All Blog
อำนาจที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรกว่า
อำนาจที่ยิ่งใหญ่เกรียงไกรกว่า
#พรรณีเกษกมล 
#เหนือฟ้าชะตาลิขิต
เมื่อเพชรได้เป็นจมื่นจักรเพชร หัวหมื่นมหาดเล็กนั้น นับว่าใหญ่โตมากแล้ว เพราะจมื่นนั้นนับได้ว่าเป็นใหญ่สุดที่คุมกรมทหารรักษาพระองค์
จมื่นจักรเพชรคงจะเริ่มกร่าง วางอำนาจบาตรใหญ่ขึ้นมาบ้าง เพื่อสร้างความน่าเกรงขาม และบารมีที่เริ่มก่อตัว ตามประสาผู้มีนิสัยทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูง 
ทั้งนี้มีหลวงเดชา หลวงเก่งกาจคอยเออออห่อหมกไปเสียทุกเรื่องราว ดีครับพี่ เหมาะครับท่าน อะไรทำนองนั้น ยิ่งสร้างความเหิมเกริมลำพองใจให้มากขึ้นในตัวของจมื่นจักรเพชร 
จมื่นจักรเพชร ผู้ซึ่งมีปมซ่อนเร้นในก้นบึ้งของหัวใจว่า 
“ข้าอาจจะเป็นพระโอรส ด้วยเลือดขัตติยะที่แฝงในกาย สมควรได้รับในสิ่งที่สูงส่งเลอค่า แค่นี้ไม่ใช่ยอดปรารถนาหรอก มันเป็นเพียงบันไดขั้นแรก ๆ เท่านั้น ที่จะไต่เต้าไปยังปลายฝัน”
คำพูดเหล่านี้มาจากก้นบึ้ง จึงซ่อนอยู่ในก้นบึ้ง มิเคยเอื้อนเอ่ยออกจากปาก ด้วยเกรงราชภัยที่จะคืบคลานเข้ามา ด้วยข้อหา เหาจะกินหัว บังอาจเหิม
เกริม ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเอาเสียเลย ระวังหัวจะหลุดจากบ่าไม่รู้ตัว
ถึงจะเป็นคนโปรดของบรรดาเจ้านาย แต่มันต้องมีขีดจำกัดกันบ้าง

ท่าทีของจมื่นจักรเพชรคงจะขัดหูขัดตาใครต่อใครบ้างแหละ แต่ไม่ใช่กับเจ้าเหนือหัวนรสิงห์ จ้าวทัศน์ จ้าวอินทรแน่นอน
เพราะอะไรรึ
ในท้องพระโรง เจ้าเหนือหัวนรสิงห์มักเอ่ยปากชมกรมทหารรักษาพระองค์ที่ทำงานได้เข้มแข็ง โดยมีจมื่นจักรเพชรเป็นหัวหน้าใหญ่ และจ้าวทัศน์ จ้าวอินทรคอยพยักหน้าเห็นดีเห็นงามไปด้วย
กลุ่มขุนนางในท้องพระโรงคงไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียวหรอกน่าที่เป็นพรรคพวกของสมุหพระกลาโหม แม่ทัพใหญ่ในสมัยเจ้าเหนือหัวนรลักษณ์ 
ทว่าคงไม่มีแม้สักคน ที่กล้าต่อต้านสมุหพระกลาโหมอย่างออกหน้าออกตา อย่างมากเป็นได้แค่ขุนพลอยพยัก ก้มหน้าก้มตา พยักหน้ารับคำไปเรื่อย ๆ แม้ในใจอาจหมั่นไส้เคืองแค้นสมุนของสมุหพระกลาโหมที่ชอบวางอำนาจบาตรใหม่ ข่มขู่ข่มเหงพวกขุนนาง
ลิ่วล้อตัวเป้งของสมุหพระกลาโหมนั้น ไม่ไช่แค่ใหญ่โตและวางอำนาจกับพวกขุนนางที่เป็นขุนพลอยพยัก แต่กับชาวบ้านร้านถิ่นตามเสียงที่ซุบซิบนินทานั้น แสนจะชั่วร้ายเลวทรามทีเดียว

