| | |
|
รบกวนเพื่อนบล๊อกที่ต้องการโหวตให้บล๊อกปอป้า ขอความกรุณา เป็นสาขาบล๊อกธรรมะ...นะคะ ขอบพระคุณมาก..ค่ะ
| |
| | |
ไปเที่ยวกันต่อ...ค่ะ
หลังจากที่ออกจากปรางค์ฤาษีแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้ากลับไปจังหวัดลพบุรี เพื่อหาที่พักแรม อากาศร้อนมาก แต่ก็ไม่น่าแปลกใจอะไรหรอกนะ เพราะมันร้อนอย่างนี้ทุกวันอยู่แล้ว ทำไมปอป้าต้องบ่นด้วย..เนอะ ถึงจังหวัดลพบุรี ทั่นชายก็ขับรถวนไปวนมา แวะโน่นแวะนั่นกันไปตามเรื่อง สุดท้ายได้รับคำแนะนำจากแม่ค้าว่า โรงแรมลพบุรีอินรีสอร์ตนั้น ดูดีกว่าโรงแรมหรือรีสอร์ทใด ๆ ในลพบุรีทีเดียว พวกเราก็บ่ายหน้าไปยังโรงแรมนั้นทันที พอไปถึง..โอ้โห..นี่มันโรงแรมหรือสวนสนุกกันเนียะ ก็มันมีแต่รูปปั้นลอ..ลิง..เต็มไปหมด ปอป้าก็เลยชักรูปมาให้เพื่อน ๆ ชมกัน..นะคะ
ส่วนศาลพระกาฬและบริเวณปรางค์สามองค์นั้น ปอป้าต้องไหว้วานทั่นชายให้ลงไปถ่ายภาพด้านหลังมาให้ดู เพราะจ้างแสนนึง ปอป้าก็ไม่ลงไปเดินโฉบเฉี่ยวแถวนั้นหรอก..ค่ะ เนื่องจาก ปอป้ามีความหลังที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับลิง-ค่าง-บ่าง-ชะนี มันฝังใจจำไม่ลืมไม่เลือนเลย..ค่ะ อ่ะ..บอกหน่อยก็ได้ว่าฝังใจจำเรื่องอันใด เพื่อน ๆ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาถาม ครือออ..ว่า ตอนเด็ก ๆ ปอป้าถูกเลี้ยงมาคู่กับค่างกำพร้าตัวหนึ่ง..ค่ะ คุณพ่อท่านสงสารที่แม่เขาถูกยิงตาย ก็เลยเอาตัวลูกมาเลี้ยง เจ้าค่างกับปอป้าเป็นปฏิปักษ์ต่อกันในทันทีที่สบเนตรกันครั้งแรก วีรกรรมของเจ้าค่างกับปอป้ามีมากมายเหลือคณานับ กัดกันตีกันทุกวันจนปอป้ากลัวค่าง-ลิง-บ่าง-ชะนี ไปเลย..อิ อิ
บริเวณภายในโรงแรมลพบุรีอินน์รีสอร์ท
ภายในห้องอาหาร อุดมไปด้วยบริกรลิง
บริกรจ๋อมีอยู่ทั่ว ไม่เว้นแม้แต่ที่สระว่ายน้ำ
เมื่อมาถึงเมืองลิงแล้ว ก็ควรจะทำความรู้จักประวัติความเป็นมาของจังหวัดเขาเสียหน่อย..นะคะ เว็บไซด์เมืองลพบุรีเขาประชาสัมพันธ์เมืองของเขาไว้อย่างนี้...ค่ะ
ด้านหลังของปรางค์สามองค์ ใกล้ ๆ กับศาลพระกาฬ
มีเจ้าจ๋อที่รีบเร่งไต่สายโทรศัพท์อย่างมาดมั่นมาที่รถของทั่นชาย
ทั่นชายชวนเข้าไปเที่ยววัดนี้ แต่ปอป้าไม่โอเค กลัวลิงหุบปาก กลับออกมาไม่ได้..อิ อิ
ลพบุรี เมืองแห่งความหลากหลาย และต่อเนื่องทางวัฒนธรรมยาวนานกว่า ๓,๐๐๐ ปี ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงปัจจุบัน ซึ่งยังคงอุดมไปด้วยหลักฐานทางประวัติศาสตร์มากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ หลักฐานที่สำคัญ ได้แก่
๑. การขุดพบโครงกระดูกมนุษย์พร้อมภาชนะดินเผา อายุระหว่าง ๔,๕๐๐-๓,๕๐๐ ปี ที่แหล่งโบราณคดีบ้านท่าแค
๒. การขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ยุคหินใหม่ อายุระหว่าง ๓,๕๐๐ ๒,๗๐๐ ปี ที่บ้านโคกเจริญ
๓. การขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ยุคสำริด อายุระหว่าง ๒,๗๐๐ ๒,๓๐๐ ปี ที่ศูนย์การทหารปืนใหญ่
๔. ชุมชนโบราณในสมัยทวารวดี ซึ่งมีความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมประมาณ ๑,๐๐๐ ปี เช่น เมืองโบราณซับจำปา อยู่ในเขต อ.ท่าหลวง เมืองโบราณดงมะรุม อยู่ใน อ.โคกสำโรง เมืองใหม่ไพศาลี ต.โคกเจริญ
