Group Blog All Blog
|
นิทานชวนฉงน
ดนย์ จากนิทานสอนให้รู้ เป็นนิทานสอนให้คิด การสอนให้คิดดีกว่าสอนให้รู้ เพราะจะรู้จักไตร่ตรองแก้ไขปัญหา ที่แตกต่างกันไป ไม่เหมือนกันในแต่ละครั้ง นิทานเป็นเรื่องราวสมมติที่เขียนขึ้นเพื่อสอนเด็ก ให้รู้ว่าสิ่งใดดีควรทำและสิ่งใดไม่ดีไม่ควรทำ ตามหลักคุณธรรมโดยไม่ต้องจ้ำจี้จ้ำไชให้ทำตาม เมื่อเด็กอ่านจะได้คิดและเกิดสำนึก ที่จะเลือกทำในสิ่งที่ถูกที่ควรในความคิดของเขาเอง เมื่อสังคมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้และจดจำคำสอนอาจไม่เพียงพอ ความสลับซับซ้อนของสังคมที่เคยสอนให้รู้และจดจำ แต่ไม่เคยสอนให้คิดเป็นและแก้ปัญหาได้ อาจจะไม่เหมาะกับโลกในยุคไอที นิทานเล่มนี้ต้องการฝึกทักษะการคิด ให้เด็กคิดเป็นมากกว่าจะจดจำได้ และเลียนแบบสิ่งที่คนอื่นทำมาแล้ว ยุคที่ประชาธิปไตยเบ่งบาน เด็ก ๆ ต่างเรียกร้อง สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค เราผู้ใหญ่คงไม่เพิกเฉยที่จะช่วยเสริมส่งให้เขาเข้าใจหลักการประชาธิปไตย และรู้จักคิดที่จะสร้างสรรค์อย่างสวยงาม นิทานชวนฉงน #ดนย์ #Ookbee #MEB ราคาขาย 3.99 USD ราคาขายผ่าน AIS 99.00 THB ราคาขายผ่าน Website และ Android 120.00 THB เรื่อง ช้างพังสาวในป่าใหญ่
เรื่อง ช้างพังสาวในป่าใหญ่ การก้าวขึ้นมาเป็นใหญ่ มีอำนาจวาสนาเหนือกว่าใคร ๆ เกิดขึ้นได้ด้วยสิ่งใด แบบแผน จารีตประเพณี ความเก่งกล้าสามารถ หรือสิบทอดทางสายโลหิต วันนี้ย่ายังง่วนอยู่กับการดูทีวีที่มีแต่สงครามกลางเมืองของผู้คนในอีกซีกโลกหนึ่ง ดูทีวีพลางบ่นไปพลางว่า ช่วงนี้บ้านเมืองยังไม่สงบสุข ไม่ว่าที่ไหนที่ไหนดูมันจะยุ่งเหยิงไปเสียทุกหย่อมหญ้า ถึงแม้จะอยู่ในยุคที่หลายคนคิดว่าเราเจริญถึงขีดสุดแล้วก็ตาม ความเจริญทางเทคโนโลยีก้าวอย่างก้าวกระโดด จนคนอยู่ไกลแสนไกลสามารถพูดคุยติดต่อกันราวกับห่างกันแค่คืบ แต่ทำไมหนอผู้คนจึงยังคิดขัดแย้งและต้องการรบราฆ่าฟันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทำไมไม่คิดว่าความสงบสุขและสันติสุขเกิดขึ้นได้ง่ายนิดเดียวเพียงแต่ยอมลดความอยากมีอยากได้ลงคนละนิดละหน่อยเท่านั้น ย่าบ่นอีกว่าย่าแก่แล้ว สมัยที่ย่ายังเป็นเด็กจนเป็นสาวเต็มตัว ไม่เห็นว่าบ้านเมืองจะยุ่งวุ่นวายเท่านี้เลย เกือบทุกแห่งหนตำบลไม่ว่าบ้านเราบ้านเขามันดูยุ่งเหมือนยุงตีกัน สมัยก่อนคนมีอำนาจเขามีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดกันจริง ๆ ไม่มีโลกสื่อสารที่รู้กันไปทั่ว บ้านใดเมืองใดก็ยุ่งกันแต่ในประเทศของตน ไม่มีการเข้าไปก้าวก่ายในประเทศอื่น แล้วย่าแต่งนิทานให้หลานฟังอีกเรื่องเกี่ยวกับการก้าวขึ้นมาเป็นหัวหน้าช้างในป่าใหญ่ ย่า ในป่าแห่งหนึ่งมีช้างป่าใหญ่โขลงหนึ่งพวกมันรวมตัวอยู่ด้วยกันมาช้านาน จนวันหนึ่งเกิดภัยพิบัติ พวกมันจำเป็นต้องอพยพย้ายถิ่นไปหาถิ่นทำกินใหม่ บังเอิญเสียเหลือเกินหัวหน้าช้างหรือจ่าโขลงเกิดล้มป่วยลง พวกมันจำเป็นต้องหาหัวหน้าช้างตัวใหม่เพื่อที่จะได้เป็นผู้นำทางและดูแลช่วยเหลือตลอดเส้นทางการอพยพ เหล่าช้างทั้งหลายได้มาประชุมปรึกษาหารือกันว่า ควรจะเลือกตัวใด หลายเสียงตะโกนว่า ต้องเป็นช้างพลายเท่านั้นช้างพังห้ามยุ่ง อีกหลายเสียงตะโกนสนับสนุนว่า ใช่ ต้องเป็นช้างพลายและต้องเป็นช้างอาวุโส