ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บบอร์ด Thailand Aquatic Pets เว็บบล็อคสำหรับ คนรักสัตว์น้ำ ( และ สัตว์ที่อยู่ในน้ำ ) ประเทศไทยจ้า

วิธีเก็บมะนาวให้สดนาน

ด้วย 3 เคล็ดลับจากวัตถุดิบก้นครัว ช่วยชะลออายุมะนาวเน่าเสียช้าลง ทั้งยังคงรสชาติไม่เปลี่ยน 

มะนาวที่ซื้อมาแล้วใช้ไม่หมด หากเก็บไว้นาน ๆ ผิวจะเริ่มแห้งกรอบ เมื่อบีบ หรือคั้นก็จะไม่ค่อยได้น้ำ ปัญหานี้มีวิธีแก้โดย
นำลูกมะนาวที่เหลือล้างน้ำให้สะอาด ปล่อยทิ้งไว้จนแห้ง จากนั้น ใช้กระดาษห่อแยกเป็นลูก ๆ ใส่ถุงพลาสติกมัดปากถุงให้แน่น แล้วแช่ตู้เย็นในช่องผัก 
หรือ ใช้น้ำมันพืชทาเคลือบผิวมะนาวบาง ๆ ผึ่งให้แห้งก่อนใส่ถุงพลาสติกนำเข้าตู้เย็น จะช่วยเก็บความชื้น และน้ำในผลมะนาวให้ระเหยน้อยลง ทั้งยังยืดอายุให้เน่าเสียช้าด้วย 
นอกจากนี้ อาจผ่ามะนาวที่เหลือให้หมด แล้วคั้นน้ำบรรจุภาชนะมีฝาปิดมิดชิด จากนั้น ใส่ตู้เย็นในช่องแช่แข็ง เมื่อจะใช้จึงนำมาละลาย ทำให้เก็บได้นาน และรสชาติไม่เปลี่ยน

ที่มา: //guru.sanook.com/


*************************************************************

ขอเชิญพี่ๆน้องๆ เลือกชม หนังสือ E-book ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกุ้งสวยงามชนิดต่างๆ และการเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิดได้ทีนี่ครับ

//www.ebooks.in.th/thaiaquaclub





 

Create Date : 07 กันยายน 2557   
Last Update : 7 กันยายน 2557 10:47:35 น.   
Counter : 1269 Pageviews.  

วิธีไล่แมลงวันสารพัดสูตร ให้หมดไปจากบ้าน

วิธีไล่แมลงวัน

วิธีไล่แมลงวันสารพัดสูตร ให้หมดไปจากบ้าน



 วิธีไล่แมลงวัน สำหรับคนที่กำลังถูกรบกวนจากแมลงหัวเขียว และอยากกำจัดแมลงวันให้ออกไปพ้น ๆ จากบ้านสักที วันนี้เรามีวิธีไล่แมลงวันมาบอก

  เคยเป็นไหมครับถึงแม้จะทำความสะอาดบ้านจนเอี่ยมอ่องเท่าไร แต่ก็ยังเผลอมีแมลงวันตัวจ้อยบินวนเวียนเข้ามาส่งเสียงคำรามเบา ๆ ให้รำคาญใจทุกที แถมยังไล่แล้วไล่อีกก็ไม่ยอมบินออกจากบ้านไปง่าย ๆ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอรวบรวม วิธีไล่แมลงวัน มาช่วยแก้ปัญหาให้คนที่กำลังหนักใจกับฝูงแมลงวันในบ้านอยู่ ลองไปดูวิธีกันเลยจ้า

วิธีไล่แมลงวัน

 1. น้ำยาล้างจานผสมน้ำ

           เป็นวิธีบ้าน ๆ ที่ไม่ต้องหาซื้ออุปกรณ์จากไหน เพียงแค่นำน้ำยาล้างจานมาผสมกับน้ำเปล่าในปริมาณเท่า ๆ กัน อัตราส่วน 1 : 1 จากนั้นก็นำส่วนผสมที่ได้ไปใส่ลงในกระบอกฉีดน้ำ แล้วนำไปพ่นใส่แมลงวัน จะทำให้แมลงวันหายใจไม่ออก หากไม่อยากให้ถึงตายก็พ่นแค่ละอองเบา ๆ โดยเว้นระยะห่างให้เยอะหน่อย แมลงวันก็คงเข็ดจนหนีหัวซุกหัวซุนแล้วล่ะ

