CD Mode ครบ 1 Week
อีกไม่ถึง 100 ปี . . ก็ไม่มีใครอยู่ตรงนี้แล้ว คนที่เรารักก็ไม่อยู่ . . คนที่รักเราก็ไม่อยู่ คนที่ไม่ชอบเราก็ไม่อยู่ . . คนที่เราไม่ชอบก็ไม่อยู่ ตัวเราเองก็ไม่อยู่ . . ไม่มีความทรงจำอะไรอยู่ตรงนี้แล้ว เพราะฉะนั้นการมีความสุขในตอนนี้ มันดีที่สุดแล้ว
"มีความสุขกับสิ่งที่ยังอยู่ ใช้ชีวิตให้คุ้มค่ากับการที่มีชีวิตอยู่"

เข้าวันที่ 7 แล้วจร้าาา สำหรับการเปลี่ยนโหมดการคุมอาหาร มากิน Canivore Diet (CD) โดยปรับการกินตามแผนของคุณอ้อม ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า . . ครั้งนี้ไม่ใช่การกิน CD ครั้งแรกของเรา ก่อนหน้านี้ สักสี่ห้าปีก่อน เราเคยกินมาแล้วครั้งหนึ่ง น่าจะทำได้ 3 เดือน ถ้าจำไม่ผิด แต่ครั้งนั้น เราไม่ได้คำนวณโปรตีนไขมันเป๊ะขนาดนี้ ใช้ร่างกาย คอยนำทางเอา หมายถึงหิวก็กิน อิ่มก็หยุด แต่ส่วนใหญ่มันจะกิน ได้แค่มื้อเดียวเพราะเรากินเยอะมาก มันเลยอิ่มไปทั้งวัน . .
ครั้งนี้คุณอ้อมปรับแผนเราใหม่ ให้มากินสามมื้อต่อวัน โดย คำนวณโปรตีนที่ร่างกายต้องการต่อวัน ตามน้ำหนักและส่วนสูง แต่ส่วนใหญ่นางจะให้กินเกินเข้าไว้ ล่าสุด ปรับมาเหลือ 2 มื้อ โดยเช้าจะกินชาหรือกาแฟ ใส่เนย 2 ช้อน กลางวันกับเย็นให้กิน เนื้อ 200-250g กับหมู 50g (หมายถึงเท่านี้แบ่งกิน 2 มื้อ) ซึ่ง เรารุ้สึกว่า มันน้อยอยู่นะ ถ้าเทียบกับที่เรากินก่อนหน้านี้ แต่ . . กลายเป็นว่า เมื่อวานเรากินเนื้อไป 217g กลับอิ่มเฉย อิ่มยันเย็น จนเริ่มคิดว่า สงสัยที่ตูทำมาก่อนหน้านี้ คงจะกินเกินสุดๆ เลยสินะ Over Eating 55555555555555+

ส่วน นน. ที่ค้างก็ลงมาแล้วด้วย . . ปกติตอนช่วงเปลี่ยนเลขมันจะลง ยากมาก หมายถึงมันจะค้างอยู่แบบนั้น เป็นครึ่งเดือนเลยก็มี แต่รอบนี้ เจอคุณอ้อมเข้าไป ฉลุยเลย กร๊ากกกกก . . จะเห็นว่าก่อนหน้านี้ เราไม่เคยบอก นน. ของเรากับทุกคนเลย ส่วนหนึ่งคือ เรากลัวทุกคนตกใจ 55555+ แล้วเรามันเป็นพวก เวลาเครียด หรือเสียใจเรื่องอะไร เราจะใช้การกินแก้เครียด ดังนั้น .. น้ำหนักขึ้น 20 กิโล ++ นี่เป็นอะไรที่ธรรมดาสำหรับเรามากเลย . . บ้าบอเนอะ! ดังนั้น . . 80% ของชีวิตในช่วง 10 ปีให้หลัง เราจึงหนัก เกินร้อยกิโลอยู่ตลอด ล่าสุดเราไปไกลถึง 115 - 118 กิโลกรัม เลยทีเดียว ช่วงนั้นเราไม่กล้าส่องกระจกเลย ไม่กล้าบันทึก นน.ด้วย ถ่ายรูปผ่าน App เป็น 10 แอปก็ยังดูไม่ได้ เราถึงขั้นไม่อยากเจอผู้คน เราเคยแว้นนนน หนีรถ ที่คิดว่าน่าจะเป็นรถของคนที่เราคุยอยู่ เพราะไม่อยากให้เค้าเจอสภาพเราในร่างนี้ มันเหมือนคนโรคจิตมาก บางทีเราก็รู้สึกว่าเราซึมเศร้า ไม่มีอะไรดีเลย ความรักตัวเองของเราติดลบ