มีบางเสียงบ่นพึมพำว่า ทำไมต้องเป็นช้างพลายในเมื่อช้างพังที่ฉลาดมีหลายตัวทำไมต้องกีดกันทางเพศกันด้วย ดนย์ ช้างพลายกับช้างพังต่างกันตรงไหนครับ ย่า ช้างพลายเป็นช้างตัวผู้ส่วนช้างพังเป็นช้างตัวเมีย ดนย์ ผมคิดว่าสมัยนี้ผู้หญิงผู้ชายนี่เขาแย่งกันเป็นใหญ่ ถ้าเป็นสมัยก่อนผู้ชายเป็นใหญ่โดยไม่ยอมเปิดโอกาสให้ผู้หญิงมาแย่งได้เป็นอันขาด แล้วธรรมชาติเพศหญิงต้องมีลูกเลี้ยงลูก แต่สมัยนี้ไม่ใช่ซะแล้ว ย่า สมัยนี้ผู้หญิงที่เก่ง ๆ มีมากและโอกาสของก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำมีมากเป็นเงาตามตัวด้วยแน่นอนเรื่องนี้เสียงที่บ่นย่อมต้องมาจากปากของช้างพังเท่านั้น บางเสียงตะโกนแข่งขึ้นมาว่า ใช่ต้องเป็นช้างพลายแต่ไม่จำเป็นต้องอาวุโสควรดูที่ฝีมือและความสามารถในการเป็นผู้นำที่ตัดสินใจได้เป็นอย่างดีต่างหาก เสียงที่บ่นพึมพำเมื่อสักครู่เริ่มรวมตัวกันได้จึงตะโกนแข่งขึ้นมาว่า ทำไมต้องเป็นเฉพาะช้างพลายในเมื่อช้างพังเป็นผู้ให้กำเนิดทุกชีวิต ย่อมสมควรเป็นผู้มีอำนาจกับทุกชีวิตได้เช่นเดียวกันและพวกเราก็รู้กันว่า ช้างพังมีฝีมือการเป็นผู้นำไม่แตกต่างจากช้างพลายเลย ข้อสำคัญ ช้างพังจะมีฝีมือในการประนี ประนอมมากกว่า พวกเราคิดว่า ควรสนับสนุนผู้ที่มีฝีมือไม่ใช่ดูที่เพศ และไม่นับว่าอาวุโสเป็นสิ่งสำคัญ หลายเสียงที่ตะโกนแข่งกันดังมาก ต่างฝ่ายต่างตะเบ็งเสียง ให้เสียงของตนดังกว่าเสียงของตัวอื่นจนไม่อาจฟังเสียงใดได้ชัดเจนเลย ดนย์ นิทานเรื่องนี้เป็นการแย่งชิงเพื่อขึ้นสู่การเป็นผู้นำที่มีอำนาจเหนือผู้อื่นอีกแล้ว ผมไม่เข้าใจจริง ๆ เลย ทำไมอยากมีอำนาจกันนัก แล้วนี่ยิ่งวุ่นวายกันใหญ่ทั้งช้างพังช้างพลายช้างหนุ่มช้างสาวช้างแก่ แต่ละกลุ่มมีพวกพ้องของตน แล้วใครจะชนะกันล่ะครับ ย่า มันเป็นเรื่องธรรมดาและเป็นธรรมชาติ คิดเสียอย่างนี้จะได้มองทุกสิ่งที่เกิดขึ้นโดยใจเราไม่เดือดร้อน ไม่วุ่นวายไปตามกระแส แล้วถ้าอยากฟังนิทานให้จบคงต้องดูว่าแต่ละกลุ่มก้อนจะมีวิธีเอาชนะกลุ่มอื่นได้อย่างไร เวลาของการทะเลาะเบาะแว้งแย่งกันพูดผ่านไปเนิ่นนานมากจนช้างพังสาวตัวหนึ่งคงจะอดรนทนไม่ไหวจึงตะโกนเสียงดังสั่งให้ทุกตัวเงียบ แน่นอนด้วยเสียงอันดังกลบเสียงของช้างทุกตัวที่แข่งกันพูด ช้างทุกตัวเริ่มเงียบเสียง ไม่รู้ว่า เงียบเพราะเชื่อฟังเสียงของช้างพังสาวตัวนี้หรือว่าเพราะพวกมันเหนื่อยหมดแรงกันแล้ว ดนย์ ผมเคยได้ยินมาว่าถ้าเป็นช้างป่าเราจะเรียกว่าตัว ถ้าเป็นช้างในเมืองจะเรียกว่าเชือก ย่า ใช่ตามที่หลานรู้ ถ้าเป็นช้างป่าเราจะเรียกว่าตัว ถ้าเป็นช้างในเมืองจะเรียกว่าเชือก เรื่องนี้ช้างทุกตัวอยู่ในป่า การเรียกว่าตัวจึงน่าจะถูกต้องแล้ว ช้างพังสาวตัวนี้เริ่มแสดงภาวะผู้นำมันบอกด้วยที่เสียงที่มันคิดว่า สงบนิ่งที่สุดซึ่งจะเป็นเสียงที่แสดงอำนาจได้ดีกว่าเสียงตะโกนโหวกเหวกหรือโวยวาย แล้วจึงพูดว่า ถ้าพวกเราตะโกนแข่งกันเช่นนี้คงหาคำตอบไม่ได้ว่า ใครควรสืบทอดอำนาจเป็นหัวหน้าตัวใหม่ เรามาตั้งกติกาง่าย ๆ ก่อน ดีไหม ให้นำเสนอความคิดทีละตัวแล้วสรุปประเด็นทั้งหมดเรียบเรียงหลักเกณฑ์ในการเลือกหัวหน้าแล้วจึงให้ทุกตัวออกเสียงลงประชามติ พวกเราทั้งหมดคิดว่าที่นำเสนอมานี้ดีไหม ช้างทุกตัวเห็นด้วย บอกว่า เข้าท่าดีเหมือนกัน ดนย์ การที่ช้างทุกตัวเงียบและยอมฟังเสียงช้างพังสาวตัวนี้แสดงว่าช้างพังสาวตัวนี้ย่อมเก่งเอาการนะครับ การเสนอความคิดเห็นแล้วมีบางตัวยอมรับหรือส่วนมากยอมรับแสดงว่า ทุกตัวเริ่มยอมรับซะแล้ว เพราะถ้าทุกตัวแย่งกันพูดด้วยเสียงอันดังและไม่มีใครฟังใครเช่นนี้ คงเลือกจ่าโขลงตัวใหม่ไม่ได้แน่ ๆ ย่า ช้างพังสาวตัวนี้ได้โอกาสบอกว่า เราขอเป็นผู้นำชั่วคราวได้ไหม ช้างทุกตัวเออออห่อหมก ไม่คัดค้าน ปล่อยให้ช้างพังสาวดำเนินการต่อไป หารู้ไม่ว่า ขณะที่ช้างพังสาวทำงานในฐานะผู้นำชั่วคราวนี้ ช้างหลายตัวมองเห็นภาวะผู้นำได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น พวกมันเริ่มได้คิดว่า หัวหน้าช้างไม่จำเป็นต้องดูที่เพศ หรือดูที่อาวุโส แต่ต้องดูที่ความสามารถในการจัดการกับภาวะยุ่งยากที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดีเหมือนเช่นเมื่อครู่ เหล่าช้างทั้งหลายวุ่นวายหาระเบียบไม่ได้แต่ตอนนี้ไม่ใช่เพราะช้างพังสาวหรอกหรือที่ทำให้ทุกอย่างดูง่ายดายขึ้น ไม่วุ่นวายและทะเลาะวิวาทกัน ดนย์ ผมคิดว่าคนเก่งยังไงต้องเก่งและแสดงฝีมือว่าเป็นคนเก่งออกมาได้วันยังค่ำ ย่า ขั้นตอนทุกอย่างเป็นไปตามแผนการที่ช้างพังสาวได้วางไว้มีการกำหนดหลักเกณฑ์หรือคุณสมบัติของผู้ที่จะสมัครเป็นหัวหน้าช้างซึ่งจะกำหนดเพียงอายุขั้นต่ำเท่านั้นนอกนั้นทุกตัวมีสิทธิเสมอภาคทัดเทียมกันและจะให้มีการอภิปรายเพื่อเรียกคะแนนนิยมจากช้างตัวอื่น ดนย์ ทำเหมือนคนเลยนะนี่ มีระบบมีขั้นมีตอนที่ชัดเจน ย่า นิทานเรื่องนี้ทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่า ช้างตัวใดหนอที่จะมีโอกาสได้เป็นหัวหน้าช้างตัวใหม่ ช้างพังสาวจะมีโอกาสได้เป็นด้วยหรือไม่ ช้างทุกตัวจะคิดเห็นเหมือนกันคงเป็นไปไม่ได้จำต้องอาศัยเสียงส่วนใหญ่เป็นตัวตัดสิน อาจจะมีช้างหลายตัวที่คิดว่า อาวุโสสำคัญ หรืออาจมีช้างเก่งหลายตัวที่คิดว่าความสามารถย่อมเหนือกว่าอาวุโส ช้างพลายหลายตัวอาจรวมตัวกันเพื่อแสดงว่าเพศผู้สำคัญที่สุด ในขณะที่ช้างพังหลายตัวรวมตัวกันเพื่อต่อสู้ว่าเพศแม่ย่อมสำคัญกว่า ช้างบางตัวอาจมองเห็นว่า ช้างพังสาวมีภาวะผู้นำสูงสุดในขณะนี้สมควรเป็นหัวหน้าช้างตัวจริงต่อไป ดนย์ นิทานของย่าไม่เคยให้คำตอบชัด ๆ สักที ผมเลยไม่รู้ว่าแล้วช้างตัวใดกันแน่ได้เป็นหัวหน้าช้างโขลงนี้ ย่า หลานต้องการให้ช้างตัวใดเป็นตัวนั้นคงได้เป็น ถ้าทุกคนคิดเห็นเหมือนกันส่วนใหญ่ คำตอบคงชัดเจนขึ้น ปัญหายังไม่จบถึงแม้จะคิดเห็นเหมือนกันส่วนใหญ่แต่ถ้าส่วนน้อยยังไม่ยอมรับและคอยตีรวนอยู่ร่ำไป ดนย์ ช้างตัวที่ได้มีโอกาสเป็นหัวหน้าคงหาความสงบสุขไม่ได้ ถ้าเสียงส่วนน้อยคอยตีรวน แต่ถ้าเสียงส่วนน้อยยอมรับว่าวันนี้ตนพ่ายแพ้และคอยหาโอกาสแสดงฝีมือเพื่อที่จะได้เป็นหัวหน้าในโอกาสต่อไปน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ ผู้ที่สามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองในยามคับขันให้เกิดสันติสุขได้ ผู้ที่เป็นอัศวินขี่ม้าขาวแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ ผู้ที่มีภาวะผู้นำสูงสุดเท่านั้นจึงจะมีโอกาสได้เป็นผู้นำที่แท้จริง และสมควรจะได้ปกครองบ้านเมือง
2 เรื่อง เกิดมาเป็นนางพญาผึ้ง
