรกฎาคม 2555 15:37:18 น.   
Counter : 3150 Pageviews.  

รู้จัก “เต่า” ก่อนปล่อยไปแล้วได้บาป

การปล่อยเต่าโดยไม่รู้จักชนิดและพฤติกรรมการอยู่อาศัย นอกจากไม่ได้บุญแล้วยังได้บาปด้วย
เคยหยุดคิดกันก่อนหรือไม่ว่าปล่อย “เต่า” ไปแล้วจะได้บุญหรือบาป หลายคนไม่เคยทราบด้วยซ้ำว่าสัตว์สี่ขาหลังขามุงกระเบื้องนี้ มีหลากหลายสายพันธุ์ และมีถิ่นอาศัยจำเพาะ บางชนิดอยู่ในน้ำไม่ได้ บางชนิดเอาชีวิตไม่รอดบนบก เฉพาะเมืองไทยก็มีเต่ามากถึง 30 ชนิด และนอกจากการปล่อยไม่ถูกที่ถูกทางแล้ว ถิ่นอาศัยของเต่าทั้งบนบก ในน้ำ ภูเขา ทะเล ก็ลดลงจนทำให้สัตว์อายุที่มีวิวัฒนาการมานานกว่า 220 ล้านปีใกล้จะสูญพันธุ์

รศ.ดร.กำธร ธีรคุปต์ หัวหน้าภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้ศึกษาเต่าไทยมากว่า 30 ปี บอกแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ ว่า เต่ามีวิวัฒนาการนานกว่า 220 ล้านปี อาจจะสูญพันธุ์ในยุคปัจจุบันนี้ เพราะแหล่งที่อยู่อาศัยทั้งในป่า น้ำ ทะเล ถูก “มนุษย์” ทำลายจนเต่าแทบไม่มีที่อยู่ และยังมีความเชื่อผิดๆ ทั้งเรื่องการกินเต่าแล้วอายุยืน หรือการปล่อยเต่าโดยไม่รู้จักประเภท พฤติกรรมและที่อยู่อาศัยของเต่า ล้วนเป็นปัจจัยเสริมให้เต่าสูญพันธุ์เร็วขึ้น

จากการศึกษาของทั้งนักศึกษา นักวิจัยและอาจารย์ของภาควิชาชีววิทยา จุฬาฯ พบว่า มีเต่าไทยอยู่กว่า 30 ชนิด ซึ่งมีทั้งเต่าบก เต่าน้ำจืด เต่าทะเล และตะพาบ โดยมีประมาณ 20 ชนิดที่สามารถเก็บข้อมูลวิจัยทั้งเรื่องลักษณะ ที่อยู่ การกินอาหาร การผสมพันธุ์ การใช้ชีวิต ส่วนอีกประมาณ 10 ชนิดนั้น รศ.ดร.กำธร กล่าวว่า มีเพียงข้อมูลการสำรวจซึ่งเป็นข้อมูลที่ระบุเพียงว่า “มี” หรือ “ไม่มี” เต่าเหล่านั้น โดยการออกสำรวจเพื่อเก็บข้อมูลวิจัยของนักชีววิทยาก็ไม่พบเต่าเหล่านั้น

ทั้งนี้ เพื่อให้คนไทยได้รู้จักเต่าและสะท้อนสภาพวิกฤตของเต่าไทย ทางองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.)จึงร่วมกับ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดนิทรรศการ “เต่า” (Turtles) ณ จตุรัสวิทยาศาสตร์ ชั้น 4 จามจุรีสแควร์ ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือน ส.ค.55 และเพื่อร่วมฉลองปีเต่าสากล 2554 ที่กำหนดโดยองค์กรนานาชาติในการอนุรักษ์สัตว์เลื้อยคลานและสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ (Partners in Amphibian and Reptile Conservation: PARC)