2. พริกไทยป่นผสมน้ำตาลปี๊บ

           อีกหนึ่งอุปกรณ์ไล่แมลงวันที่มีอยู่ในครัว คือพริกไทยป่นและน้ำตาลปี๊บ โดยให้นำมาผสมกันให้เป็นเนื้อเหนียว ๆ แล้วนำไปป้ายลงบนกระดาษหนังสือพิมพ์เก่าเพื่อวางล่อแมลงวัน จากนั้นเมื่อแมลงวันบินมาตอมพิษเผ็ดร้อนของพริกไทยก็จะทำให้แมลงวันสิ้นใจทันที

3. น้ำเชื่อมผสมพริกไทย

           วิธีที่ยากขึ้นมาอีกหน่อย คือการมองหาน้ำเชื่อมเข้มข้นที่มีความเหนียวหนืด นำมาผสมกับพริกไทย จากนั้นใส่ภาชนะแล้วนำไปตั้งไว้ในบริเวณที่แมลงวันชุม เมื่อแมลงวันบินเข้ามาตอมก็จะติดกับดักน้ำเชื่อมเหนียวหนืด และบินหนีไปไหนไม่ได้อีก

4. ยางพาราสดผสมน้ำมันพืช

           ทำกาวดักแมลงวันแบบง่าย ๆ ด้วยการใช้ยางพาราสดมาผสมเข้ากับน้ำมันพืช ให้มีความลื่นและเหนียว จากนั้นใส่ภาชนะหรือป้ายลงบนกระดาษ อาจจะวางเหยื่อล่อนิดหน่อย เช่น อาหารบูด เมื่อแมลงวันมาตอมก็จะติดกับดัก

5. น้ำส้มสายชูผสมน้ำ

           ใช้ประโยชน์จากน้ำส้มสายชูที่มีอยู่ในบ้านด้วยการนำมาผสมเข้ากับน้ำ โดยเน้นความเข้มข้นของน้ำส้มสายชูมากกว่า จากนั้นนำใส่กระบอกฉีดหรือชุบผ้า แล้วนำไปพ่นหรือทาบริเวณมุ้งลวด และจุดที่มีแมลงวันชุม กลิ่นฉุน ๆ ของน้ำส้มสายชูจะทำให้แมลงวันหลีกเลี่ยงและบินหนีไปที่อื่น



วิธีไล่แมลงวันสารพัดสูตร ให้หมดไปจากบ้าน

6. กระเทียมต้มน้ำเดือด

           ปอกกระเทียมแล้วนำไปใส่หม้อต้มน้ำให้เดือด จากนั้นนำกิ่งไม้เล็ก ๆ มาแช่ลงไปในน้ำกระเทียมที่ต้มเดือดแล้ว แช่ทิ้งไว้จนแน่ใจว่ากลิ่นจะติดกิ่งไม้ได้นาน แล้วก็นำขึ้นไปปักไล่แมลงวันในจุดที่ชุกชุม กลิ่นฉุนของกระเทียมจะทำให้แมลงวันไม่อยากเข้าใกล้

7. รวมมิตรผักกลิ่นฉุน

           ระดมนำเอาผักสดกลิ่นฉุน เช่น ต้นหอม กระเทียม หอมแดง หอมใหญ่ หั่นให้กลิ่นออกแล้วนำไปวางไว้ตามหน้าต่าง หรือโซนที่คิดว่าแมลงวันชอบมาป้วนเปี้ยน กลิ่นฉุนตามธรรมชาติที่ถูกผนึกกำลังกันของผักสด จะทำให้แมลงวันเหม็นจนไม่อยากผ่านเลย

8. เผาเปลือกส้มตากแห้ง

           เปลือกส้มแห้งสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ไล่แมลงวันได้ เพียงแค่นำมาเผาให้เกิดควัน เพื่อให้แมลงวันบินหนีไป และนอกจากจะช่วยไล่แมลงวันได้แล้ว กลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้านยังถูกกำจัดออกไปได้ด้วย

9. ตะไคร้หอม

           เรามักจะคุ้นเคยกับสรรพคุณไล่ยุงของตะไคร้หอม แต่จริง ๆ แล้วตะไคร้หอมก็สามารถนำมาไล่แมลงวันได้ไม่ต่างกัน เพียงแค่จุดเตาดินเผาเหมือนที่ใช้ในสปา จากนั้นก็นำตะไคร้หอมใส่ลงไปเผาให้เกิดควัน กลิ่นหอมปนฉุนของตะไคร้หอม จะช่วยไล่แมลงวันและกำจัดยุงได้ในคราวเดียวกันเลย

