โฟล์คเหน่อ เล่นดนตรี เขียนกวี วิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำสุพรรณฯ

Group Blog
 
All blogs
 
กวีหนุ่ม ห้องเช่า ในคืนค่ำอันหนาวเหน็บ

กวีหนุ่ม ห้องเช่า ในค่ำคืนอันหนาวเหน็บ

...1...

บางขณะชีวิตของคนเรานั้น บางครั้งในขณะความหม่นเศร้าอาจถูกคละเคล้าด้วยหม่นแสงแห่งเรื่องตลกร้ายซึมแทรกเข้าไปพร้อม ๆ กันจนไม่อาจแยกแยะขณะห้วงอารมณ์ว่าควรจะหัวเราะหรือร่ำไห้ดี

เฉกเช่นกรณีตัวอย่างของกวีหนุ่มอย่างผมคนหนึ่ง กับบางช่วงขณะชีวิตที่อ้างเอ่ยเอาเองว่าเป็นช่วงแห่งการแสวงหาความหมายของชีวิตแบบสุด ๆ นั้น

ในช่วงคืนวัน มักมีโจทย์ข้อยาก ๆ ให้กวีหนุ่ม ต้องหาวิธีแก้ไขอยู่อย่างสม่ำเสมอมิได้ขาด โดยเฉพาะโจทย์ที่ว่าด้วยเรื่องปากท้องและที่อยู่อาศัย

โจทย์ข้อหนึ่งในช่วงต้นเดือนพฤศจิกา ปี 35 เป็นโจทย์อีกข้อที่กวีหนุ่มอย่างกระผม ก็ต้องฝ่าผ่านไปให้ได้ แม้ขณะฝ่าผ่าน ผมก็บอกตัวเองไม่ได้ว่าผมควรจะตีหน้าเศร้าหรือหน้าระรื่นยิ้มขณะบอกเล่าเรื่องราวกับท่านดี....

...2...

ในช่วงดึกดื่นคืนฟ้ามืดและเหน็บหนาว....

ทันทีที่บานหน้าต่างถูกแง้มออก เงาของเพื่อนนามโจ สีน้ำก็ผลุบหายเข้าไปในห้องมืดห้องนั้น ขณะเดียวกันกับผมก็ค่อย ๆ เกาะขอบหน้าต่างบานเดียวกัน แล้วปีนขึ้นนั่งค่อมที่ขอบหน้าต่าง ก่อนจะค่อย ๆ วางเท้าของตัวเองลงบนฟื้นอีกฝั่งในห้องมืด .........

ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องมืดอันคุ้นชิน ผมก็ค่อย ๆ วางร่างอันอ่อนล้า เพลีย ลงนอนกับพื้นกระดานห้อง โดยมีเงาร่างของโจนอนตะแคงสงบนิ่งอยู่ก่อนแล้ว

ในความมืดดำและเงียบสนิท ผมได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของใครบางคน....อยู่ใกล้ ๆ

...3...

ต้นเดือนตุลา 2535 ขณะลมหนาวเริ่มโชยพัด......

ชะตากรรมกวีหนุ่มอย่างผม ต้องระหกระเหินแบบทันตั้งตัว ที่เรียกว่าทันตั้งตัวเพราะรู้อยู่แล้วว่าหลังสิ้นเดือนเจ้าของหอเขียวที่ถูกเบี้ยวค่าเช่า ต้องไล่พวกเราออกในฐานะลูกหนี้ไม่มีจ่ายแน่นอน

ที่เรียกว่าพวกเราเพราะมีอยู่ด้วยกัน 3 กวีหนุ่มหน้าราม (ไม่เอ่ยนาม)

แต่ละกวีจึงไปกันคนละทิศ ละทาง.....

ลังกระดาษหลายขนาดหลายยี่ห้อ ถูกบรรจุด้วยหนังสือ และต้นฉบับงานเขียน ขนขึ้นรถตุ๊ก ๆ ไปสู่บ้านพี่ชายกวีใจดีอีกคนหนึ่งที่อนุญาตให้ผมไปร่วมพักอาศัยได้ ด้วยชั่วคราว

หอเช่าไม้ บริเวณท้ายซอยหน้าราม ของพี่ชายกวีและพนักงานจัดอาร์ตเวิร์ค หนังสือมาตุภูมิรายสัปดาห์ มีผมเป็นผู้ร่วมอาศัยอีกคน ในช่วงตลอดเดือนตุลาคม....

แต่แล้ว พอครั้นสิ้นเดือน ชีพจรก็ลงส้นเท้าของชีวิตผมอีกครั้ง....

พี่ชายใจดี เกิดย้ายห้องอย่างกระทันหันเพราะเหตุผลส่วนตัว โดยบอกกล่าวล่วงหน้ากับผมเพียงแค่ช่วงข้ามวัน

โจ สีน้ำ เพื่อนกวีและคนเขียนรูป จากชมรมวรรณศิลป์ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับผม โดยให้เก็บของทั้งหมดไปไว้ที่วัดลานนาบุญ แถว ๆ สวนหลวง ร. 9

เมื่อไม่มีทางเลือกให้กับวิถีชีวิตมากนัก การไปเป็นลูกศิษย์วัดตอนแก่ จึงไม่ใช่เรื่องยากที่จะตัดสินใจของกวีไร้ที่ซุกหัวนอน......

วัดลานนาบุญ ที่ โจ สีน้ำบอก นั้นมีเพื่อนที่ชื่อ หล้า อาศัยอยุ่ก่อนแล้ว อาศัยว่าหล้ามีบารมีเป็นญาติห่าง ๆ กับเจ้าอาวาส ขั้นตอนการเข้าไปอยู่อาศัยเป็นลูกศิษย์วัดชั่วคราวจึงไม่ใช่เรื่องยากนัก.