นี่คือเราในปี 2019 ตอนนั้น เราหนัก 93 กิโลกรัม คิดว่าเป็น นน. ต่ำสุดที่เคยพยายามจะเอาลงมาให้ได้ ในช่วงสิบปีหลังแล้ว เราพยายามจะเอาลงให้ได้เลขแปด แต่ . . พอคิดว่ามันจะต้อง เอาลงให้ได้ทีไร มันก็พุ่งขึ้นไปร้อยกว่าทุกที ตอนหนักหนึ่งร้อย พยายามจะเอาลงให้ได้เลขสองตัว มันก็พุ่งไปร้อยสิบกว่า เหมือนว่า ความเป็นจริงกับการกระทำมันจะไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ใช่แล้ว เราก็ยัง Happy กับอาหารการกิน Happy กับขนมโดยไม่ได้คำนึง ถึงความอันตรายของโรคที่มันเกือบจะถึงขีดจำกัดของร่างกายแล้วด้วย

ปัจจุบัน เราเลิกโฟกัสที่ นน. แล้วค่ะ ไม่ใช่อะไร ผลจากที่เราปล่อย ตัวจนมันขยายใหญ่ขนาดนั้นมายาวนาน เราเลยได้ของแถมมาด้วย นั่นก็คือ โรคที่พ่วงมาพร้อมกับโรคอ้วนเป็นกิ๊ฟเซตแจกฟรี ที่ไม่อยาก จะรับมันก็บังคับให้รับมาจนได้ทั้งเบาหวานความดันไขมัน บลาๆ ใช่แล้ว มันก็คือโรคที่เกิดจาก ระบบเผลาผลาญพังนั่นเอง (Metabolic Syndrome) นั่นคือเหตุผลที่เราเลิกโฟกัสน้ำหนัก แล้วมาโฟกัสที่โรคพวกนี้แทน เพราะถ้าไม่พยายามรักษา ตัวเองจริงจัง จริงๆ ครั้งนี้ เราอาจจะตายจริงๆ ก็ได้ !

เราพยายามลดน้ำหนัก มาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว พยายามตัดน้ำตาล (ตอนนั้นยังกินสารให้ความหวานอยู่) แต่การกินยังไม่เคร่งเท่าไร เรากินตามหลักการ คีโตแบบไม่เครียด หรือ คีโตเขี่ยซะส่วนใหญ่ ก็คือเขี่ยอันที่ไม่กินออกทิ้งไป 55+ นน. มันก็ลงนะ แต่เบาหวาน มันไม่คงที่เลย เพราะเราหลุดบ่อยหลุดไปปาร์ตี้กับเพื่อนที นี่ก็ตะเลิดตะเลยไปหลายอาทิตย์ กว่าจะกลับมาคุมอาหารได้อีกครั้ง ตอนนั้นคือ น้ำตาลเด้งไปถึง 300 แบบไม่รู้ตัว น้ำตาลสะสม ขึ้นไปถึง 12 ซึ่ง ในคนปกติ ควรจะมีค่าน้ำตาลสะสมอยู่ที่ 5.7 เท่านั้น เราเกินไปมากกว่าหนึ่งเท่า ก็ยังจะไม่รู้สึกรู้สา !

อย่างไรก็ตาม การคุมอาหารแบบกินๆ หยุดๆ ของเรามันก็ยัง พอที่จะมีแต้มบุญอยู่บ้าง มาปลายปีที่แล้ว นน. เราลงมาอยู่ที่ 105 กิโลกรัม ซึ่งมันก็ลงเยอะอยู่นะสิบโล แต่แม้ นน. จะลง น้ำตาลเสือกยังสูงจร้า สูงปรี๊ดดดดดดดดดดด เหมือนเดิม

และความบรรลัย มันก็มาถึง . . เรามาถึงจุดที่ว่า แม้ว่ากินยาเบาหวาน แต่ . . ค่าน้ำตาลก็ไม่ลดแล้ว วันที่ 17 เดือนพฤศจิกายนปี 24 ค่าน้ำตาลปลายนิ้วเราอยู่ที่ 284 เราเริ่มมีอาการปวดหัว ปวดต้นคอ แบบที่นอนไม่ได้ คือ พอนอนแล้วมันจะเกร็งคอ มันตึงไปหมด มันทำให้เราปวดหัวซีกขวาทั้งซึกแบบที่กินพอนแสตนก็ไม่หายปวด เราต้องพก UNIREN SPRAY ไปทุกที่ที่เราไปเพราะเดี๋ยวคอก็ปวด เดี๋ยวขาก็ปวด เราเสียเงินกับยาพวกนี้ไปเยอะมาก เวลากลางคืน ต้องลุกมานั่งสมาธิ นั่งพอให้มันง่วง มันจะได้เพลีย แล้วหลับไปเอง

