การตื่นเช้าๆสำหรับอิชั้นนี่ทำได้ยากสักกะหน่อย ทุกวันในปารีส ตื่นสายโด่งเก้าโมงเช้าไรเนี้ย กดกาแฟฟรีที่ล็อบบี้รีเซฟชั่นกินก่อนออกจากห้องทุกวัน เจอน้องรีเซฟชั่นไทยก็แวะเม้าท์มอยกันบ้าง หลังจากนั้นหลัง 10 โมงเป็นต้นไปถึงจะอาบน้ำแต่งตัวนั่งเมโทรไปเที่ยวโน่นนี่นั่น วันนั้นอิชั้นตัดสินใจไปมงมาร์ต นั่งเมโทรผ่านวิวหอไปเฟลสวยๆแบบนี้ค่ะ ระหว่างสถานี Bir Hakeim - Passy

เปลี่ยนเมโทรไปลงที่สถานี Pigalle ทางออกของสถานีนี้ขึ้นบันไดวนไปหลายชั้นหลายวนมาก เริ่มเหนื่อย แต่มีเพื่อนเดินวัย สว. หลายคน ยอมแพ้ไม่ได้ เดินวนขึ้นไปค่ะ แต่รูปวาดบนกำแพง เดินไปหอบไป ดูรูปไปเพลินๆค่ะ 

เดินออกไปจนถึงพื้นดินด้านบน จะเจอสวนเล็กๆที่มีกำแพงสีน้ำเงินเขียนคำบอกรักนานาชาติ wall of love มีนักท่องเที่ยวมาเซลฟี่คู่กำแพงเยอะแยะ นั่งพักขามองดูผู้คนไปเรื่อยๆ ถ่ายกำแพงมาหนึ่งรูปถ้วน 

เออเนอะ มันก็เก๋ๆดี สร้างจุดขายให้นักท่องเที่ยวมีอะไรๆทำมากขึ้น หลังจากนั้นเก็บแผนที่พับเก็บใส่เป้ได้เลยค่ะ เพราะการเดินขึ้นเนินไปวิหารมงมาร์ตนั้นมันง่ายมาก เดินตามฝูงชนไปเรื่อยๆเลยค่ะ ผ่านร้านค้าแต่งหน้าร้านสวยๆ ร้านกาแฟหรือบิสโทรน่านั่งมากมาย แต่กาแฟปารีสไม่อร่อยค่ะสำหรับลิ้นคนอิตาเลี่ยน แถมแพงซะด้วย แต่เบเกอรี่ของเค้าเนี่ย ชนะเลิศ

สุดท้ายแล้วอิชั้นก็เดินเรื่อยๆมาถึงอีกหนึ่งแลนมาร์กสำคัญอีกแห่งหนึ่งของปารีสแล้วค่ะ ในวันฟ้าใสๆนี่ มุมนี้สวยจริงจัง

อิชั้นเดินไปนั่งหลบแดดข้างโบสถ์ ไม่ได้เข้าไปข้างในหรอกขี้เกียจต่อคิว ไปนั่งหลบแดดกินกล้วยที่พกมาจากห้องท่ามกลางเด็กนักเรียนที่มาทัศนศึกษากับทางโรงเรียนมั้ง มีนักดนตรีสองคนมานั่งร้องเพลงโชว์ด้วย เพลงเพราะดี 

บ่ายโมงรู้สึกอยากเดินกลับแล้วละ แต่ขอแวะไปดูบ้านสีชมพูที่เห็นในอินสตาแกรมก่อน แต่เดินผ่านสถนนเส้นนึงที่มีรูปวาดบนกำแพงบ้าน Rue Cortot น่ารักมากมาย เป็นวันที่อิชั้นกดชัตเตอร์กล้องถ่ายรูปมากที่สุดของทริปนี้

La Maison Rose บ้านสีชมพูหลังนี้แหละ ตรงถนน Rue de l'Abreuvoir ตอนนี้เป็นร้านอาหารเล็กๆ ดูราคาและรายการอาหารแล้วไม่ดึงดูดใจสักเท่าไหร่เลยไม่แวะกินร้านนี้ ถ่ายรูปตอนแดดจัดๆ สีซีดไปเลย

สุดท้ายแล้วเดินลงเนินลงบันไดไปเรื่อย แบบไม่ใช้แผนที่ ทำทีเป็นสาวปารีเซียง โน่น เดินหลงไปย่านใกล้ๆสถานีที่มีชาวผิวสีและชาวแขกขาวตั้งร้านเรียงรายขายเคบับ ขายมือถือ ชุดแต่งงานแบบอาหรับๆก็มี อ่ะ แต่ไม่ได้น่ากลัวอะไรนะคะ อิชั้นเดินบนทางเท้าที่มีคนพลุกพล่านไปมา และเห็นสัญลักษณ์ของเมโทรอยู่ หน้าตา การแต่งตัวของอิชั้นก็เพลนๆไม่น่าจะโดนปล้น 555 แต่ในที่สุดเดินเข้าถนนเส้นนึงที่ทั้งเส้นแทบจะมีแต่ร้านขายผ้า โอย เพลิดเพลินมาก แวะดูหน้าร้านที่เค้าเอาผ้ามาใส่กะบะลดราคา แหม อยากขนกลับอิตาลีซะจริงๆ 

และแล้วก็เดินมาด้านหน้าของมงมาร์ตจนได้ค่ะ นั่งพักขา ดื่มน้ำกินแซนวิชที่ซื้อจากร้านข้างทางไปด้วย เป็นอีกหนึ่งวันที่ไม่ได้เน้นเที่ยวอะไรจนเหนื่อยเพลียหรือกลับบ้านมืดค่ำ

กลับมาถึงที่พัก แวะไปซื้อหมูสามชั้น เพราะนานมากแล้วที่อิชั้นและหลานชายไม่ได้กินหมูหวาน เอ้า ไปปารีส ไปยืนผัดหมูหวานอยู่หน้าเตาค่า 

นี่แหละค่ะ ทริปไปปารีสของอิชั้น ไม่ได้เน้นเที่ยวอะไรมากมาย เน้นไปกินอาหารไทยและเจอหลานมากกว่าสิ่งอื่นใด แถมปารีสเนี่ย คนเอเชียไปอยู่กันเยอะ ร้านขายของชำแบบไทย+จีน+ลาว+เวียดนาม จึงหาได้ง่ายมากขึ้น เอาละ เดี๋ยววันหลังมาเม้าท์เรื่องปารีสกันต่อค่ะ วันนี้แค่นี้ก่อนนะคะ Bye.

ปล. ลืมเม้าท์เรื่องน้ำซ่าๆอัดแก๊ส เพราะที่อิตาลีเค้านิยมดื่มกัน อิชั้นเองก็เป็นเช่นนั้น ปรากฏว่าราคาแพงโครตๆ ขวดเล็กตามซุ้มขายน้ำทั่วไป 2.50 ยูโร ตามร้านอาหารก็ 4 ยูโร แพงเนอะ ที่ซูเปอร์ขายไม่ถึง 1 ยูโรเองอ่ะ