ภายในนิทรรศการนำเสนอร่างสตัฟฟ์ของเต่าที่เก็บรวบรวมโดยนักชีววิทยา จุฬาฯ และปกติจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์เต่า คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ โดย รศ.ดร.กำธร กล่าวว่า ตัวอย่างเต่าที่นำมาแสดงทั้งหมดนั้นได้จากเต่าที่ตายแล้วทั้งหมด และไม่ได้นำเต่าที่มีชีวิตมาทำสตัฟฟ์ และโดยหลักของการอนุรักษ์ นักชีววิทยาที่เข้าไปเก็บตัวอย่างสิ่งมีชีวิตในแหล่งธรรมชาติ เมื่อพบและเก็บรายละเอียดแล้วก็จะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติ

“ความจริงเราจะจัดนิทรรศการนี้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ติดปัญหาเรื่องน้ำท่วมเสียก่อน จึงต้องเลื่อนออกมา” รศ.ดร.กำธร นักชีววิทยาสัตว์เลื้อยคลานผู้สนใจศึกษาเต่าเป็นพิเศษเพราะเลี้ยงเต่ามาตั้งแต่เด็ก กล่าว

สำหรับไฮไลต์ของนิทรรศการนั้น ดร.พิชัย สนแจ้ง ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) กล่าวว่า นิทรรศการที่จัดขึ้นนี้พยายามจะตอบคำถามของเด็กๆ เช่น เต่าวิ่งออกจากกระดองได้ไหม ขี้เต่าเหม็นไหม เต่าตัวผู้กับตัวเมียต่างกันยังไง เป็นต้น และอยากจะเน้นเรื่องการอนุรักษ์ เพราะเป็นสัตว์ที่อยู่คู่โลกมานาน แต่มีการปล่อยตามวัดแล้วตายกันไปเยอะ นอกจากนี้ อยากให้ทางจุฬาฯ มาให้พื้นที่ของจตุรัสวิทยาศาสตร์ให้มาก และอยากแสดงจุดแข็งในเรื่องงานวิจัยด้วย

ศ.ดร.สุพจน์ หารหนองบัว คณบดีคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ตัวอย่างเต่าที่นำมาจัดนิทรรศการในครั้งนี้เป็นเพียง 20% ของตัวอย่างเต่าทั้งหมดในพิพิธภัณฑ์เต่า และคิดเป็นเพียง 1% ของนิทรรศการตัวอย่างสิ่งมีชีวิตในพิพิธภัณฑสถานธรรมชาติวิทยาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งนอกจากเต่าแล้ว คณะยังมีผู้เชี่ยวชาญเรื่องหอย กุ้ง ปู ซึ่งคาดว่าจะมีความร่วมมือกับ อพวช.ในการจัดนิทรรศการครั้งต่อไป

“ตอนนี้จะเริ่มต้นที่เรื่องเต่าก่อน เพราะเต่าเป็นวิกฤตระดับหนึ่งที่ถูกคุกคาม และภัยที่ร้ายแรงที่สุดของเต่าคือ “มนุษย์” ที่เอาเขาไปกิน เชื่อว่า เป็นยาอายุวัฒนะ หรือความเชื่อทางศาสนาในการเอาไปปล่อยอย่างไม่เหมาะสม แล้วทำให้เต่าตาย ซึ่งเราจัดนิทรรศการเพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของเต่าที่มีต่อระบบนิเวศ” ศ.ดร.สุพจน์ กล่าว

สำหรับนิทรรศการเต่านี้แบ่งเนื้อหาเป็น 3 ส่วน คือ ชีววิทยาเต่า ซึ่งจัดแสดงเกี่ยวกับสรีระวิทยาเต่า เพื่อมห้ผู้ชมเข้าใจเกี่ยวกับร่างกายและพฤติกรรมในการดำรงชีวิตของเต่า เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเต่า รวมถึงวิถีชีวิตของคนกับเต่า ความเชื่อเกี่ยวกับเต่า งานศิลปะจากเต่า และ ความสำคัญและการอนุรักษ์ โดยนำเสนอให้เห็นสาเหตุที่เต่าลดจำนวน บทบาทของเต่าในระบบนิเวศ ปล่อยเต่าให้ได้บุญ ความสำคัญของการอนุรักษ์เต่า