ตอนนั้น . . ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว อีกวัน เราเริ่มตัดน้ำตาล อย่างจริงจัง รอบนี้ สารให้ความหวานก็ไม่กินแล้ว แต่ยังมีใช้ เครื่องปรุงคีโตฯ อยู่บ้างเช่น น้ำปลา ซอสถั่วเหลืองคีโตฯ อาหารที่ทำเน้นให้ได้รสชาติจากเครื่องเทศเป็นหลัก แล้วน้ำตาลมันก็ค่อยๆ ลดลงมา เดือน ธันวาคม น้ำตาลสะสม เราลดลงมาอยู่ที่ 9.6 เข้าเดือนกุมภาพันธ์ น้ำตาลสะสมเรา ลงมาอยู่ที่ 7 เป้าหมายเราอยู่ที่ 5.7 ยังต้องตั้งใจทำต่อไป . .

ปัจจุบัน แม้ว่าน้ำตาลเช้า ยังสูงอยู่ที่ 120 เพราะเกิดจากภาวะ Down fenomenon ที่สืบเนื่่องมาจากไขมันที่ยังค้างอยู่ในตับ หรืออีกทางหนึ่ง อาจเป็นเพราะเรา IF จนร่างกายหลั่งคอลติซอลเยอะ มากกว่าปกติก็เป็นได้ แต่อย่างไรซะ . . น้ำตาลตอนเย็น ที่เจาะตอน หลังอาหารสามชั่วโมงครึ่งของเราตอนนี้ ก็ลงมาอยู่ที่เลข 2 ตัวแล้วนะ เราค่อนข้างพอใจมากกับผลลัพธ์ที่ได้จากความตั้งใจนี้
 11 กุมภาพันธ์ 2025 น้ำหนักเราลงมาอยู่ที่ 89.15 กิโลกรัม แม้ว่า ในแอปมันจะบอกว่า 99% ของผู้ใช้มีน้ำหนักเบากว่าเรา แต่ . . แค่นี้เราก็ Happy มากแล้ว การคุมอาหารสไตล์นี้เรารู้สึกว่า นน. ที่ลงไป มันไม่ใช่น้ำ หรือกล้ามเนื้อที่หายใป เรามั่นใจว่า มันเป็นไขมันมากกว่า 70% . . ที่เชื่ออย่างนั้นเพราะว่าเราสามารถ เอาชุดในตอนนี้ที่น้ำหนัก 80 กิโลกรัมมาใส่ได้ทั้งๆ ที่ตอนนี้ หนักกว่าตอนนั้น ตั้งเกือบสิบกิโลแนะ 

