เล่าเรื่องเมืองตาก (2)
บล็อกเกี่ยวกับชีวิตการทำงานล่าสุดก็เขียนลงบล็อกไปตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว เขียนเกี่ยวกับศูนย์แรกรับผู้อพยพนี่ผ่านไปเกือบ 8 เดือน มาเขียนต่อตอนใหม่ซะที การทำงานเกี่ยวกับกิจการชายแดนนั้นส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทั้งภายในและนอกประเทศโดยเฉพาะจังหวัดที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านห้องทำงานของเรานั้นจะมีแผนที่ยุทธศาสตร์ขนาดใหญ่ (สมัยเมื่อ 30กว่าปีก่อนไม่มีคอมพิวเตอร์) ซื้อจากกรมแผนที่ทหาร ติดไว้พนังข้างห้องพล๊อตจุดสำคัญๆเอาไว้ เช่น ค่ายผู้อพยพตามอำเภอต่างๆ จุดผ่อนปรนตามแนวชายแดนจังหวัดตาก ฯลฯ แล้วมีผ้าม่านปิดเวลาจะเปิดดูก็รูดผ้าม่านออก วันดีคืนดี รูดผ้าม่านออก เจอะเข้ากับต๊กโต๋ (ตุ๊กแก)ตัวเบ่อเริ่มเกาะอยู่ ดีที่มันไม่กระโดดเกาะเรา เพราะเรานั่งอยู่ด้านนั้นพอดี นานๆเข้าแผนที่ขนาดใหญ่แบบนี้ก็ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะมันเคลื่อนย้ายไม่ได้เลยต้องทำแผนที่ขนาดเล็ก มีล้อเลื่อน เคลื่อนย้ายไปไหนๆ ได้สะดวกพอผู้ว่าราชการจังหวัดเรียก ก็เอาแผนที่นี้ไปดูประกอบคำอธิบายได้
อายุ 25 กำลังเอ๊าะๆ เลย หน้าไม่ค่อยเปลี่ยน แต่น้ำหนักตัวล้ำหน้าไปเยอะ 555
หลังผ้าม่านนั้น เคยมีต๊กโต๋เกาะอยู่
ตำแหน่งหน้าที่ที่เราทำในตอนนั้น คือเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป ซึ่งนอกจากงานการประชุมหัวหน้าส่วนราชการประจำเดือน(ที่ติดตามตัวมา ความจริงเป็นงานของฝ่ายบริหารงานทั่วไป) แล้ว ก็ยังมีงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับงานชายแดนด้วยเท่าที่จำได้ เช่น งานขอออกนอกเขตจังหวัดของผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่างานต่ออายุการทำงานในประเทศให้กับเจ้าหน้าที่องค์กรการกุศลต่างๆงานขอสัญชาติไทยให้กับผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่า ฯลฯ งานขอออกนอกเขตจังหวัดของผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่านั้นจังหวัดจะออกใบอนุญาตให้กับผู้พลัดถิ่นสัญชาติพม่าที่อพยพเข้ามาก่อนและหลัง9 มีนาคม 2519(ปัจจุบันระเบียบต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว) โดยอำเภอที่ผู้พลัดถิ่นอาศัยอยู่จะทำเรื่องส่งมายังจังหวัดว่า นาย/นาง/นางสาว นั้น จะขออนุญาตออกนอกพื้นที่จังหวัดตากไปยังจังหวัด...(ส่วนใหญ่จะเป็นจังหวัดในภาคเหนือ เช่น เชียงราย เชียงใหม่แม่ฮ่องสอน) เพื่อ...