Bloggang.com : พรหมญาณี : ช้างเผือกของพม่า

ช้างเผือกของพม่า

วันนี้ได้เวลากล่าวอำลาพม่ากันแล้ว..ค่ะ ปอป้า ขอพาเพื่อน ๆ มาร่วมกันมิงกะลาบาพม่า ด้วยการพาไปเยี่ยมชมช้างเผือกคู่บ้านคู่เมืองของพม่า ซึ่งมีบางท่านในคณะแซวไกด์ท้องถิ่นว่า ไม่ไปได้ไหม เพราะไปทีไร ได้ดูแต่ก้นช้าง คุณไกด์ตอบว่า " ไม่ได้หรอกค่ะ เพราะมีหลายคนที่เพิ่งมาพม่าเป็นครั้งแรก ต้องพาไปดูค่ะ ดูก้นช้างเผือกก็ดีกว่าดูก้นช้างธรรมดา ๆ นะคะ " ปอป้า ก็เลยเกิดความอยากรู้อยากเห็นว่า ก้นช้างเผือกมันต่างกับก้นช้างธรรมดา ๆ ยังไง

ปัจจุบันพม่ามีช้างเผือกในความครอบครองอยู่ ๓ เชือก เมื่อเดินทางไปถึงปางช้าง รู้สึกประหลาดใจมาก เพราะช้างเผือกที่นำมาให้ชมนี้ ยืนอยู่ในโรงช้างไกลจากคนดูพอประมาณ ที่สำคัญ ช้างทุกเชือกหันก้นให้คนดูอย่างที่ใครบางคนแซวก่อนเดินทางมาถึง ดังนั้นต่อให้อยากดูแค่ไหนก็ดูได้แต่ก้นช้าง เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลนั่งคุมหน้าเข้มอยู่ ๒-๓ คน มีโต๊ะขายของเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่หนึ่งโต๊ะ คนขายก็เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐนั่นแหละ ก่อนที่จะลงจากรถเดินมาที่ปางช้างนี้ ไกด์ได้พูดเตือนไว้ว่าห้ามถ่ายรูปเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะโดนยึดกล้อง ปรับเงิน และถูกลงโทษได้...จะหวงห้ามอะไรกันปานนั้น..??..

ช้างที่เห็นมีผิวสีชมพู ๒ เชือก ขอย้ำว่าสีชมพู..จริง ๆ ค่ะ เชือกหนึ่งยังเป็นเด็กอยู่ ได้รับการบอกเล่าว่า เชือกที่เป็นเด็กนี้เพิ่งจับได้เมื่อประมาณ ๒ ปีนี้เอง เป็นเพศเมียเช่นเดียวกับตัวใหญ่สีชมพูอีกเชือกหนึ่งซึ่งโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ส่วนอีกเชือกหนึ่งเป็นเพศผู้มีผิวสีเทา มีอายุมากกว่าน้อง ๆ สีชมพูหลายปีทีเดียว น้องช้างสีชมพูทั้งสองเชือกมีชื่อเรียกว่า เป็งกีมาลา กับ ราตีมาลา ส่วนพี่ใหญ่สีเทาชื่อยาวมาก จดไม่ทัน จำไม่ได้...ขออภัยด้วยจ้ะ เจ้าหน้าที่บอกว่า พี่ใหญ่สีเทานั้น มีลักษณะช้างเผือกครบทุกประการ รูปร่างสูงใหญ่ สมชายชาตรี ส่วนน้องน้อยเป็งกีมาลา กับ ราตีมาลา ก็มีลักษณะช้างเผือกเหมือนกัน แต่มีสีชมพู ซึ่งหาได้ยากมาก เขาย้ำว่า...ยากมาก very difficult...เขาว่าเช่นนั้น

มองดูก้นช้างจนหนำใจแล้วก็เดินไปเดินมาอยู่ในบริเวณนั้นด้วยความหงุดหงิดหัวใจ เพราะมองได้แต่ก้นพระน้องนางและเสด็จพี่จริง ๆ อยากเห็นหน้าเพียงใดก็ไม่สามารถ พอดีเหลือบไปเห็นภาพถ่ายของช้างทั้ง ๓ เชือก วางอยู่บนโต๊ะของเจ้าหน้าที่ ก็เลยขออนุญาตเจ้าหน้าที่หน้าโหดถ่ายรูปจากภาพนั้น เจ้าหน้าที่ลุกขึ้นมาสะกิดแขน พูดจาบุ้ยไบ้ ปอป้าก็นึกว่าจะต่อว่า ที่ไหนได้ท่านเกิดใจดีอนุญาตให้ถ่ายภาพช้างตัวเป็น ๆ ได้ ปอป้าไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ก็เลยส่งภาษาปะกิตถามว่าจริงป่าว ตัวอย่าหลอกเค้า..น๊า คุณเจ้าหน้าที่พยักหน้าหงึก ๆ พร้อมทั้งผายมือว่าเชิญตามสบาย ปอป้ายังไม่แน่ใจอีกนะ กลัวพม่าแหกเนตร ถามย้ำอีกว่า แล้วเธอไม่มายึดกล้องของฉันนะ เขาหัวเราะแล้วร้องว่า No..No.. ปอป้าก็เลยได้ถ่ายภาพช้างเผือกตัวเป็น ๆ มาให้เพื่อนบล็อกได้ชมกัน พอเพื่อนร่วมคณะเห็นปอป้าถ่ายได้ ทีนี้ก็เลยกระหน่ำถ่ายกันใหญ่ คุณไกด์บอกว่ารีบ ๆ ถ่ายหน่อย เดี๋ยวคนอื่นเข้ามาเห็น เจ้าหน้าที่จะโดนทำโทษ ถ่ายได้แต่ก้นของน้องช้าง ทำไงดีหว่า.. เดินหลบไปแอบอธิษฐานจิตว่า ถ้าอยากให้ถ่ายจริงน้องช้างแสนสวยโปรดหันหน้าหันตัวมาให้แม่ยลโฉมหน่อยซีจ๊ะ..สิ้นคำอธิษฐาน น้องช้างสีชมพูทั้ง ๒ เชือก ต่างก็หันหน้า หันข้าง ชูงวงให้ถ่ายภาพเสร็จสมอารมณ์หมาย ส่วนพี่ช้างสีเทา พยายามจะหันมาเหมือนกัน แต่ติดที่โซ่ล่ามเท้าของเขาสั้นมาก หันรีหันขวาง หันมาไม่ได้ พี่ก็เลยชูงวงทำท่าฮึดฮัด ๆ อยู่นั่นแล้ว แหม..คำอธิษฐานของเรานี่แรงดีจริง ๆ ..อิ อิ

