ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บบอร์ด Thailand Aquatic Pets เว็บบล็อคสำหรับ คนรักสัตว์น้ำ ( และ สัตว์ที่อยู่ในน้ำ ) ประเทศไทยจ้า

10 มารยาทควรรู้ก่อนไปเที่ยวต่างประเทศ


ต่างเชื้อชาติ ต่างภาษา ต่างถิ่น ก็มีวัฒนธรรมและประเพณีที่แตกต่างกันออกไปด้วย ดังนั้นสิ่งที่เราคิดว่าดี คิดว่าสุภาพ บางทีก็อาจกลายเป็นเรื่องเสียมารยาท หรือถึงขั้นช็อกของเขาเลยก็ได้ และ 10 มารยาท หรือวัฒนธรรมแปลกๆ เหล่านี้แหละ ที่เราควรเรียนรู้และระวังเอาไว้ ก่อนที่เราจะไปเยี่ยมชมบ้านเมืองของเขา
เครดิต : รถด่วน
แหล่งที่มา : toptenthailand

ที่มา :

10. ออสเตรเลีย

ผู้ชายนั่งแท็กซี่คนเดียว ควรนั่งข้างคนขับเพื่อให้เกียรติเขา

9. ซาอุดิอาระเบีย

สาวๆ ไม่ควรแตะตัวหนุ่มๆ ที่ไม่ใช่สามีในที่แจ้ง คล้ายๆ กับการผิดผีบ้านเราหรือเปล่านะ

8. ไต้หวัน

ไม่ควรให้รองเท้าเป็นของขวัญ เขาถือว่าเป็นขอไม่มงคล

7. รัสเซีย

ไม่ควรให้ดอกไม้เป็นจำนวนเลขคู่ เพราะนั่นแปลว่าแช่งให้คนๆ นั้นไปสู่สุขคติ (อุ้ยแรง) และดอกไม้ไม่ควรเป็นสีเหลือง เพราะหมายความว่าแช่งให้คนรักของเขานอกใจ ในเวลากินข้าวในบ้านชาวรัสเซีย ถ้าเจ้าภาพรินวอสก้ามาให้แขกต้องดื่มรวดเดียวหมด จะขมยังไงก็ต้องทน นั่นจะถือว่าหักหน้าเจ้าของบ้าน เลิกหวังได้เลยว่าจะได้มารอบสอง และชาวรัสเซียเชื่อว่าเสียงนกหวีดจะดึงดูดโชคร้ายมาให้คนในครอบครัว ใครไปเยี่ยมบ้านชาวรัสเซียแล้วเป่านกหวีด เจ้าของบ้านอาจไล่กลับทันที

6. ฮาวาย

ห้ามถอดพวงมาลัยต่อหน้าผู้ให้ (ก็เขาอุตส่าห์ให้แล้ว ใส่ต่อสักหน่อยหน่า)

5. บาหลี

ไม่ควรใช้มือซ้ายชี้หรือเรียกใคร เพราะมือซ้ายสำหรับที่นี่เขาว่ามันไม่สุภาพและไม่ให้เกียรติกัน

4. อินโดนีเซีย

ไม่ควรใช้มือซ้ายในการรับ-ส่ง ของ หรือรับประทานอาหาร ไม่ควรชี้นิ้วด้วยนิ้วชี้ แต่ใช้นิ้วโป้ง (เอ๋) หรือวิธีผายมือขวาแทน รวมทั้งไม่ควรจับศีรษะชาวอินโดนีเซีย หรือแม้แต่ลูบหัวเด็กด้วยความเอ็นดูด้วย

3. เดนมาร์ค

ห้ามถามเงินเดือนคนอื่น มันไม่สุภาพนะ แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้ใครๆ ก็อยากรู้ และคาดว่าในหลายประเทศเองก็คงไม่ชอบ แล้วก็รู้สึกว่าคนถามเสียมารยาทที่ถามในเรื่องดังกล่าวด้วยเช่นกัน

2. อินเดีย

พยักหน้าแปลว่า “ไม่” ถ้าส่ายหน้าแปลว่า “ใช่” เอ้า! งงกันใหญ่แล้วเนี่ย

1. บราซิล

ทำมือโอเคที่ประเทศบราซิล คนบราซิลเขาไม่โอเคนะ เขาถือว่าไม่สุภาพมากมาย



ขอเชิญพี่ๆน้องๆ เลือกชม หนังสือ E-book ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกุ้งสวยงามชนิดต่างๆ และการเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิดได้ทีนี่ครับ

//www.ebooks.in.th/thaiaquaclub




 

Create Date : 10 มีนาคม 2557   
Last Update : 10 มีนาคม 2557 13:07:18 น.   
Counter : 3673 Pageviews.  