2 เรื่อง เกิดมาเป็นนางพญาผึ้ง ด้วยจารีตและประเพณี ที่สืบทอดต่อกันมา ไม่ว่าจะเป็นทั้งอำนาจ ความคิดความเชื่อ เมื่อจะล้มเลิกให้จบที่รุ่นเรา จะทำได้จริงหรือไม่ยังสงสัยอยู่ วันนี้ย่านั่งดูสารคดีเรื่องการเลี้ยงผึ้งและเอาน้ำผึ้งไปขาย น้ำผึ้งเป็นสินค้าที่มีราคาสูงมาก ยิ่งถ้าผึ้งได้กินน้ำจากเกสรดอกไม้ที่หอมหวานมาก ๆ น้ำผึ้งจะมีคุณค่าสูงต่อร่างกาย จนกลายเป็นส่วนผสมในยาไทยหลายอย่าง บางคนบอกว่า แค่กินน้ำผึ้งวันละช้อนทำให้อายุยืนยาว ทำราวกับว่าน้ำผึ้งเป็นยาอายุวัฒนะ บางคนบอกว่ากล้วยน้ำว้ามีคุณค่าทางอาหารสูง ยิ่งถ้าเป็นกล้วยน้ำว้าที่สุกมาก ๆ จนสีผิวออกจุดด่างดำยิ่งมีคุณค่าอาหารสูงมากขึ้นเท่านั้น บางคนเถียงว่า สุกมากเท่าไร น้ำตาลในกล้วยจะสูงมาก คนแก่ที่มักเป็นโรคเบาหวาน ไม่ควรกิน อันตราย เลยแนะให้กินกล้วยน้ำว้าห่าม ๆ แทน ถ้าเอากล้วยน้ำว้าแช่ในน้ำผึ้งให้ครบ 6 เดือน ถือว่าสุดยอดดีต่อร่างกาย ย่าเลยคิดนิทานที่มีผึ้งเป็นตัวเอกของเรื่อง ดนย์หลานรัก นั่งฟังอย่างงง ๆ ย่าคุยเรื่องน้ำผึ้ง แล้วเลยไปเรื่องกล้วยน้ำว้าได้อย่างไรกันนี่ แต่สุดท้ายย่าไม่ลืมที่จะวกกลับมายังเรื่องที่อยากเล่าไม่ได้ อิอิ ย่า ผึ้งเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ แต่มีพิษร้าย ถ้าใครโดนฝูงผึ้งต่อยเนื่องด้วยไปโดนรังผึ้งไม่ว่าด้วยเหตุใด อาจต้องแลกกับชีวิตของคนนั้นทีเดียวโดยเฉพาะคนที่แพ้ง่าย แล้วผึ้งเป็นสัตว์ที่แปลกประหลาดจากสัตว์อื่นตรงที่ตัวเมียเป็นใหญ่สุด ในรังผึ้งย่อมจะต้องมีนางพญาผึ้งเพียงตัวเดียว มันเป็นกฎของธรรมชาติ ดนย์ ผึ้งแปลกกว่าสัตว์อื่นนะครับที่ตัวเมียเป็นใหญ่ ย่า ใช่แล้ว นางพญาผึ้งจะตัวใหญ่ที่สุดในรัง ธรรมชาติจะสร้างความสมดุลให้กับรังผึ้งที่มีผึ้งประเภทต่าง ๆ ครบถ้วน เอาล่ะ เริ่มนิทานเรื่องผึ้งเลยแล้วกัน กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วที่ รังผึ้งรังหนึ่งมีผึ้งหนุ่มตัวหนึ่งรูปร่างแข็งแรงล่ำสัน ถึงแม้มันจะรับรู้มาตั้งแต่แรกเกิดว่า ผึ้งตัวเมียตัวเดียวเท่านั้นที่จะได้เป็นนางพญาผึ้งมีอำนาจเหนือผึ้งทุกตัวและพระเจ้าเป็นผู้ที่มอบอำนาจนี้มาเป็นสิ่งที่ผึ้งทุกตัวจะขัดขืนอำนาจนี้ไม่ได้ ตอนที่ผึ้งหนุ่มเกิดมาไม่นานนักได้มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจเกิดขึ้น คือ นางพญาผึ้งตัวเดิมใกล้จะหมดอายุขัย มันจะต้องให้กำเนิดนางพญาผึ้งตัวใหม่ต่อไป ในรังผึ้งรังนี้ ผึ้งทุกตัวต่างตื่นเต้นที่จะได้เห็นนางพญาผึ้งตัวใหม่ มันคงสวยสง่าสมกับที่พระเจ้าส่งมันมา ผึ้งหนุ่มตื่นเต้นเช่นกันและวันที่มันได้เห็นหน้านางพญาผึ้งตัวใหม่ มันเกิดหลงรักอย่างโงหัวไม่ขึ้น คงจะเรียกว่ารักแรกพบ มันคิดว่า มันยอมทุ่มกายถวายชีวิตให้กับนางพญาผึ้งตัวใหม่นี้อย่างจริงใจ ขณะที่มันรอคอยความรักที่นางพญาผึ้งตัวใหม่จะมอบให้กับมันนั้น มันอดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมผึ้งตัวเมียตัวเดียวจึงมีอำนาจเหนือผึ้งทุกตัวในรัง ดนย์ ทำไมจึงต้องมีนางพญาผึ้งเพียงตัวเดียว ทำไมผึ้งตัวผู้จึงไม่มีโอกาสได้เป็นใหญ่บ้าง ทำไมผึ้งจึงแตกต่างจากสัตว์อื่นที่ตัวผู้มักเป็นใหญ่กว่า ย่า ผึ้งหนุ่มตัวนี้คิดเช่นเดียวกัน มันคิดว่า ทำไมจึงต้องมีนางพญาผึ้งเพียงตัวเดียว ทำไมผึ้งตัวผู้จึงไม่มีโอกาสได้เป็นใหญ่บ้าง ทำไมผึ้งจึงแตกต่างจากสัตว์อื่นที่ตัวผู้มักเป็นใหญ่กว่า