คุณไกด์รีบต้อนพวกเราให้ออกมาจากเพนียดช้างโดยเร็วพลัน พอขึ้นรถได้ เธอบอกคนขับรถให้รีบเผ่นไปจากที่นี่เร็ว ๆ แล้วเธอก็บอกว่า เป็นไกด์มาก็หลายปีแล้ว ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่ใจดีเหมือนวันนี้ ทำเอาเธอหายใจหายคอติด ๆ ขัด ๆ ไปเลยทีเดียว งานนี้ไม่รู้ว่าคุณไกด์พูดเว่อร์หรือเปล่า แต่คนที่เคยมาแล้ว บอกว่า " ถึงได้บอกไง ว่ามากี่ที ๆ ก็ได้แต่ดูก้นช้าง วันนี้เฮงอะไรปานนี้...555 "

ทีนี้ภาพช้างเผือกตัวเป็น ๆ ก็ได้มาแล้ว ปอป้าเป็นคนขี้สงสัย กลับมาแล้วก็เลยไปค้นคว้าเรื่องช้างเผือก ได้ความมาอย่างนี้..ค่ะ

ช้างเผือก คือช้างที่มีลักษณะต่างจากช้างธรรมดาทั่วไป ด้วยมีสีผิว นัยน์ตา และเล็บขาว ซึ่งจัดว่าเป็นลักษณะที่หายากมาก ความเชื่อในด้านพระพุทธศาสนานั้น ถือว่าช้างเป็นสัญลักษณ์ที่เป็นมงคลแห่งการบำเพ็ญบารมีและความศักดิ์สิทธิ์ ดังที่มีปรากฏอยู่ในชาดกเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ ซึ่งเป็นอดีตชาติของพระพุทธเจ้า พระองค์เคยเสวยพระชาติเป็นพระยาช้างที่ทรงบำเพ็ญบารมี เช่น พระยาฉัททันต์ และ พระยาช้างปัจจัยนาเคนทร์ เป็นส่วนหนึ่งในการบำเพ็ญบารมีในพระเวสสันดรชาดก และ พระยาเศวตรมงคลหัตถี หรือ พระยามงคลนาคในทุมเมธชาดก และตามพระพุทธประวัติ เมื่อพระนางสิริมหามายาทรงพระครรภ์ ทรงพระสุบินเห็นช้างเผือกนำดอกบัวมาถวาย อันเป็นนิมิตว่าผู้มีบุญญาธิการ เพียบพร้อมด้วยบารมี ได้มาอุบัติเป็นมนุษย์สู่พระครรภ์มารดาทางพระนาภีเบื้องขวาในรูปของช้างเผือก ด้วยเหตุนี้จึงนับถือช้างเผือกว่าเป็นสัตว์มงคลที่สำคัญประเภทหนึ่งในพระพุทธศาสนา โดยจะพบว่าสัญลักษณ์ในมงคล ๑๐๘ ที่ปรากฏในรอยพระพุทธบาทนั้น มีรูปช้างมงคล ๒ เชือก

เชื่อกันว่า ช้างเผือกมีอิทธิฤทธิ์เหนือช้างธรรมดา ถึงขนาดที่ว่า มีพลังดุจเทพแห่งสงคราม สำหรับกษัตริย์ไทยและพม่าแล้ว การได้ครอบครองช้างเผือกเป็นอะไรที่สำคัญยิ่ง กษัตริย์องค์ใดมีช้างเผือกหลายเชือก เชื่อว่าเป็นกษัตริย์ที่เกรียงไกรและสามารถนำพาบ้านเมืองสู่ความรุ่งโรจน์ หากช้างเผือกล้ม ถือเป็นลางบอกเหตุเภทภัยแก่ตัวกษัตริย์และแผ่นดินที่ปกครองด้วย ดังนั้น จะเห็นได้ว่าประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นของไทยหรือของพม่า หากมีช้างเผือกมาปรากฏกายให้เห็นและจับได้ ถือว่าเป็นกษัตริย์ที่มีบุญญาธิการสูง ถึงขนาดที่ประวัติศาสตร์จารึกไว้ว่า พม่ารบกับไทยในสงครามช้างเผือกซึ่งเรื่องราวมีดังนี้..ค่ะ

