เล่าเรื่องเมืองตาก (3)
ช่วงแรกๆ ที่ทำงานที่จังหวัดตาก เราเป็นคนที่มาทำงานแต่เช้าแล้วเดี๋ยวนี้ก็ยังคงปฏิบัติอยู่ วันไหนมาสาย จะรู้สึกใจคอไม่ดีตอนแรกอยู่หอพักนักเรียนมัธยม ตรงข้ามโรงเรียนผดุงปัญญา พอสักพักก็ย้ายไปอยู่หอพักนักเรียนเทคนิคพี่ที่อยู่ห้องสรรพากรซึ่งเป็นคนกรุงเทพฯชวนไป เพื่อจะได้แชร์ค่าห้องกันคนละครึ่งแต่ก็ไกลจากที่เก่า ต้องนั่งรถสองแถวไปทำงานตอนไปทำงานทุกวันจันทร์จะต้องแต่งเครื่องแบบข้าราชการ มีอยู่วันหนึ่งนั่งอยู่บนรถสองแถว ก็มีผู้ชายคนหนึ่งบอกว่า ครู ๆ ติดอินทรธนูผิด เราก็มองดูอ้าว...แถบอินทรธนูบนบ่าหัวทิ่มนี่นา ก็เลยขอบคุณคุณคนนั้นคนต่างจังหวัดมักจะคิดว่าข้าราชการที่แต่งเครื่องแบบเป็นครูทั้งนั้นนับแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เวลาแต่งชุดข้าราชการก่อนออกจากบ้านต้องตรวจตราความเรียบร้อยให้แน่ใจก่อนทุกครั้ง จำไว้จนขึ้นใจว่า แถบซ้ายป้ายขวา อินทรธนูต้องไม่หัวทิ่ม สิงห์ตรงปกเสื้อต้องหันหน้ามาคุยกันไม่ใช่วิ่งกันไปคนละทิศละทาง มาถึงที่ทำงาน มักจะมาถึงเป็นคนแรก แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนมาทำงานเช้ากว่าคน ๆนั้น คือท่านผู้ว่าฯ กาจ รักษ์มณี (ผู้ว่าฯ คนแรกที่เราได้ทำงานกับท่าน) เวลาเดินเข้าประตูศาลากลางฯมักจะมีคนแหวกผ้าม่านแอบมองอยู่ทุกเช้า ก็ท่านผู้ว่าฯนั่นแหละพอเราเดินขึ้นมาถึงชั้นสอง ก็จะเจอท่าน ผู้ว่าฯมายืนรออยู่ตรงมุมบันไดท่านทักทุกวันว่ามาแต่เช้าเชียวนะหนู ท่านมักจะเรียกเราว่า ไอ้ตัวเล็ก ไม่เคยเรียกชื่อเวลาเรียกหา ก็จะเรียก ไอ้ตัวเล็ก ๆ เป็นประจำ จนใคร ๆ ก็รู้ว่าหมายถึงใคร ท่านผู้ว่าฯชอบปลูกต้นยูคาลิปตัสมาก ส่งเสริมให้เกษตรกร ชาวบ้าน ปลูกตามหัวไร่ปลายนาที่รกร้างว่างเปล่า เพราะมันไม่ต้องบำรุงอะไรมาก สามารถเอามาทำกระดาษได้ ที่ว่าง ๆหน้าศาลากลางก็ปลูกเอาไว้เป็นแถวเชียว แต่พอท่านย้ายไป ผู้ว่าฯใหม่ย้ายมาก็สั่งตัดหมด เหลือไว้แถวเดียวเท่านั้น ก็นโยบายใครก็นโยบายมันนี่นะ
สมัยที่เราทำงานใหม่ๆจังหวัดตากเคยเป็นเจ้าภาพกีฬาเยาวชนจังหวัดทางภาคเหนือ วันเปิดงานจะมีขบวนพาเหรดเข้าสนามกีฬาประจำจังหวัดไม่รู้ว่ามีใครอุตริให้เราถือ (ความจริงต้องเรียกว่าแบก) เสาไม้ไผ่มีป้ายผ้าด้านบน จำได้ว่าเสาไม้ไผ่สูงมาก แถมลมแรง แบกเสาไม้ไผ่เดินไปตามถนนกับเจ้าติ๋มคนละข้างหนักก็หนัก แถมยังต้านลมอีกต่างหาก แบกเสาจนแขนสั่นไปหมด พอดีท่านผู้ว่าฯ กาจ เห็นเข้า ก็เลยบอกว่าทำไมไม่ให้ผู้ชายถือ เสามันสูง หนักจะตาย ให้ผู้หญิงถือได้ไง ก็เลยเปลี่ยนคนถือเออเนอะ... เราเป็นน้องใหม่ ใครใช้อะไรก็ทำหมด จะโวยวายสักนิดก็ไม่มี ช่วงงานกีฬาเยาวชนสำนักงานจังหวัดก็มีเวรขายตั๋วเข้าดูกีฬาเป็นบางวัน จำได้ว่านั่งอยู่ในห้องขายตั๋ว ที่นั่งขายตั๋วก็เตี้ยมาก นั่งไปคนข้างนอกก็จะมองไม่เห็นคนขายตั๋วเลยต้องยืนขายตั๋ว แถมแมลงตามหญ้าก็ยังเยอะอีก (สมัยก่อนไม่มี ก.ย.15)โดนแมลงกัดซะตัวลายพร้อยเลยทีเดียว อยู่กับท่านผู้ว่ากาจ ปีกว่าๆ ท่านก็ย้าย มีผู้ว่าฯ คนใหม่(ท่านสมบูรณ์ พรหมเมศร์) คนใหม่มาแทน ท่านมีนโยบายให้ข้าราชการแต่งเครื่องแบบทุกวันเหมือนกับท่านเวลาท่านแต่งเครื่องแบบ ก็จะติดเครื่องหมายอะไรต่อมิอะไรที่ได้มาประดับไว้เต็มไปหมด เราเคยได้ยินบรรดาข้าราชการพูดถึงท่านว่า เครื่องหมายต่างๆที่ท่านประดับไว้ มันจะหนักมั๊ยหนอ