(ส่วนใหญ่จะให้เหตุผลว่า เยี๋ยมญาติที่ป่วย ซึ่งเราเคยคิดเล่นๆในใจว่า ญาติของพวกเค้า สุขภาพย่ำแย่จริงๆ ป่วยกระเสาะกระแสะ ไปเยี่ยมกันได้ทั้งปี555) งานต่ออายุการทำงานในประเทศให้กับเจ้าหน้าที่องค์กรการกุศลต่างๆจังหวัดจะต้องทำเรื่องส่งมายังกระทรวงเพื่อให้กระทรวงทำเรื่องต่ออายุการทำงานให้ทำงานนี้มาได้สักระยะหนึ่ง พอดีมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดย้ายมาใหม่ท่านถามว่าจังหวัดส่งเรื่องไปกระทรวง กระทรวงเคยตอบกลับมาบ้างมั๊ย เราก็ว่า ไม่เคยคนก่อนๆ ที่เคยทำเรื่องนี้มา ก็บอกว่าไม่เคย ท่านก็ว่าไม่ได้ กระทรวงต้องตอบ ให้ทำหนังสือทวงถามไปยังกระทรวงทวงครั้งที่ 1 ไม่ตอบ ก็ทวงครั้งที่ 2 และครั้งที่ 3 จนตอนหลังกระทรวงก็ตอบมานับตั้งแต่นั้น กระทรวงก็จะตอบมาทุกครั้งคงเป็นจังหวัดเดียวที่ทวงถามงานกระทรวง ส่วนใหญ๋กระทรวงจะเป็นฝ่ายทวงจังหวัด 555 งานด้านชายแดนนั้นบางครั้งก็มีเรื่องน่าตื่นเต้นนะ เจ้าต๋อง ซึ่งเป็นนักการข่าว มักจะได้ออกพื้นที่บ่อยๆส่วนเราก็ได้ออกพื้นที่เหมือนกัน แต่ก็ไม่บ่อยนักถ้าเป็นพื้นที่ที่ไม่อันตรายติดชายแดนมากเกินไป ก็มักจะได้ไปกับเค้าด้วย เคยไปตามค่ายผู้อพพยชนกลุ่มน้อยต้องเดินเท้าเข้าไป หนทางก็ค่อนข้างลำบาก เคยไปเจอตอนฝนตก ทางเข้าเป็นดินโคลนขาจมโคลนไปครึ่งน่อง ทุลักทุเลกันน่าดู เข้าไปในค่าย ก็เกือบตกบ่อน้ำ ดินรอบๆบ่อมันไม่แน่น ยืนอยู่ริมบ่อ ดินก็ยุบ โชคดีพี่ที่เป็นทหารจับแขนไว้ได้ สมัยก่อนนั้นจังหวัดตากซึ่งเป็นจังหวัดติดชายแดนพม่า มีชาวเขาลักลอบปลูกฝิ่นกันมากผู้ว่าราชการจังหวัด ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ก็มักจะลงพื้นที่ไปตัดทำลายไร่ฝิ่นกันบางครั้งพี่วิรุฬ(หัวหน้า) และเจ้าต๋อง ก็ไปด้วย เราเคยได้ยินข่าวบ่อยๆ ว่าเฮลิคอปเตอร์ทหารมักจะตกบ่อยๆ เพราะเครื่องมันเก่า จนมีคำกล่าวว่า ไป ฮ.แต่กลับห่อ คือ ขาไปนั่ง ฮ. ไป เครื่องตก ขากลับจึงกลับมาในสภาพห่อร่างมาบางทีก็พูดกันติดตลกว่า เวลาไปให้นุ่งกระสอบไป เพราะถ้าเครื่องตกชิ้นส่วนจะได้ไม่กระจัดกระจาย ชิ้นส่วนใครก็ชิ้นส่วนมัน ความที่เป็นห่วงเพื่อน พอรู้ว่าเจ้าต๋องจะขึ้นฮ.