ผู้สนใจนิทรรศการเต่าเข้าชมนิทรรศการไดตั้งแต่วันนี้ถึงสิ้นเดือน ส.ค.55 ณ จตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช.ชั้น 4 อาคารจามจุรีสแควร์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0-2160-5356 หรือดูรายละเอียดที่ www.nsm.or.th

ศ.ดร.กำธร ธีรคุปต์ ชี้ตัวอย่างลูกตะพาบม่านลายไทย โดยเมื่อโตเต็มวัยอาจมีกระดองหลังยาวกว่า 1 เมตร และอาจใหญ่ที่สุดในโลก แต่ปัจจุบันอยู่ในสถานภาพใกล้สูญพันธุ์และหายากมาก


วัชระ สงวนสมบัติ ผู้เชี่ยวชาญนก อพวช. ชี้ชวนดูโครงสร้างเต่า


นอกจากนิทรรศการเต่าแล้วยังมีมุม "โอริกามิ" พับกระดาษเป็นรูปเต่า


(ซ้ายไปขวา) รศ.ดร.กำธร ธีรคุปต์ ดร.พิชัย สนแจ้ง และ ศ.ดร.สุพจน์ หารหนองบัว


นิทรรศการเต่า


นิทรรศการไขคำตอบ เต่าอยู่นอกกระดองเต่าได้หรือไม่


ศิลปะที่มีแรงบันดาลใจจากเต่า


ไข่เต่า


เต่าแพนเค้ก ตัวแบนๆ


กระดองงามๆ ของเต่าหกดำ


เต่าตนุ


โครงร่างของตะพาบลายม่านไทยที่ใกล้จะสูญพันธุ์





 

Create Date : 21 มิถุนายน 2555   
Last Update : 21 มิถุนายน 2555 22:31:27 น.   
Counter : 1905 Pageviews.  

“โจลี่” เลื่อมใสพุทธศาสนา ขอฤกษ์หลวงพ่อแต่ง “พิตต์”

 

หากเป็นชาวพุทธจะทำอะไรต้องถือฤกษ์งามยามดีเป็นเรื่องธรรมดา แต่กับนักแสดงสาวคนดังอย่าง แองเจลิน่า โจลี่ คงแปลกไม่น้อย เพราะมีข่าวซุบซิบว่าเธอตัดสินใจจะปรึกษาหารือกับพระเพื่อหาวันเวลาที่เหมาะสมกับการลั่นระฆังเข้าพิธีวิวาห์กับ แบรด พิตต์ พระเอกหนุ่ม ในอนาคตอันใกล้นี้

นางเอกสาวตาคมวัย 37 ปี ที่เคยบินมาสักลายหนุนดวง 5 แถวบริเวณหัวไหล่ซ้ายกับอาจารย์คนดังถึงประเทศไทย ถูกคาดหมายว่าจะจูงพิตต์จัดงานสมรสสุดยิ่งใหญ่ในช่วงซัมเมอร์นี้ กระนั้น แหล่งข่าวใกล้ชิดเปิดเผยว่า เธอมีความคิดว่าจะเข้าวัดไปกราบนมัสการหลวงพ่อเพื่อให้ช่วยดูฤกษ์ยามก่อนตัดสินใจชี้นิ้วลงไปว่าจะจัดพิธีสุดอลังการขึ้นในวันไหนกันแน่

ขาเม้าท์ป้องปากบอกว่า ”แองจี้เคยใช้การทำนายทางพุทธศาสนามาช่วยให้เธอเลือกวันที่ดีที่สุด หรือเป็นมงคลมากที่สุดสำหรับช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของเธอมาแล้วในอดีต เธออาศัยปฏิทินทางพุทธศาสนาในการวางแผนกระบวนการรักษาตัว หรือเลือกวันหยุดของตัวเอง, แบรด และเด็กๆ”

”ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเคยเลือกวันดีในการเปิดตัวหนังของเธออีกต่างหาก เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นเมื่อแองจี้ได้หันมาเลื่อมใสศาสนาพุทธแบบเต็มตัว ซึ่งเธอก็ไม่ได้ให้แบรด ทำแบบนั้น แองจี้เชื่อว่าฤกษ์งามยามดีของงานแต่งงานของพวกเขาจะช่วยให้ชีวิตคู่มีแต่ความสุขในอนาคต”

ด้านเพื่อนของฝ่ายชายก็ยืนยันว่าแบรดเห็นดีเห็นงามทุกอย่างไม่ว่าโจลี่จะตัดสินใจเลือกวันไหนตัดเค้กมงคล ”แบรดแค่เห็นดีเห็นงามไปด้วย เขาบอกกับแองจี้ว่าจะใช้เวลาเลือกนานเท่าไหร่ก็ได้ หลังจากอยู่กันมานาน 8 ปี แถมมีลูก 6 คนด้วยกัน พวกเขาก็ไม่ได้เร่งร้อนที่จะแต่งงานมากมายนักหรอก”

 

 

//www.siamdara.com/Hollywood/120618_0411.html




 

Create Date : 20 มิถุนายน 2555   
Last Update : 20 มิถุนายน 2555 8:25:38 น.   
Counter : 1918 Pageviews.  

13 กลโกงอันตรายบนโลกไอที (โปรดระวัง)

    1. หลอกลวงขายสินค้า การโกงเรื่องนี้มีมานานตั้งแต่โลกยังไม่มีอินเทอร์เน็ตเลยครับ ยิ่งพอมีโลกออนไลน์ให้ซื้อขายของกัน คนร้ายก็ฉวยโอกาสที่คนซื้อคนขายไม่ได้เห็นหน้ากัน ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ก็ยิ่งหลอกกันง่ายขึ้น เรื่องนี้มีเป็นประจำครับโดยเฉพาะกับสินค้าที่มีคนสนใจมากๆ อย่าง iPone หรือตุ๊กตา Blythe ที่มีหลายคนเสียเงินไปแต่ไม่ได้ของ ฟ้องร้องกันเป็นล้าน ๆ ก็มี

    2. การขโมยใช้เครดิตการ์ด เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คนกลัวกันมากที่สุด เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้การค้าขายบนโลกออนไลน์ของไทยผ่านเครดิตการ์ดยังมีมูลค่าไม่มากนัก แต่ในความจริงแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะป้องกันคน Hack เอาเบอร์บัตรเครดิตเราไปใช้ได้ ชั้นแรกก็ต้องซื้อขายกับเว็บหรือร้านค้าออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ มีระบบเข้ารหัสในการจ่ายเงิน โดยสังเกตที่หน้าที่อยู่เว็บจะต้องเป็น https:// ไม่ใช่แค่ // เฉยๆ อาจจะตั้งรหัส 4 หลักกับทางธนาคาร เพื่อการซื้อขายออนไลน์อีกทีก็ได้ แค่นี้คุณก็จะสะดวกสบายและปลอดภัยในการช้อปปิ้งมากขึ้นครับ

     3. การหลอกล่อให้ใช้บริการ วิธีนี้มักจะมาทางโทศัพท์ในรูปแบบ SMS, MMS หรือโทรมาจากระบบอัตโนมัติ เมื่อเรารับสายแล้วกดปุ่มตาม หรือกดที่ SMS, MMS โดยไม่ฟังหรืออ่านให้ดีก่อนก็จะกลายเป็นว่าเราสมัครรับบริการและเสียเงินไปแล้ว ทางที่ดีคืออย่ากด SMS หรือ MMS ที่ส่งมาจากคนที่ไม่รู้จัก หรือไม่ก็ไม่ต้องรับสายเบอร์แปลกๆ ไปเลยก็ได้ครับ