เมื่อพฤติกรรม การกระทำ คำพูดที่เจ้าเหนือหัวนรสิงห์ จ้าวทัศน์ จ้าวอินทรแสดงออกมาว่าชื่นชมจมื่นจักรเพชรนั้นสร้างความขุ่นเคืองให้แก่ลิ่วล้อตัวเป้งของสมุหพระกลาโหมแน่นอน 
พวกมันคิดกันเองว่า
“มันอยากสร้างฐานอำนาจใหม่ เสริมบารมีให้จ้าวทัศน์ พระโอรสองค์โตที่ประสูติแต่พระอัครมเหสี องค์รัชทายาทที่จะได้สืบครองบัลลังก์องค์ต่อไป ว่ามิใช่เบา พอมีทหารคุ้มกันภัย”
“มันกระจอก แค่ทหารมหาดเล็กในรั้วในวังหยิบมือเดียว จะมาสู้ทหารรักษาประเทศเช่นพวกเราได้เยี่ยงไร”
“คงคิดกันว่า พวกมันจะป้องกันราชภัยได้เช่นนั้นรึ”
นับวันความขุ่นเคืองขัดใจยิ่งก่อตัวมากขึ้น
อะไรจะเกิดตามมานะ
สึนามิหรือเปล่า 
หลังจากคลื่นสงบมาหลายปี มันอาจปะทุก่อตัวขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง เป็น
สึนามิถล่มให้แผ่นดิน บ้านเมืองพังทลายราบคาบเป็นเมือง ๆ ไป
นับตั้งแต่เจ้าเหนือหัวนรลักษณ์สิ้นแล้ว เจ้าเหนือหัวนรสิงห์ได้ขึ้นครองราชย์ต่อมา ภายใต้การสนับสนุนของสมุหพระกลาโหม โดยมีข้อตกลงกันเช่นไร ไม่มีใครรู้ 
รู้แต่ว่าเจ้าเหนือหัวนรสิงห์ไม่เคยขัดขวางสมุหพระกลาโหมเลย แม้สักเรื่องเดียว ไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ใคร่ทำเช่นไรได้ตามประสงค์เลยนะ
แม้จะมีข่าวหนาหูถึงความชั่วร้ายเลวทรามที่ขูดรีดชาวบ้าน ข่มขู่ขุนนาง ของลิ่วล้อตัวเป้งของสมุหพระกลาโหม โดยสมุหพระกลาโหมทำท่าทีวางเฉย ไม่รู้ไม่เห็น แม้ว่าจะข่าวสะกิดให้เข้าหูบ้างบางครั้ง 
ท่าทีทำเป็นหูทวนลม บ่งบอกว่า แท้จริงอาจเป็นผู้บงการ รับสินบาตรคาดสินบน ฉ้อราษฎร์บังหลวง กอบโกยส่วย เพื่อให้ร่ำรวยล้นฟ้า

อำนาจเป็นสิ่งหอมหวาน ยากนักที่จะยอมคืนหรือเปลี่ยนมือให้ใคร เพราะเมื่อมีอำนาจย่อมได้ทุกสิ่งดังใจปรารถนา และคงไม่ยอมให้ใครมาแย่งชิงอำนาจไปอย่างง่ายดายโดยมิคิดต่อสู้หรือขัดขวาง
เมื่ออำนาจใหม่แสดงทีท่าอยากผงาดขึ้นมาเทียมหน้าเทียมตาบ้าง
อำนาจเก่าที่มากบารมี จะยอมง่าย ๆ รึ คงต้องคอยรอต่อไปว่า ฤทธิ์เดชของลิ่วล้อตัวเป้งของสมุหพระกลาโหมจะทำเช่นไรได้บ้าง



Create Date : 04 ธันวาคม 2567
Last Update : 4 ธันวาคม 2567 5:43:02 น.
Counter : 271 Pageviews.

