1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30 31
★♠ ♡ ♣★ ต้มกะทิหอยราก (หอยปากเป็ด , หอยตะเกียง ) ★♠ ♡ ♣★
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ
วันนี้มีเมนูเด็ดๆมาฝากกันอีกแล้วค่ะ เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเจ้าของบล็อกไปจ่ายตลาดที่ตลาดสดเทศบาลฯ ซึ่งเป็นตลาดสดที่ใหญ่ที่สุดในตัวจังหวัดสุราษฎร์ธานีค่ะ อยากได้อะไรถ้าไปหาซื้อที่นั่นโอกาสที่จะผิดหวังกลับมามีน้อยมาก เพราะที่นั่นเป็นศูนย์รวมอาหารสด อาหารแห้ง ของฝาก ฯลฯ วันนั้นตั้งใจจะไปหาซื้อวัตถุดิบมาทำเมนูต้มเค็มหน่อไม้ไผ่ตง แต่พอจอดรถและเดินไปถึงทางเข้าตลาด ตาก็เหลือบไปเห็น "หอยราก" ที่แม่ค้าคนหนึ่งเอามาขาย อันว่าหอยรากนี้สมัยที่เจ้าของบล็อกยังเป็นเด็กจะมีเยอะและราคาถูกมาก ส่วนใหญ่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี จะหาหอยชนิดได้และมีขายกันมากแถวๆอำภอท่าฉางและอำเภอไชยา วันเวลาผ่านไป หอยชนิดหายากและราคาแพงขึ้น เมื่อสัก 10 ปีก่อนเคยซื้อกิโลกรัมละ 40 - 60 บาท ปัจจุบันนี้ราคาขยับขึ้นไปกิโลกรัมละ 100 บาท วันนั้นเจ้าของบล็อกไปเจอเข้า ด้วยความอยากกินเพราะนานทีปีหนจะเจอคนเอามาวางขาย ก็เลยกลั้นใจถอยมาครึ่งก.ก. อยากเอามาทำต้มกะทิ เมนูนี้แม่เคยทำให้กินเมื่อสมัยยังเด็กและเป็นเมนูโปรดของแม่รวมถึงเจ้าของบล็อกเองด้วยค่ะ หอยราก หรือ หอยปากเป็ด หรือ หอยตะเกียง (Lamp shell) ชื่อวิทยาศาสตร์ Lingula anatina จัดเป็นสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง อยู่ในไฟลัม แบรคิโอโพรดา ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่สัตว์จำพวกหอยแต่มีเปลือก 2 ฝา คล้ายคลึงกับหอยกาบคู่ พบอาศัยฝังตัวอยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเลที่เป็นทรายปนเลน โดยมันใช้ส่วนอวัยวะที่เรียกว่า"ราก" เป็นท่อเอ็นยาวคล้ายหางช่วยในการเคลื่อนที่ฝังตัวลงในพื้นทราย อาศัยตามพื้นท้องทะเลชายฝั่งตื้น ๆ ที่เป็นโคลนแข็งหรือโคลนเลน กินอาหารจำพวก ไดอะตอม แพลงตอนพืช และแพลงตอนสัตว์ (วิกิพีเดีย) เครื่องปรุง 1.หอยราก ครึ่งก.ก. 2.กะทิเอาเฉพาะหัวกะทิ ประมาณ 2 ถ้วยตวง 3.หอมแดง กระเทียม ตามชอบ 4.เกลือป่น 5.น้ำตาลทราย 6.น้ำมะขามเปียก วิธีทำ 1.ล้างหอยรากให้สะอาด ส้างสัก 2 - 3 น้ำ 2.มะขามเปียกแช่น้ำไว้ให้เนื้อมะขามพองตัว 3.ปอกเปลือกหอมแดงและกระเทียม ล้างให้สะอาด ทุบพอแตก 4.เอาน้ำกะทิใส่หม้ตั้งไฟ ใส่หอมแดงและกระเทียมทุบลงไป ใส่เกลือป่นประมาณ 1 ช้อนชา 5.