Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
28 กันยายน 2550
 
All Blogs
 
ตะวันขึ้นที่ฮาลองเบย์

ผมเดินทางไปท่องเที่ยวกับคณะ ที่ประเทศเวียดนาม (กรุงฮานอย) เมื่อวันที่ 20-23 กันยายน 2550 และมีโอกาสไปชมความงามของอ่าวฮาลองหรือ Halong bay วันที่ 21 กันยายน 2550 จึงขอนำสิ่งที่ได้พบเห็นมาบันทึกไว้ ณ ที่นี่ครับ

หลังจากลงเครื่องบินที่สนามบินนอยไบ กรุงฮานอย แล้ว ได้เดินทางด้วยรถบัสปรับอากาศต่อไปยังจังหวัดกว่างนิงห์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของอ่าวฮาลอง (ระหว่างทางแวะพักเข้าห้องน้ำและชมผลิตภัณฑ์จากฝีมือผู้ป่วยด้วยโรคฝนเหลือง) ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ก็ถึงตัวจังหวัด คณะของเราเข้าพักที่โรงแรม Grand Halong Hotel ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว (มีจำนวนดาวที่ชื่อโรงแรมด้วย)



โรงแรมนี้ตั้งหันหน้าสู่อ่าวฮาลอง ผู้ที่ได้ห้องพักด้านนี้จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของอ่าวได้อย่างชัดเจน และในตอนเช้าประมาณ 05.30 น. จะเห็นแสงเงินแสงทองทอจับขอบฟ้า และอีกไม่นานก็จะได้มีโอกาสชมตะวันขึ้นที่อ่าวฮาลอง (ภาพนี้ผมถ่ายจากหน้าต่างห้องพัก)



ในวันที่มีอากาศดีเช่นนี้ ภาพตะวันขึ้นที่ทอแสงส่องพื้นน้ำในอ่าวฮาลองที่เงียบสงบ ช่างสวยงามและมีมนต์ขลังต่อผู้พบเห็นเสมอ



ได้เวลาเหมาะสมแล้ว (8.00 น.) ล้อหมุน คณะของเราเดินทางออกจากโรงแรมไปที่ท่าเรือ เพื่อลงเรือท่องอ่าวฮาลองกัน มีเรือมากมายรอนักท่องเที่ยวอยู่ที่นี่



เรือเริ่มออกเดินทางสู่อ่าวฮาลองแล้ว คำว่า "ฮาลอง" ในภาษาเวียดนามหมายถึงสถานที่ที่มังกรดำดิ่งสู่ท้องทะเล



ตามตำนานเล่ากันว่า มีมังกรตัวหนึ่งพร้อมบริวารได้ลงมาจากสวรรค์ เพื่อช่วยเหลือชาวเวียดนามจากข้าศึกที่มารุกราน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจก็กลับใจไม่กลับสวรรค์ (เป็นงั้นไป)



และได้กลายร่างเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่ไปทั่ว บ้างก็ว่าหางที่สะบัดไปมาระหว่างทางของมัน ทำให้เกิดร่องเขาลึกมากมาย



เมื่อมังกรทิ้งตัวลงสู่ทะเล น้ำที่กระฉอกขึ้นมาก็ไหลท่วมท้นไปตามหุบเขา เกิดเป็นยอดเขาสูงนับพันเหนือคลื่น และหน้าผาเหล่านี้ก็เต็มไปด้วยถ้ำ เช่นถ้ำพระราชวังสวรรค์ (Dau Co) ซึ่งคณะของเราจะขึ้นไปชมความงามกัน



การเดินทางเข้าไปยังถ้ำนี้ จะต้องปีนบันไดที่จัดทำใหม่ ขึ้นไปหลายขั้น บันไดค่อนข้างชันและแคบ แต่มีราวให้เกาะเดิน จึงไม่น่ากลัวมากนัก ทางเข้าถ้ำและทางออกถ้ำอยู่คนละทางกัน จึงไม่มีปัญหาที่นักท่องเที่ยวจะเดินสวนทางแล้วชนกัน ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยสวยงามมาก สามารถจินตนาการเป็นรูปร่างต่าง ๆ ได้มากมาย ทางการนำไฟสีต่าง ๆ มาประดับไว้ด้วยทำให้เกิดสีสรรสวยงาม



