วัฒนธรรมองค์กร
บล็อกนี้ขอนอกเรื่องงานในอดีตซะหน่อยขอเขียนเรื่องวัฒนธรรมองค์กรของที่ทำงานตัวเองบ้าง
มันเป็นความรู้สึกที่สั่งสมมานาน นานมากจริงๆ แรกๆ รับราชการก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไร พอเริ่มเติบโตขึ้น การจะก้าวหน้าในตำแหน่งที่สูงขึ้น ทำไมมันถึงยากเย็นเช่นนี้ สำหรับตัวเองแล้วไม่ค่อยยินดียินร้ายเท่าไร เพราะคิดว่า เมื่อถึงเวลาก็มาเองไม่อยากดิ้นรน อยากเป็นโน่นเป็นนี่ ทั้งๆ ที่ศักยภาพของเราอาจจะไม่เพียงพอหรืออาจจะไม่ถึงขั้นนั้นเราอยากจะดิ้นรนเพื่อไปสู่ตำแหน่งนั้นโดยการใช้เส้นสายไปเพื่ออะไร ไปให้คนเค้าว่านินทาลับหลังว่า ไม่มีฝีมืออย่างนั้นเหรอ สำหรับ จขบ. แล้วไม่ต้องการเช่นนั้นเลย จะว่าไป ก็พอใจกับสิ่งที่ตัวเองเป็นอยู่ในขณะนี้ อีก ๑ ปีก็จะเกษียณแล้วจะดิ้นรนไขว่คว้าไปให้เหนื่อยทำไม ปัจจุบันก็ก้าวมาไกลเกินกว่าที่ตัวเองเคยนึกฝันไว้เมื่อครั้งรับราชการใหม่ๆ ซะอีก เคยมองดูคนรอบๆ ตัว บางคนทำงานตรงนี้นิด ตรงโน้นหน่อย ไม่นานเผลอแป๊บเดียวกระโดดก้าวเกินหน้าเกินตาเพื่อนร่วมรุ่นไปซะแล้ว แล้วก็ก้าวพรวดๆเป็นผู้บริหาร ทั้งที่อายุและประสบการณ์ยังน้อยนิดเมื่อเทียบกับคนอื่นทำให้ต้องกลับมาคิดทบทวนว่า เพราะเหตุใดกันหนอ หากจะคิดเพื่อปลอบใจตนเองก็คงจะคิดในทางบวกที่ว่า เค้าคงจะทำบุญมาเยอะ โชควาสนาอาจจะดีกว่าจึงมีโอกาสก้าวไปเร็วเช่นนี้ แต่ถ้าคิดในอีกด้านหนึ่งของคนที่มีความรู้ความสามารถไม่ด้อยกว่ากันเลย แต่กลับไม่ได้รับโอกาสเค้าก็คงจะรู้สึกเสียใจและท้อแท้ไม่ใช่น้อย ...อะไรคือต้นเหตุที่แท้จริง ระบบอุปถัมภ์ในระบบราชการมีมาช้านานแล้ว มากบ้างน้อยบ้าง บางช่วงที่มีการตรวจสอบ การแต่งตั้งต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ทำกันเงียบ ๆ เบาๆ แต่น้อย แต่บางคราวก็มาเป็นกระบวนการเลยทีเดียว ข้าราชการที่อยู่นอกกระบวนการก็ได้แต่ทำตาปริบๆ ปลงอนิจจังไปตามๆ กัน บางคราวก็มีผู้กล้าหาญไม่ยอม ก็ถึงขนาดร้องเรียนผู้บังคับบัญชากันเลยทีเดียวว่าแต่งตั้งโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสมและชอบธรรม บทความด้านล่างคัดลอกมาจากคอลัมน์มุมข้าราชการหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งได้บังเอิญไปอ่านเจอเข้า อ่านไปแล้วก็คิดตามมันเป็นปัญหาเรื้อรังจริงๆ... ...เหตุผลประการหนึ่งที่ทำให้ระบบราชการไทยไม่สามารถพัฒนารุดหน้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะระบบราชการในสังคมไทยยังมีการใช้ระบบอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นระบบที่ยึดถือความพึงพอใจของบุคคลเป็นสำคัญ มิได้คำนึงถึงหลักคุณธรรมความเสมอภาค ความรู้ความสามารถ ความมั่นคงและความเป็นการทางการเมือง ที่ผ่านมาแม้จะมีความพยายามปฏิรูประบบราชการและการปรับเปลี่ยนระบบบริหารงานบุคคลเพื่อขจัดปัญหาจากระบบอุปถัมภ์ให้หมดสิ้นไป แต่ปรากฏว่าในระบบราชการยังมีการใช้ระบบเส้นสาย พวกพ้องและใช้ดุลพินิจตามอำเภอใจของผู้มีอำนาจ จนทำให้ข้าราชการขาดขวัญกำลังใจ คนเก่งคนดีไม่สามารถอยู่ในระบบได้หรือถูกผู้มีอำนาจใช้ไปทางส่วนตัว กลายเป็นช่องทางให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่น กระทบต่อประสิทธิภาพของระบบราชการก่อให้เกิดผลเสียหายอันใหญ่หลวงต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของประเทศชาติ
อีกนานแค่ไหนกันหนอวัฒนธรรมองค์กรแบบนี้จึงจะสูญหายไปเสียที จะมีวันนั้นมั๊ยหนอ... คงได้แต่รำพึงกับตัวเองแค่นั้นกระมัง
Create Date : 25 กันยายน 2561 |
|
9 comments |
Last Update : 7 ธันวาคม 2561 13:57:04 น. |
Counter : 1222 Pageviews. |
|
|
|