พอน้ำกะทิเดือดใส่หอยรากลงไปปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำตาลทราย ชิมให้ออกรสเปรี้ยว เค็ม หวานเล็กน้อย ต้มต่อไปจนเปลือกหอยหลุดออกเกือบหมดทุกตัว ปิดไฟ ตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ หอยราก รสชาติอร่อยและมีกลิ่นเฉพาะตัวค่ะ ส่วนที่เป็นรากเวลาเคี้ยวจะหนึบๆ เหนียวๆ แม่เคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อน เขานิยมเอาส่วนรากของหอยชนิดนี้มาดอง แล้วกินเป็นกับข้าว ส่วนรสชาติจะเป็นอย่างไรนั้น เจ้าของบล็อกยังไม่สามารถถ่ายทอดสู่กันฟังได้นะคะ เนื่องจากตัวเองก็ยังไม่เคยกินเหมือนกัน ก็อย่างที่กล่าวมาตอนต้นล่ะค่ะว่าเดี๋ยวนี้หายากแล้ว นานๆถึงจะมีมาให้เห็นสักครั้ง เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะเอารากของมันมาดองก็ยากเช่นกันค่ะ และสำหรับบล็อกนี้ก็คงจะฝากไว้เพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนที่แวะมาชมและทักทาย ขอบคุณของแต่งบล็อกสวยๆจากคุณเนยสีฟ้า คุณชมพร และขอบคุณคำแนะนำในการแต่งบล็อกจาก น้องปอย แค่ได้รู้จัก_ก็เพียงพอ แล้วกลับมาพบกันใหม่คราวหน้านะคะ สวัสดีค่ะ
Create Date : 16 กรกฎาคม 2556
30 comments
Last Update : 16 กรกฎาคม 2556 0:02:20 น.
Counter : 12192 Pageviews.
โดย: schnuggy 16 กรกฎาคม 2556 1:54:59 น.
โดย: กะว่าก๋า 16 กรกฎาคม 2556 6:24:33 น.
โดย: ลุงกล้วย 16 กรกฎาคม 2556 6:46:34 น.
โดย: sawkitty 16 กรกฎาคม 2556 6:57:27 น.
โดย: mambymam 16 กรกฎาคม 2556 8:26:08 น.
โดย: อุ้มสี 16 กรกฎาคม 2556 8:52:12 น.
โดย: kuky 16 กรกฎาคม 2556 9:18:41 น.
โดย: กะว่าก๋า 16 กรกฎาคม 2556 14:04:52 น.
โดย: schnuggy 16 กรกฎาคม 2556 18:11:52 น.
โดย: ทนายอ้วน 16 กรกฎาคม 2556 19:24:23 น.
โดย: กะว่าก๋า 17 กรกฎาคม 2556 6:18:16 น.
โดย: ทนายอ้วน 17 กรกฎาคม 2556 8:54:42 น.
โดย: nongfont 17 กรกฎาคม 2556 14:49:20 น.
โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) 17 กรกฎาคม 2556 19:15:58 น.
โดย: pantawan 17 กรกฎาคม 2556 23:28:28 น.
โดย: schnuggy 18 กรกฎาคม 2556 1:09:59 น.
Location :
สุราษฏร์ธานี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 77 คน [? ]
"ฝากเธอ" เป็นชื่อเพลงๆหนึ่งของคุณปนัดดา เรืองวุฒิ เป็นเพลงที่จขบ.โปรดปรานค่ะ จึงเลือกมาใช้เป็นชื่อบล็อก "ฝากเธอ" เริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของบล็อกแก๊งค์เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2549 เขียนบล็อกอยู่ราวสองปีกว่าก็หายไปพักใหญ่ๆ แล้วก็กลับมาประจำที่นี่อีกครั้งเมื่อปลายปี 2555 ค่ะ
หอยปากเป็ดนี้นิคไม่เคยเห็นสดๆค่ะ
ที่ตลาดมีขายเค้าเอาไปทำหวานๆค่ะ
พรุ่งนี้ไปชวนเฮียมาดูดีกว่า
เฮียน่าจะไม่เคยเห็น
จองที่ไว้ แล้วไปนอนก่อนค่ะพี่
ฝันดีราตรีสวัสดิ์ค่ะ
Zzzzz..