..สีสันของความหลากหลาย อาจทำให้ความหมายของชีวิตแปรเปลี่ยน แต่ความเป็นเพื่อนยังคงหมุนเวียน สับเปลี่ยนอยู่ในตำแหน่งของความผูกพัน..
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2563
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
16 มิถุนายน 2563
 
All Blogs
 
ชีวิตการทำงาน ตอนที่ 4

ห่างหายจากบล๊อกนี้ไปซะนาน ไปเล่าชีวิตการทำงานในเฟส บันทึกไว้ก่อนเกษียณอายุราชการ น่าจะมาเขียนต่อในนี้ให้จบด้วยดีกว่านะคะ...

การไปทำงานที่ตาก ก็นับว่าเป็นการไปต่างจังหวัดครั้งแรกในชีวิต ได้รู้ได้เห็นถึงวิถีชีวิตที่แตกต่างจากคนในเมืองหลวงโดยสิ้นเชิง ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม ที่เราไม่เคยได้รู้ได้เห็น สภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศที่แตกต่างกัน ศาลากลางจังหวัดตาก ตั้งอยู่ในทำเลที่สวยมาก ด้านหน้ามองออกไปก็จะเป็นถนนพหลโยธิน เห็นรถที่วิ่งขึ้น – ล่อง นี่แหล่ะคือถนนที่จะพาเรากลับบ้าน ทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ด้านหลังมองออกไปก็จะเป็นทิวเขาสูงยาวเหยียด ได้บรรยากาศมาก ๆ เวลามองทอดสายตาไปไกล ๆ ชวนให้คิดถึงบ้านทุกที อากาศที่ตากร้อนมาก หน้าร้อนก็ร้อนสุด ๆ หน้าหนาวก็หนาวสุด ๆ เหมือนกัน สมัยเมื่อ 35 ปีก่อน เครื่องปรับอากาศยังราคาแพง ยังไม่ค่อยใช้กันแพร่หลายในราชการ จะติดตั้งก็แต่เฉพาะในห้องนาย ๆ เท่านั้น ห้องทำงานของพวกเราก็มีแต่พัดลม เวลาออกไปทานข้าวกลางวัน พอกลับเข้ามาในศาลากลาง ก็ต้องไปโอบเสาหินอ่อนตรงห้องโถงด้านล่างศาลากลาง ก่อนขึ้นห้องทำงาน ทำแบบนี้แทบทุกคน เพราะมันเย็นดี
ตอนเย็นหลังเลิกงาน พวกเราชอบไปนั่งกินข้าวเหนียวส้มตำกันริมแม่น้ำปิง นั่งดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้ายามเย็น สวย โรแมนติคสุด ๆ เลย แม่น้ำปิงเป็นแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวตาก ช่วงแม่น้ำที่ผ่านเมืองตากมีความกว้างมาก ช่วงหน้าแล้ง น้ำจะแห้งขอด สามารถเตะฟุตบอลได้เลยล่ะ มีสะพานไม้ เรียกว่าสะพานสมโภชรัตนโกสินทร์ 200 ปี เชื่อมต่อระหว่างฝั่งตลาดกับฝั่ง ต.ป่ามะม่วง จะให้รถมอเตอร์ไซต์กับรถจักรยานข้ามได้เท่านั้น ถ้าเป็นรถใหญ่ๆ จะต้องข้ามสะพานกิตติขจร เวลาขับรถมอเตอร์ไซต์ข้ามสะพาน จะตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะสะพานมันไหว เอนไปเอนมา ต้องค่อย ๆ ไป แต่ก็ไม่ได้เป็นคนขี่หรอกนะ เป็นคนซ้อนซะมากกว่า มีคนบอกว่าถ้าใครได้เล่นน้ำปิงเกินกว่า 3 ครั้ง จะต้องกลับมาอยู่ตากอีก ซึ่งก็เห็นจะจริง เพราะเราเล่นน้ำปิงเป็นสิบ ๆ ครั้ง เลยได้กลับมาอยู่ตากอีกรอบหลังจากที่ย้ายออกไป 5 ปี แต่กลับมาคราวนี้มีเรือพ่วงมาด้วย 1 ลำ ...อิอิ พี่ ๆ ที่ได้เจอกันอีกรอบบอกว่า เห็นมั๊ยให้ย้ายไปตั้งนานแล้ว ก็ไม่ไป อยู่มาตั้ง 5 ปีกว่า ๆ ถ้าย้ายไปก่อนหน้านี้ อาจจะมี เรือพ่วง 2 ลำ แล้วก็ได้
เทศกาลสงกรานต์ทางเหนือเป็นเทศกาลที่เราว่าน่าสนุกที่สุดเลย ตอนอยู่กรุงเทพฯ ก็ไม่ค่อยได้เล่นอะไรกับเค้าเท่าไหร่หรอก พอมาอยู่ตาก พอถึงวันสงกรานต์ก็จะมีพิธีรดน้ำดำหัวผู้ว่าฯ รองผู้ว่าฯ ปลัดจังหวัด ข้าราชการในจังหวัดก็จะเดินแห่ไปรดน้ำขอพรจากนาย ๆ ทั้งหลาย สุดท้ายก็มาที่จวนผู้ว่าฯ จำได้ว่า ในจวนมีบ่อน้ำอยู่บ่อหนึ่ง ประเพณีสงกรานต์ก็จะมีการละเล่นสนุกสนาน ร้องรำทำเพลง ดื่มกินกันบ้างตามสมควร พวกผู้ชายเวลาเมาได้ที่ก็มักจะทำอะไรแผลง ๆ จับพรรคพวกโยนลงบ่อกัน เราเองก็หวั่น ๆ กลัวจะมีใครมาจับโยนลงบ่อ เพราะว่ายน้ำไม่เป็น เลยแอบ ๆ อยู่ข้างหลังพี่ ๆ เค้า ปรากฏว่าเจ้าต๋องตัวดี มาจากไหนก็ไม่รู้ อุ้มเราโยนลงบ่อเลย ความรู้สึกตอนนั้นกลัวจับใจ เพราะว่ายน้ำไม่เป็น ถึงแม้ว่าบ่อน้ำจะไม่ลึกก็เถอะ คนอื่น ๆ เล่นแบบนี้กันมาตั้งเยอะ แต่พอเราถูกโยนลงบ่อ ท่านผู้ว่าฯ ก็ดุ บอกให้เลิกเล่น ลูกเค้าเป็นอะไรจะว่ายังไง