เราคิดว่า ตัวเราและจุดยืนของเราในปัจจุบัน ถือเป็นการ เริ่มต้นปี 2025 ที่ดีมากๆ ท๊อปฟอร์มสุดๆ ไปเลย ตอนนี้ พี่ๆ ในที่ทำงาน หรือใครก็ตามไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือคนที่เรารู้จัก ที่เคยห้ามเรา ที่เคยพูดกับเราว่า . . จะทำไปทำไม อะไรแบบนั้น ตอนนี้เลิกค้านเราแล้ว เนื่องจากผลลัพธ์ที่ได้มันออกมาดีจนเค้าหาคำคัดค้านไม่ออก รอบข้างเรา ณ เวลานี้ มีแต่คนสนับสนุน และให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม ซึ่งเรา ดีใจมาก เรามีความสุขมากๆ เลย มันเหมือนรอบข้างเราเต็มไปด้วยพลังบวก และตัวเราเอง ก็พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยพลังบวกที่เรามี หลังจากก่อนหน้านี้ เราใช้แต่พลังลบคอยผลักดันตัวเองมาตลอด ทั้งสองแบบนี้ มันอาจจะได้ผลลัพธ์ไม่ต่างกัน แต่ . . พอเอามา เปรียบเทียบกันจริงๆ แล้ว พลังบวกมันได้ฟิลลิ่งที่ดีกว่ามากๆ เลยนะ แบบที่ . . . แค่ลงมือทำ เราก็สัมผัสได้ถึงความสุขแล้ว ทั้งๆที่ "เป้าหมาย" มันยังไปไม่ถึงไหนเลยก็ตามเหอะ . .
ช่วงอาทิตย์ที่แล้ว เราเปลี่ยนโภชนาการ ไปกิน CD ตามแผน ของคุณอ้อม ก็คือ กินเนื้อสัตว์และไข่ ปรุงแค่เกลือพริกไทยน้ำปลาแท้เท่านั้น เอาจริงๆ นะ ไม่กินน้ำตาลไม่ขาดใจ แต่พอไม่ได้กินพริกเนี่ยะ ก็แอบเศร้านะ 5555+ คุณอ้อมถือเป็นกัลยาณมิตรที่แท้ทรูเพราะเป็นใครก็ไม่รู้ ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เรามาเจอคุณอ้อมจากคลิปยูทูป (ด้านบน) ตอนนั้น เรากำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำ Alternate-Day Fasting อยู่ แล้วเจอคลิปคุณอ้อมโดยบังเอิญ คุณอ้อมเริ่มต้นจาก นน. 115 กิโล ปัจจุบัน ผ่านมาสี่ปีแล้ว น้ำหนักนางคงที่อยู่ 48 กิโลกรัม ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยลงไปถึง 40 กิโลกรัมด้วยซ้ำ แต่นางว่าผอมไป เลยกำลังเพิ่ม นน.อยู่ คุณอ้อมถือเป็นไอดอลของเรา แล้วเค้าน่ารักมาก เค้าโทรหลังไมค์มาหาเรา ตั้งแต่วันที่เราทักไปสอบถามข้อมูล จนปัจจุบันยังให้คำปรึกษาเรื่อง อาหารที่เรากินอยู่ทุกวัน โดยที่ไม่คิดเงินเลยสักบาท เราโชคดีจริงๆ พอเจอคุณอ้อม นน. ที่ค้างอยู่ 91-92 มาหลายอาทิตย์ก็ลงมาเลข 8 จนได้ ทั้งๆ ที่เราแทบไม่ได้ IF เลย (กินครบทั้ง 3 มื้อ)

เรา Happy กับ Way นี้มาก . . เราตั้งใจทุ่มเงินที่มีเพื่อซื้อเนื้อ และปฎิบัติตามแผนของคุณอ้อมทุกอย่าง แต่ . . มันก็มีบ้าง อย่างวันหยุดที่ผ่านมา เราลืมกินเนยกับชาเขียวตอนเช้า มาเริ่มกินตอนสิบโมง เลยโดนบ่นนิดหน่อย จากนั้นนางก็ ปรับแผนให้เรากินมื้อเดียวตอนบ่ายสามในวันนั้น . .

พร้อมคำกำชับที่ว่า . . "ห้ามกินเกินจากที่อ้อมบอกนะคะ" 55+
แต่เนื้อ 300 กรัม กับไข่ 5 ฟองก็จุกมากจริงๆ ทำตามคำสั่งที่ว่า "กินไข่ขาวไม่หมดให้ทิ้งไปเลย กินแต่ไข่แดงพอ ไข่ขาวมันมีแต่โปรตีน ไม่มีสารอาหารใดๆ เลยด้วยซ้ำ อ้อมไม่เข้าใจว่าทำไมคนชอบกิน แต่ไข่ขาวกัน " นางกล่าว นั่นแหละ เราเลยทิ้งไข่ขาวไป แต่ไข่แดงกินเรียบ

