Less is now.
<<
กันยายน 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
16 กันยายน 2552

อีกครั้งกับ...ฟลอเร้นซ์

Nel mezzo del cammin di nostra vita
mi ritrovai per una selva oscura,
ché la diritta via era smarrita.

Midway upon the journey of our life
I found myself within a forest dark,
For the straight-forward pathway had been lost.




วันนี้ขอเริ่มต้นกันด้วยบทกวีของ Dante Alighieri (ปี 1265-1321) ผู้เขียน The Divine Comedy ซึ่งประกอบไปด้วยสามภาค คือ การเดินทางสู่ Hell, Purgatory and Paradise ผู้ซึ่งชาวอิตาเลี่ยนยกย่องว่าเป็น บิดาแห่งภาษาอิตาเลี่ยน บุคคลผู้นี้ละคะที่ทำให้อิชั้นต้องกลับไปเยือนฟลอเร้นซ์อีกครั้ง

หลังจากที่เคยไปเยือนฟลอเร้นซ์กับพี่แมวเมื่อปี 2005 แต่เราก็พลาดหลายสถานที่ที่น่าสนใจไป ปีนี้เราแวะผ่านเมืองโบโลญ่าแล้ว ก็เลยแวะฟลอเร้นซ์อีกสักครั้งจะเป็นไรไป เพราะเมืองที่เคยเป็นเมืองหลวงของอิตาลีมาก่อนนี้ ก็ช่างร่ำรวยไปด้วยศิลปะ เสน่ห์ที่รอให้ใครต่อใครต้องแวะมาชมกัน ก่อนอื่นขอลงแผนที่ก่อนละกัน




การเดินทางสู่ฟลอเร้นซ์นั้น เราออกจากเมืองโบโลญ่าประมาณสี่โมงเย็นนิดๆ ถึงที่พัก (ค่อยรีวิวพรุ่งนี้) หกโมงเย็น ด้วยความล้าจากการเดินย่ำเมืองก่อนหน้านี้ เราสองคนเลยแค่ออกไปกินข้าวเย็นแล้วกลับมานอนเอาแรง ไว้ตลุยกันใหม่ รุ่งขึ้นอิชั้นก็ลั่นล้าไปกินอาหารเช้าและแสดงความอึดให้พี่เมาเห็นว่า น้องอยากเดินจากที่พักชมบ้านชมเมืองไปจนถึงใจกลางเมืองค่ะ พี่เมา แน่ใจหรือน้องรัก รีเซฟชั่นบอกว่า ถ้าเดินจากที่พักไปเนี่ย เกือบครึ่งชั่วโมงนะจ๊ะ อิชั้นรีบตอบ สู้โว้ย

แล้วกองทัพทัวร์จิ๋วๆของเราก็ย่างกรายออกจากที่พัก ได้เห็นอะไรมาบ้างมาดูกันค่ะ เดินมาได้สิบห้านาที เจอคุณพี่ผู้หญิงยืนแบกหินอยู่ที่ Porta Romana เธอช่างอึดยิ่งนัก



เจอรถแบบมินิ มินิ หน้า Palazzo Pitti แต่ตัวปราสาทนี้ไม่ได้เข้าไปดู เคยเข้าไปดูแล้ว จึงผ่านไปเฉยๆ



เจอสถาบันสอนศิลปะและภาษาหน้า Palazzo Pitti เผื่อมีใครสนใจอยากมาเรียนที่นี่



เดินฝ่าฝูงชนไปเรื่อยๆ ก็เจอ Ponte Vecchio ที่ใครๆก็ห้ามพลาด รูปนี้ถ่ายจาก Galleria degli Uffizi



บนสะพาน ร้านทองที่ได้แต่ยืนมองตาละห้อย




ผ่าน Galleria degli Uffizi (ซึ่งวันรุ่งขึ้นพวกเราก็เข้าไปดูโดยจองตั๋วล่วงหน้า ครั้งกระโน้นไม่ได้จอง เห็นคิวยาวเหยียดเลยต้องกลับมาอีกรอบ)เดินผ่าน Piazza della Signoria รอคิวเก๊กท่าถ่ายรูปกับพี่เดวิด ได้มาสองสามรูปไม่งามโดนใจ อิชั้นเลยไม่เอาลง เดินไป Casa di Dante เจอร้านดอกไม้สวย อดไม่ได้ที่จะถ่ายเก็บไว้



หลังจากแวะเยี่ยมชมบ้านนักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่แล้ว ก็เดินคอตกอย่างผิดหวังออกมา นึกว่าจะมีอะไรๆ เกี่ยวกับดานเต้มากกว่านี้ แต่มีอยู่น้อยกว่าที่คิดไว้ แต่เค้าบอกว่ากำลังรวบรวมอยู่ค่ะ คราวหน้าค่อยไปแก้มืออีกรอบละกัน