10. น้ำหมักเหล้าขาว

           สูตรนี้เป็นสูตรจัดหนักที่จะใช้ปราบแมลงวันให้สิ้นซาก ด้วยการนำ เหล้าขาว 40 ดีกรี 1 ขวด, น้ำส้มสายชู 2 ขวด, กากน้ำตาล 1 ลิตร, น้ำเปล่า 6 ลิตร และ EM สูตรขยาย 1 ลิตร นำมาผสมให้เข้ากันแล้วหมักไว้ 21 วัน

           เมื่อถึงเวลาให้นำมาใช้ครั้งละ 15 ซีซี ผสมกับน้ำอีก 1 ลิตร หรือลองปรับให้น้อยลงในกรณีที่ใช้น้อย จากนั้นให้นำไปฉีดพ่นแหล่งกำเนิดแมลงวัน จะทำให้ไข่ฝ่อจนหมด นอกจากนี้น้ำหมักที่เหลือ ยังสามารถนำไปฉีดพ่นต้นไม้ในสวนให้งามไม่มีแมลงรบกวนได้อีกด้วย



*************************************************************

ขอเชิญพี่ๆน้องๆ เลือกชม หนังสือ E-book ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกุ้งสวยงามชนิดต่างๆ และการเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิดได้ทีนี่ครับ

//www.ebooks.in.th/thaiaquaclub





 

Create Date : 07 กันยายน 2557   
Last Update : 7 กันยายน 2557 10:45:49 น.   
Counter : 1047 Pageviews.  

มันยอดมาก!! มารู้จักกับ "Scribble Pen" ปากกาแท่งเดียวเขียนได้ 16 ล้านสี

ปัญหาสำหรับศิลปินส่วนใหญ่ที่ต้องพกปากกาหลากสี จะหมดไปในทันที เมื่อมีปากกาสุดล้ำอย่าง “สคริบเบิล เพ็น” มาแทนที่ปากกาสีทั้งหลาย อยากจะบอกว่ามันสุดยอดเกินบรรยายเลยแหละ 

scribble-pen (2)

เจ้าสคริบเบิล เพ็น มาพร้อมกับความสามารถสุดล้ำ ซึ่งมันสามารถสแกนสีจากวัตถุต่างๆ แล้วก็นำสีที่เพิ่งสแกนได้มาเขียนได้ทันที ซึ่งทางผู้คิดค้น มาร์ก บาร์กเกอร์ กับ โรเบิร์ต ฮอฟฟ์แมน ก็บอกว่า มันสามารถเก็บข้อมูลสีได้มากถึง 100,000 สี แถมยังสร้างโทนสีใหม่ได้มากกว่า 16 ล้านสีด้วย

นอกจากจะเหมาะกับศิลปินแล้ว มันยังเหมาะสำหรับคนตาบอดสี นักตกแต่งภายใน ช่างภาพ และอาชีพอื่นๆ อีกเพียบ ซึ่งสามารถเขียนได้ทั้งบนกระดาษและบนสมาร์ทโฟน ปากกาจะส่งข้อมูลสีที่เก็บมาแล้วไปยังอุปกรณ์เสริมผ่านทางบลูทูธด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกสีในการวาดรูปบนสมาร์ทโฟนได้ ว้าวววว!!

scribble-pen (1)

ส่วนวิธีการการเก็บข้อมูลสีก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่หันด้านสแกนสีของปากกาแตะลงไปบนพื้นผิววัตถุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บนกำแพงหรือผลไม้ เป็นต้น แตะไว้แค่แป๊บเดียวปากกาก็เก็บข้อมูลสีเอาไว้แล้วเรียบร้อย

scribble-pen (6)

ปากกาสุดล้ำนี้ใช้เวลาออกแบบมานานถึง 2 ปี ซึ่งก็ได้รับการปรับเปลี่ยนรูปแบบจนมาเป็นรูปทรงที่เล็กและกระทัดรัด เพื่อให้สะดวกต่อการพกพามากที่สุด

scribble-pen (12)

