เหนื่อย และเครียด กับสถานการณ์ น้องน้ำป่วนบ้านป่วนเมืองกันมานานแล้ว
วันนี้ ปอป้าก็เลยมาชวนไปเที่ยววัดกันต่อ ไปกราบพระให้สบายใจกันดีกว่า...ค่ะ
....................................
วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่
มีคำกล่าวว่า มาเมืองแพร่ ไม่ไปกราบไหว้สาพระธาตุช่อแฮ ถือว่ายังมาไม่ถึงเมืองแพร่
แต่ทริปของพวกเรา ไม่มีหมายกำหนดการเข้าเมืองแพร่ เพียงแต่ผ่านเมืองแพร่แบบโฉบ ๆ เส้นชายแดนแพร่เท่านั้น แต่ถึงจะแค่โฉบเฉี่ยว พวกเราก็มีใจตรงรี่เข้าไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองกัน..ค่ะ
วัดพระธาตุช่อแฮ เป็นพระอารามหลวง ตั้งอยู่เลขที่ ๑ หมู่ที่ ๑๑ ถนนช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ มีเนื้อที่ ๑๗๕ ไร่ บนเนินเขาเตี้ย ๆ สูงประมาณ ๒๘ เมตร องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ทรงพุกาม แปดเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ศิลปะแบบเชียงแสน บุด้วยทองดอกบวบ สูง ๓๓ เมตร ฐานสี่เหลี่ยมกว้างด้านละ ๑๑ เมตร
ตำนานความเป็นมาของพระธาตุช่อแฮนั้น มีมากมายหลายทาง ปอป้าขอนำส่วนที่เป็นข้อมูลประชาสัมพันธ์ของทางวัดโดยตรง มาให้อ่านกัน..นะคะ
ตำนานกล่าวถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าได้เสด็จมาถึงเมืองพล (เมืองแพร่) ประทับ ณ ดอยโกสัยธชัคคะบรรพต ขณะนั้นมีเจ้าลาวนามว่าขุนลั๊วะอ้ายค้อม (อ่านว่า "ก้อม" ) ได้มากราบไหว้พระพุทธเจ้าที่บนดอยนี้ พระพุทธเจ้าได้แสดงอิทธิปาฏิหาริย์ให้ขุนลั๊วะอ้ายค้อมเห็น เนื่องจากสถานที่นี้เป็นที่ร่มรื่น เหมาะสมที่จะตั้งเป็นสถานที่ไว้ในพระพุทธศาสนา พระองค์ได้ประทานพระบรมสารีริกธาตุที่ระลึก โดยเอาเส้นพระเกศาเส้นหนึ่งให้แก่ขุนลั๊วะอ้ายก้อมไว้ มีรับสั่งให้เอาเส้นพระเกศานี้ไปไว้ในถ้ำที่อยู่ใกล้บริเวณนี้ พระองค์ทรงรับสั่งอีกว่าเมื่อพระองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ให้เอาพระบรมสารีริกธาตุพระศอกข้างซ้ายมาบรรจุไว้ ณ สถานที่นี้ และต่อไปภายหน้าจะได้ชื่อว่าเมืองแพร่ โดยเป็นเมืองใหญ่ซึ่งพระองค์เคยเสด็จประทับนั่ง ณ ใต้ต้นหมากนี้ เมื่อทรงทำนายแล้วก็เสด็จจาริกไปยังเมืองต่าง ๆ ที่ทรงเห็นว่าควรจะเป็นที่ตั้งพระธาตุได้ จากนั้นจึงเสด็จกลับไปยังพระเชตวันอาราม
หลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ๒๑๘ ปี ตรงกับสมัยของพระเจ้าอโศกมหาราช พระเจ้าอโศกมหาราชและพระอรหันต์ทั้งปวงได้ร่วมกันอธิษฐานว่าเมื่อสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีพระชนม์ชีพอยู่นั้น เคยเสด็จไปยังถิ่นฐานบ้านเมืองหลายแห่ง แล้วทรงหมายสถานที่ที่ควรจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ จึงขออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่ได้บรรจุในโกศที่เตรียมไว้นั้นไปสถิตอยู่ในสถานที่ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ทรงหมายไว้นั้นเถิด
เมื่ออธิษฐานแล้วพระบรมสารีริกธาตุทั้งหลายก็เสด็จออกจากโกศโดยทางอากาศไปตั้งอยู่ที่แห่งนั้น ๆ ทุกแห่ง ส่วนพระบรมสารีริกธาตุเหลืออยู่ พระอรหันต์ทั้งปวงก็อัญเชิญไปบรรจุในพระเจดีย์ ๘๔,๐๐๐ องค์นั้น แล้วประกาศแก่เทวดาทั้งหลายให้พิทักษ์รักษาตลอดไป จนกว่าจะหมดอายุแห่งพระพุทธศาสนา ๕,๐๐๐ พระวัสสา
กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนพระธาตุช่อแฮ เป็นโบราณสถานในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๕๒ ตอนที่ ๗๕ ลงวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๘ และได้ประกาศกำหนดขอบเขตโบราณสถาน เล่มที่ ๙๗ ตอนที่ ๑๕๙ ลงวันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๒๓
สำหรับชื่อพระธาตุช่อแฮนั้น บ้างว่าได้มาจากชื่อผ้าแพรชั้นดีซึ่งทอจากสิบสองปันนา และชาวบ้านนำมาผูกบูชาพระธาตุ บ้างก็ว่ามาจากผ้าแพรที่ขุนลัวะอ้ายค้อมนำมาถวาย ทุกปีจะมีงานนมัสการพระธาตุในวันขึ้น ๙ ค่ำ- ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ (ประมาณเดือนมีนาคม)
ปิดท้ายรายการไหว้สาพระธาตุ
ด้วยภาพหลานสาวและเหลนน้อยของปอป้าเอง...ค่ะ
เพลง ลำน้ำพอง
| | |
| ถ้าจะโหวตให้ปอป้า...สาขา Dharma Blog...นะคะ ขอบคุณ...ค่ะ
| |
| | |
อตฺตโน ว อเวกฺเขยฺย กตานิ อกตานิ จ
ไม่ควรใส่ใจคำแสลงหูของผู้อื่น ไม่ควรแส่มองธุระที่เขาทำและยังไม่ทำ
ควรตั้งใจตรวจตราหน้าที่ของตนนี่แหละ ทั้งที่ทำแล้วและยังไม่ทำ
มีความสุขที่ได้อยู่กับตนเอง ตลอดไป...นะคะ