ออกจากบ้านดานเต้ มุ่งสู่ดูโอโม่ เจอคนล้านแปด อืม ก็ของเค้าดีจริง แต่ไม่ได้แวะไปข้างในหรอก เคยเข้าไปแล้ว




กับบรรดาร้านรวงต่างๆ สีสันน่ากิน









หนึ่งวันเกือบหมดไปกับเมืองนี้ แต่ตอนเย็นเราสองคนก็ยังอึด ขับรถขึ้นไปชมวิวเมืองฟลอเร้นซ์กันที่ Piazzale Michelangelo กันอีก แต่วิวข้างบนนี้งามจับใจ หายเหนื่อยเลยจริงๆ




มีรูปปั้นพี่เดวิดตัวปลอมอยู่อีกหนึ่ง ที่นี่นักท่องเที่ยวมีน้อยกว่าข้างล่าง พอจะได้หายใจคล่องขึ้นมาหน่อย ถ้าไม่ได้ขับรถมาเอง ก็มีรถเมล์วิ่งมาถึงจากใจกลางเมืองข้างล่าง ถ้าจำไม่ผิดรถเมล์เบอร์ 12 หรือ 13 นี่แหละ




ชมวิวทิวทัศน์อยู่ดีดี ก็มีเสียงกีต้าร์แว่วมาแผ่วๆ จากพี่คนนี้ อ้า มันช่างโรแม้นซ์เหลือเกิ้น มาคราวนี้เจอสถานที่โรแมนติกเพิ่มมาอีกหนึ่ง




ปล บรรดาชาวโสดทั้งหลายอย่ามาที่นี่ Piazzale Michelangelo คนเดียว ท่านอาจยิ่งเหี่ยวเปลี่ยวใจเข้าไปอีก

วันรุ่งขึ้นเข้าไปชม Galleria degli Uffizi อยู่สามชั่วโมง หลังจากนั้นก็เดินเล่นวนไปวนมา แวะซื้อของกินของฝาก จบทริปอย่างแฮปปี้เอ็นดิ้ง

พรุ่งนี้ค่อยรีวิวที่พักที่แสนจะน่ารัก ไปละ Ciao Ciao.


Create Date : 16 กันยายน 2552
Last Update : 16 กันยายน 2552 21:58:46 น. 3 comments
Counter : 1268 Pageviews.  

 
กรี้ด...............

ขอทักว่า Ciao Ciao ด้วยคนค่า....
(อิ อิ อิ จริงๆ ได้คำเดียวเลยค่ะ 5555)

ชอบ florence มากค่ะ ขอตามมาเที่ยวด้วยคนต่อนะคะ

กิี๊ฟท์มีโอกาสไปอิตาลีมาเมื่อ 3 ปีก่อนนะค่ะ
หลงรักประเทศนี้เลยค่ะ

อิจฉาๆ คุณ settembre มากเลยค่ะ
ได้อยู่ในประเทศสวยๆ อาหารอร่อยๆ

ขอกรี้ด....อีกทีค่า








โดย: merecat วันที่: 16 กันยายน 2552 เวลา:23:11:56 น.  

 
โอ้ว....อยากไปจ้า อยากไปอีก คราวที่ไปต่อคิวเข้าดูโอโม น่าจะเกือบๆกิโลเห็นจะได้ แต่พอได้เข้าไป อืมม ของเค้าดีจริงๆ สวยมาก ก็แหมกว่าจะสร้างเสร็จปาไป ห้าร้อยกว่าปี ใช่แมะถ้าจำไม่ผิด หึหึ ไปเที่ยวคราวนั้น โยนเหรียญที่เทรวี่ แล้วอธิษฐานขอให้ได้มาอีก แต่ตอนนั้นใช้เหรียญสิบบาทของไทยโยนอะ เลยไม่รู้จะได้ไปเที่ยวอีกรึปล่าว


โดย: อยากไปอีกเหมือนกัน IP: 125.25.175.250 วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:12:00:30 น.  

 
เมืองน่ารักจังค่ะ งามๆ ดีอ้ะ

เสียดาย ตอนไปอิตาลี เราไม่ได้ไปเมืองนี้เลย เสียดายๆๆๆ


อ่า..หนังสือแนวนี้ หาอ่านสนุกยากค่ะ แต่เล่มนี้โอเคนะคะ ไม่เชิงสนุก แต่อ่านแล้วรู้สึกดีมากๆ น่ะค่ะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 17 กันยายน 2552 เวลา:17:34:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

settembre
Location :
Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




A minimalist mindset>>>minimalist lifestyle.
I try to pay attention to everything I buy and keep.
Now I live by the concept of BALANCE.




เริ่มนับจำนวนคนอ่าน วันที่ 22/04/15




New Comments
[Add settembre's blog to your web]