๕. การพบหลักฐานที่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ เช่น เหรียญทำด้วยเงิน มีลายดุนเป็นรูปสัญลักษณ์ต่าง ๆ ตามคตินิยมของอินเดียที่บ้านหลุมข้าว อ.โคกสำโรง แสดงให้เห็นการพัฒนาการของเมืองลพบุรี ในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๑-๑๔ ว่าพิจารณาจากชุมชนโบราณสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มาเป็นศูนย์กลางทางการค้า และเมื่อได้รับอิทธิพลทางศิลปะ และความเชื่อทางศาสนา ของอินเดีย ก็กลายมาเป็นศูนย์กลางทางศาสนา
ลพบุรี เป็นดินแดนเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ สมัยประวัติศาสตร์ จนถึงสมัยปัจจุบัน โดยในอดีตราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ ลพบุรีรู้จักกันในชื่อว่า ละโว้ หรือ ลวะปุระ เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางฝั่งตะวันออกของลุ่มน้ำเจ้าพระยา เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สามารถติดต่อกับเมืองอื่นๆ ได้ทั้งทางบกและทางน้ำ ทำให้เมืองลพบุรีกลายเป็นเมืองท่าสำคัญในการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศและยังเป็นเมืองศูนย์กลางทางพุทธศาสนาควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการที่ได้ติดต่อกับอาณาจักรกัมพูชาซึ่งเป็นศูนย์กลางแห่งอำนาจที่สำคัญในขณะนั้น ทำให้รับเอาศิลปวัฒนธรรมของอาณาจักรกัมพูชาเข้ามามากมาย ส่งผลให้มีการพัฒนาด้านต่าง ๆ จนทำให้ลพบุรีกลายเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากกว่าเมืองอื่น ๆ ที่อยู่ในเขตลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ไปดูเขาทอผ้าที่บ้านหมื่..ค่ะ
ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ลพบุรีมีฐานะเป็น เมืองลูกหลวง โดยเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของกรุงศรีอยุธยาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ จนถึงสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เมืองลพบุรีถูกลดฐานะลงเป็นเมืองจัตวาและซบเซาลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ลพบุรีกลับมามีบทบาทโดดเด่นอีกครั้ง โดยเป็นเสมือน ราชธานีแห่งที่ ๒ เนื่องจาก สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงเสด็จมาประทับที่เมืองลพบุรีเพื่อว่าราชการในแต่ละปีถึง ๘-๙ เดือน ทำให้ลพบุรีในสมัยนี้มีความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม ด้านสาธารณูปโภค และเป็นเมืองสำคัญในการปกครอง จนกระทั่งสิ้นสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ลพบุรีถูกลดความสำคัญลงและถูกทิ้งจนเกือบมีสภาพเป็นเมืองร้าง
ลพบุรีกลับมามีบทบาทอีกครั้งในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยพระองค์ทรงให้ความสนใจเมืองลพบุรีมาก ทรงโปรดฯ ให้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระราชวังซึ่งเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชและพระราชทานชื่อว่า พระนารายณ์ราชนิเวศน์
ในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้พัฒนาจังหวัดลพบุรีให้เป็นเมืองศูนย์กลางทางการทหาร และมีการวางผังเมืองใหม่ โดยย้ายศาลากลางจังหวัดจากบริเวณพระนารายณ์ราชนิเวศน์มายังสถานที่ตั้งในปัจจุบัน
รู้จักเมืองลพบุรีกันพอสมควรแล้ว ตอนนี้ปอป้าขอไปนอนให้พระน้องนาง-หมอนวดแผนไทย ที่เรือนไม้ไทยสปา นวดคลายเมื่อยขบก่อน..นะคะ พรุ่งนี้เช้าเราค่อยไปท่องเมืองวานรกันต่อ..ค่ะ
ขอบคุณ ข้อมูลจากเว็บไซด์เมืองลพบุรี
เพลง มนต์รักลูกทุ่ง
ความโกรธเป็นดังสนิมศัสตราในโลก
มีความสุขกับชีวิตที่ปราศจากสนิมในใจ ตลอดไป..นะคะ