ออกจากถ้ำพระราชวังสวรรค์ ลงเรือเดินทางต่อไป จะพบแพที่เลี้ยงปลาในกระชังอยู่ในอ่าว เป็นระยะ ๆ ทราบจากไกด์ว่าเขามีไว้จำหน่ายให้เรือนักท่องเที่ยว ซื้อและนำขึ้นไปปรุงบนเรือเลยเพื่อความสดจริง ๆ



นอกจากปลาแล้ว ในแพเหล่านี้ยังมีปู กุ้ง หอย และปลาหมึก ไว้จำหน่ายอีกด้วย เรียกว่าเป็น Sea food ครบสูตรเลย



เรือของผมมีอาหารกลางวันประเภทซีฟู๊ดอยู่แล้ว จึงไม่มีใครต้องลงไปซื้อของในแพกันอีก คงรอเสริฟอาหารกันอย่างเดียว ระหว่างนั้นก็ดูเครื่องประดับจากไข่มุก และแร่ลิกไนท์ ที่มีจำหน่ายในเรือไปพลาง ๆ ก่อน (ไกด์บอกว่าเป็นของจริงจึงมีราคาค่อนข้างสูง แต่ต่อรองราคากันได้ จ่ายเป็นเงินบาทก็ยอม ขอให้ซื้อเถอะ)



ในที่สุดก็มาถึงเกาะไก่ชน ที่เป็นสัญลักษณ์ของอ่าวฮาลอง เรือมาจอดให้ชมความงามของเกาะรูปร่างแปลก ๆ นี้ (ชาวเวียดนามบอกว่ารูปร่างเหมือนไก่สองตัวชนกัน) ใกล้เที่ยงแล้ว เวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง นั่นคืออาหารกลางวันแบบซีฟู๊ดจริง ๆ มีทุกอย่าง ทั้งปูปลากุ้งหอยและปลาหมึก แถมด้วยผัดผักและข้าวสวยร้อน ๆ รับประทานเสร็จ ก็เป็นเวลาของการจับจ่ายซื้อของในเรือกันอีก จนกระทั่งกลับไปถึงท่าเรือโดยสวัสดิภาพ ทุกคนรู้สึกตัวเบา(แต่ละคนจ่ายไปหลายแสนดอง-หนึ่งหมื่นดองเป็นเงินประมาณ 22 บาท) และมีความสุขที่ได้ล่องเรือชมความงามของอ่าวฮาลอง(และได้ซื้อของฝากด้วย) อ่าวฮาลองสวยงามมาก เหมาะสมแล้วที่องค์การยูเนสโกประกาศให้เป็น "มรดกโลก"



ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามชมครับ


Create Date : 28 กันยายน 2550
Last Update : 28 กันยายน 2550 20:39:33 น. 7 comments
Counter : 3854 Pageviews.

 
ขอตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ


โดย: AM NUCH วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:16:53:16 น.  

 
รีวิวได้ละเอียดจังคับ


โดย: ปืนแก๊ป วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:17:08:29 น.  

 


โดย: kampanon วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:19:18:36 น.  

 
วิวสวยมากค่ะ


โดย: miss Florence in Venice วันที่: 28 กันยายน 2550 เวลา:22:43:24 น.  

 
ไปต้นปีจะหนาวไหมหนอ อยากไปฮาลองเบย์ ..


โดย: nam (ocs ) วันที่: 1 ตุลาคม 2550 เวลา:1:45:48 น.  

 
พักที่โรงแรมเดียวกันครับ แต่ผมไม่ค่อยนำรูปมาอัพลงบล็อก ยังถ่ายรูประดับฝึกฝน ผมนำลงในเว็บซีมะโด่งเท่านั้น


โดย: yyswim วันที่: 11 มกราคม 2556 เวลา:13:37:17 น.  

 
คุณ yyswim

ตอนผมเรียนพักที่บ้านญาติเลยไม่ได้เป็นชาวซีมะโด่ง แต่ผมออกค่าย สจม.ด้วย ในปีเดียวกับคุณหญิงแอ๋ว ค่ายผมมี ดร.อาจอง ชุมสายฯ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาค่ายครับ.


โดย: ทองกาญจนา วันที่: 12 มกราคม 2556 เวลา:13:29:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ทองกาญจนา
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 41 คน [?]




Friends' blogs
[Add ทองกาญจนา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.