ทำไมชีวิตของผึ้งจึงแตกต่างจากชีวิตของสัตว์อื่นที่มันไปพบเห็นเพราะสัตว์ส่วนมากเพศผู้เท่านั้นที่ได้เป็นใหญ่ ทำไมต้องมีการสืบทอดอำนาจจากนางพญาผึ้งตัวเดิมมาสู่นางพญาผึ้งตัวใหม่โดยที่ผึ้งตัวอื่นไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะเข้าสู่สนามชิงชัยเพื่อที่ได้รับคัดเลือก ทำไม และทำไม ผึ้งตัวผู้ตั้งหลายตัวจึงไม่รวมตัวกัน เพื่อยึดอำนาจจากนางพญาผึ้งตัวเดียว ถ้าพวกเรารวมตัวกันได้ ชัยชนะย่อมเป็นของผึ้งตัวผู้ส่วนใหญ่แน่นอน ผึ้งหนุ่มตัวนี้เก็บเอาข้อสงสัยทั้งหมดไปคุยกับปู่ทวดผึ้งในที่ลับตาแห่งหนึ่ง ปู่ทวดบอกว่า ตั้งแต่ปู่ทวดเกิดมาก็รับรู้และเห็นเช่นนี้มาตลอด ไม่มีผึ้งตัวใดคิดเห็นเช่นเจ้าเลย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ยินเจ้าพูดเช่นนี้ มันคงเป็นลิขิตสวรรค์ที่มีมาตั้งแต่ครั้งโบราณกาล พวกเราคงเปลี่ยนแปลงสิ่งใดไม่ได้หรอก เจ้าอย่าคิดมากให้ปวดหัวเลย ดนย์ สิ่งที่เคยเกิดขึ้นและคงอยู่มานานกลับกลายเป็นความเคยชิน ไม่มีใครจะคิดแก้ไขให้เปลี่ยนไปจากเดิม ปู่ทวดเป็นตัวแทนของคนรุ่นเก่าที่เคยชินกับสิ่งที่เกิดขึ้นทุกเมื่อเชื่อวันและยอมรับจนไม่เคยแม้แต่จะคิดว่าควรเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ย่า เมื่อผึ้งหนุ่มฟังปู่ทวด มันไม่คิดเช่นเดียวกับคำบอกของปู่ทวด มันวางแผนในใจว่าจะต้องเป็นผู้ก่อการที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรังแห่งนี้ให้ได้ มันจะต้องเป็นนายพญาผึ้งหนุ่มตัวแรกและต่อไปอำนาจจะสืบทอดจากผึ้งตัวผู้เท่านั้นเช่นเดียวกับสัตว์ส่วนมากในโลก ดนย์ ต้องอย่างนี้ซิถึงจะเรียกว่าคนรุ่นใหม่พร้อมจะเปลี่ยนแปลง อะไรไม่ดีเรามีหน้าที่ต้องทำให้ดีขึ้น ย่า นิทานเรื่องนี้ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า พระเจ้ามอบอำนาจให้แก่ผู้มีอำนาจจริงหรือแล้วการสืบทอดอำนาจจากผู้มีอำนาจรุ่นแรกไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานโดยสายโลหิตเป็นอำนาจอันชอบธรรมจริงหรือ ผึ้งหนุ่มตัวนี้จะก่อการเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ ผึ้งส่วนใหญ่จะร่วมมือกับผึ้งตัวนี้หรือในเมื่อมันเป็นธรรมชาติ มันเป็นความเชื่อที่สืบทอดต่อกันมานาน ถ้าผึ้งหนุ่มตัวนี้เปลี่ยนแปลงได้สำเร็จเท่ากับมันทำร้ายนางพญาผึ้งตัวใหม่ที่มันหลงรักยิ่งกว่าดวงใจมันจะกล้าทำเชียวหรือ ดนย์ ปกติความรักมักทำให้คนตาบอด แต่ถ้าอุดมการณ์แรงควรจะชัดเจนว่าจะเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องในความคิดของตน หรือไม่ยอมให้นางพญาผึ้งตัวใหม่มีชีวิตรอดเพื่อจะได้เป็นคู่ชีวิตของตนแต่ต้องลดฐานะลง ย่า ธรรมชาติมักจะเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกชีวิตเสมอ การที่มีนางพญาผึ้งสืบทอดอำนาจต่อกันมานั้นคงมีเหตุผลเบื้องหลัง เช่น นางพญาผึ้งอาจเกิดจากยีนที่แข็งแรงที่สืบทอดกันมาจึงทำให้เกิดรูปร่างใหญ่โตและมันสมองที่ฉลาดปราดเปรื่อง การสืบทอดอำนาจจึงเป็นกฎของธรรมชาติที่ต้องการให้ผู้ที่ฉลาดและแข็งแรงได้ปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า นิทานเรื่องนี้ไม่ได้สรุปว่า ในที่สุดรังผึ้งแห่งนี้จะเป็นเช่นไรแล้วหลานต้องการให้ผึ้งหนุ่มเป็นผู้ชนะหรือให้นางพญาผึ้งตัวใหม่ได้มีอำนาจเหมือนเช่นอดีตที่ผ่านมา