0 comment
ตำแหน่งที่เริ่มใหญ่โตมีอำนาจ
ตำแหน่งที่เริ่มใหญ่โตมีอำนาจ

ทั้งสามหนุ่ม เพชร เดช และชัยเติบโตในกรุงศรีราม ทำงานเป็นมหาดเล็กในรัชสมัยของเจ้าเหนือหัวนรสิงห์ ซึ่งมีพระโอรสที่ประสูติจากพระอัครมเหสีชื่อ จ้าวทัศน์  และพระโอรสที่ประสูติจากพระสนมเอกชื่อ จ้าวอินทร
ทั้งจ้าวทัศน์และจ้าวอินทรต่างประสูติในปีเดียวกัน และเป็นปีที่เพชรได้ถือกำเนิดเช่นกัน เรียกว่าเป็นสหชาติ พี่น้องที่เกิดในปีเดียวกัน
ด้วยเหตุที่เพชรนับเป็นลูกของญาติผู้พี่ในพระสนมเอก แม่ของจ้าวอินทร จึงมีอภิสิทธิ์เหนือกว่าเด็กอื่น ด้วยข้ออ้างมากมาย
ถึงแม้จะมีข่าวว่า ญาติทั้งสองไม่ได้สนิทสนมรักใคร่กันมากมายดุจญาติสนิท ทว่าเจ้าเหนือหัวนรสิงห์กลับถูกชะตากับเพชร ชนิดที่ใคร ๆ คาดไม่ถึง ทำให้เอ็นดูเพชรมากพอ ๆ กับพระโอรสทั้งสอง
จนเกิดเป็นข่าวลือเกี่ยวกับชาติกำเนิดของเพชร และอภิสิทธิ์ที่มีมากเกิน
เพชรกลายเป็นพระสหายสนิทของจ้าวทัศน์และจ้าวอินทร ทั้งการเรียนและฝึกวิทยายุทธ์ เข้านอกออกวังได้อย่างสะดวกสบาย

ยุคนี้เป็นช่วงที่กรุงศรีรามเจริญรุ่งเรือง มีชาวต่างชาติมาค้าขายและรับราชการจำนวนมาก 
การใช้เวลาพบปะกับชาวต่างชาติต่างภาษาเพื่อเรียนรู้วิทยาการในโลกอีกฝั่งหนึ่งที่เจริญรุ่งเรืองกว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายยิ่งนัก ในสายตาของเพชร หนุ่มผู้กระหายใคร่รู้ และมีความทะเยอทะยานสูง 
บางสิ่งที่แอบซ่อนในใจยิ่งเพิ่มแรงจูงใจให้สูงกว่าคนอื่น เพิ่มการฝึกฝนให้สมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อเตรียมพร้อมเป็นผู้นำสูงสุด
เพชรมีโอกาสดีกว่าจ้าวทัศน์และจ้าวอินทร ตรงที่ออกนอกวังได้สะดวก และไปพบปะพูดคุยกับชาวต่างชาติ เรียนรู้ความเจริญของโลกภายนอก ของชาวต่างชาติ ฝึกฝนภาษาและทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตของคนในอีกซีกโลก

เพราะความมุ่งมั่นที่จะเจริญก้าวหน้ายิ่งกว่าใคร ๆ
พ.ศ. 2155 ณ กรมทหารมหาดเล็กวังหลวง กรุงศรีราม 
จากเพชรมหาดเล็กวิเศษ ได้ก้าวหน้าเป็นถึงจมื่นจักรเพชร หัวหมื่นมหาดเล็ก เมื่ออายุเพียง 16 ปี ก้าวข้ามมาเคียงคู่ตำแหน่งจมื่นสรรเพชญภักดี จมื่นเสมอใจราช จมื่นไวยวรนารถมาโดยไม่ยาก 
จมื่นนับเป็นตำแหน่งสูงสุดของมหาดเล็กรักษาพระองค์
สมัยนั้นผู้คนมีอายุไม่ยืนยาวนัก อายุเพียงน้อยนิดได้เริ่มทำงานกันแล้ว เป็นหนุ่มเป็นสาวกันเร็วขึ้น เพราะอายุแค่ห้าสิบลาจากไปสวรรค์กันเกือบหมดสิ้น ใครอยู่ยงมาได้หกสิบนับว่าอายุยืนมากแล้ว
อย่าสับสนกับอายุของผู้คนใน พ.ศ. 2567 ที่มีอายุขัยสูงมาก ๆ โดยเฉลี่ยอาจอยู่ถึง 70 – 80 ปี และบางคนอายุยืนถึง 100 ปี
เมื่อเทียบอายุจึงไม่ต้องตั้งข้อสงสัย ด้วยต่างกันเรื่องกาลเวลาของบริบท

