โฆษณาเพลงใต้ดินในห้องน้ำ ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
โฆษณาเพลงใต้ดินในห้องน้ำ : ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
1.
จบเพลงสุดท้ายปลายชั่วโมง ก่อนสามทุ่มคืนนี้ ผมปิดท้ายด้วยเพลง โฟล์คเหน่อ ซึ่งเป็นเพลงในอัลบั้มของตัวเอง
เด็กเสิร์ฟสาวเข้ามาบอกผมข้างเวทีว่าให้ไปเซ็นหน้าปกเทป ที่โต๊ะแขกด้วย เธอบอกว่ามีหลายโต๊ะ ที่ซื้อเทปคืนนี้
พี่วันนี้ เทปพี่ขายได้เกือบ 10 ม้วนเลยนะ รวยเละเลยวันนี้ ทิ้งทายในเชิงแซวสัพยอกเล่นตามประสาคนคุ้นเคย ขี้เล่น
ไม่บ่อยนักหรอก ที่ในแต่ละคืน จะมียอดขายเทปทะลุเกิน 5 ม้วน
เทปที่ผมว่านั้น หมายถึงเทปเพลงของผมเอง ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ผม แต่งเอง ร้องเอง และขายเองด้วย นั่นแหละครับ
แต่งเอง ร้องเอง นั้นเป็นหน้าที่ของผมเพียว ๆ แต่ตอนขายนั้น จะว่าขายเองซะทีเดียวก็อาจจะไม่ได้ คนที่ขายให้ผมถ้าจะว่าไปแล้ว ช่วงที่เล่นประจำในร้านอาหาร ส่วนใหญ่ก็ให้เด็กเสิร์ฟช่วยขายนะครับ
อัลบั้มเพลงชุดโฟล์คเหน่อ ซึ่งเป็นเพลงชุดแรกนั้น เป็นช่วงระยะเวลาที่ผมยึดเวทีร้านเพลงเพื่อชีวิต เป็นฐานที่มั่นในการแสดง และนำเสนอผลงาน ช่วงนั้นผมยังไม่ได้ทำแผ่นซีดี ยังคงมีแต่เทปที่ขายเป็นหลักอยู่ เทปราคาขายม้วนละ 80 บาท หักเปอร์เซ็นต์ให้เด็กเสิร์ฟ ๆ ไป 15 บาท เหลือ 65 บาท หักลบกลบต้นทุนแล้วก็น่าจะเหลือกำไรเฉลี่ย ม้วนละ 40 บาท คืนหนึ่งถ้าเกิดเจอแขกเมาหนักหูอื้อ ตาลาย เกิดฟังเพลงของผมไพเราะเสนาะหู แล้วควักเงินซื้อซัก 10 ม้วน วันนั้นผมก็จะมีรายได้นอกเหนือจากค่าร้องเพลงประจำ เพิ่มขึ้นอีก 400 บาท
โอโห.. ไม่เบา คืนละ 400 บาท
แต่เสียใจด้วยครับ โอกาสแบบนี้ เท่าที่จำได้ 1 ปี จะมีถึง 5 ครั้งหรือเปล่าไม่รู้
อาภัพเหลือเกิน ศิลปินโฟล์คเหน่อ (อ้อนเหมือนลิเกเลยครับคุณแม่ยก)
2.
พี่ลำภา ไปดูโปสเตอร์ของพี่ในห้องน้ำด้วย ผมว่าแกะออกดีกว่า ดูไม่ดีเลย ไอ้หนุ่ย กัปตันร้านเดินมาก้มกระซิบบอกผมใกล้ ๆ หู ขณะที่ผมกำลังวางมาดทำตัวเป็นศิลปินใหญ่ แจกลายเซ็นต์บนปกเทปให้กับแขกโต๊ะข้างเวที
ทำไมละผมถามด้วยความสงสัย
พี่ไปดูเอง แล้วกัน
โฆษณาในห้องน้ำ นี่คืออีกวิธีหนึ่ง ที่ผมใช้เจาะกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคเพลงใต้ดิน
การปิดโปสเตอร์ให้อยู่ในระดับสายตาของคนยืนเยี่ยว นั่งขี้ นั่งฉี่ นั้นผมถนัดครับ ตรงเผงเล็งตรงเป้าเลยแหละ ยกเว้นคนอ๊วกครับ ผมหาตำแหน่งติดโปสเตอร์ให้เขาอ่านไม่ถูกจริง ๆ
เหนือโถเยี่ยวขึ้นไปซัก 30 นิ้ว เนี่ย รับรองไม่มีพลาด สำหรับคนเยี่ยวราดจะต้องอ่าน
ถ้าเป็นชักโครก ก็ต้องไล่ระดับตั้งแต่พื้นไต่ขึ้นไป บวกลบกับความสูงของชักโครกแล้ว ก็ต้องสุงมาจากพื้นอยู่ที่ ประมาณ 40 นิ้ว ครับ คือระดับสายตาของคนนั่งอุจจาระอ่านครับ
ไม่มีวิธีการโฆษณาแบบยัดเยียดวิธีไหนดีไปกว่าวิธีนี้อีกแล้วครับ สำหรับเพลงใต้ดินของผม
3.
