Less is now.
<<
พฤษภาคม 2560
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
14 พฤษภาคม 2560

Gibraltar and Cadiz 2017






รูปนี้จากจุดชมวิวเมือง Mijas จากบล็อกที่แล้วค่ะ เห็นทะเลอยู่ไกลๆ 


มาต่อกันกับบล็อกที่สองของ Andalusia trip คืนแรกนั้น เราขับรถเช่าจากเมืองมาลาก้า แวะเมือง Mijas ตอนเย็นๆแวะนอนที่เมือง Tarifa เมืองที่ลมแรงจนหัวเหอปลิว อิชั้นนอนกับเพื่อนสาว เพราะให้คุณสามีไปนอนกับเพื่อนร่วมก๊วนที่เป็นผู้ชายอีกสองคน ค่าห้องตกหัวละ 25 ยูโรต่อคน ห้องหับสะอาดสะอ้าน ห้องน้ำในตัว แต่ไม่มีที่จอดรถ ชื่อโรงแรม Villanueva ตอนกลางคืนนั้นลมก็ยังแรงอยู่ ได้ยินเสียงกันสาดหรืออะไรสักอย่างตีพั่บๆอยู่ตลอดเวลา แต่พวกเราเหนื่อยเกินกว่าจะแคร์เสียงขิงข่าใดๆ หลับสนิทยาวไปจนถึงเช้าของอีกวันไปเลยทีเดียว ตอนเช้าของวันที่ 8 เมษา พวกเราเช็คเอ้าท์เสร็จ เดินออกไปกินอาหารร้านข้างโรงแรมเพราะไม่ได้จองห้องแบบรวมอาหารเช้า แล้วคนที่นั่นเค้าก็สโลว์ไลฟ์ของแท้ อาหารแต่ละจานกว่าจะออกมาได้ ใช้เวลาทำและกินไปเกินชั่วโมง ทั้งๆที่สั่งอาหารง่ายๆอย่างเครปบวกกาแฟและพวกขนมอบที่มีอยู่แล้ว พนักงานก็เต็มร้าน แต่ก็ช้าจนไม่ชัวร์ว่าจะได้กินหรือเปล่า แต่เอาเถอะ เราไปฮอลิเดย์ มันจะช้าจะเร็วก็ช่างมัน 

หลังจาก slow breakfast ไปแล้ว พวกเราขับรถออกมานิดนึงแวะจอดตรงชายหาดเพราะอยากไปถ่ายรูปตรงถนนที่เป็นติ่งออกไป มีประภาคารอันเล็กๆ เรียกได้ว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยงามจุดนึง แต่ลมที่แรงและพัดเอาทรายมาเต็มถนนนั้น ทำเอาอิชั้นยอมแพ้ เดินไปได้ไม่ถึงห้าสิบเมตร เดินไปเกาะแขนสามีไปเพราะลมจะหอบอิชั้นตกทะเลเอา อิชั้นหนักสี่สิบกิโลค่ะ สู้แรงลมไม่ไหวจริงๆ จนถอดใจไม่ไปละ เดินกลับมานั่งรอพรรคพวกในรถนั่นแหละ ขนาดหยิบมือถือมาถ่ายรูป มือถือยังสั่นรูปเบลอ และทรายบนถนนนั่น ลมหอบมาทั้งนั้นค่ะ แถมในหูตัวเองก็มีเศษทรายจิ๋วๆติดมาด้วยเป็นของแถม




อิชั้นนั่งรอในรถไม่ถึงสิบนาที บรรดาขาลุยที่คิดว่าจะเดินไปถึงจุดชมวิวตรงนั้นก็เดินหน้าหงิกกันกลับมา เดินไปไม่ถึง แพ้ลม สุดท้ายแล้วพวกเราเลยยกทัพขับรถย้อนกลับไปที่เมืองยิบรอลต้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริเทน อังกฤษ แต่เป็นติ่งเล็กๆที่อยู่ทางใต้ของสเปน ขับรถเข้าไปมีด่านผ่านแดนตรวจบัตรประชาชนหรือพาสปอร์ตเป็นเรื่องเป็นราว หาที่จอดรถได้ ก็เดินชมเมืองไปเรื่อยๆ ให้อารมณ์บริติชติดสเปนหน่อยๆ ที่นี่คนเค้าพูดอังกฤษและสเปนกันค่ะ พวกเราตัดสินใจที่จะนั่งกระเช้าขึ้นไปชมวิวบนเขากัน ค่ากระเช้ารู้สึกแพงพอใช้น่าจะราวๆ 25 ปอนด์ต่อคนไปกลับ อิชั้นจำราคาที่แน่นอนไม่ได้ แต่ก็ราวๆนี้ วิวข้างบนนั้นสวยเอาเรื่อง ถ้าลมไม่แรงคงจะสวยกว่านี้ มีการทำทางเดินให้เดินขึ้นเขาชมวิวด้วยนะคะ ใครมีเวลาอยากเดินออกกำลังกายก็ได้ และข้างบนนั้นนอกจากมีวิวทะเลสวยๆแล้ว อีกหนึ่งจุดขายคือ มีลิงที่อยู่กันตามธรรมชาติด้วย ซึ่งพวกมันก็ค่อนข้างเชื่อง ไม่ซนแแย่งหมวก แว่นตาหรือของกินจากมือคน (แต่ก็มีบ้างนะคะ แย่งของกินเนี่ย) อิชั้นผู้ซึ่งไม่โปรดลิงมาแต่ไหนแต่ไร เคยไปเจอลิงลพบุรีหรือที่เขาตะเกียบหัวหินแล้ว อิชั้นไม่ปลื้มสักเท่าไหร่ เลยแค่ถ่ายรูปอยู่ห่างๆ ตามถนนหนทางก็เจออุนจิลิง Smileyเลยแยกตัวออกไปนั่งรอเพื่อนๆในบาร์ ดื่มกาแฟไปด้วยหลบลมไปด้วย ดูวิวกันเนอะ ว่าข้างบนนั้นสวยแค่ไหนกันเชียว รูปแรกวิวจากกระเช้าไฟฟ้า