6 วิธีแก้ง่วงในที่ทำงานโดยไม่ต้องพึ่งกาแฟ

คุณเคยง่วงนอนในที่ทำงานจนอยากจะใช้ไม้จิ้มฟันถ่างตาตัวเองหรือไม่? ถ้าหากว่าคุณกำลังพยายามหยุดนิสัยติดกาแฟให้ได้ภายในปีนี้ คุณทำมันได้อย่างแน่นอน!! คราวนี้ เมื่อคุณรู้สึกง่วงนอน ก็ไม่จำเป็นต้องเดินไปที่เครื่องทำกาแฟเพื่อชงกาแฟเข้มๆ สักแก้วให้ตัวเองอีกต่อไป

แต่ให้ปฏิบัติตามเคล็ดลับต่อไปนี้เพื่อให้วันทำงานของคุณดำเนินไปได้ด้วยดีโดยปราศจากกาแฟ

1. เดินไปเดินมา

จากการศึกษา พบว่า การเดินเป็นเวลา 20 นาทีสามารถเพิ่มระดับพลังงานในร่างกายของคุณให้สูงขึ้นได้และลดอาการอ่อนล้าให้หมดไป การออกกำลังกายประเภทที่มีแรงกระแทกน้อยจะทำให้คุณเกิดความรู้สึกอ่อนล้าน้อยกว่าการออกกำลังกายที่มีแรงกระแทกมาก ดังนั้น คุณจึงไม่จำเป็นต้องเดินแบบเอาเป็นเอาตายเพื่อให้เห็นผลอย่างชัดเจนทันที นอกจากนี้ จากการศึกษายังพบด้วยว่าผู้ที่ได้ออกกำลังกายจะสามารถนอนหลับได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ออกกำลังกาย (และจึงไม่ง่วงนอนในที่ทำงานนั่นเอง)

วิธีการ: เพียงแค่คุณสวมรองเท้าที่ให้ความรู้สึกสบายๆ สักคู่และเดินด้วยระยะก้าวปานกลางเท่านั้นเอง!! ซึ่งการเดินเช่นนี้เพียง 20 นาทีก็สามารถช่วยเพิ่มระดับพลังงานในร่างกายของคุณได้แล้ว

2. ใช้หูให้มากขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวไว้ว่า การฟังเพลงในขณะที่คุณทำงานอยู่นั้นจะสามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวและช่วยเพิ่มสมาธิให้แก่คุณได้อีกด้วย

วิธีการ: สวมหูฟังสบายๆ สักหนึ่งอัน แต่ห้ามฟังเพลงจากลำโพงเด็ดขาดถ้าหากว่าคุณต้องปฏิบัติงานร่วมกับผู้อื่น 

 และลองคิดดูว่าเพลงประเภทใดหรือเพลงของศิลปินคนใดที่ทำให้คุณรู้สึกตื่นตัวและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งจะมีความแตกต่างกันออกไปในแต่ละคน และแม้กระทั่งสำหรับตัวคุณเอง ก็อาจมีความชอบในประเภทของเสียงเพลงที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับว่าขณะนั้นคุณกำลังทำงานอะไรอยู่

3. พักสายตาเสียบ้าง

ถ้าหากว่าคุณไม่ละสายตาจากคอมพิวเตอร์บ้างเลย ในที่สุด คุณก็อาจต้องประสบกับปัญหาปวดศีรษะ ล้าและแสบตาได้ ดังนั้น คุณควรให้สายตาของตัวเองได้หยุดพักในเวลาที่เหมาะสมเป็นช่วงเวลาสั้นๆ บ้าง ซึ่งแน่นอนว่าจะทำตาของคุณรู้สึกสบาย

วิธีการ: ประมาณทุก 20 นาที ให้คุณมองไปที่ภาพไกลๆ สัก 20-30 วินาที ซึ่งจะช่วยให้กล้ามเนื้อตาของคุณได้ผ่อนคลายและไม่เกิดอาการล้าตา 