ไปด้วย ก็เลยเอากระติกใส่น้ำให้เจ้าต๋องเอาติดตัวไปด้วย พอตอนเย็นกลับมาเจ้าต๋องบอกว่า ถ้าไม่ได้น้ำในกระติกน้ำของเปี๊ยก ต้องแย่แน่ๆ เลยเพราะอากาศแปรปรวนมาก คลื่นไส้ พะอืดพะอมกันหมด เราก็ว่าโชคดีแล้วที่กลับมาอย่างปลอดภัยทุกคน ไม่อย่างนั้น ตำแหน่งคงว่างอีกหลายตำแหน่งเจ้าต๋องหอบดอกฝิ่นมาให้เยอะแยะ เราก็เอามาแช่น้ำถังน้ำไว้ แป๊บเดียว น้ำในถังแห้งหมดเลยแต่ก็เอาไว้ในห้องแค่แป๊บเดียวก็ต้องเอาไปทิ้ง เพราะกลิ่นมันรุนแรงมากเวียนหัวไปหมด คนที่ทำงานตามแนวชายแดน โดยเฉพาะทหารตำรวจ และข้าราชการฝ่ายปกครองมักจะคุ้นเคยกับการสู้รบระหว่างทหารรัฐบาลพม่ากับชนกลุ่มน้อยในช่วงฤดูแล้งบางครั้งก็จะมีกระสุนปืน ค. ลอยข้ามฝั่งเข้ามาตกในเขตไทยเพราะชายแดนประเทศใกล้กันนิดเดียว ทหารไทยก็ยิงตอบโต้ไปบ้างเพื่อเป็นการเตือนเราเคยไปทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่งในอำเภอท่าสองยาง หลังคาร้านทะลุเป็นรูเบ่อเริ่มเจ้าของร้านบอกว่า โดนกระสุนปืน ค.ตกใส่ โชคดีไม่มีใครเป็นอะไร
ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมต้องไปยืนหมิ่นเหม่ขนาดนั้น ถอยไปก้าวเดียวก็ตกแล้ว
สมัยก่อนนั้นก็มักจะเรื่องอะไรสนุกๆเหมือนกัน วันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ถ้าใครไม่ได้กลับบ้าน ก็มักจะขี่มอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวกันตามที่ต่างๆซึ่งไม่ไกลจากตัวอำเภอเมืองมากนัก เช่น น้ำตกลานสาง ดอยมูเซอ
น้ำตกลานสางนี่ไปกันบ่อยเพราะห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 15 กม. ไปเล่นน้ำตกเย็นๆ กินข้าวเหนียวส้มตำ พอเย็นๆก็กลับ ส่วนดอยมูเซอก็ไปบ่อย เพราะมีเพื่อนทำงานกันบนนั้นบางทีเราก็ไปกันทั้งที่ทำงาน ค้างกันหนึ่งคืน ไปทำอะไรกินกันเชื่อมความสามัคคีในหมู่คณะ อากาศบนดอยสดชื่นเย็นสบายมากหน้าที่ทำการสถานีทดลองพืชสวนดอยมูเซอ จะมีต้นมัคคาเดเมียอยู่ 2 ต้น ท่านผู้ว่าฯบอกว่า เก็นผลมัคคาเดเมียไม่เคยทันเด็กแม้วเลย เพราะจะเก็บผลได้ต้องรอให้ร่วงหล่นจากต้นเท่านั้น พวกเด็กแม้วมักจะชอบมาเขย่าต้น ให้ผลร่วงตกลงพื้นแล้วเก็บไปกินกัน
นอกจากนั้นสถานที่ที่พวกเรามักจะไปนั่งเล่นกันบ่อยๆ ก็คือริมแม่น้ำปิง ผัดก๋วยเตี๋ยวไปนั่งกินกันพอร้อนๆ ก็ลงเล่นน้ำปิง สนุกมาก น้ำตื้น เย็นสบาย มีคำกล่าวว่า ใครได้เล่นน้ำในแม่น้ำปิงจะต้องกลับไปตากอีกหลายครั้ง ก็อาจจะจริงนะเพราะเราก็ได้กลับไปทำงานที่ตากอีกเป็นครั้งที่ 2 ....
Create Date : 28 พฤษภาคม 2561 |
|
7 comments |
Last Update : 19 มิถุนายน 2561 13:29:19 น. |
Counter : 757 Pageviews. |
|
|
|
ชีวิตการทำงานของพี่เปี๊ยกน่าสนุก ได้เจอหลากหลายเลยนะคะ
เป็นงานที่ต้องรับผิดชอบพอสมควรเลย
อ่านแล้วนึกถึงภาพไปด้วย เพลินเลยค่ะ
ไว้แวะมาใหม่คะ