บัดนี้อำนาจทางทหารในกรมทหารรักษาพระองค์อยู่ในกำมือของจมื่นจักรเพชร หัวหมื่นมหาดเล็กในรัชสมัยเจ้าเหนือหัวนรสิงห์ 
เช่นเดียวกับนายเดชได้เป็นหลวงเดชา รองเจ้ากรมทหารรักษาพระองค์ และนายชัยได้เป็นหลวงเก่งกาจ รองเจ้ากรมพระตำรวจหลวง
อำนาจที่เคยฝันใฝ่มาแต่รู้ความ และรู้ว่า ไม่ใช่เฉพาะพระโอรสเท่านั้นที่มีสิทธิ์สืบครองราชสมบัติต่อจากพระบิดา ทำให้ทั้งสามครุ่นคิดสงสัยว่า มันเป็นไปได้ในพงศาวดารจีน แต่ที่กรุงศรีรามย่อมไม่มีทางเป็นไปได้แน่ เพราะอัธยาศัยชาวกรุงศรีรามนั้นมีความจงรักภักดีต่อสถาบันเจ้าเหนือหัวยิ่งนัก 
คงไม่มีผู้ใดบังอาจหรืออาจหาญมาล้มล้างได้ แล้วที่ใฝ่ฝันว่าจะก้าวไปให้สูงสุดนั้นจะไปได้ไกลถึงแค่ไหน ใคร่อยากรู้นัก
นี่อาจจะเป็นแค่ฝันเฟื่อง ฝันกลางวันของเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่แอบซ่อนไว้มิดชิดในใจ มีแต่สองหนุ่มผู้น้องเท่านั้นที่รู้ และไม่เคยเอ่ยปากออกมา ไม่ให้ใครรู้แม้สักนิดแม้แต่ผู้เดียว เพราะนั่นคือหัวหลุดจากบ่าได้ง่าย ๆ ทั้งสามทีเดียว

เมื่อครั้งที่เพชรได้เป็นจมื่นจักรเพชร หัวหมื่นมหาดเล็กนั้น นับว่าใหญ่โตมากแล้ว เพราะจมื่นนั้นนับได้ว่าเป็นใหญ่สุดที่คุมกรมทหารรักษาพระองค์ หรือเป็นนายทหารใหญ่คุมกองกำลังรักษาพระราชวังคุ้มกันความปลอดภัยให้แก่พระราชวงศ์ทุกพระองค์ โดยมีหลวงเดชา และหลวงเก่งกาจเป็นกองกำลังสนับสนุน เรียกว่าเป็นพวกเดียวกัน เออออห่อหมกตามกันไปในทุกเรื่องราว
ฝันเฟื่อง ฝันกลางวันหล่อเลี้ยง
ความทะเยอทะยานให้อยู่กับใจ
อุดมการณ์และจิตใจอันแน่วแน่
ความเพียรพยายามอันแรงกล้า
ย่อมไปถึงจุดสูงสุดของชีวิตได้



Create Date : 03 ธันวาคม 2567
Last Update : 3 ธันวาคม 2567 9:04:47 น.
Counter : 123 Pageviews.

0 comment
ปมที่กัดกร่อนจิตใจแต่เด็ก
ปมที่กัดกร่อนจิตใจแต่เด็ก
เสียงนินทาซุบซิบที่นายเพชรได้เป็นจมื่นจักรเพชรรวดเร็วเกินเพื่อน ๆ นั้น ย่อมไม่พ้นข้อหาว่า เป็นโอรสลับในเจ้าเหนือหัวนรสิงห์ จึงได้อภิสิทธิ์เหนือกว่าเพื่อน ๆ และอภิสิทธิ์นี้ครอบคลุมทุกด้าน
“ทำไมไม่ประกาศไปเสียเลยว่า เป็นโอรสลับ”
มันคือคำถามในใจของใครหลายคน ไม่เว้นแม้แต่เจ้าตัวที่ตั้งคำถามแต่ยังพอรู้ความ

เพชรเป็นเด็กฉลาด เมื่อมีคำถามกำกวมสงสัย จึงใคร่อยากได้คำตอบ
เพชรเติบโตมาในฐานะบุตรชายคนโตของพระศรีธรรมากับแม่นางอิน ที่เลี้ยงดูด้วยความรักใคร่อย่างเต็มเปี่ยมในฐานะพ่อกับแม่ 
ทว่ายังคงมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างถึงแม่อิน สมัยเป็นสาวบางปะอิน แล้วได้ลอบรักกับเจ้านายชั้นสูง จนได้ลูกชาย
แต่ในเสียงลือนั้น กลับสับสนว่า ที่จริง ใครกันแน่ที่เป็นสาวคนรักของเจ้าเหนือหัวนรสิงห์ในครั้งกระนั้น

