ตลอดค่ำคืนสภาพร่างกายและอาการเจ็บแปลบ ยังคงเหมือนเดิม ไม่ทุเลาแต่ก็ไม่หนักขึ้น กลับจากบ้านไร่ ในเวลาเกือบตีสาม ด้วยสภาพร่างกายที่อิดโรยและเจ็บแปลบ ผมทิ้งตัวลงนอนหลังกรอกยาแก้อักเสบ และพาราเชตามอล แอบบอกกับตัวเองว่า อาจไม่มีวันพรุ่งนี้ แต่การปิดเปลือกตาของค่ำคืนนั้น มันเป็นการหลับนอน ที่เต็มไปด้วยความฝันอันเกี่ยวพันกับอาการเจ็บแปลบ และสะดุ้งไอเกือบทั้งคืน กว่าจะได้หลับสนิทก็เกือบ 2 โมงเช้า ด้วยความอ่อนเพลียหรืออาจเป็นเพราะความเจ็บปวดทุเลาลงก็ไม่ทราบได้ มารู้สึกตัวอีกทีก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงวัน อาการปวดแขนและร่างกายส่วนขวาเริ่มทุเลาลง แต่อาการเจ็บแปลบข้างในตอนไอ ยังคงเป็นปกติ ผมตั้งคำถามถามตัวเองอีกครั้ง ว่าควรไปหมอดีหรือไม่ จวบจนบ่ายจนเกือบถึงค่ำ ผมยังคงนอนนิ่งโดยมิได้หลับใหล อยู่ในบ้านเช่าอย่างโดดเดี่ยว ก่อนหกโมง ผมกัดฟันแบกความเจ็บปวดและเหนื่อยล้าของร่างกาย สู่ร้านประจำที่เล่นดนตรี เพื่อผลักภาระแห่งเสียงเพลงให้ผ่านพ้นชั่วโมง แล้วกลับมาทิ้งตัวนอนซมกลางบ้านเช่าอีกครั้ง หลังสองทุ่ม ผ่านค่ำคืนอีกคืนด้วยอาการกึ่งหลับกึ่งฝัน เพื่อสู่ช่วงเช้าตรู่ของอีกวัน พร้อมกับหมายกำหนดการ เลี้ยงอาหารกลางวันเด็ก ๆ ที่โรงเรียนสะพรังกร่าง อำเภอสองพี่น้อง ในโครงการ พี่ให้น้อง ของรายการที่นี่สุพรรณ ตลอดช่วงครึ่งวันกับกิจกรรมร่วมกับเด็ก ๆ ผมลืมอาการเจ็บแปลบที่อกด้านขวา |
ว่าตกลงผมใกล้เวลาจะกลับบ้านหรือยัง
เผื่อว่าคุณ อาจต้องเตรียมอะไร...
สำหรับผู้หญิงที่รอคุณอยู่ที่บ้านหนึ่งคน
โรคภัยย่อมเกิดขึ้นได้
เร็วช้าทุกชีวิตมีวันดับ
แต่หากชะลอได้
ก็น่าจะทำ
หาหมอเถอะเนาะ
หวังว่าจะได้กลับมาอ่านอาการที่ดีขึ้น
หลังจากคุณไปหาหมอ