ดนย์ ผมยังคงคิดเช่นเดิมว่าผึ้งหนุ่มตัวนี้ควรจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อที่เผ่าพันธุ์ผึ้งจะได้เหมือนสัตว์โลกส่วนใหญ่ แต่ถ้าย่าบอกว่าธรรมชาติมักจะเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ทุกชีวิตเสมอ นางพญาผึ้งเกิดจากยีนที่แข็งแรงที่สืบทอดกันมาและเป็นกฎของธรรมชาติที่ต้องการให้ผู้ที่ฉลาดและแข็งแรงได้ปกป้องผู้ที่อ่อนแอกว่า ผมเลยชักลังเลเสียแล้วสิว่าควรจะเลือกเชียร์ฝ่ายใด ผู้นำในระบอบประชาธิปไตย ต้องเป็นผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง จากเสียงส่วนใหญ่ของคนในสังคมนั้น ต้องเป็นผู้ที่ฉลาด หลักแหลม มีสติปัญญาเป็นเลิศ ข้อสำคัญ ต้องเห็นแก่ประชาชนส่วนใหญ่ มากกว่าพวกพ้องของตน และต้องมีคุณธรรม จริยธรรม ที่ทุกคนในสังคมนั้นเห็นว่าสำคัญด้วย
1 เรื่อง กบจำศีล
1 เรื่อง กบจำศีล เมื่อโลกเปลี่ยนไป ใยจึงต้องยึดเชื่อ ในสิ่งเดิม ๆ ว่าดีงาม ก้าวออกมาสิ ทำสิ่งใหม่ ๆ ได้แล้ว ฤดูนี้เป็นฤดูฝน ฝนตกทุกวันเลย ตกหนักมากเสียด้วย หลายคนพูดทำนองบ่นว่า ช่วงเวลาที่ฝนตกเหมือนเวลาเลิกทำงานเลย พอเย็นเลิกงานปุ๊บฝนจะตกปั๊บทันที ทำให้รถราในเมืองกรุงติดหนักยิ่งกว่าเดิม คนทำงานนอกบ้านแทนที่จะได้กลับบ้านกันเร็ว ๆ ไปหาครอบครัว ลูกน้อยที่น่ารัก กลับกลายเป็นต้องมานั่งมองสายฝนในรถอย่างเหงาหงอย ฝนตกหนักตอนเย็นเช่นนี้เป็นมานานหลายวันแล้ว หรือเป็นเพราะกลางวันอากาศร้อนจัดมาก พอตอนเย็นความร้อนที่สะสมทำให้ฝนตก เหตุหนึ่งเกิดจากความกดอากาศสูงกับความกดอากาศต่ำมาเจอกัน ช่องว่างระหว่างกันทำให้เกิดเม็ดฝนหล่นลงมาจากฟากฟ้าได้ ย่ามองสายฝนที่โปรยปรายลงมาเบา ๆ ในตอนแรกแล้วเปลี่ยนมาเป็นตกหนักแถมด้วยลมกรรโชกอย่างรุนแรงราวกับพายุบ้าคลั่ง พลอยทำให้นึกถึงเสียงกบที่ร้องระเบ็งเซ็งแซ่ยามฝนตกหนักเมื่ออยู่บ้านนอก ย่าเลยนึกถึงกบที่จะเป็นตัวเอกของเรื่องนี้ ย่า เมื่อวานนี้ฝนตกหนักมากทำให้ย่านึกถึงกบ วันนี้ย่าจะเล่าเรื่องกบแต่ไม่ใช่กบในฤดูฝนนะที่พวกมันจะร้องเล่นเต้นระบำกลางสายฝนอย่างสนุกสนาน แต่กบในฤดูหนาวทำอะไรหลานรู้ไหม ดนย์ กบจำศีลครับ เพราะอากาศหนาวมาก กบจะออกหากินลำบาก ย่า เก่งมากหลานรัก แต่มีบางคนบอกว่าที่กบจำศีลเพราะเป็นสัญชาติญาณ หรือเป็นธรรมชาติของกบ มันจะหาอาหารกินให้อิ่มเต็มท้องแล้วนอนนิ่งเฉย ๆ ตลอดฤดูหนาว ดนย์ ตกลงเราเลยไม่รู้ว่ากบจำศีลเพราะเหตุใดเพราะเราไม่รู้ภาษากบ และกบเรื่องนี้ไม่ใช่เจ้าชายกบที่พอเจ้าหญิงจูบจะกลายร่างเป็นเจ้าชายเสียด้วย ย่า ที่จริงคำว่าจำศีลนี่ ย่าชอบมากเลยนะ เหมือนคนถือศีลอยู่วัดวาอาราม ไม่ทำบาปทำกรรมเอาแต่สวดมนต์ภาวนา ทำจิตใจให้สงบ ส่วนกบจำศีลนี่คงคล้าย ๆ กันนั่นแหละ มันจะอยู่นิ่ง ๆ ไม่กินอาหาร ไม่ทำกิจกรรมใด ๆ มันจะมุดไปอยู่ใต้ดินเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น และดึงอาหารที่สะสมไว้ออกมาใช้ตลอดฤดูหนาว ที่เป็นเช่นนี้เพราะกบเป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก อุณหภูมิในร่างกายจะเปลี่ยนตามสภาพแวดล้อม ถ้าอากาศหนาวมากมันอาจจะตายได้ง่าย ๆ ดนย์ ย่าอธิบายซะละเอียดเลยนะครับ เล่านิทานของย่าต่อดีกว่าครับ ย่า นิทานเรื่องนี้มีกบ 2 ตัวอาศัยอยู่ในป่าเดียวกัน มันคงจะเป็นเพื่อนกัน