เสียงในหัวของเพชรเถียงกันไปมา
“ตกลงใครกันแน่ คือพ่อและแม่ที่แท้จริง”
“ถ้าแม่นั้นคือแม่นางอินจริง แต่พ่อล่ะ ใช่จริงหรือไม่” 
“คงไม่ใช่แม่ได้กับพ่อแล้วแอบมีชู้ แต่เป็นเพราะพ่อที่แท้จริงไม่ยอมรับในฐานะลูกจึงโยนภาระนี้ให้แก่พระศรีธรรมา ผู้เป็นพ่อในตอนนี้หรอกนะ”
ไม่ใช่แค่เสียงในหัวที่เถียงและโต้ตอบกันเองไปมา แต่เพชรได้พูดเรื่องนี้กับเดชและชัย ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว แต่มันบ่อยครั้ง ทุกครั้งที่เสียงซุบซิบลอยมาเข้าหู

เสียงพูดซุบซิบดังไปทั่ว จนแทบไม่ใช่เสียงกระซิบผ่านสายลมซะแล้ว แต่พูดกันอย่างเอิกเกริก ราวกับเป็นเรื่องจริง ที่ไม่ควรปกปิดซ่อนเร้นอีกต่อไป 
เสียงนี้ดังจนมาเข้าหูเพชรหลายครั้งหลายครา 
เพชรเคยสงสัยว่า “เหตุใดคนเป็นพ่อแท้จริงจึงไม่ยอมรับตนในฐานะลูก 
ทำไมคนจึงพูดกันหนาหูนัก”
 
หลายครั้งหลายครา มันไม่ใช่เสียงกระซิบ แต่มีคนตั้งใจมาสะกิดถามเขาโดยตรง บ้างทำเป็นพูดลอย ๆ ให้ผ่านหู เจตนาให้เขารับรู้ 
เพชรทำอะไร แค่คำถามกวนใจ ยังต้องมาฟังเสียงคนถามตรง ๆ อีก
สิ่งที่เพชรได้ทำ นอกจากฉุนเฉียว พาลโกรธคนรอบข้าง รวมทั้งเดชกับชัย ต้องคอยรองรับอารมณ์ แต่ไม่เคยได้โต้ตอบโดยตรง เพราะไม่รู้คำตอบที่เป็นจริง

เมื่อได้ยินเสียงซุบซิบบ่อยครั้งเข้า เพชรจึงถามแม่อินตรง ๆ ว่า 
“แล้วจริง ๆ ลูกเป็นลูกใครกันแน่ ลูกของแม่จริง ๆ หรือเปล่า แล้วใครเป็นพ่อที่แท้จริงล่ะ แม่อิน”
เมื่อเพชรถาม คำตอบเป็นเช่นนี้ทุกครา
แม่นางอินจะยืนยันเสียงแข็งทุกครั้งเช่นกันว่า 
“แม่เป็นแม่ของลูก และพ่อเป็นพ่อของลูก มิผิดไปจากนี้หรอก ลูกรัก คนก็พูดกันมากความให้ลูกข้องใจไปเล่น ๆ อย่างนั้นเอง อาจจะแค่เย้าแหย่ลูกเล่น”
เพชรเชื่อแม่ เมื่อแม่ยืนยันเสียงหนักแน่นทุกครั้ง
ต่อจากนั้นจะเถียงคอเป็นเอ็นเมื่อได้ยินใครพูดว่า นายเพชรเป็นลูกของใครกันแน่ 
“ตนเป็นลูกของพระศรีธรรมากับแม่นางอิน” เสียงที่ตอบโต้ทันทีด้วยน้ำเสียงโกรธนิด ๆ 
ไม่มีสักครั้ง ไม่มีสักคราเลยนะ ที่แม่จะเผลอพูดความจริงออกมาหรือแสดงท่าทีมีพิรุธ
แม่น่าจะเป็นนักแสดงมืออาชีพแน่ ๆ หรือมีเหตุจำเป็นอันใดหนักหนาที่แม่จำต้องซ่อนปมเงื่อนความลับอันเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตน 
คำถามนี้ยังคงต้องรอคำตอบที่ชัดเจนว่า ชาติกำเนิดที่แท้จริงเป็นเช่นไร เหตุใดจึงมีเสียงลือเสียงเล่าอ้าง ให้ผู้คนโจษขานได้อื้ออึงเช่นนี้ล่ะ