ำหรับการพักสายตาที่ดีที่สุด แนะนำให้คุณเดินไปที่หน้าต่างและมองออกไปด้านนอกไกลๆ ซึ่งแน่นอนว่าภาพวิวภายนอกจะทำให้คุณรู้สึกสบายตากว่ามองดูโต๊ะทำงานที่แสนรกของตัวคุณเองและของเพื่อนร่วมงานของคุณแน่ๆ


4. ยืดเส้นยืดสาย

การนั่งติดอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวันจะทำให้คุณปวดคอได้ ซึ่งอาการต่อมาก็คือคุณจะรู้สึกว่าคอแข็งและขยับคอลำบาก ดังนั้น การยืดเส้นยืดสายร่างกายเสียบ้างจะช่วยทำให้ร่างกายของคุณไม่เกิดความเหน็ดเหนือยหรืออ่อนล้ามาก

วิธีการ: การยืดเส้นยืดสายที่ดีนั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเป็นโยคีเสมอไป โดยคุณอาจค่อยๆ ยืดเส้นยืดสายที่อวัยวะส่วนต่างๆ ในร่างกายที่ละส่วนก็ได้ เช่น คุณอาจยกไหล่ขึ้นลงเพื่อลดอาการไหล่แข็งเกร็ง ซึ่งทำได้โดยโดยให้คุณนั่งหรือยืน แล้วยกไหล่ขึ้นไปชิดกับใบหู จากนั้นให้คุณบิดไหล่ให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ และค้างไว้เช่นนั้นเป็นเวลา 1-2 วินาที จากนั้นค่อยๆ ปล่อยไหล่ลงมาด้านล่างเพื่อให้ไหล่ได้ผ่อนคลาย และให้ทำเช่นนี้ซ้ำ 8 ครั้ง

5. เพิ่มพลังให้แก่ตัวเองด้วยการกินขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์

การรับประทานอาหารในมื้อใหญ่สามารถทำให้คุณง่วงนอนได้ ดังนั้น ให้คุณลองรับประทานอาหารมื้อหลักในปริมาณอาหารที่น้อยลง และตลอดวันให้คุณรับประทานขนมคบเคี้ยวที่มีประโยชน์มากขึ้นเพื่อให้เกิดพลังงานในร่างกายอย่างเพียงพอ

วิธีการ: แทนที่คุณจะซื้ออาหารขยะจากร้านค้า แนะนำให้คุณนำอาหารมาจากที่บ้านตัวเอง เช่น ถั่วลิสงทอด ผลไม้ หรือผักต่างๆ และแทนที่คุณจะรับประทานอาหารเป็นจำนวนมากในมื้อเที่ยง แนะนำให้คุณนำอาหารใส่กล่องมาจากบ้านในปริมาณที่ไม่ต้องมากโดยแบ่งเป็นมื้อเช้าและมื้อเที่ยง

6. เมื่อทุกอย่างใช้ไม่ได้ผล ให้คุณใช้น้ำเย็นในการแก้ง่วง

คงไม่มีอะไรที่จะปลุกคุณให้ตื่นได้ดีไปกว่าการใช้น้ำเย็นล้างหน้า และดื่มน้ำเย็นอีกแล้ว และเมื่อคุณได้ดื่มน้ำจนอิ่มแล้ว คุณก็คงไม่ค่อยที่จะอยากดื่มกาแฟอีกแล้วล่ะ

วิธีการ: อย่าลืมดื่มน้ำตลอดทั้งวัน การที่ร่างกายของคุณได้รับน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยทำให้ระดับออกซิเจนในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลทำให้พลังงานในร่างกายของคุณเพิ่มขึ้นและทำให้สมองของคุณสามารถคิดสิ่งต่างๆ ได้อย่างแหลมคมอีกด้วย

ที่มา: //www.unigang.com/Article/17432


**************************************************************

ขอเชิญพี่ๆน้องๆ เลือกชม หนังสือ E-book ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกุ้งสวยงามชนิดต่างๆ และการเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิดได้ทีนี่ครับ

//www.ebooks.in.th/thaiaquaclub




 

Create Date : 04 มีนาคม 2557   
Last Update : 4 มีนาคม 2557 10:21:53 น.   
Counter : 1348 Pageviews.  