หรือเป็นพี่น้องกันดีนะ เป็นเพื่อนกันดีกว่า เพราะมันทั้งสองนิสัยต่างกัน ถ้ามันเป็นพี่น้องกันมันน่าจะต้องเชื่อฟังพ่อแม่เหมือนกันเพราะถูกเลี้ยงดูมาคล้ายกัน ดนย์ ทำไมย่าถึงคิดว่าเป็นพี่น้องกัน นิสัยจะคล้ายกันล่ะครับ ผมเห็นเพื่อนหลายคนนิสัยไม่เห็นจะเหมือนพี่หรือน้องเลย ย่า นิสัยอาจไม่เหมือนกันทีเดียว แต่การอบรมเลี้ยงดูอย่างเดียวกันย่อมหล่อหลอมให้ความคิดเห็นต่อเรื่องเดียวกันคล้ายกันได้ เอาล่ะ เล่าต่อดีกว่า เมื่อถึงฤดูจำศีลกบต้องแฝงเร้นร่างกายเป็นเวลานานเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดได้ กบตัวแรกเชื่อฟังคำสั่งจากกบพ่อแม่มาก กบตัวที่สองจะดื้อรั้น มักจะท้าทายความเชื่อที่ผู้อื่นสั่งไว้เสมอ มันจะไม่ทำตามใครจนกว่าจะถึงคราวจำเป็นที่บังคับให้มันต้องทำด้วยความจำใจ ดนย์ แล้วระหว่างกบ 2 ตัวนี้ ตัวใดจะดีกว่ากัน ระหว่างการเชื่อฟังคำสั่งสอนของผู้ใหญ่กับความเป็นตัวของตัวเอง ย่า ย่ายังไม่รู้เลย คอยฟังให้ถึงตอนจบดีไหม ดนย์ ถึงจะเป็นตอนจบ ผมคิดว่าย่าไม่ค่อยสรุปหรือชี้ชัดว่าใครผิดใครถูกหรือควรจะเลือกทำสิ่งใดกันแน่ ย่า ใช่แล้ว เพราะย่าอยากให้หลานคิดเองตัดสินใจเลือกด้วยตัวของหลานเอง ไม่ใช่ว่าแค่จดจำได้และทำตามเท่านั้น ย่าต้องการให้นิทานเรื่องนี้สอนให้คิดมากกว่าสอนให้รู้ วันหนึ่งเมื่อใกล้ถึงฤดูการจำศีลกบตัวแรกเตรียมหาอาหารเพื่อเก็บกักตุนไว้ใช้ตลอดฤดูการจำศีล กบตัวที่สองบอกว่า ทำไมเราต้องจำศีลด้วยนะในเมื่อเราย้ายถิ่นฐานอพยพมาอยู่ที่ป่าแห่งใหม่ที่อุดมสมบูรณ์ไม่เหมือนที่เดิม ที่นั่นมันแห้งแล้ง พอถึงฤดูหนาวมันก็หนาวจัด อาหารที่เคยมีอุดมสมบูรณ์จะหมดไป จึงจำเป็นต้องเก็บกักตุนอาหารเอาไว้ และเพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายคงที่จึงต้องแอบซ่อนตัวไว้ไม่ให้ร่างกายกระทบกับอากาศที่หนาวเย็นจนเกินไป ดนย์ กบตัวที่สองน่าจะพูดถูกในเมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไปการกระทำน่าจะเปลี่ยนไปด้วย ย่า กบตัวแรกไม่ต้องการจะเถียงกับกบตัวที่สอง มันคิดว่า ผู้ที่ชอบเถียง ไม่ยอมทำตามคำสั่งเสียของพ่อแม่นั้น เพราะเป็นผู้ที่ดื้อรั้น ชอบคิดว่าตัวเองเก่งแน่ ไม่ยอมฟังความคิดของใคร แล้วในที่สุด ผู้นั้นต้องแพ้ภัยตัวเอง กบสองตัวอยู่ด้วยกันมานาน แม้ว่ากบตัวแรกไม่อยากเถียงกบตัวที่สอง แต่ด้วยความห่วงใย จึงอดไม่ได้ที่จะพูดว่า การเชื่อฟังผู้ใหญ่น่าจะเป็นสิ่งที่ดีถึงจะไม่อยากทำตาม แต่เมื่อเป็นคำสั่งสอนเราก็ควรทำ ดนย์ ผมคิดว่า บางทีการทำตามคำสั่งมันก็ยากเหมือนกันนะ ย่า ใช่ เพราะการบังคับตัวเองให้ทำในสิ่งที่ไม่อยากทำนั้นจะต้องอาศัยความสามารถในการควบคุมตนเอง กบตัวแรกเลยบอกว่า การที่เจ้าไม่อยากจำศีลคงเป็นเพราะเจ้าไม่มีความสามารถในการควบคุมตนเองด้วยกระมังเลยอ้างโน่นอ้างนี่เพื่อที่จะหาเหตุไม่ต้องทำ กบตัวแรกเป็นกบที่ยึดมั่นในคำสอนของผู้ใหญ่ เป็นกบที่สามารถควบคุมตนเองได้ดีและเชื่อว่าคำสอนใด ๆ ย่อมมีเหตุผลเสมอ จึงเป็นกบที่พ่อแม่รัก เพราะว่านอนสอนง่าย ไม่คิดแปลก ๆ ไม่ทำตะแบง ๆ ผิดจากที่เคยมีมา ส่วนกบตัวที่สองเป็นกบที่ต้องการทำตามใจตัวเอง มันไม่อาจควบคุมตนเองให้ทำสิ่งที่มันไม่อยากทำได้ ดนย์ คนที่ควบคุมตนเองได้น่าจะเป็นคนที่ทำตามกฎระเบียบข้อบังคับของสังคมได้ดี