รูปข้างล่าง จะเห็นลานเล็กๆข้างล่างคือสนามบินค่ะ หลังลานบินที่เป็นเมืองเยอะๆนั่นก็เป็นเขตประเทศสเปน ตอนขับรถเข้าในเขตยิบรอลต้าต้องขับผ่านสนามบินนี้เข้ามา 



ลิง ผู้เป็นมาสค๊อตของที่นี่ สามารถถ่ายเซลฟี่ได้นะคะ รู้งานกันทุกตัว 




หลังจากถ่ายเซลฟี่กับลิงกันจนหนำใจแล้ว ถึงเวลาร่ำลาเขตบริติชติดชายขอบสเปนกันแล้ว เราขับรถออกจากที่นี่ตอนบ่ายแก่ๆ กะจะแวะหาเมืองเล็กๆนั่งกินทาปาสพร้อมดื่มแซงเกรียกันตามรายทาง สุดท้ายเจอป้ายทางออกจากถนนสายหลัก แวะบาร์เล็กๆที่ชาวบ้านเค้านั่งเชียร์บอลกันอยู่ ได้กินทาปาสสมใจ แถมมีตลาดนัดเล็กๆให้พวกเราเดินเล่นผ่อนคลายกันได้ด้วย ถึงเวลาเดินทางต่อ จุดมุ่งหมายของพวกเราคือเมืองคาร์ดิซ Cadiz เมืองริมทะเล 


เย็นๆเราก็ถึงเมืองนี้ จองโรงแรมแบบกระชั้นชิดอีกเช่นเคย ได้โรงแรมที่ไม่มีอาหารเช้าและที่จอดรถแต่เผอิญโชคดี ใกล้ๆโรงแรมมีที่จอดรถฟรีเลยเสียบไป ไม่ต้องจ่ายค่าจอด ปกติที่นั่นเค้าจ่ายกันราวๆ คืนละ 9-12 ยูโรค่ะ หลังจากเช็คอินเสร็จ อิชั้นลากกระเป๋าเข้าห้องอาบน้ำนอนทันที เพราะปวดหัวกับการสู้แรงลมมาสองวันแล้ว ไม่ออกไปชมวิวเมืองตอนกลางคืน หรือแม้แต่ไม่กินมื้อเย็น แต่มีขนมติดกระเป๋าอยู่ เลยกินน้ำลูบท้องไป คนอื่นๆก็ออกไปซ่ากันตามปกติ แต่ก็บ่นๆให้ได้ยินว่า ลมแรงเหมือนเคย 


ตอนเช้าพวกเราเช้คเอ้าท์เสร็จ เดินลากกระเป๋าเอามาเก็บที่รถ แล้วเดินไปกินอาหารเช้าแบบง่ายๆ สไตล์สเปนเห็นคนที่นั่นเค้ากินการแฟร้อนใส่นมและขนมปังทั้งชิ้นขนาดกลางๆ ผ่าสอง ปิ้งแล้วทาเนยกับแยมผลไม้ ส่วนอิชั้นก็เลือกอิตาเลี่ยนสใตล์หน่อยๆ คือกาแฟร้อนใส่นมกับครัวซองค์คนละชิ้นสองชิ้น แค่นี้พอเนอะ เช้าๆกินไรไม่ได้มาก


หลังจากนั้นถึงเวลาเดินชมเมืองกันหน่อย เมืองนี้ใหญ่โตโอโถงพอสมควร มีมหาวิหารโบสถ์ดูโอโม่ริมทะเลเป็นแลนด์มาร์กหลัก ทางเดินริมทะเลก็มีเลนจักรยานหรือทางคนเดิน จัดการด้านการท่องเที่ยวได้ดีเลยแหละ วิวดีๆ แดดแจ่มๆ ถ่ายรูปสวยค่ะเมืองนี้ แต่เจ้าลมนี่ก็ยังไม่ลดราวาศอก พัดได้พัดดีแต่ก็ยังแรงไม่เท่าที่เมือง Tarifa จนอิชั้นเริ่มปวดหัวอีกรอบ ซัดพาราไปอีกเม็ด ฮ่วย!





















เดินชมเมืองจนเมื่อยขาพอสมควร ถึงเวลาไปต่อค่ะ จุดมุ่งหมายของเราคือเมืองรอนด้า Ronda โปรดติดตามตอนต่อไปในบล็อกหน้านะคะ สวัสดีค่ะ 






Create Date : 14 พฤษภาคม 2560
Last Update : 14 พฤษภาคม 2560 17:02:17 น. 0 comments
Counter : 1089 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

settembre
Location :
Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 24 คน [?]




A minimalist mindset>>>minimalist lifestyle.
I try to pay attention to everything I buy and keep.
Now I live by the concept of BALANCE.




เริ่มนับจำนวนคนอ่าน วันที่ 22/04/15




New Comments
[Add settembre's blog to your web]