ซึ่งภายในตัวปากกาจะประกอบไปด้วย เซ็นเซอร์สี, หน่วยความจำภายในขนาด 1 GB, แบตเตอรี่ที่สามารถชาร์จได้, ระบบบลูทูธ 4.0, ไมโครโปรเซสเซอร์ และตลับหมึกภายใน 5 ตลับ

scribble-pen (7)

จากคอนเซ็ปสุดทึ่งของปากกาสคริบเบิล ทำให้มีคนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม สามารถระดมทุนได้ถึง 100,000 เหรียญสหรัฐ โดยใช้เวลาเพียงแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้น เกินความคาดหมายที่ตั้งงบประมาณไว้ถึง 3 เท่าเลยทีเดียว อื้อหือ!! เหมียวว่าถ้าปากกาอันนี้ออกขายเมื่อไหร่เหมียวจะไปซื้อมาใช้ซักอันบ้าง เพราะมันเจ๋งสุดๆ ไปเลย เมี๊ยววว


*************************************************************


ขอเชิญพี่ๆน้องๆ เลือกชม หนังสือ E-book ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกุ้งสวยงามชนิดต่างๆ และการเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิดได้ทีนี่ครับ

//www.ebooks.in.th/thaiaquaclub





 

Create Date : 07 กันยายน 2557   
Last Update : 7 กันยายน 2557 10:45:17 น.   
Counter : 1395 Pageviews.  

ประโยชน์ของ...ขอบขนมปัง

          หากพูดถึงขอบขนมปัง เชื่อแน่ว่าคุณผู้อ่าน ๆ หลาย ๆ ท่าน คงชอบตัด หรือเลือกรับประทานขนมปังที่ไม่มีขอบมากกว่า หลายท่านที่เป็นเช่นนี้ หากไปถามว่าทำไมต้องตัดหรือดึงขอบออกก่อนด้วย ก็มักจะได้คำตอบว่า ขอบขนมปังหรือบริเวณที่ถูกอบจนเป็นสีน้ำตาลเข้มนั้น เป็นส่วนที่ไม่มีรสชาติ ฝืดคอ เหนียว เคี้ยวยากและอีกสารพัดเหตุผล แฮ่ ๆ .. แต่ทราบมั้ยว่าขอบขนมปังที่เราทิ้งไป หรือเก็บไว้ไปโยนให้ปลาในเขาดินกินนั้น เป็นส่วนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มากกว่าที่เราคาดคิด

          ดร.โทมัส ฮอฟมานน์ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยมุนสเตอร์ประเทศเยอรมนี พบว่าขอบขนมปังที่บางคนเมินนั้น เป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระอันอุดมสมบูรณ์มากกว่าส่วนอื่น ๆ ของขนมปัง จริง ๆ แล้วก่อนหน้านี้ก็เคยมีงานวิจัยที่สรุปผลออกมาว่า ขนมปังเป็นแหล่งของส่วนประกอบบางตัวที่มีคุณสมบัติต้านมะเร็ง แต่งานชิ้นเก่า ๆ จะให้เครดิตไปที่กากใยอาหารหรือไฟเบอร์ซะมากกว่า ส่วนงานวิจัยของ ดร.โทมัส นี้ได้ระบุถึงสารต้านมะเร็งตัวใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครคาดถึงมาก่อน หัวหน้าทีมวิจัยได้ตรวจสอบขอบขนมปัง เนื้อขนมปัง และแป้งธรรมดา พบว่าขอบขนมปังมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่เรียกว่า โพรนิลไลซีน (pronyl-lysine) มากกว่าในส่วนเป็นขนมปังสีขาวถึง 8 เท่า ส่วนแป้งธรรมดานั้นกลับไม่มีเอาเสียเลย หมายความว่าสารต้านอนุมูลอิสระที่ว่านี้ จะเกิดขึ้นต่อเมื่อขนมปัง ได้ผ่านกระบวนการอบมาเรียบร้อยแล้วเท่านั้น

