:::น้ำตาลูกผู้ชาย:::
น้ำตาลูกผู้ชาย.... มีเหตุผลมากมาย ที่มนุษย์ผู้อ่อนไหวจะหลั่งน้ำตา ไม่ใช่เรื่องแปลก หากจำนวนนับที่ได้เห็นผู้หญิงร้องไห้อย่างเปิดเผย มีปริมาณมากกว่าผู้ชาย ... แต่นับจำนวนน้อยครั้ง ที่ได้แอบเห็นหน่วยน้ำใส เอ่อคลอร่วงล้นเผยผ่านสองขอบตาผู้ชาย ที่นั่งอยู่ตรงหน้า.... มีเหตุผลอันใดที่เขาต้องร้องไห้ .... ขณะที่เรามิอาจล่วงรู้ที่มา ที่ไป ของหยาดน้ำตา และเสียงสะอื้น และขณะภาพชัดเจน จากการแต่งกาย และวิถีที่เขากำลังดุ่มเดิน ไปข้างหน้า อาจมองดูเหมือนว่าเป็นเหตุผลแห่งหยาดน้ำตา แต่อาจไม่ใช่ ยังคงมีคำถามและข้อสงสัยอีกมากมายภายในใจให้เราสงสัย ถึงเหตุผลที่เขาต้องร้องไห้ แต่เกินกว่าจะขุดค้น ด้วยคำถาม.... แค่ขณะปริ่มน้ำตาของเขาที่เห็น พร้อมมือที่ยกปาดป้าย ข้าพเจ้า ก็รีบหลบเบือนหน้าหนี ปานประหนึ่งจะร้องไห้ตามเขาไปด้วย
ก้าวเท้าเหยียบย่างเข้าร้านก๋วยเตี๋ยวเพิงหมาแหงนของ ป้ายา เป็นปรกติเช่นทุกวันช่วงหลังเที่ยง สังเกตเห็นมีชายสองคนนั่งอยุ่ก่อนแล้ว ผมเดินเลี่ยงไปนั่งอีกโต๊ะที่อยุ่เยื้องกัน แล้วหยิบหนังสือพิมพ์ มาก้มหน้าอ่าน โดยมิได้สนใจผู้ชายสองคน หลังเติมเครื่องเส้นหมี่น้ำตกเนื้อสดลูกชิ้น เสร็จ เตรียมคีบเข้าปาก ผมได้ยินเสียงจากผู้ชาย หนึ่งในสองคน พูดออกมาดัง ๆ ว่า ไป ไปกันต่อ ผมแอบชำเลือง เห็นชายคนชักชวน คว้าถุงกระสอบปุ่ยมีหูขึ้นคล้องไหล่ แล้วลุกยืน ขณะอีกมือคว้าถุงผ้าลายรูปทรงยาว 2 ศอก เข้าใจว่าเป็นถุงผ้าบรรจุแคน ผมแอบคาดเดาว่าชายสองคนคงเป็นวณิพก ที่ตระเวนเดินทางเป่าแคนขอสตางค์ เหมือนดั่งที่ผมเคยพบเห็นอยู่ทั่วไป ขณะที่ผมกำลังนึกคำนวณถึงเม็ดเงิน ที่ซ่อนอยู่ในกระเป่ากางเกงของผม ทุก ๆ ครั้ง หากมีเงินอยู่ในจำนวนที่มากพอในกระเป๋า ไม่ว่าจะพบเห็น วณิพกขอทาน ในรูปแบบใด หรือในสถานที่ใด ผมไม่เคยลังเลที่จะหยิบยื่น เงินบางส่วนในกระเป๋า ลงสู่ขัน หรือกระป๋องของพวกเขา แต่วันนี้ผมมีเงินอยุ่ในกระเป๋า 30 บาท พอดีกับค่าก๊วยเตี๋ยว 2 ชาม เป็นก๊วยเตี๋ยว 2 ชาม ที่ไม่ต้องสั่ง เพราะเป็นที่รุ้กันระหว่างแม่ค้าก๊วยเตี๋ยวกับผม ที่ใช้บริการทุกวัน ชายอีกคนยังไม่ลุกขึ้น ยังคงใช้ช้อนกวาดน้ำก๊วยเตี๋ยวขึ้นซด มีเสียงพูดนำขึ้นอีกจากชายคนลุกยืน เป็นคำพูดที่ผมจับใจความไม่ได้ แต่ประโยคสุดท้ายผมได้ยินชัดเจน ว่า อดเหมือนหมา สุดท้ายเป้าสายตาของผมจึงหันกลับไปมองชายที่ยังคงนั่งกวาดน้ำก๊วยเตี๋ยวอยู่ เพิ่งสังเกตุเห็นชายคนที่ยังนั่งอยู่นั้น