แต่การคิดไตร่ตรองก่อนจะเชื่อน่าจะดีกว่าไหมครับ ย่า นิทานเรื่องนี้ไม่ได้บอกว่า เมื่อถึงฤดูจำศีลแล้ว ทุกอย่างจะเป็นไปตามคำสอนของกบผู้เฒ่าที่เตือนไว้ว่ากบจะต้องจำศีลและกินอาหารที่ได้สะสมไว้หรือไม่ ในเมื่อกบตัวแรกกักตุนอาหารไว้น่าจะดีกว่าไหมหรือกบตัวที่สองคิดว่าไม่ต้องเหนื่อยยากรีบกักตุนค่อย ๆ หาอาหารใส่ปากเลี้ยงท้องไปวัน ๆ จะสบายกว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่กบต้องจำศีลจริง ๆ กบตัวใดจะสบายกว่ากัน ดนย์ น่าจะเป็นกบตัวแรกเพราะได้กักตุนอาหารไว้แล้ว การเตรียมพร้อมของกบตัวแรกย่อมจะยังประโยชน์มากกว่าเพราะถ้าเหตุการณ์ไม่เลวร้ายดังเช่นอดีตอาหารที่เก็บสะสมไว้ก็ไม่ได้เสียหายใด ๆ แต่ถ้าเหตุการณ์ปกติกบสามารถดำรงชีวิตได้อย่างสบายมีอาหารให้กินได้ตลอดเวลา กบตัวที่สองคงจะบอกกับกบตัวแรกว่าเห็นไหมไม่มีประโยชน์อันใดเลยที่จะต้องลำบากเก็บกักตุนอาหารไว้สู้ใช้ชีวิตอย่างสบายไม่ต้องทำงานหนัก ย่า นิทานเรื่องนี้อยากจะเอาใจกบตัวแรกให้เกิดเหตุการณ์เลวร้ายอากาศแปรปรวนอย่างมาก จนกบไม่สามารถออกหาอาหารได้และกบตัวที่สองต้องลำบากอดอยากเพราะไม่มีอาหารจะกิน เมื่อมันไปขออาหารจากตัวแรกแล้วกบตัวแรกปฏิเสธอ้างว่าอาหารที่เตรียมไม่พอสำหรับกบสองตัว กบตัวที่สองจะทำเช่นไรหนอ ดนย์ กบตัวที่สองคงจะอดตายเพราะขาดอาหาร แต่ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น กบตัวที่สองจะไปเยาะเย้ยกบตัวแรกว่า กาลสมัยเปลี่ยนไปคำสั่งสอนของผู้เฒ่าย่อมใช้การไม่ได้ แต่ผมยังสงสัยว่า คนที่เชื่อมั่นในตนเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ควบคุมตนเองไม่ได้ตามที่ย่าพูดเลย ผมคิดว่า กบตัวที่สองเป็นกบที่เกียจคร้านมากกว่าที่ไม่ยอมไปหาอาหารและกักตุน ไม่ใช่มีความเชื่อมั่นในตนเองสูงหรอกครับ ย่า ย่าบอกว่า กบตัวที่สองมีความเป็นตัวของตัวเองสูงจึงมักจะท้าทายความเชื่อที่ผู้อื่นสั่งไว้เสมอ มันจะลองทำในสิ่งที่มันคิดจนได้คำตอบแล้วจึงจะเลือกว่าจะทำอะไรต่อไป มันจะไม่ทำตามใครจนกว่าจะแน่ใจว่าสิ่งนั้นดีจริงและถูกต้องจริง ๆ ย่าไม่ได้พูดว่า กบตัวที่สองเชื่อมั่นในตนเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่ควบคุมตนเองไม่ได้ตามที่ดนย์พูดนะจ๊ะ ดนย์ ถ้าเช่นนั้น กบตัวที่สองจะได้คำตอบว่า ปีต่อไปควรจะกักตุนอาหารหรือไม่ ถ้าปีนี้อากาศแห้งแล้งมากและออกไปหาอาหารกินไม่ได้เช่นนั้นใช่ไหมครับ แต่กบตัวที่สองควบคุมตนเองไม่ได้ที่ตรงไหนครับ ย่า คนว่านอนสอนง่ายจะทำตามคำบอกของผู้ใหญ่และทำได้ดี โดยไม่เกี่ยงงอน จึงเหมือนคนที่ควบคุมตนเองได้ดี ในขณะที่คนที่อยากลองผิดลองถูกก่อนดูเหมือนจะไม่สามารถทำในสิ่งที่ผู้ใหญ่ต้องการได้ในตอนแรก แต่เมื่อเขารู้ถึงความจำเป็นจริง ๆ เขาจึงจะควบคุมตนเองได้ ผู้ที่ควบคุมตนเองได้เป็นอย่างดี ย่อมจะเป็นผู้ที่ มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำสิ่งใดให้สำเร็จได้สูง การฝึกฝนที่จะควบคุมตนเองให้ได้ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างมาก ต่อผู้ที่มุ่งหวังจะประสบความสำเร็จในชีวิต สุภาษิตไทยและต่างประเทศ
สุภาษิตไทยและต่างประเทศ
|
สมาชิกหมายเลข 4665919
Rss Feed ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
Friends Blog Link |