"Giola" สระว่ายน้ำสวยๆที่เกิดขึ้นเองจากธรรมชาติ

Giola เป็นสระว่ายน้ำจากธรรมชาติ ที่ตั้งอยู่ในเกาะ Thassos ประเทศกรีซ ที่บอกว่าเป็นสระว่ายน้ำเพราะเป็นลักษณะคล้ายหินกร่อนเป็นวงใหญ่ๆ แล้วน้ำทะเลสีเขียวมรกตก็เข้าไปอยู่ในนั้น เลยกลายเป็นสระว่ายน้ำ ที่นักท่องเที่ยวอยากจะลองไปว่ายสักครั้งเลย สวยงามมากจริงๆ


**************************************************************

ขอเชิญพี่ๆน้องๆ เลือกชม หนังสือ E-book ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกุ้งสวยงามชนิดต่างๆ และการเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิดได้ทีนี่ครับ

//www.ebooks.in.th/thaiaquaclub





 

Create Date : 04 มีนาคม 2557   
Last Update : 4 มีนาคม 2557 10:14:06 น.   
Counter : 1819 Pageviews.  

ความอิสระที่พอดี...นิยามมารยาทโลกโซเชียล



              ในยุคที่อะไรๆ ก็ดูจะมี อิสระ เป็นของตัวเองในหลากหลายมิติ จุดตรงกลางที่เหมาะสม สิ่งที่พึงกระทำหรือมารยาทที่ควรมี ดูจะเป็นเรื่องที่ระบุพิกัดกันได้ยาก

โดยเฉพาะในโลกโซเชียลเอง ซึ่งชื่อเองก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นโลกของการติดต่อสื่อสารเข้าถึงกลุ่มเพื่อนและผู้คนใหม่ๆอย่างไร้ขอบเขตของพรมแดนและความเป็นไปได้ของโลกจริง มารยาทในโลกโซเชียล จึงกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ที่ถูกพูดถึงกันมากขึ้นว่า อิสระที่พอดี นั้นเรานิยามกันได้อย่างไร

จากผลวิจัยหนึ่งที่น่าสนใจและน่าคำนึงถึงเพื่อไม่ให้ถูกแบนเบาๆ อย่าง delete post หรือ hide feed ยกระดับเป็น unfriend หรือ unfollow และจบกันแบบถาวรด้วยการ block นั้น ค้นพบมี 5ประเด็นที่เป็นสาเหตุหลักๆจบความสัมพันธ์บนโลกโซเชียล

1.คอมเมนท์ โหดสะเทือนใจ ไม่นึกถึงจิตใจคนที่จะผ่านมาอ่าน (Social Bully)

ไม่ว่าจะอยู่ในโลกไหน ความเห็นจิตเห็นใจคนอื่นยังคงเป็นมารยาทระดับต้นๆ ที่พึงมีในมุมมองนี้หลายคนมักมองผ่านถึงประเด็นที่ว่า สิ่งที่เราโพสต์หรือคอมเมนท์นั้นไม่ได้เป็นบทสนทนาแบบหนึ่งต่อหนึ่ง ใครๆ ก็เห็นได้ ในยุคที่มีทางเลือกการสื่อสารหลายอย่าง การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเป็นบริบทแรกที่ควรคำนึงก่อนโพสต์ Instagram Direct, Facebook Messenger, LINE Chat ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับข้อความแบบสนิทส่วนตัว

2.เปลี่ยนสถานะในชีวิตจริง ไม่เคยเห็นตัวตนในชีวิตจริงไม่รู้จักกันดีไม่มีปฏิสัมพันธ์ใดๆในโลกโซเชียล (Nonsense To Be Friend)

การวิจัยระบุคนเราไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับทุกคนในโลกโซเชียลการ unfriend ลักษณะนี้มักเกิดจากผู้ใช้โซเชียลที่รู้สึกว่าเอาเข้าจริงๆ ถือเป็นคนไม่รู้จักกันหรือไม่มีความสนใจเหมือนกัน หรือจบความสัมพันธ์กันแล้วในโลกจริง อย่างใน Facebook ผู้ใช้มักติดต่อและสร้างสัมพันธ์กับคนที่รู้จักกันอยู่แล้วเท่านั้น ผิดจากความเชื่อเดิมๆ ที่ว่า โซเชียลเป็นความสัมพันธ์แบบผิวเผิน

3.ขี้โม้เป็นที่หนึ่งรักกันเหลือเกินชีวิตตนช่างเลอค่า (Bragging is My Life)