          สารโพรนิลไลซีนนี้เกิดขึ้นมาจาก ปฏิกิริยาของกรดอะมิโนแอล-ไลซีน แป้ง และน้ำตาลในขั้นตอนการอบ ปฏิกิริยานี้เรียกว่า ปฏิกิริยามิลลาร์ด (Maliiard reaction) ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้เกิดสีน้ำตาล บนผิวหน้าของขนมปังที่ผ่านการอบแล้ว นอกจากนั้น กระบวนการนี้ยังเป็นตัวสร้างสาร ให้กลิ่นรสชาติให้กับขนมปัง รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่น ๆ อีกด้วย กระบวนการนี้สามารถเกิดได้ ทั้งในขนมปังที่ใช้ยีสต์และไม่ใช้ยีสต์ งานวิจัยยังบอกด้วยว่าขนมปังที่มีสีน้ำตาลเข้มเช่น ขนมปังโฮลวีท จะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าขนมปังสีขาว นอกจากนี้สารต้านอนุมูลอิสระจะยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น หากก้อนขนมปังที่เข้าเตาอบมีขนาดเล็ก เพราะชิ้นขนมปังเล็ก ๆ นั้นจะมีพื้นผิวที่มากขึ้นในการเกิดปฏิกิริยาในกระบวนการนี้ หากเทียบกับขนมปังที่เป็นก้อนใหญ่ ๆ หรือเป็นปอนด์ แต่ ดร.โทมัสแกก็เตือนเอาไว้ว่า ถ้าหากพยายามอบขนมปังให้เป็นสีน้ำตาลจนเกรียมมากไป สารเคมีที่มีประโยชน์ก็จะอันตรธานไปได้ง่าย ๆ เหมือนกัน

ที่มา: //www.sanook.com

**************************************************************

ขอเชิญพี่ๆน้องๆ เลือกชม หนังสือ E-book ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกุ้งสวยงามชนิดต่างๆ และการเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิดได้ทีนี่ครับ

//www.ebooks.in.th/thaiaquaclub




 

Create Date : 01 กันยายน 2557   
Last Update : 1 กันยายน 2557 23:25:10 น.   
Counter : 1588 Pageviews.  

พบหนูเหม็น หรือสาโท สัตว์ป่าคุ้มครองครั้งแรก ปล่อยคืนป่ากุยบุรี

หนูเหม็น หรือสาโท 

หนูเหม็น

...

ชาวบ้านกุยบุรี พบหนูเหม็น หรือสาโท สัตว์ป่าคุ้มครองเป็นครั้งแรก ด้านอุทยานแห่งชาติกุยบุรี นำคืนสู่ป่าเรียบร้อย

           วันนี้ (29 สิงหาคม 2557) นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร นายอำเภอกุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า นายเอนก ศุกะศร ผู้ใหญ่บ้านไร่บน พบสัตว์ชนิดหนึ่งติดอยู่ในอวนล้อมไก่หลังบ้านของลูกบ้าน และเป็นสัตว์ที่ไม่เคยพบมาก่อน จึงได้เข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบว่าสัตว์ดังกล่าวคือ หนูเหม็นหรือสาโท ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง และเป็นสัตว์กินแมลงที่มีขนาดใหญ่ที่สุด

  ลักษณะของหนูเหม็น หรือสาโท คล้ายกับหนูขนาดใหญ่ ปลายจมูกยาวและแหลม ถิ่นอาศัยทางอยู่ภาคใต้ของไทยและคาบสมุทรมลายู ชอบหากินเวลากลางคืน หากเกิดสถานการณ์ตื่นเต้นหรือระวังภัย ก็จะปล่อยกลิ่นเหม็นออกจากตัว ด้วยเหตุนี้ชาวบ้านจึงเรียกว่า หนูเหม็น นั่นเอง

           นายพงษ์พันธ์ กล่าวว่า ในผืนป่ากุยบุรีนั้น ยังไม่เคยพบหนูเหม็นมาก่อน การพบครั้งนี้เป็นการพบครั้งแรก ดังนั้น จึงได้มอบให้อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติแล้ว และขอขอบคุณพลเมืองดีของสังคม ที่ร่วมกันปกป้องคุ้มครองสัตว์ป่าให้คงอยู่ต่อไป


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก


**************************************************************

ขอเชิญพี่ๆน้องๆ เลือกชม หนังสือ E-book ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกุ้งสวยงามชนิดต่างๆ และการเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิดได้ทีนี่ครับ

//www.ebooks.in.th/thaiaquaclub




 

Create Date : 01 กันยายน 2557   
Last Update : 1 กันยายน 2557 23:24:31 น.   
Counter : 1229 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  

เหมียวกุ่ย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




ยินดีต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกท่านเข้าเยี่ยมชม เว็บบล็อคแห่งนี้ หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในการชมบล็อคของกระผมนะครับ










View My Stats
New Comments
[Add เหมียวกุ่ย's blog to your web]