เมื่อเพชรเริ่มโตพอรู้ความมากขึ้น เพชรจะไม่ถามแม่เช่นเดิม เพราะแม่คงจะยืนยันคำเดิมทุกคราไป แต่ในใจนั้นหาลืมเลือนไม่ เริ่มปะติดปะต่อในเรื่องราวที่ใคร ๆ พูดกันถึงชาติกำเนิดของตน
ถึงจะถามไปกี่ครั้ง คงไม่ได้คำตอบที่แท้จริง แต่เสียงลือนั้นเริ่มเบาบางลง ด้วยเหตุการณ์ที่ผ่านมาคงนานวันขึ้น 
คงเหมือนข่าวลือทั่วไปที่มักจะกระพือโหมแรงในช่วงแรก ๆ เท่านั้น 
พอนานวันเข้าคนก็ไม่รู้จะพูดไปทำไม มันไม่ทันสมัย เว้นเสียแต่จะมีเหตุการณ์ใดมาทำให้เกิดการปะทุขึ้นมาอีกครั้ง เป็นประเด็นใหม่ที่ควรวิจารณ์กัน
บางคนแอบซุบซิบว่า 
“เพชรน่ะเป็นโอรสลับของเจ้าเหนือหัวนรสิงห์จริง ๆ สังเกตสิว่า พระองค์โปรดปรานและรักใคร่เอ็นดูในเพชรมากกว่าลูกท่านหลานเธอทั้งหลาย เพียงแต่ไม่ยกย่องอย่างออกนอกหน้านอกตาเท่านั้น” 
“ไม่ใช่หรอก แค่ลูกของพระศรีธรรมากับแม่นางอินเท่านั้น เป็นเพราะแม่นางอินน่ะเป็นพระญาติสนิทกับแม่จ้าวอินทรน่ะ เลยคุ้นเคยกันมาก่อน



Create Date : 03 ธันวาคม 2567
Last Update : 3 ธันวาคม 2567 2:30:39 น.
Counter : 132 Pageviews.

0 comment
ด้วยอภิสิทธิ์ที่เหนือกว่าเด็กทั่วไป
#พรรณีเกษกมล"
ด้วยอภิสิทธิ์ที่เหนือกว่าเด็กทั่วไป
สามหนุ่ม นามเพชร เดช และชัย เติบโตมาด้วยกัน 
เพชรเป็นพี่ใหญ่ ส่วนเดชและชัยคือสมุนเอก ลิ่วล้อที่ทำตามคำสั่งพี่เพชร โดยไม่เคยโต้แย้ง หรือคัดค้านแม้สักคำ เพราะมั่นในใจเสมอมาแต่เด็กว่า
“ในสามโลกนี้ไม่มีใครชาญฉลาดเท่าพี่เพชรแล้ว รู้รอบ อาจหาญเป็นที่สุด ไม่เชื่อพี่แล้วจะไปเชื่อใครล่ะ”
นี่คือคำที่ทั้งสองตอบคำถามผู้อื่น เมื่อเห็นว่า ยอมทำตามคำสั่งเสมอมา ไม่ว่าจะบุกน้ำลุยไฟ หรือก่อเหตุที่อาจเกิดอันตรายต่อชีวิต
เพราะคิดเช่นนี้ สองหนุ่มผู้น้องจึงนับถือพี่เพชรด้วยใจ แต่เด็กจนแก่เฒ่า และนับเป็นสิ่งดีงามที่ทำให้ทั้งสามก้าวกระโดดไปได้ดังใจหมาย
ทีมที่ดี แข็งแกร่ง ย่อมฝ่าฟันทุกปัญหาอุปสรรคโดยไม่ยาก

