การแสดงของทายาทโนราเติม ในงาน ๑๐๐ ปีทับเที่ยง
สวัสดีค่ะ
บล็อกใหม่วันนี้ สาวจะไปไปดูการแสดงโนราค่ะ มโนราห์ หรือ โนรา เป็นศิลปะการแสดงประจำถิ่นของภาคใต้ซึ่งมีหลายจังหวัดด้วยกัน สำหรับจังหวัดตรังแล้ว หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า "มาแต่ตรัง ไม่หนังโนรา" คำนี้บ่งบอกว่าในตรังมีโนราหลายคณะ แต่คณะที่ขึ้นชื่อและ ดั้งเดิมของตรัง นั่นคือ โนราเติม
โนราเติม ชื่อนายเติม อ๋องเซ่ง เกิดปี พ.ศ. ๒๔๕๗ ที่ตำบลเขาวิเศษ อำเภอวังวิเศษจังหวัดตรัง เป็นบุตรของนายตั้ง นางลบ อ๋องเซ่ง สัญชาติไทย เชื้อชาติจีน
สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ ๖ จากโรงเรียนวิเชียรมาตุ จังหวัดตรัง แล้วไปเรียนจบมัธยมปีที่ ๘ ที่โรงเรียนคณะราษฎร์บำรุง จังหวัดยะลา
"นายเติม" ฝึกรำโนรามาตั้งแต่อายุ ๘ ขวบและมีโอกาสรำโนราครั้งแรกเมื่ออายุ ๑๓ ปีในงานแก้บนของขุนสุทธินนท์ นายอำเภอเมืองตรัง ลีลาเด่นของโนราเติมคือว่ากลอนสด ซึ่งโนราเติมมีพรสวรรค์ด้านนี้เป็นเลิศ โดยมีเจ้าคุณอรรถโมลี (กลิ่นศิรนรินทร์) เจ้าอาวาสวัดโคกสมานคุณ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาเป็นที่ปรึกษา และมีคู่หูเป็นแรงหนุนให้โนราเติมโด่งดังยิ่งขึ้นคือ "พรานแมง" ตัวตลกคู่หู ซึ่งสามารถโต้ตอบบทกลอนกับโนราเติมได้อย่างเฉียบขาด เฉียบพลัน
โนราเติมยังมีชื่อเสียงด้านการพัฒนา การรำโนราให้กับยุคสมัย เนื่องจากช่วงนั้นผู้ชมหันไปนิยมภายนตร์และมหรสพชนิดอื่นกันมาก โนราเติมจึงเรียกความสนใจคนดูด้วยการดัดแปลงนวนิยาย มาดัดแปลงประกอบการแสดงโนรา เปลี่ยนการแต่งกายแบบโบราณมาใช้ชุดสากลแทน เป็นแบบให้โนราคณะอื่นหันมาเอาแบบอย่าง
"โนราเติม" เป็นศิลปินที่มีอุดมการณ์สูงมาก มีจุดยืนในสิ่งที่ถูกต้องดีงาม แม้ท่านจะเป็นศิลปินที่มีความเชื่อมั่นและเป็นตัวของตัวเองสูง แต่เมื่อเจอภาวะวิกฤตท่านก็ต้องยอมงอ คือยอมงอแต่ไม่ยอมหัก หมายถึงท่านต้องยอม เช่น ยอมสวมสูทในยุคสมัยจอมพล ป.พิบูลย์สงคราม เพราะถูกจับหลายครั้ง ครั้งที่ถูกจับพร้อมโนราแปลกท่านแค หลังจากนั้นโนราแปลกท่าแคก็ยุติการแสดงโนราไปเลย รับแต่งานโรงครูเล็ก ๆ น้อย แต่ท่านยอมสวมสูท ถูกศิลปินด้วยกันบางส่วนต่อว่าวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำลายวัฒนธรรม แต่บางส่วนก็เข้าใจว่าเพื่อความอยู่รอด แต่ท่านก็ยังคงรักษาวัฒนธรรมโนราดั้งเดิมไว้โดยภรรยาทั้งสอง ส่วนท่านก็ใช้มุตโตเป็นเสมือนอาวุธที่นำมาใช้อธิบายชาวบ้าน ศิลปิน ในขณะที่วิพากษ์การทำงานของรัฐบาลไปด้วย จนในที่สุดตำรวจก็เริ่มไม่จับเพราะเริ่มเข้าใจ อีกอย่างสำคัญมากคือการที่ท่านทำให้รู้ว่า"ศิลปะวัฒนธรรมต้องมีการเคลื่อนไหวและพัฒนาไปบ้าง วัฒนธรรมหากอยู่นิ่งเกินไปก็คงตาย"
โนราเติมเป็นคนพูดเก่งและเจ้าชู้ ไปแสดงที่ไหนมักจะได้ภรรยาที่นั่น จนมีภรรยาถึง ๕๔ คน ภรรยาคนที่ ๕๓ และ ๕๔ คือหนูวินกับหนูวาด โนราเติมได้ถึงแก่กรรมด้วยโรคไตวาย ใน พ.ศ. ๒๕๑๔ เมื่ออายุได้ ๕๗ ปี ปัจจุบันคุณวราภรณ์ นุ่นแก้ว (อ่องเซ่ง) ลูกสาวและทายาทยังคงสืบสานเจตนารมย์ของโนราเติมอยู่
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการจัดงานมหกรรมโนราโรงครู อนุสรณ์ ๑๐๐ ปี ชาตกาลโนราเติม ขึ้นที่ วัดโคกสมานคุณ พระอารามหลวง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ส่วนที่จังหวัดตรัง คณะโนราเติมมาแสดงในงาน ๑๐๐ ปีทับเที่ยง ซึ่งสาวไปถ่ายรูปมาด้วย
รถของคณะโนราเติม
คุณวราภรณ์ ลูกสาวโนราเติมค่ะ
รุ่นเหลน น้องเอเซียและเปียโน
เตรียมพร้อม
เริ่มขับกลอน
เบื้องหลัง
น้องเปียโน
สวยงาม
เริ่มแสดงเต็มรูปแบบ
สวยงาม
อ่อนช้อย
พื้นที่ค่อนข้างน้อย ถ่ายรูปยาก
แต่ก็ถ่ายมาเยอะเหมือนกัน
มาถึงอีกรุ่น รุ่นโต
น่าประทับใจ
ดูเพลิน
คนสนใจเยอะ
เพราะในตรังแล้ว ทุกคนล้วนได้ยินชื่อโนราเติม
รุ่นพี่อีกคน
น้องคนนี้เคยได้รับรางวัลด้วยค่ะ
โนราตัวอ่อน
สุดยอดเลย
ดูมือ และตัว
เคยเห็นกันไหมคะ
และปิดท้ายด้วยการม้วนตัวสำหรับลงถาด เสียดายไม่มีถาด เพราะท่านี้จะม้วนลงให้ถาดได้เลยค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาค่ะ ในภาพเป็นรูปปั้นโนราห์และพรานบุญที่วงเวียนน้ำพุฉากหลังของเวที
Create Date : 02 มิถุนายน 2558 |
|
34 comments |
Last Update : 3 มิถุนายน 2558 7:12:20 น. |
Counter : 2269 Pageviews. |
|
|
|
ที่แสดงลวดลายลีลาได้อย่างน่าทึ่งเลยนะครับน้องสาว
พี่ก๋าไม่เคยดูโนราห์มาก่อนเลยครับ
ถ้ามีโอกาสก็อยากไปดูครับ