19.45 น. ของวันเสาร์ที่ 28 มกราคม "ศึกสงครามแดงเดือด" เวอร์ชั่น เอฟเอ คัพ จะอุบัติขึ้นอีกครั้ง

แน่นอนว่าด้วยความเป็น "Red War" มนต์
ขลัง และ อดีตที่ยิ่งใหญ่ บวกกับความเป็นคู่รักคู่แค้นกันมาโดยตลอด
ทำให้เหล่าสาวกของทั้ง 2 ทีม ออกอาการซี๊ดปาก ทุกคราที่ต้องเจอะเจอกัน

แม้หลายคนมองว่า บนเส้นทางเอฟเอ คัพ ปีนี้  "หงส์-ผี" จับสลากมาจ๊ะเอ๋กันรอบนี้ (32ทีม) มันดูจะเร็วไปหน่อยก็ตามที

"หงส์
แดง" ภายใต้การคุมทัพของ เคนนี่ ดัลกลิช กำลังหึกเฮิม
หลังจากกำราบแมนฯซิตี้ พร้อมกับซิวตั๋วไปเวมบลีย์ โดยมีตำแหน่งแชมป์
"คาร์ลิ่ง คัพ" รออยู่ ส่วนจะทำได้หรือไม่วันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้
ค่อยมาดูกัน

ทว่าหลายเกมในลีกที่ผ่านมา อาจจะทำให้บรรดา "เดอะค็อป" ส่ายหัวอยู่บ่อยครั้ง กับผลงานที่เจอทีมใหญ่งี้เล่นดี๊ดี!...แต่พอเจอทีมเล็กเป็นอันสลบทุกคราไป!

บวกกับห้วงเวลานี้ "หลุยส์ ซัวเรซ" ยังต้องชดใช้โทษแบน ส่งผลถึงเกมรุกของทีมเป็นที่สุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานบนฟลอหญ้าของ "แอนดี้ คาร์โรลล์" เล่นแบบน่าเข็กกะโหลกจริงๆ

ทว่าคนที่ได้รับเสียงชื่นชม อย่าง "เคร็ก เบลลามี่" ถือเป็นสิ่งที่เข้าตาเอามากๆกับการหวนสู่ทีมคำรบที่ 2 ของแข้งเล็กพริกขี้หนูรายนี้

ฟากฝั่ง "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด เกมในลีกยังกดดันจ่าฝูงได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้บัลลังก์แชมป์ลีกสมัยที่ 20 ยังคงอยู่ในเส้นทาง

ส่วน
เอฟเอ คัพ 2012 ครั้งนี้ถือว่า
พวกเขาเจอเส้นทางหฤโหดจริง...รอบที่ผ่านมาจับเจอกับ แมนฯซิตี้
และผ่านมากได้แบบทุลักทุเลด้วยสกอร์ 3-2

มิหนำซ้ำการยกพลมาเยือนที่แอนฟิลด์ในเวลานี้ ถือว่าไม่ฟูลทีมเอาซะเลย

ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ ยังคงตามมาหลอกหลอนอยู่ทุกนัด ล่าสุด หลุยส์ นานี่,และ ฟิล โจนส์ ก็มีข่าวว่าพัดยาวไปแรมเดือนเลยทีเดียว

แต่ที่ยังพอทำให้ "เร้ด อาร์มี่" อุ่นใจได้บ้าง คงเป็นเกมรุกที่กลับมาเข้าฝักอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "อันโตนิโอ วาเลยเซีย" กำลังเข้าฝัก วิ่งปรู๊ดปร๊าดดีเหลือเกิน

เชื่อว่าช่วงหัวค่ำของคืนวันเสาร์นี้ เหล่าสาวกของทั้ง 2 ทีมคงเตรียมตัวเตรียมใจพบกับเกมสุดระทึกหนนี้เป็นแน่

เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เล่นที่ไหน ใครเหนือเกว่าก่อนเกม.....

แต่สุดท้ายการลงสนามของทั้งคู่คือความมันส์ที่คอลูกหนังจะได้รับมันไป!!