ส่วนเจ้าต๋องนั้น ใคร ๆ ก็มักจะแซวว่า เหมือนพ่อกับลูก แล้วก็ชอบเดินไปไหน ๆ ด้วยกัน จนใคร ๆ บอกว่า เจ้าต๋อง น่าจะเอาไอ้เปี๊ยกมันเข้าสะเอวไปด้วย บางทีก็ชอบเล่นสนุกกัน มีเครื่องวิทยุ walkie talkie กันคนละเครื่อง เพราะทำงานชายแดน ก็คุยเล่นกันทั้ง ๆ ที่อยู่กันแค่ในห้องกะนอกห้อง มีอยู่ครั้งหนึ่ง เจ้าต๋องขึ้น ฮ. ไปตัดทำลายไร่ฝิ่นกับท่านผู้ว่าฯ ใคร ๆ ก็บอกว่าให้เอากระสอบไปด้วย แล้วให้สวมกระสอบใบนั้นไว้ระหว่างอยู่บนเครื่อง ถ้า ฮ.ตกจะได้รู้ว่าเป็นชิ้นส่วนของใคร สมัยนั้น ฮ.ทหารเก่ามาก ขึ้นทีไรก็เสียวทุกที เพราะมันมีข่าวว่าตกบ่อย กลับจากทำลายไร่ฝิ่น เจ้าต๋องเพื่อนซี้ หอบดอกฝิ่นช่อใหญ่มาให้ มันสีแดงสดดูสวยดี แต่ขอโทษ กลิ่นมันแรงมาก ได้กลิ่นแล้วพาลจะเวียนหัว มึนตึบ เก็บดอกมายังไม่พอ ยังเก็บดอกแก่ ๆ มาด้วย แล้วก็เที่ยวเอาเม็ดมันไปโรยไว้ตามกระถางต้นไม้ ขึ้นกันพรึ่บเชียว แต่มันร้อน มันก็เลยซี้แหง มะงั้นนะ ผู้ว่าฯ ไม่ต้องขึ้นฮ.ไปตัดฝิ่นบนดอยเลย ตัดมันหน้าห้องทำงานนี่แหล่ะ ชาวเขาไม่ได้ปลูกฝิ่นแล้ว แต่เป็นชาวเรานี่แหล่ะที่ปลูก

วันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถ้าไม่ได้ไปไหน ก็จะขี่มอเตอร์ไซต์ไปเที่ยวน้ำตกลานสาง ซึ่งห่างจากตัวเมืองประมาณสิบกว่ากิโล หัวหน้าสำนักงานจังหวัดชอบให้พวกเราไปเที่ยวพักผ่อนกันในช่วงวันหยุด เพื่อสร้างความสมัครสมานสามัคคี บางทีก็ขึ้นไปดอยมูเซอร์ ไปเขื่อนภูมิพล ลงแพล่องแม่น้ำปิงกัน ไปเกาะวาเลนไทน์ ก็สนุกดีนะ มีอยู่ครั้งหนึ่งชวนกันไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่ อ.ท่าสองยาง กับเพื่อน ๆ สาว ๆ รวม 5 คน ทำงานเลิกเย็นวันศุกร์ นั่งรถเที่ยวสุดท้ายไปแม่สอด จากแม่สอดก็ไม่มีรถเข้าท่าสองยางแล้ว ก็ต้องโบกรถกัน ไปโบกรถคันหนึ่งเป็นรถปิคอัพ ของ ตชด. เค้าก็ยินดีให้ไปด้วย แต่บอกว่า ท้ายรถผมมีสิ่งนี้อยู่ ก็ชะโงกหน้าเข้าไปดูกัน โอ๊ะ...มีโลงศพค่ะ คลุมธงชาติอยู่ด้วย ก็เลยยิ้มปุเลี่ยน ๆ กัน บอกว่าไม่เป็นไร แต่เราก็มีรถไปท่าสองยางคืนนั้นจนได้ คืนนั้นพวกเราก็ไปพักที่บ้านพี่ที่เป็นปลัดอำเภอด้านป้องกัน (พี่ศิริชัย ไตรสารศรี)กับเพื่อนที่เป็นปลัดอำเภอของ อ.ท่าสองยาง ที่ท่าสองยางยุงชุมมาก โดนยุงกัดจนตัวลายกันเป็นแถว แต่ก็ไม่มีใครเป็นอะไร เพราะเพื่อนที่เป็นปลัดอำเภอ ให้กินยาควินินดักไว้ก่อนแล้ว ไม่ต้องกลัวเป็นไข้มาลาเรีย วันรุ่งขึ้นก็ไปดูทะเลหมอกที่แม่ระเมิง ไปเที่ยวถ้ำแม่อุสุ ชีวิตตอนอยู่ตากก็สนุกทั้งการทำงานและก็ได้เที่ยวตามที่ต่าง ๆ ด้วย ....เรื่องของเมืองตากยังไม่จบแค่นี้หรอกนะคะ คงต้องมีอีกหลายตอน ไว้จะมาเล่าต่อค่ะ...

 

 




 
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่แวะมาอ่านค่ะ...18



Create Date : 16 มิถุนายน 2563
Last Update : 16 มิถุนายน 2563 12:14:26 น. 5 comments
Counter : 579 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณ**mp5**, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณSai Eeuu, คุณซองขาวเบอร์ 9


 
ถูกแล้วค่ะ น่าจะเขียนที่นี่ให้จบ
ส่วนบัวดินนั้น เหลือใบให้ดูก็บุญแล้วจ้า



โดย: ภาวิดา คนบ้านป่า วันที่: 16 มิถุนายน 2563 เวลา:14:06:49 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 16 มิถุนายน 2563 เวลา:15:02:59 น.  

 
เขียนได้น่าอ่าน อ่านเพลิน...ชักอยากไปเดินข้ามสะพาน
แม่น้ำปิงบ้าง ป่านนี้คงไม่ใช่ขั๋วแตะหรือไม้แล้วมังคุณเปี๊ยก


โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 16 มิถุนายน 2563 เวลา:16:16:33 น.  

 
เก่งมากเลยค่ะ จำได้เยอะและระเอียดด้วยค่ะ พี่เปี๊ยก


โดย: Sai Eeuu วันที่: 16 มิถุนายน 2563 เวลา:23:38:37 น.  

 
เก็บไว้ที่นี้ดีค่ะ กลับมาอ่านง่ายดี

กาเปี๊ยกเขียนเก่งน่ะ
รวมเล่มได้เลย
แถมความจำดีมากๆ แม่ซองฯยี้อดีตเบลอมาก


โดย: ซองขาวเบอร์ 9 วันที่: 17 มิถุนายน 2563 เวลา:19:00:25 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




"ตั้งใจว่า...ทำบล๊อกนี้ขึ้นมาเพื่อบันทึกเรื่องราว ความทรงจำดี ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและอยากจะทำ และไม่เคยหวังผลตอบแทนใด ๆ ในทุกสิ่งที่ได้ทำ นอกจากรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพและความจริงใจจากเพื่อนๆ เท่านั้น"











# เริ่มทำบล๊อกเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2552 #


ไปหลังบ้านทางนี้เน้อ
Friends' blogs
[Add พูดไม่เก่ง แต่เจ๋งทุกคำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.