ติดอันดับต้นๆ ของการจบความสัมพันธ์โลกโซเชียล คือ การเอือมระอากับโพสต์ลักษณะโชว์ออฟอย่างเห็นได้ชัด ไม่เน้นประสบการณ์ความเป็นโมเม้นต์หลายๆนักจิตวิทยาออกมาให้แนวคิดสวนกระแสเซลฟ์ฟี่ รณรงค์ชีวิตจะมีความสุขมากขึ้นเมื่อเน้นความสำคัญที่อารมณ์ความรู้สึกที่ตนมีต่อประสบการณ์ในห้วงเวลานั้น มากกว่าการอยากได้รับความสนใจจากการไลค์

4.คอนเทนท์ไม่เหมาะสมเรื่องส่วนตัวแบบสุดโต่ง (Polarizing Subjects)

ไม่ว่าจะเป็นทัศนะทางการเมือง ศาสนา หรือเรื่องส่วนตัวมากๆ เช่น ครอบครัว ความสัมพันธ์ และสุขภาพส่วนตัวมักเป็นหนึ่งในประเด็นที่หลายคนอดรนทนไม่ได้การโพสต์ไร้สาระบ่อยๆ ยังไม่อันตรายเท่าการโพสต์ล่อเป้าครั้งเดียว เข้าลักษณะคอนเทนท์ เป็นเรื่องน่าใส่ใจกว่า frequency ในมุมนี้การเลือกกลุ่มเพื่อนสำหรับการแชร์ ถือเป็นเรื่องที่ควรทำสำหรับคอนเทนท์ที่ค่อนข้างเปิดประเด็น

5.เอะอะเป็นขายของ (Trying to Sell Me Something)

สิ่งหนึ่งที่เป็นที่น่ารำคาญคือการขายของในสิ่งที่ไม่อยากจะซื้อแต่เสียไม่ได้ สาเหตุนี้ใครๆ ก็คงจะเข้าใจได้เมื่อเพื่อนพัฒนากลายเป็นร้านค้า

ในยุคที่การ unfriend ในโลกโซเชียลง่ายกว่า การ unfriend โลกจริง การให้ความสำคัญในความสัมพันธ์ และการใส่ใจในความรู้สึกของคนอื่น เป็นสิ่งที่ต้องยิ่งคำนึงถึงในโลกโซเชียล จริงอยู่ที่ความเป็นเพื่อนโซเชียลต่างจากความเป็นเพื่อนในชีวิตจริง แต่ในขณะที่เราระบายความรู้สึกและแสดงออกความเป็นตัวตนอย่างอิสระ ก็ควรเคารพพื้นที่ส่วนตัวคนอื่น ใส่ใจว่าคนอื่นอยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับเราและจะรู้สึกอย่างไรกับเราบ้าง


ที่มา: //www.soccersuck.com/boards/topic/1010317


**************************************************************

ขอเชิญพี่ๆน้องๆ เลือกชม หนังสือ E-book ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกุ้งสวยงามชนิดต่างๆ และการเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิดได้ทีนี่ครับ

//www.ebooks.in.th/thaiaquaclub




 

Create Date : 04 มีนาคม 2557   
Last Update : 4 มีนาคม 2557 10:08:38 น.   
Counter : 1252 Pageviews.  

10 เรื่องน่ารู้กับหนังบ้านผีปอป

วันนี้ทางทีมงาน toptenthailand ขอนำเสนอ 10 เรื่องน่ารู้กับหนังบ้านผีปอป ไปดูกันเลยค่ะว่าจะมีเรื่องอะไรบ้างที่น่าสนใจ

10.สิ่งสืบเนื่อง

บ้านผีปอบ มีอิทธิพลต่อภาพยนตร์ในรุ่นหลัง ๆ ที่มักมีสไตล์ที่เลียนแบบหรือล้อเลียนมา อย่างเช่น ในปี 2551 มีภาพยนตร์เรื่องบ้านผีเปิบ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากบ้านผีปอบ แต่มีเนื้อเรื่องและสไตล์ที่ต่างกัน ตามยุคตามสมัย ในปีเดียวกันภาพยนตร์เรื่อง ว้อ ... หมาบ้ามหาสนุก ที่มีภาพลักษณะชาวบ้านวิ่งหนีหมาบ้า คล้ายๆ กับบ้านผีปอบ