สิ่งที่ทำให้หลายคนในรั้วในวังอดแปลกใจไม่ได้
“ทำไม เจ้าเหนือหัวนรสิงห์ จึงให้อภิสิทธิ์และทรงชุบเลี้ยงนายเพชรดีกว่าญาติคนอื่น ๆ ให้เป็นมหาดเล็กหลวงตั้งแต่อายุยังน้อย ได้รับตำแหน่งมหาดเล็กหุ้มแพรเมื่ออายุ 14 และได้เป็นหัวหมื่นมหาดเล็กตำแหน่งจมื่นศรีอายุเพียง 17 ปี
อายุเพียงน้อยนิด มีตำแหน่งใหญ่โตซะแล้ว
“นี่มันอะไรกันนี่ เส้นสายใครใหญ่โตและเอื้อตำแหน่งได้ง่ายดายเกินไปมั้ย” คำนินทาซุบซิบจากเพื่อนมหาดเล็กรุ่นเดียวกัน ถึงจะรู้แน่แก่ใจว่า พี่เพชรนั้นฝีมือเยี่ยมยุทธจริง ๆ แต่มันไม่น่าจะก้าวพรวดพราดเร็วขนาดนี้ไหม
“ยิ่งกว่านั้นซะอีก ใช่แค่พี่เพชรเท่านั้น แต่นี่ ไอ้เดชกับไอ้ชัยพลอยติดสอยห้อยตามก้าวกระโดดเหนือกว่าพวกเรา”
“แต่เราเห็นเขาฝึกซ้อมหนักหน่วงอยู่นะ ไม่เหมือนพวกเรา เช้าชามเย็นชาม จะได้สักแค่ไหนกัน” บางคนพยายามคัดค้านและให้เหตุผลประกอบ
แต่เชื่อเถอะ ไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน ยิ่งเพชรได้อภิสิทธิ์ชัดเจนมากเท่าใด ยิ่งมีคนหมั่นไส้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น
จากความรู้สึกหมั่นไส้ในวัยเด็ก อาจแปรเปลี่ยนเป็นความเกลียดชัง อาฆาตพยาบาทในยามเติบใหญ่ได้

เพื่อนกันวัยเด็ก นายเพชร นายเดช นายชัย จากหนุ่มน้อยอายุเพียงสิบกว่านับว่าโตเต็มที่ในสมัยนั้น มีโอกาสรับราชการเป็นขุนนางกันแล้ว
นายเพชรเมื่ออายุ 17 ได้เป็นถึงจมื่นศรี หัวหมื่นมหาดเล็ก ตำแหน่งใหญ่โตมิใช่เบา นายเดชได้เป็นคุณหลวง นามว่าหลวงเดชา นายชัยก็เช่นกันได้เป็นคุณหลวง นามว่าหลวงเก่งกาจ
ชื่อหลวงเก่งกาจเพื่อแก้เคล็ด เพราะความเป็นคนใจดี ใจเย็นที่สุดในสามหนุ่ม จึงให้เก่งกาจเพื่อเอาตัวรอดได้

นับเป็นการก้าวกระโดดที่รวดเร็วมากเกินสำหรับการเป็นมหาดเล็กหลวง 
มีแต่คนสงสัยและตั้งคำถาม
“อ๋อ ที่วิ่งเร็วเกิน เพราะอะไรล่ะ ใคร ๆ รู้กันทั้งนั้นแหละ”
“เส้นสายที่ใหญ่โต เป็นหลานชายของพระสนมที่รักยิ่งของเจ้าเหนือหัวนรสิงห์ เป็นเพื่อนวิ่งเล่นกับจ้าวทัศน์และจ้าวอินทร ด้วยเกิดในปีเดียวกัน และที่สำคัญที่หลายคนแอบซุบซิบคือเพราะเป็นพระโอรสลับในเจ้าเหนือหัวนรสิงห์นั่นเอง” เสียงที่อธิบาย ราวกับผู้รู้ประจำกลุ่ม แต่ตอนท้ายเสียงเริ่มเบาลง ไม่อยากพูดดังให้ใคร ๆ รู้ความนัยที่แม้แต่ชาวบ้านยังแอบพูดถึง 
“ทำไมนะ ถึงไม่เปิดเผยให้เป็นเรื่องเป็นราว เป็นลูกสนม มันไม่แปลกเลย แต่นี่ มีแต่เสียงอื้ออึง ให้ผู้คนสงสัย”
“เพราะสนมนั้น ดันเป็นญาติที่สนิทชิดเชื้อ ทว่า เกลียดขี้หน้าน่ะสิ ไม่อยากให้ได้ใคร่ดี เลยปลดลงให้เป็นเมียคนอื่นไปซะ”
ถ้าพูดเรื่องของจมื่นศรี ทั้งกลุ่มคงมีเรื่องเม้าท์มอยส์ไปอีกนาน ถ้าไม่มีเสียงคนเดินเข้ามาใกล้ ๆ และไม่แน่ใจว่าเป็นใครกัน