การแต่งเครื่องแบบทุกวันในวันทำงานนั้นก็นับว่าเป็นเรื่องดี ประหยัดค่าเครื่องแต่งตัว โดยเฉพาะบรรดาสาวๆ ทั้งหลายไม่ต้องแต่งตัวประชันกัน สีกากีหมดทั้งจังหวัด แถมสั่งผ้าจากแหล่งเดียวกันเพราะฉะนั้นจะไม่มีสีกากีอ่อน เข้ม หรือสีกากีแบบแบบตำรวจจะเป็นสีกากีแบบข้าราชการพลเรือน ท่านผู้ว่าฯใจดี สั่งผ้ามาให้ข้าราชการตัดคนละ 2ชุดเฉพาะสำนักงานจังหวัดและที่ทำการปกครองจังหวัดและอำเภอ โดยให้ออกค่าตัดเย็บกันเองเนื่องจากต้องแต่งเครื่องแบบทุกวัน ชุดที่ 3 4 5 ก็แล้วแต่จะตัดกันเองพอแต่งเครื่องแบบทุกวัน ข้าราชการสตรีก็จะไม่ค่อยตัดเสื้อผ้าไปรเวทใส่กันเดือดร้อนเวลาจะไปงาน มีแต่ชุดข้าราชการสีกากีอีก เป็นที่ตลกขบขันกันมาก ว่าเราจะใส่ชุดกากีไปร่วมงานได้มั๊ย ตอนสมัยที่ทำงานอยู่ตาก ก็มีเรื่องราวที่น่าจดจำมากมายไม่ว่าจะกับผู้บังคับบัญชา หรือแม้แต่กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ ในที่ทำงานนับว่าเราเป็นคนโชคดี ที่มีผู้ใหญ่เอ็นดูและเมตตาอยู่เสมอ สำนักงานจังหวัดสมัยนั้นมีแค่ฝ่ายบริหารงานทั่วไปกับฝ่ายแผนและโครงการเท่านั้น นอกจากจังหวัดชายแดน เช่นที่ตากเป็นต้น ก็จะมีฝ่ายกิจการพิเศษเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งฝ่ายสำนักงานจังหวัดตากส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชาย มีผู้หญิงอยู่ไม่กี่คน คนก็ไม่เยอะทำงานก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือ สนุกสนาน รักใคร่สามัคคีกันดีมากทำให้ทำงานด้วยความสุขและสนุก นับเป็นสถานที่ทำงานที่เรารู้สึกประทับใจมากที่สุดแม้เวลาจะผ่านล่วงเลยมาหลายสิบแล้วก็ตาม ถึงแม้ว่าเราจะทำงานอยู่ฝ่ายกิจการพิเศษแต่ก็มักจะมาช่วยพี่ ๆ ที่อยู่ฝ่ายแผนเป็นประจำ ก็พี่เค้าใจดี น่ารัก ตลกด้วยชื่อพี่สุรัตน์ สกุลไทย (พี่อี๊ด)กับพี่สมยศ วงศ์เจริญ เป็นคนอิสานทั้งคู่แต่มาได้ภรรยาเป็นชาวเหนือ เวลาทำงานดึกดื่นมืดค่ำ พี่เค้าก็จะไปส่งถึงบ้านรอจนเราเข้าบ้านปิดประตูเรียบร้อยเค้าถึงจะกลับ น่าร๊ากกกกกกที่สุดเลย ...
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่แวะมาอ่านค่ะ
Create Date : 19 มิถุนายน 2561 |
Last Update : 19 มิถุนายน 2561 14:06:07 น. |
|
12 comments
|
Counter : 1024 Pageviews. |
|
|
อ่านไป นึกภาพตามไปด้วย
พูดถึงข้าราชาการแต่เครื่องแบบทำงานนี่ก็ประหยัดค่าใช้จ่ายในการตัดเสื้อผ้าเยอะเลยนะคะ
แต่เวลาไปงานเลี้ยงใส่ชุดสีกากี อาจดูขำๆอย่างพี่เปี๊ยกว่า
ไว้แวะมาใหม่ค่ะ