9.ความนิยม

บ้านผีปอบ เป็นภาพยนตร์เกรดบี ในภาคแรกเวลาฉายจะไม่ค่อยได้รอบพิเศษเหมือนภาพยนตร์เกรดเอ จนในภาคสอง มีบางโรงภาพยนตร์ฉายเพิ่มรอบมิดไนท์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของภาคสามและก็ทำเรื่อยมา ซึ่งจากรายได้ที่ฉาย ในกรุงเทพจะได้ไม่มากนัก แต่ในต่างจังหวัดอย่างในภาคอีสานและภาคเหนือหนังประสบความสำเร็จทุกภาค ครั้งหนึ่งขณะถ่ายทำภาค 7 ที่เขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ มีคนมามุงดูการถ่ายทำอยู่มาก และมีคนมาขอลายเซ็นณัฐนี สิทธิสมาน, เกียรติ กิจเจริญ, ธงชัย ประสงค์สันติ สามดารานำในเรื่อง ทั้งคนไทยและกัมพูชากันแน่นขนัด

8.ภาค

ภาพยนตร์เรื่องบ้านผีปอบมีมาตั้งแต่ ปี 2532-2554 ซึ่งปัจจุบันมีหลายภาคมากค่ะ ซึ่งใครสนใจก็ลองไปหาดูกันนะคะ

7.ปอบ

ในแต่ละภาคจะมีผีปอบอย่างน้อย 1 คนที่คอยปั่นป่วนชาวบ้านเสมอ ในภาคแรกปอบคือ ยายทองคำ (รับบทโดย สุชาดา อีแอม) มีเอกลักษณ์ตรงใบหน้าที่ดุร้าย ไม่ค่อยมีอารมณ์ขันมากนักสำหรับภาคแรก (ยายทองคำกลับมาอีกครั้งในภาค 11) คนต่อมาคือ ยายหยิบ หมอผีประจำหมู่บ้าน ผู้เล่นของและคุณไสย จนกลายเป็น ปอบหยิบ (รับบทโดย ณัฐนี สิทธิสมาน) ซึ่งปรากฏตัวครั้งแรกในภาค 2 ลักษณะท่าทางยังคงความน่ากลัวอยู่ จนภาค 3 ที่ปรับให้เพิ่มความตลกขบขันจนได้รับเสียงตอบรับที่ดี ปอบหยิบมีเอกลักษณ์คือ ท่าหยิบ ที่ได้แรงบันดาลใจจากไก่ต้มที่โดนสับคอแล้วปีกจะกระดกขึ้นมา ส่วนในภาค 8 ปอบหยิบจะหายไป และมีปอบคนใหม่ คือ ผีปอบฝรั่งชื่อ แอน (รับบทโดย วิกกี้ สาริกบุตร) เนื่องจากเปลี่ยนผู้กำกับจาก ศรีสวัสดิ์ ที่กำกับมาตลอด 7 ภาค มาเป็น ธงทอง แต่ก็ล้มเหลว จนปอบหยิบต้องกลับมาอีกครั้งในภาค 9 เป็นต้นมา

6.เนื้อหา

โครงเรื่องของภาพยนตร์เรื่อง บ้านผีปอบ จะคงโครงเรื่องเดิม ๆ ไว้ คล้ายๆ กันทุกภาค แต่จะเปลี่ยนมุกตลกต่างๆ เนื้อเรื่องหลักคือ กลุ่มแพทย์จากกรุงเทพฯ ที่มารักษาชาวบ้าน เจอเหตุการณ์แปลกๆในหมู่บ้าน อันเนื่องมาจากการอาละวาดของผีปอบ ชาวบ้านก็ต่างหาวิธีจับผีปอบ แต่สุดท้ายก็โดนผีปอบอาละวาดกลับ โดยลักษณะจุดเด่นของบ้านผีปอบคือ การวิ่ง ไล่หนีกันระหว่าง ผีปอบ และ ตัวละครในเรื่อง

5.การถ่ายทำ

ในภาคแรกได้งบประมาณในการสร้างน้อยมาก ใช้เวลาถ่ายทำที่สุพรรณบุรีเพียง 7 วัน และใช้นักแสดงหน้าใหม่เกือบทั้งหมด ในภาคต่อมาเริ่มมีเงินทุนมากขึ้น มีเวลาถ่ายทำมากขึ้น ตั้งแต่ 10-20 วัน จนภาค 13 ใช้เวลาถ่ายทำถึง 2 เดือน

