พอเดินไปสักระยะ ก็เริ่มเห็นเขตตลาดนัดคล้ายๆบ้านเรา มีชาวอพยพที่เข้าไปอยู่แถวนั้น เดินเร่ขายกระเป๋า แว่นตา ผ้าพันคอก๊อปแบรนเนมต่างๆ แผงขายเสื้อผ้าก็มีแต่ของก๊อป เออเนอะ ก็คล้ายๆตลาดบ้านเรา แต่ที่พีคกว่าคือ ขยะ ถุงพลาสติกปลิวว่อนเต็มถนน ไม่ช่วยกันทำความสะอาดหน่อยรึ ถ้าไปคนเดียวเนี่ย ถอยหลังกลับแล้วค่ะ 

แล้วเราก็เดินไปถึงเขตตลาดนัดด้านใน ที่จัดระเบียบร้าน ตกแต่งร้านสวยงาม ส่วนใหญ่เป็นของเก่า ราคาค่อนข้างสูง ขนาดช้อนส้อมเงินอันเล็กๆราคาก็เกือบๆห้ายูโรไปแล้ว โต๊ะเก่าเอามาขัดสีฉวีวรรณใหม่เกือบ 5000 ยูโร โอ้ มายบุดด้า ใช้โต๊ะจากห้างอิเกียไปก่อนเนอะ คือเศรษฐีปารีสเค้าคงมาช้อปของแต่งบ้านกันที่นี่มั้ง ราคาสูง แต่สวยนะ ใครไม่มีปัญหาเรื่องเงิน เชิญแวะชม ช้อปกันได้ค่ะ 

ปล. ไม่มีของกินขายข้างทาง หรือรถเข็นแบบบ้านเรา งั้นไปจตุจักรบ้านเราดีกว่า 

เนื่องด้วยมีหลานชายไปด้วย ก็จะมีช่างภาพถ่ายรูปให้ รูปตัวเองก็จะมีเยอะหน่อยนะคะ รูปนี้ในเมโทรสักสถานีนึง ป้ายโฆษณาสวยดี เมโทรปารีสไม่มีบันไดเลื่อนนะคะ ใครมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ก็จะทุลักทุเลหน่อย แล้วดูอิชั้นแต่งตัว วันนั้นอุณภูมิอยู่ที่ 28 องศาค่ะ สบายมากๆ

สีสันกราฟฟิคด้านนอก อาคารด้านในก็เป็นร้านค้าของแต่งบ้าน

ด้านในก็เป็นล็อคๆคล้ายจตุจักร แคบบ้างกว้างบ้าง คนเดินไม่เยอะ เลยไม่รู้สึกอึดอัดอะไร ทางเดินวนไปวนมา

ส่วนใหญ่มีแต่รูปอิชั้น ก็ทนๆดูหน่อยนะคะ มุมนี้ขายเสื้อผ้าแนวญี่ปุ่น

เดินไปเดินมา ไม่ซื้ออะไรหรอก บ่ายโมงกว่าๆ เดินผ่านร้านนี้ เลยแวะเข้าไป ชื่อร้าน Mama Cocotte อะไรสักอย่างเนี่ยแหละ ไปฝรั่งเศสแนะนำให้ดื่มไวน์นะคะ สั่งมาเป็นแก้วก็ได้ แก้วละ 4-7 ยูโร ุถ้ากินข้าวนอกบ้านอิชั้นก็สั่งไวน์ดื่มทุกที อยากลองชิมไวน์ท้องถิ่นๆนั้นๆดู ส่วนน้ำเปล่าซ่าๆอัดแก๊ซราคาอาจสูงไปนิดนึง 

ราคาอาหารสองอย่าง ปลาแซลม่อนย่างกับหมึกชุบแป้งทอด ไวน์ขาวหนึ่งแก้ว น้ำเปล่าหนึ่งขวด ราคารวม 55 ยูโร ถือว่าแพงแหละถ้าเทียบกับอิตาลี ที่ฝรั่งเศสอาหารหลายจานแทบจะเสริฟพร้อซอสอะไรสักอย่าง คือถ้าเป็นที่อิตาลี ปลาย่างก็ไม่มีอะไรให้จิ้มอีกแล้ว มากสุดให้มะนาวซีกนึง แต่ที่นี่ เสริฟพร้อมซอสแทบจะทุกร้าน แต่ละร้านก็มีซอสแตกต่างรสชาติกันไป ก็ดีเหมือนกัน 

ขากลับ เดินผ่านร้านขายกล่องไม้ลังไม้นั่น ซึ่งราคาเกือบๆลังละ 40-50 ยูโร โว้ว ก็ของเก่าอ่ะนะ

นั่งเมโทรกลับมาถึงที่พัก เดินไปซื้อเบเกอรี่มากินต่อ ชอบร้านนี้ Merci Jerome อยู่ตรงหน้าสถานี La Motte-Picquet-Grenelle  เอแคลร์อร่อยมากๆมีหลายรสด้วย ส่วนมาเดลีน ที่คล้ายๆขนมไข่ อิชั้นก็เพิ่งได้กินจากร้านนี้เป็นครั้งแรก อร่อยอ่ะ ชอบขนมอบแบบนี้ไม่ต้องมีอะไรมาก แป้ง ไข่ นม เนย น้ำตาล จบข่าว.

เป็นอีกหนึ่งวันดีๆ ที่ได้ใช้ไปร่วมกันกับหลานชาย คุยกันกระหนุงกระหนิงถึงเรื่องราวสมัยก่อนๆ ยิ่งตอนเค้าเป็นเด็กๆ แล้วคุณยายของเค้าซึ่งเป็นป้าของอิชั้น จับเค้านั่งรถไฟมาซัมเมอร์ที่ปัตตานี ก็กลายเป็นเรื่องขำขันของเราสองคนไป ที่เค้ามาอยู่บ้านอิชั้นตอนซัมเมอร์ ส่วนอิชั้นตอนเด็กๆก็ไปพักที่บ้านเค้าที่สัตหีบ มันคือโปรแกรม work and travel ภายในประเทศค่ะ ปัตตานีกับสัตหีบ 555

ตอนนี้หลานมาทำงานกรุงเทพ ซื้อคอนโด ซื้อรถ ใช้ชีวิตตามสใตล์คนเมืองกรุง ความสัมพันธ์ระหว่างสายเลือดมันตัดไม่ขาด ยังคิดถึงและเป็นห่วงเค้าอยู่เสมอๆ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ ส่วนพี่สาวของเค้าก็อยู่ใกล้บ้านที่สัตหีบหน่อย รายนั้นเจอกันทุกทีเวลากลับไทย 

โอเค บล็อกนี้แค่นี้ก่อน เดี๋ยวบล็อกหน้าพาเที่ยวตลาดนัดวันอาทิตย์หน้าที่พักนี่แหละค่ะ See you next blog kha.