ผมยืนตะลึง เหมือนต้องมนตรา คาถาจังงัง ทันทีที่เข้าไปเห็นโปสเตอร์โฆษณาแผ่นหนึ่ง ที่ปิดอยู่เหนือโถเยี่ยวโถหนึ่งในห้องน้ำชาย
ภาพที่ผมนั่งเล่นกีตาร์โปร่ง ใบหน้าอมยิ้มนิดหน่อยนั้น ดู่เท่ห์ หล่อเหมือนสรพงษ์ ชาตรี แต่ความผิดปกติแบบเด่นชัด ขัดเขิน เกินไปจากที่เคยเป็นอยู่ขณะนี้ก็คือ ที่ส่วนปลายจมูกของผมนั่นสิครับ ไม่รู้ไอ้ขี้เมามือบอน ตอนยืนเยี่ยวคนไหน ดันใช้ปากกาเมจิกสีน้ำเงินลากเส้น ขนาด 1.0 มิลลิเมตร ต่อยอดปลายจมูกของผมเพิ่มออกมา จนกลายเป็นรูปศิวลึงค์เหี่ยวห้อยย้อยแบบคนหมดสมรรถภาพทางเพศทุเรศเหลือร้ายทารุณ
ทำไมมันถึงวาดได้น่าเกลียดขนาดนั้น
ไวเท่าความคิดติดจรวดอาร์พีจีครับ
ผมตัดสินใจแกะแผ่นโปสเตอร์นั้นออก ก่อนที่แขกคนเข้าห้องน้ำคนต่อไปจะเข้ามาเห็น
เป็นสัญชาตญาณของคนขี้อาย นั่นแหละครับ ขืนปล่อยทิ้งไว้เดี๋ยวจะเป็นข่าวลือตลกโปกฮา ให้เพื่อนหัวเราะเยาะอีก
คนรักก็มี คนเกลียดก็มีผมคิดในใจ ขณะขยุ้มแผ่นโปสเตอร์เหวี่ยงลงถังขยะ หน้าห้องน้ำชาย แต่มิได้มีอารมณ์ถือโทษโกรธเคือง
4.
พี่วันนี้เทปพี่ขายได้ 12 ม้วนเลยนะ เป็นประวัติการณ์ รวยใหญ่แล้วพี่เรา แคชเชียร์สาวแซวผมอีกเมื่อผมไปเก็บเงินค่าเทปที่ขายได้ในคืนนี้
ผมไม่ได้ตอบอะไร ได้แต่หัวเราะหึ หึ ก่อนหิ้วกีตาร์ออกมาหน้าร้าน
ขณะขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซด์ก่อนสตาร์ทเครื่อง ผมแอบใช้มือคลำที่กระเป๋ากางเกงลายพรางทหาร เพื่อให้แน่ใจว่าแผ่นโปสเตอร์ ที่ผมแอบไปเก็บกลับคืนมามาจากถังขยะหน้าห้องน้ำชายยังอยู่หรือเปล่า
ไม่แน่อาจมีคนหวังดีลงคาถามหาเสน่ห์ ค้าขาย ร่ำรวย ในแผ่นโปสเตอร์แผ่นนี้ก็ได้
ผมรำพึงในใจเมื่อแน่ใจว่าแผ่นโปสเตอร์ขยุ้มยู่ยี่ยังอยู่ในกระเป๋ากางเกง ก่อนสตาร์ทรถฝ่าความมืดออกมาจากร้าน
เพลงโฟล์คเหน่อ
Create Date : 23 สิงหาคม 2550 | | |
Last Update : 3 กันยายน 2550 23:53:23 น. |
Counter : 1089 Pageviews. |
| |
|
|
|