หากเป็นสภาวะปกติ การที่จะผกผันชีวิตไปเป็นลูกศิษย์วัด ตอนอายุหลังวัยเบญจเพศก็เป็นเรื่องที่ยากจะทำใจ....

แต่ในสภาวะที่ไม่มีทางไป หากวัดลานนาบุญจะมีลูกศิษย์ เป็นกวีผมยาว หนาวเคราเฟิ้มอีกสักคนก็ไม่ใช่เรื่องน่าเกลียดนัก ในความคิดของผม

อาจเป็นความเคยชินของศิลปินกวีหน้ารามหรือไรไม่ทราบ หลังวันขนข้าวของไปเก็บไว้ที่วัดหมดแล้ว ในช่วงค่ำผมและโจ สีน้ำ กลับเดินเล่นเตร็ดเตร่ อยู่แถว ๆ หน้ารามอย่างสบายใจ โดยลืมไปว่ารถโดยสารที่วิ่งเข้าวัดลานนาบุญอันเป็นพำนักพักอาศัยแห่งใหม่ นั้นหมดลงตั้งแต่ 3 ทุ่ม แล้ว

ขณะที่หมดอารมณ์เตร็ดเตร่ กับการพบปะ เพื่อนฝูง เดินดูหนังสือ ก็เป็นเวลาเกือบห้าทุ่ม

ผมและโจนั่งเหนื่อยล้า และหิว อยู่หน้าร้านหนังสือดอกหญ้าหน้าราม

ขณะภาวะของกวีไร้ที่นอนคืนนี้เป็นปัญหาให้ต้องหาทางแก้ไข

เมื่อไล่เรียงรายชื่อเพื่อนพ้อง จนหมดแล้ว ก็ให้รู้สึกเกรงใจที่จะไปร่วมขอพักอาศัยได้ในคืนนี้

แวบความคิดของผม ก็ผุดพรายขึ้นมาแบบ เสมือนให้ชีวิตต้องลองเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย อีกสักครั้ง กับภารกิจการย้อนรอยสู่ห้องหอพักท้ายซอย ที่บอกคืนฐานะผู้เช่าไปแล้วเมื่อช่วงกลางวัน.......

ผมและโจ สีน้ำ ตัดสินใจเดินเข้าซอยที่มีห้องเช่าเดิมซ่อนตัวอยู่ท้ายซอย เพื่อกลับเข้าไปอาศัยแบบชั่วคราวในฐานะของผู้ลักลอบแอบขโมยเข้าไปอาศัยนอน......

โชคดีห้องเช่าเดิมยังไม่มีผู้เข้ามาเช่าต่อ และหน้าต่างยังไม่ถูกลงกลอน..........

...4...

ในความมืดดำและเงียบสนิท ผมได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกของใครบางคน....อยู่ใกล้ ๆ

ด้วยความเมื่อยล้า อ่อนเพลีย และหิว ผมกำลังปล่อยตัวเองให้หลับใหลท่ามกลางความหนาวเหน็บ ในขณะเดียวกัน ในห้วงแห่งการหลับนอนคืนนี้ ผมบอกกับตัวเองให้พึงระวังและหวาดระแวงอยู่เสมอ ว่า ผมสองคนควรอย่างยิ่งที่จะต้องตื่นแต่เช้ามืด ....กว่าทุก ๆ วัน

เพื่อเราจะได้มีเวลา สำหรับการปฏิบัติภารกิจ ปืนป่ายหน้าต่างหนีออกจากห้องเช่าห้องเดิม พร้อม ๆ กันในช่วงก่อนตะวันจะโผล่พ้นฟ้าของวันพรุ่ง และควรจะเป็นเวลาก่อนที่เจ้าของหอพักจะตื่นมาพานพบกับ กวีหนุ่มพเนจร สองคนนอนหลับอุตุอยู่ในห้องที่ยังไม่มีบัญชีผู้เช่าอาศัย จนอาจให้เป็นเรื่องเป็นราว อันน่าอับอายแก่วงการกวีได้..........

โบกรถ เดินทาง ขึ้นภาคเหนือไปกับ โจ สีน้ำ

3 กวี พิทักษ์ ใจบุญ/โจ สีน้ำ/ลำภา มัคศรีพงษ์

สู่เชียงใหม่ กับ ศิริวร แก้วกาญจน์




Create Date : 14 กันยายน 2550
Last Update : 14 กันยายน 2550 11:28:49 น. 3 comments
Counter : 547 Pageviews.

 
แวะมาทักทายครับ


โดย: ตาอ้วนชวนคุย วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:7:42:00 น.  

 
((ผมก็บอกตัวเองไม่ได้ว่าผมควรจะตีหน้าเศร้าหรือหน้าระรื่นยิ้มขณะบอกเล่าเรื่องราวกับท่านดี....))

ผ่านพ้นคืนวันอันหนาวเหน็บมาแล้วน่าจะหันไปยิ้มให้กับความแข็งแกร่งของตนนะคะ

เป็นกำลังใจให้คุณค่ะ


โดย: ฟ้า (ฟ้ากระจ่าง ) วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:10:43:18 น.  

 
แวะมาเยี่ยมรายวันครับ


โดย: น้าวัชร-จัดให้ วันที่: 14 กันยายน 2550 เวลา:12:46:39 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

โฟล์คเหน่อ
Location :
สุพรรณบุรี Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผลงานโฟล์คเหน่อ

สี่สิบสอง นักเขียน คนบ้า กวีหน้าราม กีตาร์โปร่ง
Friends' blogs
[Add โฟล์คเหน่อ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.