Penang, Feb. 2015
เป็นทริปแบบฉุกละหุก ไม่คิดไรมาก อยากไปก็ไป คืนแรกไม่ได้จองโรงแรมด้วยซ้ำ คืออ่านรีวิวจากห้องบลูมาเยอะไงคะ และเป็นเมืองที่ไปง่ายมากๆจากหาดใหญ่ อิชั้นแวะมาเยี่ยมเพื่อนที่หาดใหญ่ แล้วต้องออกไปแสตมป์วีซ่า ตรงด่านอำเภอสะเดา คือเข้ามาไทยด้วยพาสอิตาเลี่ยน อยู่ไทยเกินหนึ่งเดือนไม่ได้ ที่เข้ามากับพาสอิตาเลี่ยนเพราะพาสไทยหมดอายุ พอได้พาสไทยเล่มใหม่แล้ว ก่อนจะครบหนึ่งเดือนก็ต้องออกนอกประเทศไทย แล้วเข้าไทยมาด้วยพาสไทยอีกรอบ งงกันไหมคะ เอาเป็นว่า แทนที่จะนั่งรถไปแสตมป์วีซ่า ภายในวันเดียวกัน อิชั้นกลับนั่งรถตู้ออกไปถึงปีนังและกัวลาลัมเปอร์กันเลยทีเดียว ไหนๆก็ออกมาแล้วเนอะ ไปเที่ยวเสียสองสามวันจะเป็นไรไป
อิชั้นซ้อนท้ายรถเครื่องเพื่อนไปขึ้นรถตู้ไปปีนัง ใช้เวลานั่งรถประมาณสี่ชั่วโมง แวะแสตมป์วีซ่าที่ด่าน นั่งชมวิวข้างทางไปเรื่อยๆ ก็บ้านพี่เมืองน้องกันล่ะค่ะ เคยเป็นของไทยมาก่อนๆที่จะโดนอังกฤษแย่งไปบางส่วน จนกลายเป็นมาเลเซียอย่างสมบูรณ์ บ้านเรือน ผลหมากรากไม้ นาข้าว ต้นยาง สวนปาล์ม ถ้าไม่มีภาษามาเลย์หรืออังกฤษกำกับ ก็ขับรถอยู่แถบสะเดา สงขลาบ้านเรานั่นแหละ พอถึงปีนึง อิชั้นให้พี่คนขับไปส่งที่ Red INN hostel ถ. Love Lane ย่านนี้ที่พักเล็กๆน่ารักๆเยอะแยะ อิชั้นนอนเตียงรวมค่าห้องแบบไม่ได้จองล่วงหน้าประมาณ 34 ริงกิต ไม่รวมผ้าขนหนู แต่รวมค่าผ้าปูเตียงปลอกหมอนอะไรเรียบร้อยแล้ว และซื้อปลั๊กไฟแบบสามขาอีก 4 ริงกิต เอ๊ะ หรือ 6 ริงกิตนะ จำไม่ได้ ห้องที่พัก ไม่มีหน้าต่าง อับดีแท้ แต่เอาแค่ซุกหัวนอนตอนกลางคืนจริงๆ เลยไม่ค่อยซีเรียสกับมันสักเท่าไร ไวไฟฟรี แต่บางช่วงสัญญาณอ่อนไปนิด ห้องส้วมกับห้องอาบน้ำฝักบัวอยู่ในห้องเดียวกัน ไม่แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ก็เฉอะแฉะไปหน่อย แต่จะเอาอะไรมาก กับราคาค่าห้องเท่านี้
อิชั้นได้แผนที่มาหนึ่งใบ ก็ออกเดินตามล่าหา art street อากาศตอนบ่ายๆก็ร้อนตัวแตกเหมือนบ้านเรา เห็นอาแป๊ะคนนึงแกรื้อหาพลาสติก อลูมิเนียมในถังขยะ เอาไปขายเหมือนบ้านเราเลย ถ้าตัวเมืองเก่าภูเก็ต อนุญาติให้คนมาวาดรูปเก๋ๆ แล้วทำเป็นแผนที่ให้นักท่องเที่ยวเดินตามหาเหมือนที่ปีนัง ก็คงเข้าทีอยู่นะ ร้อนๆก็เข้าไปนั่งดื่มกาแฟ ดื่มน้ำมะพร้าว ให้ชาวบ้านได้ขายของ มีรายได้เล็กๆน้อยๆกันไป
เปิดตัวด้วยรูปสุดฮิตกันก่อน
ใกล้ๆรูปแมวนั่น มีฟู้ดคอร์ท เลยเดินเข้าไปกินหมี่ผัดชามนี้ ราคา 4.6 ริงกิต ก็ไม่แพงนะคะ
รู้สึกว่าตรงรูปนี้จะเป็นร้านขายขนมอะไรสักอย่าง เห็นคนเข้าไปซื้อเยอะพอสมควร
มีการเหลือบตามองหนูด้วยแฮะ
โรงเรียนแบบจีนๆ ตรงข้ามโฮสเทล
มื้อเย็นกินบัคกุดเต๋ แต่น้ำซุปมันเข้มข้น ได้กลิ่นเครื่องยาจีนเยอะไปหน่อย
เช้าวันที่ห้า กุมภา เดินออกไปหาซาลาเปากิน มีตลาดเช้าอยู่ใกล้ตึกนี้ค่ะ
เอาเป็นว่า เมืองนี้ถ้าไม่มีรูปภาพวาดติดผนังนี่ ลำพังแค่บ้านเรือนสใตล์ชิโนโปรตุกีสอย่างเดียว อิชั้นคงไม่แวะกระมัง ก็ถือว่าเป็นจุดขายที่ดีเลยนะคะ ถ้าไม่อยากเดินตากแดดจนกรอบเป็นปลาแดดเดียว ขอแนะนำว่าตื่นเช้าตรู่ แล้วเดินออกไปตามแผนที่ แวะถ่ายรูปได้ไม่ต้องรอคิว สายๆแวะดื่มแตออ ชาร้อน กินซาลาเปา นั่งทอดหุ่ยมองดูผู้คนในร้านกาแฟแบบดั้งเดิมด้วยก็ดีค่ะ ไม่แน่ปีหน้าจะพาคุณสามีไปสงขลาหาดใหญ่ อาจแวะพาฮีไปเที่ยวเล่นก็เป็นไปได้ พักสักสองคืน ก็คงพอสำหรับเดินเก็บบรรยากาศได้
ปล ไม่ไกลจากถนนที่อิชั้นพัก มีตลาดเช้าเล็กๆ มีแผงขายโจ๊กตอนเช้าด้วยค่ะ และช่วงนั้นมีขนมเข่งขายด้วย เพราะเป็นช่วงก่อนตรุษจีน น่าสนใจไม่น้อย
Create Date : 09 มีนาคม 2558 |
Last Update : 9 มีนาคม 2558 20:54:14 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1259 Pageviews. |
|
|
|