บริเวณจมูกของเขาแหว่งหาย เห็นแต่รูโหว่อยู่ 2 รู แต่ให้ตายเถอะ ผมเห็นเหมือนเขากำลังแสดงอาการร้องไห้ และหันมองมาที่ผม ผมรีบหลบหน้าก้มมองหนังสือพิมพ์ ขณะที่ชายคนลุกยืน กำลังขนสัมภาระสองชิ้นออกไป ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่าขาทั้งสองของเขาลีบเล็ก และเดินไม่ปกติ ขณะหันกลับมาเหลือบมอง ชายอีกคนยังคงนั่ง ทันทีที่เห็นเขายกมือป้ายน้ำตาที่ไหล ผมก็รีบเบือนหน้าหลบทันที ก๊วยเตี๋ยวชามที่ 2 ของผมถูกยกมาวาง ขณะชามแรกผมยังกินไม่ถึงครึ่ง ผมรู้สึกสงสารพวกเขาจับใจ.... แต่มีเหตุผลติดขัดบางอย่าง ขณะที่ภายในใจอยากหยิบยื่นความช่วยเหลือให้พวกเขา ไม่ทันจะคิดหาทางออก เรื่องเงินจำนวนจำกัดในกระเป๋า พวกเขาก็เดินพ้นออกจากชายคาร้านก๊วยเตี๋ยวไปเสียแล้ว..... ผมคิด หากวันนี้ผมมีเงินติดตัวมากกว่านี้ หรือหากป้ายาไม่รีบทำก๊วยเตี๋ยวชามที่สองให้ผมเสียก่อน ผมคงไม่เสียเวลาลังเล ที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือเป็นเงินให้พวกเขา แต่วันนี้จำนวนเงินผมมีจำกัดเกินไป.... มีเหตุผลมากมายที่คนเราจะร้องไห้ หลั่งน้ำตา.... แต่เกินกว่าจะขุดค้นหาคำตอบ ด้วยคำถาม.... แค่ขณะปริ่มน้ำตาของเขาที่เห็น พร้อมมือที่ยกปาดป้าย ข้าพเจ้า ก็รีบหลบเบือนหน้าหนี ปานประหนึ่งจะร้องไห้ตามเขาไปด้วย ขณะลุกขึ้น เตรียมควักเงินให้ป้ายา ผมเพิ่งสังเกตเห็นว่ามีชามก๊วยเตี๋ยวเพียงชามเดียววางอยู่บนโต๊ะของชายวณิพกสองคนที่ลุกจากไป.... สองคนนั่น เขาสั่งก๊วยเตี๋ยวชามเดียวหรือป้ายา ผมถาม ด้วยอดเก็บความสงสัยเอาไว้ไม่ได้ อีมน์ แบ่งกันกิน เสียงป้ายาตอบ ขณะรับเงิน 30 บาท จากมือผม ผมก้าวออกจากร้าน มองผ่านไปบนถนนใหญ่ ทั้งแยกซ้าย แยกขวา ไม่มีเงาของชายสองคนแล้ว นึกถึงตู้ ATM ที่อยู่ในเมือง ที่ต้องขับรถเข้าไปกดเงินอีก 3 กิโลเมตร คำนวณการเดินทางของชายสองคนคร่าว ๆ ว่าไปถึงช่วงไหนแล้ว วางแผนการเดินทางให้ตัวเอง ก่อนสตาร์ทรถมุ่งเข้าเมือง ระหว่างทางสอดส่ายสายตาหาชายสองคน ขณะที่ในกระเป๋าผมเอง ตอนนี้ไม่มีเงินเหลือติดอยู่สักบาทเดียว........ เพลงร้าวราน ศิลปินโฟล์คเหน่อ ขับร้อง
Create Date : 19 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2551 15:55:55 น. |
|
10 comments
|
Counter : 699 Pageviews. |
|
|
โอกาส-ชีวิต ของแต่ละคนบางครั้งมันก็ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหวนะคะ
สะท้อนใจจังเลย
ปล. เพลงเพราะจังนะคะ....