    4. ชวนให้ร่วมธุรกิจขายตรง แม้ธุรกิจขายตรงจะไม่ได้เป็นการทำผิดกฎหมาย แต่บางครั้งรูปแบบที่มาแบบออนไลน์ก็ทำให้เรารำคาญ หรือเสียเงินได้โดยไม่รู้ตัว ถ้าเราต้องกรอกข้อมูลที่อยู่ ประวัติบัตรประชาชนบัญชีธนาคารที่จะให้โอนเงินค่าตอบแทนให้ ก็เท่ากับเราปิดเผยความลับของเราให้คนอื่นรู้ ผู้ไม่ประสงค์ดี ก็จะสามารถเอาข้อมูลนี้ไปประกอบอาชญากรรมได้โดยที่เราไม่รู้ตัว

   5. การหลอกลวงจากประเทศในทวีปแอฟริกา คุณอาจจะเคยได้รับจดหมายขอความช่วยเหลือในการขนทองหรือเงินอออกจากประเทศ โดยสัญญาว่าจะมีค่าตอบแทนให้ในมูลค่าที่สูง แต่เราจะต้องโอนเงินไปให้ส่วนหนึ่งก่อนเพื่อจัดเตรียมเอกสาร ฟังดูเหมือนเรื่องเหลือเชื่อแต่มีหลายคนที่โลภเห็นว่าค่าตอบแทนที่ได้สูงและหลงโอนเงินไปให้เยอะแล้วนะครับ

  6. การหลอกหลวงขายยา หรือสินค้ามหัศจรรย์ ผู้ป่วยหรือคนอ่อนแอมักโดนหลอกได้ง่ายเสมอ การโฆษณาเกินจริงบนโลกออนไลน์มีมากมายครับ ประเภทตัวยาแก้มะเร็ง เหรียญเครื่องรางวิเศษรักษาโรคสินค้าเหล่านี้ไม่ได้รับการตรวจสอบและไม่มีอย. อันตรายมากนะครับ

    7. หลอกลวงจากเว็บหาคู่ การหาเพื่อนหรือหาคนรักบนโลกออนไลน์เป็นเรื่องปกติแล้วในสมัยนี้ หลายคู่พบรักและแต่งงานกันได้เพราะอินเทอร์เน็ต แต่ก็มีอีกหลายคนถูกมิจฉาชีพในคราบนักรักมาหลอกลวงให้เสียเงินทอง มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เรื่องอ่อนไหวแบบนี้ ขอให้ชาว Lisa ระวังดีๆ นะครับ

    8. หลอกว่าได้ของรางวัล ถ้าคุณได้รับ E-Mail แจ้งว่าได้รับของรางวัลจากที่ใดก็ตาม แต้องโอนค่าส่งค่าภาษีให้สงสัยไว้ก่อน และตรวจสอบว่าเราได้เคยร่วมกิจกรรมที่เค้าอ้างมั้ย ค้นดูในอินเทอร์เน็ตว่ามีกิจกรรมนี้จริงมั้ย และดีที่สุดคือขอเข้าไปรับของรางวัลด้วยตัวเองและจะชำระค่าภาษีในวันที่ไปรับของ

    9. เทคนิค Phishing เป็นคำที่แผลงมาจากคำว่า Fishing ที่แปลว่าตกปลา โดยมิจฉาชีพจะสร้างเว็บที่หน้าตาเหมือนกับเว็บที่เราใช้ประจำขึ้นมา เช่น เว็บธนาคาร หรือเว็บอีเมล์ เมื่อเรากรอกข้อมูล Login เข้าไป ก็จะเหมือนเราใส่รหัสผิด ให้ใส่ใหม่ แต่จริงๆ แล้วระบบของมิจฉาชีพพวกนี้ก็จะเก็บข้อมูล Login ของเราไปเรียบร้อยแล้ว ผู้ร้ายก็จะเอาข้อมูลที่ได้ไป Login เข้าเว็บธนาคารจริงๆ อีกที วิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนหลอกด้วย Phishing ก็ต้องตรวจสอบที่อยู่เว็บว่าเป็นเว็บที่เราต้องการเข้าจริงๆ เพราะถึงหน้าตาจะเหมือนกันแต่ชื่อ Domain ไม่มีทางเหมือนกันได้แน่นอน การเลือกใช้ Browser รุ่นใหม่ๆ ก็จะช่วยได้ เช่น Google, Chrome, Firefox 4, IE8 ซึ่งจะมีระบบป้องกันการ Phishing อยู่ด้วย