แม่ไม่สามารถ ทำตามเราได้ นางไม่ Happy ตอนนี้นางเลย ทำตามวิธีการของนาง คือ กำจัดแคลอรี่ในอาหาร ผลงานก็ถือ ว่าใช้ได้ ใดใดก็ตามเพื่อนบ้านเอาทุเรียนมาให้เป็นลูกๆ อีกแล้วจร้า ปลอกมาให้ด้วยหมอนทองแบบเนื้อเพียบเม็ดนิดเดียว นางเลย แกะเอาเม็ดออกแล้วแบ่งใส่ถึงฟรีสไว้ นางบอกจะทยอยกิน สัปดาห์ละพู เหอๆ ก็คงต้องค่อยๆ คุมความประพฤติของแม่ไป ห้ามนางมาก นางก็เก็บกดมาก มันก็ไม่ดีอีกแหละ . . แต่แปลกจริงๆ ที่รอบนี้เราไม่ได้มีความอยากทุเรียนฟรีเลย ไม่พอ อีน้องคนที่ ซื้อเราด้วยบุฟต์เนื้อพรีเมียม มันมาโผล่มาอีกแล้ว รอบนี้ จะไปกินชาบู ตอนแรกเราก็ตกลงไป แต่ . . พอมาเจอคุณอ้อมเราเลยโทรไปยกเลิกนัด นางโวยนิดหน่อย แล้วบอกให้เปลี่ยนไปกินร้านที่เรากินได้ ร้านที่มีเนื้อย่างสิ ไม่ต้องบุฟต์ก็ได้ ถ้าพี่เงินไม่พอผมออกเพิ่มให้ก็ได้ ป๊าดดดดดด . . มันเอาเงินซื้อเราอีกแว้วววว . .
แต่ไม่ค่ะ รอบนี้เราจริงจัง เราบอกไปว่า ไม่รู้คุณอ้อม จะติวอาหารให้ถึงเมื่อไร ดังนั้น ช่วงนี้ถือว่าเป็นช่วงกอบโกย จะเป็นเด็กนักเรียนที่ดื้อไม่ทำตามคำสั่งครู ไม่ด๊ายยยยยย

หนทางยังอีกยาวไกล . . และเราก็ยังสนุกกับการกิน มัทฉะใส่เนยบ้าง กาแฟใส่เนยบ้าง ในทุกๆ เช้า

เรายืนยันนอนยันได้ว่า . . ตอนนี้ มันดีมากๆ จริงๆ ในทุกเรื่องเลย หน้าตาเราสดใสมาทำงานทุกวัน จนเพื่อนที่ทำงานทักว่าอินเลิฟหรอ เดี๋ยวววววว ผู้ชายไม่ตกถึงท้อง เอาที่ไหนมาอินเลิฟ . .แต่ก็ดีแล้ว ปกติถ้า นน. ลงมา 90 เราก็จะเหงาๆ แล้วก็ชอบไปเขี่ยหาผู้มาทุกที ตอนนี้คิดว่าอยู่กับแมวไปดีแล้ว ดีไม่ดี รอบนี้ มันอาจจะลงไป เลข 7 จริงๆ ก็ได้ เย้ๆ . . ถ้าเรากลับไปเป็นคนปกติได้เมื่อไร เราก็พร้อมจะไปแรดแล้วนะ ดี๊ด๊าาา สุดๆ ไปเลย ครึๆ บั น ทึ ก D i a r y โ ด ย ตั ว ห น อ น กิ๊ ว ๆ
Create Date : 11 กุมภาพันธ์ 2568 |
Last Update : 11 กุมภาพันธ์ 2568 17:13:11 น. |
|
24 comments
|
Counter : 323 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณ**mp5**, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณmultiple, คุณหอมกร, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณกะริโตะคุง, คุณทนายอ้วน, คุณกะว่าก๋า, คุณtoor36, คุณThe Kop Civil |
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:13:56:47 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:15:34:46 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:15:52:53 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:16:03:22 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:16:24:17 น. |
|
|
|
โดย: กะริโตะคุง วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:17:05:40 น. |
|
|
|
โดย: กะริโตะคุง วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:17:14:15 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:18:43:41 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:20:55:43 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:5:47:00 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:5:58:25 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:21:12:35 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:8:56:39 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:15:36:55 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:15:52:14 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:16:09:59 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:17:02:11 น. |
|
|
|
โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:17:15:58 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:19:34:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา:5:51:38 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ใด ๆ คือ ตามที่บอกในบล็อกเลยจ้า
ในกลุ่มอาหารแมวเปียกที่ไม่เค็ม เราเพิ่งลองมา 3 ยี่ห้อ
Bellotta ถูกสุด ปริมาณมากสุดด้วย แต่สีเข้มและเนื้อไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
แมวป่วยแมวแก่น่าจะชอบ เพราะคงกินง่ายกว่า
ราคาต่อโหล แค่ 135 แต่หักส่วนลดโน่นนี่นั่นเหลือแค่ซองละ 10 บาทกว่า
แต่จริง ๆ ไปเสิร์ช ๆ ดู มีหลายยี่ห้อราคาถูกกว่านี้อีกนะ
ไม่ได้บอกว่ายี่ห้อไหนดีกว่ากัน ต้องไปดูรายละเอียดอีกทีจ้า
ลองไปเรื่อย แต่ต้องดูรายละเอียดหลังฉลากด้วย เน้นไม่เค็ม ไม่เกลือ เหมือนคนแหละ 555