4.ที่มา

ในช่วงที่ตลาดหนังไทยยังพอไปได้ แต่ยังไม่ค่อยดี บริษัทกรุ๊ฟโฟร์ ที่มีทีมงานอยู่ไม่กี่คนได้รวมตัวกันเพื่อจะสร้างหนัง ซึ่งคิดว่าหนังผีน่าจะเป็นทางออกที่น่าจะประสบความสำเร็จได้ มีความเสี่ยงน้อยที่สุด โดยช่วยกันหาเงินมาทำหนัง เรื่องหนึ่งใช้เงินประมาณ 4 แสนกว่าบาท โดยประเด็นที่เลือกคือผีปอบ เพราะเคยมีหนังผี กระสือ หรือ แม่นาคพระโขนง และคิดว่าการนำเสนอเรื่องผีปอบที่ชาวบ้านเล่าลือกันมากในแถบภาคอีสานเป็นสิ่งใหม่และไม่มีใครทำมาก่อน

3.นักแสดง

ในภาคแรกผู้รับบทผีปอบคือ สุชาดา อีแอม และ ตัวละคร ปอบหยิบ เริ่มมีตั้งแต่ภาคที่ 2 รับบทด้วย ณัฐนี สิทธิสมาน บ้านผีปอบภาคที่ 5 ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น พันธุ์ผีปอบ 34 เนื่องจากมีปัญหาบางประการ เนื่องจากภาคนี้ ณัฐนี สิทธิสมาน ไม่ได้เล่น และบ้านผีปอบข้ามภาค 12 ไป เนื่องจากถือเคล็ดว่าไม่เป็นหนังโหล กลายเป็นภาคที่ 13

2.ความสำเร็จ

ความประสบความสำเร็จในภาคแรกๆ ทำให้มีการสร้างภาคต่อๆมา และกลายเป็นภาพยนตร์สยองขวัญผสมเบาสมอง โดยเน้นความตลกเบาสมองเสียมากกว่า แต่ก็ทำให้ ปอบหยิบ โด่งดังและเป็นที่รู้จัก อย่างดี ในภาพยนตร์จะมีวิธีการหนีผีแปลกๆ แบบหนีลงตุ่ม วิ่งหนีขึ้นต้นไม้ เหาะข้ามคลอง หรือแม้กระทั่ง แกล้งผีปอบต่างๆนาๆ เช่น ทาสีทำเป็นประตูลวง เป็นต้น หรือตัวผีปอบเองก็มีวิธีวิ่งไล่จับคนแปลกๆเช่น เช่น ขี่บั้งไฟ ขี่มอเตอร์ไซค์ ใช้พัดสันกำแพงเป็นต้น โดยมีณัฐนี สิทธิสมาน ที่ได้ฉายานามว่า เจ้าแม่ผีปอบ ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ ซีรี่ยส์ภาพยนตร์เรื่อง บ้านผีปอบ

1.บ้านผีปอบ

บ้านผีปอบ เป็นภาพยนตร์ไทย ประเภทหนังผีประเภทผสมความตลกขบขัน ที่มีการสร้างถึง 14 ภาคตั้งแต่ปี 2532 – 2554 เป็นหนังที่นำเอาตัวละครผีปอบมาจากนิยายเรื่องของ เหม เวชกร

ซ้ำขออภัย
ที่มา: //www.toptenthailand.com/



**************************************************************

ขอเชิญพี่ๆน้องๆ เลือกชม หนังสือ E-book ที่น่าสนใจเกี่ยวกับกุ้งสวยงามชนิดต่างๆ และการเลี้ยงสัตว์น้ำหลายชนิดได้ทีนี่ครับ

//www.ebooks.in.th/thaiaquaclub




 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2557   
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2557 23:14:35 น.   
Counter : 2816 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  34  35  36  37  38  39  40  41  42  43  44  45  46  47  48  49  50  51  52  53  54  55  56  57  58  59  60  61  62  63  64  65  66  67  68  69  70  71  72  73  74  75  76  77  78  79  80  81  82  83  84  85  

เหมียวกุ่ย
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




ยินดีต้อนรับพี่ๆน้องๆทุกท่านเข้าเยี่ยมชม เว็บบล็อคแห่งนี้ หวังว่าทุกท่านจะมีความสุขในการชมบล็อคของกระผมนะครับ










View My Stats
New Comments
[Add เหมียวกุ่ย's blog to your web]