    10.หลอกล่อให้คลิกด้วยข้อความหรือรูป สำหรับสาวๆ แล้ว ข้อความประเภท “ลดราคากว่า 80% ทั้งร้าน” หรือสำหรับหนุ่มๆ อย่าง “ดาราญี่ปุ่นโชว์อึ๋มท้าลมร้อน” อาจจะกระต้นต่อมอยากรู้ของเราให้กดเข้าไป พอเข้าไปก็มีข้อความว่า “ต้องอัพเกรด Flash Player ก่อน” พอกดเข้าไปอีกแทนที่จะได้ดูกลับกลายเป็นรับเอาไวรัสเข้ามาในเครื่องโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ก่อนกดอะไรที่ดูดีเกินกว่าจะเป็นจริงได้ให้ระมัดระวังไว้ก่อนครับ

   11. หลอกลวงให้ทำบุญ ข้อความหรืออีเมล์ที่ชักชวนให้บริจาคเพื่อช่วยเหลือเด็กที่เป็นโรค โรงเรียนในถิ่นทุรกันดาร โครงการช่วยเหลือที่ประสบปัญหาไม่มีเงินทุนในการบริหาร ก่อนจะตัดสินใจโอนเงินบริจาคไปก็ควรศึกษาให้ดีก่อน โดยการค้นบนอินเทอร์เน็ตนี่แหละ มีหลายกรณีที่เอาเรื่องที่เคยเกิดขึ้นแล้วมาโพสต์เพื่อหลอกลวงเอาเงิน ทั้งๆ ที่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือได้เสียชีวิตไปแล้ว

     12. วุฒิการศึกษาปลอม อยากเรียนจบระดับไหนบนอินเทอร์เน็ตทำให้ท่านได้ไม่ต้องไปนั่งเรียน ไม่ต้องไปสอบ แค่เรียนออนไลน์กับเราก็ได้แล้ว เรียนครบก็ออกวุฒิให้ คนเรียนก็ดีใจที่ได้วุฒิ แต่อาจไม่รู้ว่าวุฒิที่ได้นั้นไม่ได้รับการรับรองจากสถาบันการศึกษาอื่น จะเอาไปเรียนต่อก็ไม่ได้ จะเอาไปสมัครงานก็อาจโดนปฏิเสธตั้งแต่ยังไม่สัมภาษณ์ แต่ถ้าจะเรียน Online Course ต้องตรวจสอบให้ดีก่อนว่าสถาบันที่เปิดสอนนั้นได้รับการยอมรับจากองค์กรของรัฐหรือไม่นะครับ

    13. Identity Theft ปลอมแปลงบุคคล ในหนังที่พระเอกปลอมเป็นผู้ร้ายเพื่อเข้าไปขโมยความลับมาใช้ก็ดูเท่ดี แต่ถ้าเราโดนผู้ร้ายปลอมตัวเป็นเราคงไม่สนุกนัก ที่เขาเอาข้อมูลของเราไปหลอกลวงคนอื่น เพราะเมื่อมีปัญหาเราก็จะโดนก่อน ทางที่ดีที่สุดคือหากจะรับใครเป็นเพื่อน จะอกเล่าชีวิตส่วนตัวให้ใครฟังบนโลกออนไลน์ก็ต้องระมัดระวังนะครับ

 

เพิ่มเติม //www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=7&news_id=15513&page=1v




 

Create Date : 07 พฤษภาคม 2555   
Last Update : 7 พฤษภาคม 2555 11:16:42 น.   
Counter : 1502 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  

เหมียวกุ่ย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




ยินดีต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกท่านเข้าเยี่ยมชม เว็บบล็อคแห่งนี้ หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในการชมบล็อคของกระผมนะครับ










View My Stats
New Comments
[Add เหมียวกุ่ย's blog to your web]