รู้จัก Standard Missile-3 จรวดที่สหรัฐใช้ยิงดาวเทียม
ในที่สุดสหรัฐก็สอยดาวเทียมที่ไม่ใช้การแล้วก่อนที่มันจะตกลงมาสู่พื้นโลกไปแล้ววันนี้ครับ โดยใช้จรวดที่ยิงจากเรือรบ
ฉะนั้นประเด็นของกระทู้นี้จะอยู่ที่จรวดลูกนั้นครับ คงเป็นข้อมูลคร่าว ๆ ให้กับทุกท่านได้ครับผม
RIM-161 Standard Missile 3 หรือ SM-3
RIM-161 Standard Missile-3 หรือ SM-3 เป็นจรวดนำวิถีพื้นสู่อกาาศต่อต้านขีปนาวุธข้ามทวีปของกองทัพเรือสหรัฐครับ โดยจรวดถูกประจำการในเรือรบ Aegis ของกองทัพเรือสหรัฐ ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายป้องกันขีปาวุธข้ามทวีปของสหรัฐ
SM-3 เป็นจรวด 4 Stage ครับ หมายความว่าจรวดจะมีทั้งหมด 4 ท่อนซึ่งจะส่งตัวจรวดไปกระทบเป้าหมาย SM-3 มีระยะยิงไกลสุด 500 กม. และยิงได้ระยะสูงสุด 160 กม. เหนือพื้นดิน โดยมีญี่ปุ่นร่วมมือในการพัฒนา
SM-3 สามารถยิงได้จากท่อยิง Mk.41 Vertical Launching System (VLS) ซึ่งเป็นท่อยิงทางดิ่งมาตราฐานของกองทัพเรือสหรัฐครับ จรวดจะถูกยิงแบบ Hot Launch นั้นคือบูสเตอร์จะถูกจุดตั้งแต่อยู่ที่ท่อ และส่งตัวจรวดออกไป
เมื่อระบบ Aegis ทำการชี้เป้าให้กับจรวดแล้ว จรวดท่อนแรกของ SM-3 ที่ใช้บูสเตอร์ Mk. 72 ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงแข็งจะจุดระเบิดออกและขั้นต่อมาจรวดท่อนที่สองคือ Mk.104 ก็จะทำงาน (Mk.104 เป็นจรวด Dual Thrust คือใช้เชื้อเพลิงสองชนิดผสมกันจนเกิดพลังงาน) และส่งตัวจรวดขึ้นสู่ขั้นบรรยากาศ เมื่อจรวดท่อนที่สองหมดเชื้อเพลิงลง จรดวท่อนที่สามคือ Mk.136 จะทำงานและนำ SM-3 เข้าหาเป้าหมายจนถึงเวลา 30 วินาทีก่อนถึงเป้า จรวดท่อนที่สามจะหยุดทำงาน และส่วนหัวรบซึ่งเป็นจรวดพลังงานจลน์จะวิ่งเข้ากระทบเป้าหมายที่ 130,000,000 จูล โดยไม่จำเป็นต้องจุดระเบิดครับ
แต่ในครั้งนี้ ดาวเทียมีความสูงมากกว่าระยะทำการของจรวดอยู่ประมาณ จึงต้องมีการปรับปรุงตัวจรวดให้สามารถยิงดาวเทียมถึงได้ครับ
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลของญี่ปุ่น (JMSDF) ได้ทำการทดสอบจรวด SM-3 จากเรือพิฆาต JDS Kongo ซึ่งเป็นเรือพิฆาต Aegis ของญี่ปุ่น โดยยิงจรวดเข้าใส่เป้าหมายซึ่งเป็นจรวดที่ถูกยิงจากฝั่งในเวลา 22.12 ตามเวลามาตราฐาน GMT จรวดกระทบเป้าที่ระยะสูง 160 กม. เหนือมหาสมุทรแปซิฟิก
จรวด SM-3 เป็นส่วนหนึ่งของระบบป้องกันภัยจากขีปนาวุธข้ามทวีปของญี่ปุ่นซึ่งประกอบไปด้วยจรวด SM-3 ที่ยิงจากเรือรบ และจรวด Patriot PAC-3 ที่ยิงจากฐานยิงบนบก โดยใช้งบประมาณในการพัฒนาและการรวมระบบเข้าด้วยกันเป็นเงิน 150,000,000,000 เยน
นี่คือภาพจากการทดสอบครับ
ดาวเทียมที่ถูกยิง
ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว มารู้จักกับดาวเทียมที่ชะตาถึงฆาตหน่อยจะเป็นไรไปครับ
"ดาวเทียมดวงที่มีปัญหานั้นมีรหัสว่า NROL-21 USA-193 เป็นดาวเทียมที่ผลิตขึ้นตามโครงการ Future Imagery Architecture (FIA) เพื่อพัฒนาดาวเทียมที่เรียกว่า Enhanced Imaging System (EIS) สำหรับรวบรวมข่าวกรองทางภาพถ่าย (IMINT) โดยสำนักงาน NRO (National Reconnaissance Office) เป็นเจ้าของ ดาวเทียม EIS แบ่งเป็น 2 ระบบ คือ E-300 Enhanced Collection System ติดตั้งกล้องถ่ายภาพและ E-305 New Radar Capability ติดตั้งเรดาร์ สำหรับดวงที่กล่าวถึงก็คือ E-305 ดาวเทียม NROL-21 ถูกส่งเข้าสู่วงโคจรโดยจรวด Delta II 7920 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2006 เข้าสู่วงโคจรแบบ LEO (Low Earth Orbit) ความสูง 351 x 367 กิโลเมตร หลังจากเข้าสู่วงโคจรได้เพียง 1 ชม. NROL-21 ก็เกิดปัญหาไม่สามารถกางแผง solar cell สำหรับผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ได้ และจากนั้นในวันที่ 19 มกราคม 2007 NRO ก็ไม่สามารถสื่อสารกับ NROL-21 ได้และสูญเสียการควบคุมไปในที่สุด ต่อมาในวันที่ 22 มกราคม 2008 วงโคจรได้ลดความสูงลงเหลือ 271 x 282 กิโลเมตร และมีอัตราการลดลง 0.7 กิโลเมตรต่อวัน โดยจะเข้าสู่บรรยากาศในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคม 2008
หมายเหตุ NRO เป็น 1 ใน 4 หน่วยงานข่าวกรองหลักของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ นอกจาก NSA (National Security Agency), NGA (National Geospatial-Intelligence Agency) และ DIA (Defense Intelligence Agency) โดย NRO ทำหน้าที่ออกแบบ ผลิต และใช้งาน ดาวเทียมรวบรวมข่าวกรองที่มีอยู่ทั้งหมด และส่งข้อมูลที่รวบรวมได้ไปยัง NGA ซึ่งจะทำหน้าที่แปลข้อมูลและส่งต่อไปยังผู้ใช้ต่างๆ ในเพนตาก้อน รวมทั้ง CIA ด้วย"
โดยคุณ : rinsc seaver (Warfighter)
Ticonderoca-Class Cruiser งั้นเรามารู้จักกับเรือที่จะยิง SM-3 บ้างครับ
เรือชั้น Ticonderoca เป็นเรือลาดตระเวนซึ่งถูกพัฒนามาแทนที่เรือพิฆาตชั้น Spruance ครับ เรือมีระวางขับน้ำ 9,600 ตัน พอ ๆ กับเรือหลวงจักรีนฤเบศ ยาว 173 เมตร กว้าง 17 เมตร กินน้ำลึก 10 เมตร ทำความเร็วได้สูงสุด 32.5 น็อต ติดตั้งระบบ Aegis อันประกอบไปด้วยระบบเรด้าร์ AN/SPI-1 ระบบท่อยิงทางดิ่ง Mk.41 สองระบบ จำนวน 122 ท่อยิง สามารถยิงอาวุธปล่อยพื้นสู่อากาศ SM-2, SM-3 และ ESSM ตอร์ปิโดว์ AL-ASROC และ จรวด Tomahawk ได้ เรือติดตั้งอาวุธปล่อยต่อต้านเรือรบ Harpoon 8 ท่อยิง พร้อมปืนเรือ Mk.45 ขนาด 5 นิ้ว 2 กระบอก ระบบป้องกันตัวระยะประชิด (CIWS) แบบ Mk.15 Phalanx 2 ระบบ ท่อยิงตอร์ปิโดว์แผดสาม Mk.32 จำนวน 2 ชุด ยิงตอร์ปิโดว์ Mk.46 หรือ Mk.50 เรือสามารถรองรับเฮลิคอปเตอร์ SH-60B Seahawk ได้จำนวน 2 ลำ
ดูจากสเปกแล้ว อย่าไปมีเรื่องกับเขาดีที่สุดครับ
ลำนี้คือ USS Mobile Bay (CG-53) ลำนี้เคยมาแวะเมืองไทยด้วยครับ
ผมคิดไม่ออกแล้วล่ะครับว่าจะเขียนอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เอาเป็นว่าสำหรับวันนี้ จบเพียงเท่านี้ ขอบคุณทุกท่าน สวัสดีครับ
ปล. แถมโปรชัวร์ของผู้ผลิตครับ
//www.raytheon.com/products/stellent/groups/public/documents/content/cms01_055769.pdf
คืนวันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ..... ผมติดภารกิจครับ คงไม่สามารถเข้ามาใน Blog ได้บ่อย ๆ ..... และผมก็คงจะดอง Blog นี้ไปสักพักครับ ..... ผมคงหยุดเล่นชั่วคราวก่อนในเวลา 14.00 ของวันที่ 22 ก.พ. นี้ ..... ยังไง วันจันทร์พบกันใหม่ แต่ถ้าผมสามารถเข้าถึง internet ได้ ก็จะเข้ามาดูครับ
ฝากเพลงไว้ฟังกันเล่น ๆ ครับ
Create Date : 21 กุมภาพันธ์ 2551 |
Last Update : 21 กุมภาพันธ์ 2551 23:29:37 น. |
|
8 comments
|
Counter : 11081 Pageviews. |
|
|
5555
ไปเที่ยวเหรอพี่โย
ขอให้มีความสุขมากๆนะครับ