พระเจ้าบุเรงนอง ครองเมืองหงสาวดีต่อจากพระเจ้าตะเบงชะเวตี้ ได้ส่งราชทูตเชิญพระราชสาส์นมาขอพระราชทานช้างเผือกสองเชือกจากพระมหาจักรพรรดิ แต่ได้รับการปฏิเสธ พระเจ้าบุเรงนองก็เลยยกทัพมาตีกรุงศรีอยุธยา สู้กันไปสู้กันมา ไล่มาตั้งแต่เมืองเชียงใหม่ กำแพงเพชร สวรรคโลก สุโขทัย พิษณุโลก ด่านสุดท้ายที่ชัยนาท ไม่อาจรับมือได้ ถอยร่นไปอยุธยา จนต้านทานไว้ไม่อยู่ จึงได้มีการเจรจากันขึ้น ว่ากันว่าพระเจ้าจักรพรรดิได้เสด็จมาเจรจากับพระเจ้าบุเรงนองที่พลับพลาบริเวณตำบลวัดหน้าพระเมรุ กับวัดหัสดาวาส ยอมเป็นไมตรีกัน โดยมอบช้างเผือก ๔ เชือก พร้อมกับพระราเมศวร พระยาจักรี และพระสุนทรสงครามให้แก่พม่า โดยที่สมเด็จพระมหาจักรพรรดิได้ต่อรองขอดินแดนของอยุธยาทั้งหมดที่พระเจ้าบุเรงนองยึดไว้คืนมา พระเจ้าบุเรงนองก็ถวายคืนให้แต่โดยดี จากนั้นพม่าก็ถอยทัพกลับหงสาวดีไป

ไหน ๆ พูดถึงเรื่องช้างเผือกมามากแล้ว ขอพูดถึงความเชื่อเกี่ยวกับช้างเผือกไปด้วยละกัน เคยมีบันทึกไว้อย่างนี้..ค่ะ...ในศาสนาพราหมณ์ กล่าวถึงต้นกำเนิดของช้าง ในเรื่องการสร้างโลกว่า พระวิษณุ (พระนารายณ์) ขณะทรงบรรทมอยู่ในเกษียรสมุทร ได้ทรงแสดงเทวฤทธิ์อธิษฐานให้มีดอกบัวผุดขึ้นจากพระนาภี (สะดือ) ๑ ดอก ดอกบัวนี้มี ๘ กลีบ และมีเกสร ๑๗๓ เกสร พระวิษณุได้ทรงนำดอกบัวนี้ไปถวายแด่พระศิวะ (พระอิศวร) ซึ่งพระองค์ได้แบ่งดอกบัวและเกสรดอกบัวนั้นออกเป็น ๔ ส่วน แล้วจัดแจกแบ่งให้กับเทวะองค์อื่น ๆ อีก ๓ องค์ คือ ทรงเก็บไว้เอง, ทรงแบ่งให้พระวิษณุ, ทรงแบ่งให้พระพรหม และทรงแบ่งให้พระอัคนี (พระเพลิง) โดยองค์เทวะทั้งสี่ได้ทรงสร้างช้างขึ้นองค์ละตระกูล ดังที่ปรากฏในตำราคชลักษณ์ จึงมีช้าง ๔ ตระกูล และช้างทั้ง ๔ ตระกูลนั้น ยังถูกแบ่งออกเป็นวรรณะ เช่นเดียวกับการแบ่งวรรณะของคนอินเดียด้วย คือ

๑. อิศวรพงศ์ เป็นช้างในตระกูลที่พระอิศวรหรือพระศิวะทรงสร้าง จัดเป็นช้างกษัตริย์
๒. พรหมพงศ์ เป็นช้างในตระกูลที่พระพรหมทรงสร้าง จัดเป็นช้างชาติพราหมณ์
๓. วิษณุพงศ์ เป็นช้างในตระกูลที่พระวิษณุหรือพระนารายณ์ทรงสร้าง จัดเป็นช้างชาติแพศย์
๔. อัคนิพงศ์ เป็นช้างในตระกูลที่พระอัคนิหรือพระเพลิงทรงสร้าง จัดเป็นช้างชาติศูทร

ส่วนความเชื่อของคนไทยก็ว่า ช้างเผือกเป็นช้างที่เกิดขึ้นเพราะพระบารมีของพระมหากษัตริย์ แต่อันที่จริงช้างเผือกหรือช้างสำคัญมี ๓ ชนิด คือ

๑. ช้างสำคัญ มีคชลักษณะ ๗ ประการ คือ ตาขาว เพดานขาว เล็บขาว ขนขาว พื้นหนังขาว ขนหางขาว อัณฑโกศขาว สีขาวที่ว่านี้อาจจะมีสีคล้ายหม้อใหม่ก็ได้ ตามความคิดของปอป้า หม้อใหม่ก็คงไม่ดำนั่นเอง
๒. ช้างสีประหลาด คือช้างที่มีมงคลลักษณ์อย่างใดอย่างหนึ่งใน ๗ อย่างที่กำหนดไว้ในคชลักษณะของช้างสำคัญ
๓. ช้างเนียม มีลักษณะ ๓ ประการ คือ พื้นหนังดำ งามีลักษณะดังรูปปลีกล้วย เล็บดำ

ขนของช้างเผือก โดยเฉพาะขนที่หาง มีความเชื่อกันอย่างกว้างขวางมาแต่ครั้งโบราณกาล ว่าเป็นเครื่องรางของขลังชนิดหนึ่ง สามารถป้องกันเสนียดจัญไรแก่ผู้ที่มีไว้ครอบครองได้ จึงนิยมนำมาทำแหวนติดตัว และพระแส้หางช้างของพระมหากษัตริย์ก็ทำมาจากหางช้างเผือกเช่นกัน เชื่อกันว่าเด็กคนใดที่มักเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่แข็งแรง หรือเลี้ยงยาก ถ้านำเด็กนั้นไปลอดใต้ท้องช้างเผือกครบ ๓ รอบ จะกลับมาแข็งแรง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย ๆ อีก และเลี้ยงง่าย

หากมีเหตุต่าง ๆ เกิดแก่ช้างเผือก เช่น เจ็บ งาหัก หรือล้ม (ตาย) ถือว่าเป็นลางร้ายของแผ่นดิน จะเกิดเภทภัยร้ายแรงขึ้นแก่บ้านเมืองและประชาชน หรือเมื่อบ้านเมืองเกิดวิกฤตการณ์ ช้างเผือกมักจะมีอาการประหลาด ๆ ให้เห็น อย่างที่พม่ามีเรื่องเล่าว่า ในตอนที่แม่ทัพอังกฤษเข้าเฝ้าพระเจ้าสิป่อ เพื่อเชิญเสด็จไปจากประเทศพม่า ช้างเผือกส่งเสียงร้องเหมือนคนร้องไห้ และดิ้นรนไม่หยุด หมอควาญจะปลอบอย่างไรก็ไม่สงบ และหลังจากที่พระเจ้าสิป่อเสด็จออกไปนอกประเทศและชาวอังกฤษเข้ามาปกครองพม่าแทนแล้ว ช้างเผือกก็ล้ม (ตาย) โดยไม่มีสาเหตุอะไร

ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องช้างเผือกนี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล
ปอป้าเล่าไปตามข้อมูลที่ได้มา โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพข้อมูลด้วย...นะคะ

เพลง แขกมอญบางขุนพรม

Create Date : 07 เมษายน 2553

Last Update : 7 เมษายน 2553 10:30:53 น.

67 comments

Counter : 8824 Pageviews.

กล้วยไม้... ชื่อพรรณไม้หลายชนิด หลายสกุล ในวงศ์ Orchidaceae
ลักษณะต้น ใบ และช่อดอกต่าง ๆ กัน บางชนิดเกาะตามต้นไม้และหิน
บางชนิดขึ้นอยู่บนพื้นดิน บางชนิดมีดอกงาม บางชนิดมีกลิ่นหอม
ทางพายัพเรียก เอื้อง ปักษ์ใต้เรียก ต้นจุกโรหินี

สุข สดชื่น รื่นเริง บันเทิงใจ ตลอดไป...นะคะ

โดย: พรหมญาณี

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:10:31:27 น.

นู๋ดาว
นู๋ดาวนู๋ดาว
นู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาว
นู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาว
นู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาว
นู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาวนู๋ดาว

นู๋ดาวคนซน ขอเจิมบล็อก ปอป้า พรหมญาณี ค่ะ

โดย: ดาวจ๋า...คนซน (พรหมญาณี

) วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:10:32:13 น.

สวัสดียามเช้าๆ คร่า ^^

โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:11:03:13 น.

โดย: ถุงก๊อปแก๊ป

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:11:55:58 น.

ช้าง ๆๆๆๆ น้องเคยเห็น(หน้า)ช้างอ่ะป่าว อิอิ
ร้องเปนเพลงเรยย

เปนบุญตาได้มาชมโฉมช้างเผือกที่บ้านคุณปอป้าค่ะ

ขอให้คุณปอป้ามีความสุขมาก ๆนะคะ

โดย: อิ่ม_Aim

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:12:22:15 น.

ไม่รู้จะเรียกว่าความเติบโตของ a thing ไ้ด้หรือเปล่านะครับพี่ปอป้า

เพราะตอนนี้ยังมีผลงานแค่เล่มเดียวเองครับ 555

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:12:38:55 น.

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ เรื่องช้างเผือกในพม่า ร้อนๆอย่างนี้รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

โดย: น้ำเปรี้ยวsp

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:13:15:52 น.

สวัสดีครับปอป้าครับ

ไม่น่าเชื่อ ว่าช้างจะชอบกินเผือกนะครับ

แฮ่ๆ

โดย: อิ ส ร ะ ช น ตั ว โ ต เ ต็ ม วั ย . . ไม่ ใ ช่ ใ ค ร . . . มัน คื อ . . (เป็ดสวรรค์

) วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:14:27:43 น.

ขอบคุณพี่ปอป้ามากๆเลยครับสำหรับกำลังใจ

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:15:04:06 น.

ไม่ค่อยจะได้เห็นช้างเผือก น๊ะครับ
นับว่า เป็นบุญตา ที่ได้เห็น ครับ

โดย: จูปีเตอร์เทพแห่งดาวพฤหัส

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:16:47:14 น.

โดย: thanitsita

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:19:41:58 น.

สวัสดีค่ะ..ปอป้า

ขอบคุณกล้วยไม้ที่นำไปฝาก สวยค่ะ แล้วก็ชอบมากๆ ด้วย เข้ามาอ่านเรื่องช้างเผือก ได้ความรู้กลับไปเยอะเลยค่ะ ช้างเป็นสัตว์ที่น่ารักนะคะ แต่ไม่ค่อยกล้าจับตัวเค้าเท่าไหร่ เห็นช้างที่เดินตามท้องถนนแล้วสงสาร แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่แล้ว ค่อยยังชั่วหน่อย

ราตรีสวัสดิ์นะคะปอป้า...
บล้อกของปอป้าก็สวยค่ะ บางอย่างหนูยังไม่มีเลยเอาไว้มาขอความรู้นะคะ

โดย: nootikky

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:20:18:28 น.

จากบล็อก... เป็นธรรมดาครับ... ไม่มีชนใด เขียนประวัติศาสตร์ให้ตนหรือบรรพบุรุษของตนเป็นผู้ร้าย... ย่อมเขียนให้เป็นพระเอกทั้งสิ้นแหละครับ

ชนะเป็นเจ้า พ่ายแพ้ เป็นโจร... นั่นแหละครับ

◄ ►มีความสุขมาก ๆ รักษาสุขภาพครับ ปอป้า◄►

โดย: เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:20:24:00 น.

หวัดดีค่ะป้า..
มาดูช้างเผือกค่ะดีนะได้ดูด้านหน้าด้วย55

นึกว่าจะได้ดูเเต่ก้นอิอิ เพราะบุญของป้าแท้ๆ
.....
เรื่องไปเที่ยงเชียงใหม่ช่วงสงกรานต์
นึกเเล้วน่าสนุก แต่แหะๆ คงเหมือนเดิม
ทำงานค่ะมิได้หยุด

ป้าเที่ยวเผื่อเลิฟด้วยนะคะ

โดย: อาลีอา

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:21:28:28 น.

ขอโทษด้วยนะคะปอป้าที่เข้ามาช้าไปฮื๊ดนึงคะ
confirm คะ วันนี้เดินทางทั้งวันเลยคะเพิ่งถึงกทม นะคะ ตื่นเต้ลลลลลลคะ

โดย: cengorn

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:22:28:15 น.

ตอนเด็กๆเคยไปดูช้างแล้วโดนวิ่งไล่ด้วยแหละ แต่โชคดีตอนนั้นเราวิ่งเร็ว

สวัสดียามค่ำคืนค่ะ

ป.ล.เราชอบรูปกล้วยไม้ที่เอาไปให้ดูนะคะ

โดย: ดอกแก้ว (tanH2O

) วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:23:05:32 น.

ปอป้าขา....อากาศร้อนจนไม่ไหวจะเคลียร์แล้วค่ะนี่

นู๋ล่ะตัวดำเป็นเหนี่ยงแล้วค่ะ

ปอป้ารักษาสุขภาพด้วยนะคะ นู๋คิดถึงปอป้าทุกวันค่ะ วันล่ะ 1นาที...อิอิ

โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ

วันที่: 7 เมษายน 2553 เวลา:23:40:08 น.

เมื่อวานทำอะไรไมได้เลยค่ะ
ได้แต่เผาน้ำมันเล่นอยู่ในถนน ... เหนื่อยและเซ็งมากค่ะปอป้า

ปอป้าขาแล้วนู๋จะส่งหมวกที่ถักไปให้ปอป้าทันมั้ยคะเนี่ยยยย...
อยากถักให้เสร็จอีกสักใบ..(พึ่งถักไปได้สิบกว่าใบเองค่ะ)
แล้วตอนนี้ไปษณีย์จะติดม๊อบเสื้อแดงหรือเปล่าก็ไม่รู้...

คิดถึงปอป้าจังเลยยยยยย

โดย: satineesh

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:6:13:50 น.

แวะมาบอกอีกเรื่องค่ะว่า
อยากทำเค้กให้ปอป้าถือขึ้นเครื่องเหมือนนิชคุณเหมือนกันค่ะ
อยากทำแล้วให้คุณยายได้ทานด้วยค่ะ
จะลดน้ำตาลปรับสูตรให้เป็นเค้กสุขภาพให้โดยเฉพาะเลยค่ะ

แต่

ตอนนี้ไม่มีที่ตีไซแล้ววว

เมื่อวานไปดูยี่ห้อ kitchen aid ที่เซนทรัลมา
โหยยย..ราคา 3หมื่นกว่าๆ...ได้แต่จับๆลูบๆคลำๆ 555

ปอป้ารักษาสุขภาพนะคะ

วันนี้นู๋คงต้องไปผจญภัยในเมืองอีกน่ะค่ะ
เพราะใกล้หยุดยาวแล้วววว

โดย: satineesh

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:6:19:04 น.

สวัสดีเช้าวันพฤหัสบดีค่ะปอป้า

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:6:48:28 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:7:27:50 น.

นัตถิ โทสะ สะโม กะลิ
ไม่มีโทษใด ร้ายแรงเท่าความโกรธ

มีความสุขกับวันดี ๆ อีกหนึ่งวัน...นะคะ

โดย: พรหมญาณี

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:9:02:35 น.

อ่านแล้วได้ความรู้มากๆ เลยจ๊ะปอป้า

โดย: อุ้มสี

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:10:25:06 น.

คุณปอป้าสบายดีนะคะ ขอบคุณที่แวะไปหาค่า จุ้บุ จุ้บุนะคะ
ฟังเพลงบรรเลง ดูช้างไปด้วยเพลินดีจัง อิอิ

โดย: ณ ปลายฉัตร

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:10:28:52 น.

สุดหล่อของพี่ปอป้าโดนยุงฝากรักครับ 5555

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:11:40:14 น.

ไปเที่ยวสงกรานต์ เจอน้ำต้องวิ่งใส่สิค่ะ

อยากเปียกอยากเปียก ก็มานร้อนนี่ค่ะ

โดย: อาลีอา

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:12:38:07 น.

ปอ ป้า ขา ลูกปัดแวะมาค่ะ

ร้อนมากมาย ดูแลสุขภาพนะค่ะ

โดย: LooKPat

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:14:29:10 น.

ตอนแม่ซองขาวฯเด็กๆ

ที่ยะลาได้ช้างเผือกมาเชือกหนึ่ง ยังเป็นช้างเด็กอยู่ เขาฉลองกันที่ยะลา เราก็ไปดูกัน ชื่อจำไม่ได้แล้วเพราะชื่อยาวมากค่ะ

โดย: ซองขาวเบอร์ 9

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:16:14:14 น.

เค้าเรียกมีบุญวาสนาค่ะปอป้า ต้องขอบนะคะ ทำให้มิได้เห็นหน้าคุณช้างไปด้วยน่ะค่ะ

โดย: nompiaw.kongnoo

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:16:27:40 น.

คลายเครียดกันหน่อย..ค่ะ คุณก๋า

คุยกันไม่รู้เรื่องสักที...ปวดหมอง...ปวดหมอง
พ่อก๋า..ว่า หมิงหมิง ไปส่อง ซะเลย..ดีป่าว..??

โดย: พรหมญาณี

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:16:34:10 น.

บ้านเรามีแต่คนเก่งพูด
ไม่มีคนเก่งฟังเลยครับพี่ปอป้า

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:18:12:10 น.

มากับความคิดถึงค่ะปอป้า

ไชโย….วันนี้ได้ดูก้นช้างเผือกพม่าแย้วววววววววววววว

ร้อน ร้อน ร้อน ร้อนสาหัส
ก็บ่นไปงั้นแหละดีกว่าอยู่เปล่าๆ
ถึงบ่นไป……..เทวดาก็ไม่ได้ยิน
ถึงเทวดาได้ยิน……..ก็ยังร้อนเท่าเดิม…..เทวดาหาช่วยอะไรไม่ 555

ตอนนี้ใครบอกไม่ร้อนแปลว่าต้องอยู่ในห้องเย็น
แต่ถ้าอยู่นอกห้องเย็น แม้จะเป็นชายทะเล ก็น่าจะได้รับส่วนแบ่งความร้อนเท่ากันหมด
ธรรมชาติช่างยุติธรรมดีแท้

ความกังวลเหมือนกับเก้าอี้โยก
ได้แค่โยกมา-โยกไป แต่ไม่เคยไปไกลกว่านั้น

โดย: ร่มไม้เย็น

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:19:05:13 น.

สวัสดีค่ะปอป้า..

หนูเข้ามาส่งเข้านอนค่ะ วันนี้มาเร็ว เอ๊ะ! แต่ไม่รู้ว่าเร็วกว่าเมื่อวานรึเปล่า เดี๋ยวหนูว่าจะสวดมนต์แล้วนอนเร็วหน่อย วันนี้ทำความสะอาดหิ้งพระค่ะ เตรียมไว้สรงน้ำพระวันสงกรานต์

ราตรีสวัสดิ์นะคะ..ปอป้า

โดย: nootikky

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:20:40:24 น.

อุ๊ย..หนูลืมบอกอีกเรื่องนึง
หนูขอแอดปอป้าไว้ด้วยนะคะ

โดย: nootikky

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:20:45:59 น.

ปอป้าจ๋า

วันนี้สายโทรของปอป้ากาเด็นไปไหนค้า ..
นู๋ดาวคิดถึงมากมายค่ะ
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ..
ก็มีเหตุระทึกขวัญที่บ้านน้องจันค่ะ
เด๋วน้องคงมาเล่า
แบบว่าไฟเกือบไหม้บ้านเลยค่ะ 555

***

นู๋ดาวยกเค้กกาแฟมาฝากทั้งกล่องเลยค่ะ

วันนี้ก็ลองไปดูเครื่องตีไข่อีกค่ะ ..
ทำไมมานแพงได้โล่ห์จังเลยค่ะ
สงสัยจะต้องไปซื้อเจ้าตัวเล็กมาใช้ดูอีกสักระยะก่อนค่ะ
เครื่องนึงแค่พันสองเองค่ะ..
แล้วรอเก็บเงินซื้อเครื่องใหญ่เครื่องใหม่ เนาะ 555

กล้องก็อยากได้อยู่ ..หูยยยย กิเลสมากเหลือหลายจัง

ปอป้ารักษาสุขภาพนะคะ

โดย: satineesh

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:21:47:39 น.

สวัสดีค่ะ ปอป้า
เอ แล้วช้างเผือก มันสีต่างหรือคะ ดูๆไปแล้วก็คล้ายๆสีช้างธรรมดานะคะ
กิ่งไม้ไทยอาจจะดูสีแตกต่างไม่ค่อยออก

โดย: กิ่งไม้ไทย

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:22:41:00 น.

แวะมาหาซะดึก
กลัวคุณปอป้างอน อิอิ
เบี้ยวมาหนึ่งวันละ ชิมิ
รึมาวันหนึ่งสองครั้งหว๋า แหะๆ

คุณปอป้ามาถึงเชียงใหม่
วันไหนนะคะ แห๋ม..อยากเจอจัง
สงสัยเสร็จคุณก๋าละ
จินกลับ อ.สะเมิงเช้าอ่ะค่ะ

วันที่ 12 จินเปิดร้านถึงสี่ทุ่มนะคะ
ถ้าไม่เหนื่อยจนเกินไป
แวะมาหากันได้นะคะ
มาไม่ถูก โทรหาจินได้
ตามเบอร์ที่หลังไมค์ค่ะ

ส่งคุณปอป้านอนตรงนี้
เลยนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

โดย: JinnyTent

วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:23:28:33 น.

คิดถึงค่ะ
วิ่งมาบอกว่าคิดถึง คิดถึง คิดถึง
แล้วก็จะเผ่นไปทำงานก่อนค่ะ
ทำงานหากาตังมาซื้อเครื่องตีไข่ กร๊ากๆๆ

ปอป้ามีความสุขมากๆๆๆ นะคะ

โดย: satineesh

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:6:54:31 น.

สวัสดียามเช้าค่ะปอป้าจ๋า
ช่วงนี้ งานยุ่งนิดหน่อย
เสร็จภาระกิจแล้วจะมาทักทายบ่อย ๆ น๊า

โดย: I_sabai

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:7:15:58 น.

สวัสดีเช้าวันศุกร์ค่ะปอป้า

โดย: ดอกฝิ่นในสายลมหนาว

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:7:32:38 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:7:44:57 น.

เห็นภาพข่าวเกี่ยวกับช้างเผือกในทีวีเหมือนกันค่ะ จริงๆ แล้วก็คงเป็นความผิดปกติของเม็ดสีผิว แต่ของอย่างนี้ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่จะดีที่สุดนะคะปอป้า ...
สุขสันต์วันสีฟ้านะคะ ...

โดย: Devonshire IP: 202.129.57.21 วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:8:54:47 น.

ขนฺติ สาหสวารณา (ขันติ สาหะ สะวา ระณา)
ความอดทน ห้ามไว้ได้ซึ่งความหุนหันพลันแล่น

ใช้ขันติ เพื่อชีวิตที่มีความสุขตลอดไป...นะคะ

โดย: พรหมญาณี

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:9:11:48 น.

☼../.☼
ศุกร์สวัสดีครับ ปอป้า

จากบล็อกก่อน...ไม่ได้ไปเที่ยวปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่นานแล้วเหมือนกันครับ.. แต่ก็ เคยไปแค่ครั้งเดียวแหละครับ

◄ ►มีความสุขมาก ๆ นะครับ วันนี้วันศุกร์ ◄►

โดย: เซียนกระบี่ลุ่มแม่น้ำวัง

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:9:42:54 น.

สวัสดีวันสีฟ้าค่ะ อากาศร้อนๆ ขอให้คุณน้าปอป้า เดินทางด้วยความปลอดภัยทั้งไปและกลับค่ะ

โดย: ไผ่สวนตาล

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:11:33:34 น.

ช่วงนี้การสื่อสารติดขัดไปโหมด
ยกเว้นช่องทางของเขา

ยุติธรรมไม่มี..สามัคคีไม่เกิดนะคะ

รักษาสุขภาพด้วยค่ะ คุณปอป้า

โดย: อิ่ม_Aim

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:12:35:03 น.

พักนี้มี่ไม่ได้หายนา แค่มี่ติด "รมณ์"ที่ทู้ค่ะ

//www.pantip.com/cafe/writer/topic/W9093527/W9093527.html#35

...............................

สนามบินถูกปิดก็ลืมแล้ว
รู้แค่แว่วเสื้อแดงโทษมหันต์
โทษของเราเอาไว้แค่ตื้นตัน
โทษเขานั้นต้องบั่นให้รานรอน

ยุติธรรมของคนแบ่งตามพวก
จะจิกจวกลวกเขาปลื้มมิล่อน
แต่เขาตีแค่ปลายเริ่มเง้างอน
ต้องขุดถอนให้สิ้นปฐพี

ยุติธรรมย้ำแล้วผะแผ่วเพ้อ
คนละเมอฤๅโลกฉลาดหนี
ความผิดเขาเผาได้อย่ารอรี
ผิดเรานี้ใครแหวกแลกชีพพลัน

......................ญามี่///...

สวัสดีวันวุ่นๆอีกวันค่ะคุณปอป้าน่ารัก

โดย: ญามี่

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:14:52:55 น.

ก็เป็นความจริงครับพี่ปอป้า
99 % น่าจะแดงครับ
คนเชียงใหม่รักทักษิณเยอะครับ

ผมเองไม่เหลืองไม่แดง
ก็ยังไม่กล้าใส่เสื้อเหลืองเดินเลยครับ 5555

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:15:11:19 น.

ปอป้าเดินทางปลอดภัยนะคะ

บล็อกแก๊งด๋อยมากๆวันนี้ มีเวลาจะมาอ่านช้างเผือกพม่าอีกทีค่ะ

โดย: นักล่าน้ำตก

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:15:12:58 น.

มามี้ขา

พูไม่ได้มาหาหลายวัน
ลืมลูกสาวคนนี้ยังคะ
รักและเคารพมามี้เสมอค่ะ

ช่วงนี้อากาศร้อนมากมาย
อีกทั้งสถานการณ์ก็ร้อนไม่แพ้อากาศ
มามี้รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

โดย: พธู

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:16:12:23 น.

ขอให้ปอป้ามีความสุขมากๆนะคะในปีใหม่ไทยนะคะ สุขภาพแข็งแรง เดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุกนะคะ

โดย: cengorn

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:16:12:32 น.

Fหหหหหห สวยจังคะปอป้า
นี่คืออีกบทนึงที่หนูอยากไปคะ
เห็นในทีวี ตัวช้างเป็นสีชมพูทั้งเชือกเลย
โหยยยยยยยยยยยย
สวยมากคะ

ปอป้าสบายดีนะคะ
แม่หนูยิมสบายดีคะ

โดย: gymstek

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:17:31:38 น.

วันนี้ดูม็อบทั้งวันเลยครับปอป้า

โดย: ชายผู้หล่อเหลา...กว่าแย้นิดนึง.. (เป็ดสวรรค์

) วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:20:02:48 น.

ตอนนี้คนไทยต้องใช้ สติ ปัญญา ให้มากๆในการตัดสินใจ คนไทยด้วยกันครับ

โดย: น้ำเปรี้ยวsp

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:21:09:37 น.

สวัสดีค่ะ..ปอป้า

มาแย้วว..มาตามสัญญาใจ..เว่อร์มั๊ยค่ะ
มาส่งปอป้าเข้านอนค่ะ..จะมาทุกวัน
ถ้าหนูไม่ติดธุระไปไหนนะคะ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ..ฝันดีนะคะ

โดย: nootikky

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:21:36:29 น.

มาแว๊ววววว ..
มาปิดประตูลงกลอน
เด๋วช้างเผือกของปอป้าจะหายไป 55

ให้ปอป้าเดินทางไปกลับ ปลอดภัยนะคะ

โดย: satineesh

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:23:02:38 น.

..สวัสดีค่ะปอป้า.. ขอให้ปอป้ามีความสุข สงบ เบิกบาน ในทุกๆวันค่ะ..

โดย: อ๋อซ่าส์

วันที่: 9 เมษายน 2553 เวลา:23:27:16 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:7:34:21 น.

โดย: ดอยสะเก็ด

วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:7:50:05 น.

สวัสดีวันหยุดสุดสัปดาห์ค่ะ
Have a nice day naka

โดย: กิ่งไม้ไทย

วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:9:05:35 น.

กลับมาทักทายแล้วครับ

มั่วแต่ติดตามสถานการณ์บ้านเมืองเพลินไปหน่อย

โดย: ter_pt

วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:11:04:06 น.

สวัสดีค่ะ ปอป้า

ปุ๊กจัง ยังไม่มีโปรแกรมไปไหนเลยค่ะ
หาที่ไปให้ลงตัวยากค่ะ
เพราะช่วงกลางของวันหยุด
ต้องมาเป็นเวรยาม เฮ่อ มีเวงมีกำ ก็เงี้ยอ่ะค่ะ

ขอให้ปอป้ามีความสุข
สนุกสนานในช่วงเทศกาลสงกรานต์นะคะ

โดย: พ่อระนาด

วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:11:15:31 น.

ปอป้าคะ มารายงานตัวค่ะ

หนีร้อนพาลูกไปเที่ยวหัวหินมา 3 วัน กลับมา กท. ยังร้อนทั้งอากาศ และข่าวสารบ้านเมืองเหมือนเคย...

เคยได้ยินเหมือนกันค่ะ ช้างเผือกสีชมพูที่พม่าจัดว่าเป็นไฮไลท์เหมือนกันต้องไปดูให้ได้ (เค้าว่างั้นค่ะ)

แวะทักทายกันก่อนเนาะ เดี๋ยวค่อยอัพบล็อกค่ะ

ใช่ค่ะ ไร่องุ่นปอป้าค่อยไปตอนปลายปีดีกว่าค่ะ น่าจะงามกว่านี้ ที่สำคัญร้อนอย่างแรงแบบนี้ ไม่เหมาะกับปอป้าค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:13:22:43 น.

สวัสดีตอนค่ำค่ะ..ปอป้า

ปอป้าไปเที่ยวสงกรานต์ที่ไหนเหรอค่ะ

แวะมาราตรีสวัสดิ์ค่ะ..จุ๊พ..จุ๊พ

โดย: nootikky

วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:21:38:44 น.

ผิวช้างเป็นสีชมพูจริงๆ ด้วยค่ะ

นี่ถ้าไม่ได้ความโชคดีของคุณป้า
ก็คงจะได้เห็นแต่ก้นช้างพม่าเหมือนอย่างที่เขาว่ากัน

บอกลาพม่าพร้อมคุณป้า...เพื่อรอเรื่องใหม่ต่อไปค่ะ

โดย: เพรง.พเยีย

วันที่: 10 เมษายน 2553 เวลา:21:39:00 น.

สวัสดีค่ะคุณป้า ปอเข้ามาอัพบล๊อกนะคะ
งุงิ ^ ^
คิดถึงคุณป้ามากเลยค่ะ ปอเอากาแฟมาเสริฟจากใจแม้ว่าจะดึกไปแล้ว งิงิ

นอนหลับฝันดีนะคะ

โดย: Butterflyblog

วันที่: 11 เมษายน 2553 เวลา:2:18:34 น.

สวัสดียามเช้าครับพี่ปอป้า

โดย: กะว่าก๋า

วันที่: 11 เมษายน 2553 เวลา:7:21:38 น.