นอกจากเส้นสายเส้นสนกลในแล้ว ลักษณะเด่นของนายเพชรคือเป็นเด็กฉลาดเฉลียวมีปฏิภาณไหวพริบสูงมาก เป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียน ชอบอ่านค้นคว้าเพิ่มเติมในหอบรรณาลัยที่เก็บตำราหลวง จึงรอบรู้เรื่องราวต่าง ๆ เหนือกว่าเด็กในวัยเดียวกัน 

อภิสิทธิ์หลายอย่าง นอกจากได้เลื่อนตำแหน่งรวดเร็วเกินหน้าใคร ๆ 
หลายคนตั้งข้อสงสัย อภิสิทธิ์เช่นนี้ราวกับโอรสลับหรือเปล่า
การได้สิทธิ์เข้านอกออกในแต่วัยเยาว์ ได้วิ่งเล่นสนุกสนาน โดยไม่มีใคร แม้สักคนกล้าดุ ตำหนิว่ากล่าวเลย
ยิ่งกว่า ได้เป็นพระสหายคนสนิทของจ้าวทัศน์และจ้าวอินทร ด้วยข้ออ้างว่า เกิดในปีเดียวกัน พระโอรสจะได้พระสหายไว้วิ่งเล่น และร่ำเรียนเขียนอ่านด้วยกัน 
“ไม่มีข้อสงสัยเลยรึ เราว่าเพราะเป็นโอรสลับนี่แหละ ถึงแม่จะไม่ได้เลื่อนเป็นพระสนมก็ตาม แต่ความจริงคือความจริง ที่หลายคนรู้ แต่ไม่กล้าพูดออกจากปาก เพราะกลัวพระสนมเอกจะเคืองเอานั่นเอง”



Create Date : 02 ธันวาคม 2567
Last Update : 2 ธันวาคม 2567 8:17:58 น.
Counter : 113 Pageviews.

0 comment
เหนือฟ้า ชะตาลิขิต ทิตา

เหนือฟ้า ชะตาลิขิต
ทิตา
ดวงชะตาที่ถือกำเนิด จะพลิกผืนฟ้า ผลัดแผ่นดิน
ทำให้เจ้านายหวั่นเกรงต่อภยันตรายตามคำทำนาย
ด้วยสายเลือดขัตติยะ มิอาจฆ่าทิ้งทำลายให้ใจหาย
ได้แต่เพียงปกปิดชาติกำเนิด หวังลดทอนสิ่งเลวร้าย
ลดตำแหน่งเป็นลูกพระญาติ ที่ไม่มีสิทธิ์ในบัลลังก์
แต่ยังได้สิทธิ์เฉกเช่นพระโอรส ฝึกปรือวิทยายุทธ
เติบโตในรั้ววัง เรียนรู้ทุกสิ่งอัน พร้อมจะเป็นผู้นำชาติ
ดวงชะตาจะพลิกผันเปลี่ยนไปตามแต่คนขีดเส้นไว้
หรือเพราะฟ้าลิขิตขีดเส้นใต้ บังคับเส้นทางให้ก้าวเดิน 
ดลบันดาลให้เป็นจอมราชันย์ สร้างความยิ่งใหญ่
แก่ผืนปฐพี ผลัดแผ่นดินเปลี่ยนราชวงศ์สมดังคำทำนาย 
มิอาจฝืนดวงชะตาที่ลิขิตให้ยิ่งใหญ่เหนือฟ้าแต่แรกเกิดได้



Create Date : 02 ธันวาคม 2567
Last Update : 2 ธันวาคม 2567 4:38:25 น.
Counter : 127 Pageviews.

0 comment
1  2  3  4  5  6  7  

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments