The Memory of India ตอนที่ 8

วันที่แปด เนปาล – สาวัตถี – ลัคเนาว์

ถวายภัตตาหารเช้าและรับประทานอาหารพร้อมกัน เสร็จแล้วออกเดินทางจากโรงแรม NIRVARA เมื่อเวลาประมาณ 6.00น. บ่ายหน้าสู่ชายแดนอินเดียเพื่อเข้าสู่เมืองสาวัตถี ระยะทางประมาณ 288 ก.ม. ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5-6 ช.ม. โดยได้รับความเมตตาจากท่านพระราชรัตนรังษี มาเป็นไกด์กิตติมศักดิ์ คอยให้คำแนะนำอยู่คันที่ 1และท่านพระมหาภุชงค์ อยู่คันที่ 2


ดอกไม้สวยที่โรงแรม NIRVARA



ดอกอย่างนี้..ก้อมีให้เห็นประปราย..อิ ๆ


ระหว่างทางท่านพระราชฯ ได้คุยถึงเรื่องราวต่าง ๆ ให้คณะของเราฟัง ได้รับทั้งความรู้และความเพลิดเพลิน ท่านว่าประเดี๋ยวเมื่อเราออกจากเนปาลแล้ว หากโชคดีคงได้เห็นเทือกเขาหิมาลัยกัน แต่ส่วนใหญ่แล้วมักมองไม่เห็นเนื่องจากระยะทางไกลมากและมักมีหมอกปกคลุมอยู่ทั้งปี พอได้ยินดังนั้นฉันจึงได้รีบตั้งจิตอธิษฐานว่าขอให้ได้เห็นภูเขาหิมาลัยเป็นบุญตาสักครั้งหนึ่งเถิด


วิถีชีวิตของชาวเนปาล ติดชายแดนอินเดีย


แล้วก็เป็นที่ฮือฮากันทั้งคันรถ ด้วยสักพักปรากฎยอดเขาหิมาลัยออกมาให้ยลโฉมกันทั่วหน้า หลาย ๆ คนรวมทั้งพระราชฯ ได้กล่าวว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งที่ชาวเราได้เห็นยอดเขาหิมาลัยอันสวยงามในครั้งนี้ หลาย ๆ คนพูดว่ามาอินเดียเป็นสิบครั้งไม่เคยเห็นแม้สักครั้งเดียว มาหนนี้ได้เห็นเป็นบุญตา ทำเอาท่านพระราชฯออกปากแซวว่า สงสัยจะเป็นแรงอธิษฐานของใครบางคนมีคนที่มีอะไรดี ๆ อยู่ในตัวกระมัง แต่สำหรับตัวฉัน เชื่อว่าเป็นด้วยบารมีของทุกคนในรถคันนี้รวมทั้งตัวท่านพระราชฯ ด้วยแหละ รวม ๆ พลังความดีกันแล้ว ชาวเราจึงได้เห็นยอดเขาอันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ ฉันเองได้แต่ขนลุกไปหมดทั้งตัว พร้อมทั้งเย็นเยือกในจิตอย่างบอกไม่ถูก…ปรีติ แต่เป็นทีน่าเสียดายที่ไม่สามารถถ่ายรูปไว้ดูได้ เนื่องจากระยะทางไกลมาก


ตลาดยามเช้า


คำว่า " สาวัตถี " มาจากภาษาบาลี ในภาษาสันสกฤตใช้ว่า " ศราวัสตี " ปัจจุบันคนอินเดียเรียกเมืองนี้ว่า " สะเหต - มะเหต " มีตำนานเล่าขานกันว่าเมืองสาวัตถึเดิมเป็นที่อยู่ของฤาษีชื่อ สวัสถะ บางตำนานก็ว่า เป็นเมืองที่มีสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภคอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากเป็นเมืองใหญ่ มีพ่อค้าวาณิชย์เดินทางมาค้าขายกันเป็นจำนวนมาก



เมื่อเดินทางถึงเมืองสาวัตถี ได้แวะถวายภัตตาหารเพลและร่วมรับประทานอาหารกันที่ภัตตาคาร บ่ายได้แวะเยี่ยมชมคฤหาสน์ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ชมบ้านของบิดาท่านองคุลีมาล ซึ่งมีอุโมงค์เล็ก ๆ แคบ ๆ ให้ลอดเข้าสู่ที่โล่งกลางบ้าน นัยว่าอุโมงค์นี้เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ลอดเข้า-ออกเพื่อเป็นการทดสอบร่างกายของผู้มาจาริกแสวงบุญ พวกเราทุกคนสามารถผ่านการทดสอบได้อย่างทุลักทุเลปนความสนุกสนานที่โดนแขกหลอก แต่จะว่าไปคนแขกที่มาเที่ยวก็โดนหลอกเหมือนกันแหละน่า...


อีนี้..แขก ก็ลอดอุโมงค์เหมือนกันนะ..นาย


ชมสถานที่ธรณีสูบพระเทวทัต และ นางจิญจมาณวิกา ชมสถานที่ที่พระพุทธองค์แสดงยมกปาฏิหารย์ ซึ่งท่านพระราชฯ ได้อธิบายว่า การแสดงยมกปาฏิหารย์นี้ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์จักต้องสำแดงให้พวกชนชั้นที่เลื่อมใสในอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ ได้เห็น นัยว่าเป็นการสยบพวกเหล่านี้ไว้ก่อนแล้วจึงจะโปรดสั่งสอนในภายหน้าต่อไป


บ้านอนาถปิณฑิกเศรษฐี


จากนั้นได้เข้านมัสการวัดเชตวันวิหาร ที่ซึ่งพระพุทธองค์ประทับจำพรรษานานถึง 19 พรรษา เป็นศูนย์กลางเผยแพร่พระพุทธศาสนาที่สำคัญที่สุด


บริเวณวัดเชตวัน


วัดเชตวันนี้ มีประวัติความเป็นมาว่า..มีเศรษฐ๊คนหนึ่งชื่อ สุทัตตะ มีนิสัยชอบช่วยเหลือคนยากจน จนได้รับฉายาจาว่า " อนาถปิณฑิกเศรษฐี " ซึ่งแปลว่าก้อนข้าวของคนอนาถา เมื่อครั้งที่ไปค้าขายที่กรุงราชคฤห์ ได้ทราบข่าวว่าพระพุทธเจ้าได้อุบัติขึ้นแล้วในโลกและประทับอยู่ที่กรุงราชคฤห์นั้นเอง จึงไปเฝ้าพระพุทธองค์ ฟังการแสดงธรรมจนบรรลุโสดาบัน จึงได้กราบทูลเชิญพระพุทธเจ้าให้ไปโปรดชาวเมืองสาวัตถีด้วย โดยตัวเองจะเป็นผู้สร้างที่ประทับถวาย


อีกมุมหนึ่งของบริเวณวัดเชตวัน


เมื่อท่านเศรษฐ๊กลับมาถึงเมืองสาวัตถี ก็ป่าวประกาศให้ชาวเมืองทราบว่าพระพุทธองค์จะเสด็จมาที่นี่ จากนั้นได้มองหาสถานที่ที่จะสร้างที่ประทับถวาย จนได้พบกับที่แห่งหนึ่งที่สงบเงียบ เหมาะที่จะสร้างเป็นวัด จึงได้ทำการเจรจาขอซื้อที่ดินนั้นจากเจ้าของที่ชื่อ เจ้าเชต แต่เจ้าเชตไม่ยอมขายให้ ซ้ำยังพูดว่าถ้าอยากได้จริง ๆ ให้เอาทองมาปูลาดให้เต็มพื้นที่จึงจะขายให้ ก็นะ..พูดกะใครไม่พูด มาพูดกะท่านเศรษฐี ท่านก็เอาทองมาปูลาดจนเต็มพื้นที่จริง ๆ ทำเอาเจ้าเชตต้องยอมจำนนต่อศรัทธาอันแรงกล้าของท่านเศรษฐี เมื่อสร้างวัดเสร็จท่านเศรษฐีจึงเรียกวัดนี้ว่า " วัดเชตวัน " หรือ " เชตวันมหาวิหาร " เพื่อเป็นเกียรติแก่เจ้าเชตที่ยอมขายที่ให้ แถมยังบริจาคเงินสมทบการก่อสร้างให้อีกด้วย..



จากนั้นเข้านมัสการพระคันธกุฎีฤดูร้อน ฤดูหนาว นมัสการธรรมศาลาที่ใหญ่ที่สุด ธรรมสภา กุฎีพระอรหันต์ เช่น พระโมคคัลา พระสารีบุตร พระอานนท์ พระราหุล พระสีวลี พระองคุลีมาล พระกัสสะปะ และอารามฝ่ายพระภิกษุที่เคยจำพรรษาในครั้งพุทธกาล นมัสการต้นโพธิ์พระอานนท์ ที่มีอายุยืนยาวมาจนปัจจุบันนี้ ซึ่งตัวเราเป็นปลื้มเสียยิ่งนัก ด้วยว่ามีอายุอยู่ได้มาจนทุกวันนี้ ไม่มีทรุดโทรมแต่อย่างใด ช่างน่าอัศจรรย์เสียจริง ท่านพระราชฯ ได้สาธยายถึงกำเนิดต้นโพธิ์นี้ว่า เมื่อครั้งที่พระพุทธองค์เสด็จจากวัดเชตวันนี้ไปยังสถานที่อื่น ๆ ชาวบ้านรวมทั้งพระภิกษุทั้งหลายต่างคิดถึงพระพุทธองค์ ด้วยว่าไม่รู้จะกราบไหว้ผู้ใดแทนพระองค์ พระอานนท์จึงกราบทูลขอพระบรมราชานุญาติใช้อิทธฤทธิ์ปาฏิหารย์ชั่วพริบตาไปนำเมล็ดโพธิ์จากต้นโพธิ์ที่พุทธคยาสมัยนั้นก็คือต้น ORIGINAL ที่พระพุทธองค์ประทับตรัสรู้นั่นเอง ได้นำเมล็ดมาปลูกไว้ให้ชาวประชารวมทั้งพระภิกษุทั้งหลายได้กราบไหว้แทนพระองค์ท่านในขณะที่ท่านเสด็จไปยังที่อื่น ๆ ต้นโพธิ์นี้จึงได้ชื่อว่าโพธิ์พระอานนท์แต่นั้นมา ชาวเราได้มาสวดมนต์ ณ ที่ต้นโพธิ์นี้ เอาน้ำดื่มมารดราดที่โคนต้นโพธิ์ พร้อมทั้งผูกผ้าเหลืองให้ด้วย ส่วนตัวฉันถือโอกาสขอเก็บใบโพธิ์งาม ๆ 3-4 ใบ มาฝากคนที่ไม่ได้มาด้วยและไว้บูชาเองด้วย 1 ใบ


ต้นโพธิ์ของพระอานนท์ หรือ อานันทโพธิ์


เมื่อเสร็จกิจตรงนี้แล้วพวกเราก็มุ่งหน้าสู่ ลัคเนาว์ ระยะทาง 176 ก.ม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ช.ม. เมืองลัคเนาว์นี้เป็นเมืองใหญ่และเจริญ เป็นเมืองหลวงของรัฐอุตตรประเทศ ท่านพระราชฯ ได้เปลี่ยนไปนั่งรถคันที่ 2 แล้วพระมหาภุชงค์มาแทนที่ท่านที่คันที่ 1 ด้วยว่าอยากสนทนาทั่ว ๆ กัน ระ หว่างทางมีการเล่าสู่กันฟังเป็นการแซวมือซ้ายและมือขวาของท่านพอสมควร ท่านว่าต่อไปให้มือซ้ายมานินทาท่านให้คณะในรถคันเราฟังกันบ้าง เปลี่ยนกันนินทาว่างั้น


ห้องอาบน้ำแสนสุข


มีการแวะทานขนมพื้นเมืองกันด้วย เป็นมันบดทอด ราดซอสมะเขือเทศ โรยด้วยหัวหอม ต้นหอมซอย เกลือพริกไทยและราดทับด้วยโยเกิร์ตสีขาว หลาย ๆ คนเอร็ดอร่อยกันเป็นทิวแถวโดยเฉพาะคุณไกด์ของมายด์วาเคชั่นนั้นอร่อยเป็นพิเศษ ทั้งคุณจอม และคุณวิ ฉันขอชิมจากน้องนก แค่แตะ ๆ ปลายลิ้นก็ต้องเซย์กู๊ดบายทันที รสชาดไม่ไหวจริง ๆ เลยหันมาซื้อถั่วกินดีกว่า อร่อยกว่ากันเยอะเลย ( สำหรับเราคนเดียว )


ขนมเจ้าอร่อย


กว่าจะเดินทางถึงลัคเนาว์ ก็เป็นเวลาค่ำแล้ว ได้พักโรงแรมที่ดูจากภายนอกแล้วโอ่อ่าน่าพัก ชื่อ CLARKS AVADH HOTEL หรือคล้ากส์ อวาธ ถวายน้ำปานะส่งท่านพระราชฯและพระมหาภุชงค์ขึ้นจำวัด (ห้องพัก) แล้ว พวกเราก็ร่วมกันรับประทานอาหารในโรงแรมนั้น แสนจะไม่อร่อยด้วยประการทั้งปวง


ที่ไหน ๆ ก็มีขอทาน..ตามติด



โปรดสังเกต ตาชั่ง อันทันสมัย


มีเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ เอาไว้ใช้พิจารณาคนที่อินเดีย ซึ่งท่านพระมหาภุชงค์ ได้อธิบายไว้ว่า.. การสังเกตชาวฮินดู ให้ดูที่หนวด คือจะไว้หนวดโค้งขึ้น ตาไม่ดุ ตาละห้อย ไม่มีแววตาก้าวร้าว เรียกว่า ตาอหิงสา เพราะคนฮินดูกินผักส่วนชาวมุสลิมที่นับถืออิสลามจะนิยมไว้เครา ตาดุวาว ตานักรบ ตาหิงสา เพราะกินเนื้อ...

ตอนหน้าเราจะเข้าหริทวาร์ สู่เมืองฤษีเกศ.. อย่าพลาดติดตามให้ได้นะคะ
เพราะที่หริทวาร์ และเมืองฤษีเกศ นี้ ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวได้มีโอกาสเข้าไปถึงสักเท่าไร เหตุเพราะไม่มีทัวร์ไหนจัด และ การเดินทางค้างแรมไม่สะดวก..ค่ะ







Create Date : 02 สิงหาคม 2551
Last Update : 15 สิงหาคม 2558 12:06:24 น. 28 comments
Counter : 2416 Pageviews.

 
ว้าววว อินตะระเดียว เอ๊ย เดีย อิอิ

มีภาค ๙ ด้วยรึเปล่าคะ คุณป้า


โดย: porranat วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:12:52:23 น.  

 
บ่ายเสาร์ เบ้าส่าย เซิ้ง...สวัสดี

ปอ ป้า ครับ อิอิ

ใจ นุช ยาม เหนื่อยล้า  จุดไหน นาง ซ่าส์ หยุด พักใจ  น่าสร้าง จาง,น่า เหนื่อย คอยใคร  จะนั่ง นัย ฉุด รัก หักร้าง  นุชไซร้,ครวญหรือฯ  ...   คนสาธารณะ   ... เอากลบทโคลงผวน ..กระบี่ตัดสายมุ้ง.. มาฝากขอรับ อิอิ


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:13:45:20 น.  

 



H A P P Y : : D A Y
แวะมาเดินตามรอยบุญค่ะ
เป็นการนำเที่ยวที่ได้ทั้งสาระและบันเทิงจริงๆ
แถมมีภาพประกอบสวยๆด้วย

รักษาสุขภาพ และมีความสุขกับวันดีๆทุกทุกวันนะคะ




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:17:21:12 น.  

 
มาแว้ว ค่ะคุณป้าปอ ปอป้าขรา อิอิ เห็นเค้าอาบน้ำแล้วอยากอาบแบบนั่นมั่งจังค่ะ แล้วไม่ถายเวลา
ผู้หญิงอาบมั่งล่ะค่ะ จะเป็นแบบไหนหว่า

ขอทานนี่มีทุกที่ในอินเดียจริงๆ เลยนะค่ะ ตั้งแต่ตอนแรก จนเก้าแระ
ฝันดีค่ะ


โดย: กชมนวรรณ วันที่: 2 สิงหาคม 2551 เวลา:19:17:26 น.  

 
ตามมาเที่ยวอินเดียค่ะป้า มาเที่ยวหลายรอบ สงสัยอยู่อย่างนึงค่ะป้า อาหารการกินที่นั่นเป็นยังไงบ้างค่ะ เนื่องจากเคยดูสารคดีเกี่ยวกับประเทศอินเดียแล้ว รู้สึกยังไงพิกลๆ
แม่บุญธรรมของแมวค่ะ ไปแทบจะทุกเข้าพรรษาของทุกปี ก็ไปใช้ชีวิตที่วัดเลยค่ะ คอยหุงหาอาหารปฏิบัติธรรม ก็ถามคำถามเดียวกันเลยว่า อาหารการกินเป็นไงบ้าง ..แม่ก็ตอบว่า ก็หุงหากันเองก็เลยไม่เป็นปัญหาเรื่องกินนัก เพราะท่านเน้นปฏิบัติธรรม...แมวเองก็อยากไปมากๆ เลยค่ะ ..แต่กังวลอยู่แค่นี้ละ..อิอิ
แต่ว่าได้ไปตามรอยพระพุทธเจ้านี่ ถือว่าเป็นมหากุศลเลยนะค่ะนี่


โดย: maew_kk วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:0:15:33 น.  

 
หลับฝันดีค่ะคุณป้า

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]


โดย: ญามี่ วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:1:16:48 น.  

 


ปอ ป้า อรุณสวัสดิ์ค่ะ


โดย: กชมนวรรณ วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:7:19:21 น.  

 
คุณรัน...ขา
อย่าไปอาบน้ำแบบเค้าเลย..ค่ะ
แค่แอบไปทุ่ง ว่ามิดชิดดีแล้วนะ
คุณพี่แขก แกยังสามารถมาแอบดูได้เลย
ถ้าขืนไปนั่งอาบน้ำหยั่งนายคนนั้น
โอ๊ะ..โอ๋...ป้าไม่อยาก imagine..เลย..ค้า
อิ ๆ ๆ


คุณแมว..คะ
เรื่องอาหารการกินที่อินเดีย..ค่ะ

ถ้าเราไปกะทัวร์หรือไปอยู่วัดไทย
ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว....ค่ะ
เพราะที่วัดมีอาหารไทยแน่นอน..ชัวร์
และถ้าเป็นทัวร์ที่ดี ๆ เค้าก็มักจะเตรียมอาหารไทยแห้ง ๆ หรือ น้ำพริกบ้าง ติดไปให้เราหม่ำด้วย..ค่ะ

เมื่อถึงภัตตาคาร ซึ่งทัวร์ก็มักจะสั่งอาหารที่เราสามารถทานได้กันทุกคนอยู่แล้ว
ยกเว้น เวลาที่ต้องทานอาหารในโรงแรม
อันนี้ก็ต้องทำใจหน่อย..ค่ะ
เพราะอาหารโรงแรม ส่วนมาก ก็เป็นอาหารอินตะระเดีย..ผสมกับอาหารฝาหรั่งที่ออกสไตล์แขก ๆ
ก็ต้องพยายามเลือกหน้าตาที่น่าเกลียด กลิ่นฉุน น้อยที่สุดแหละ..ค่ะ

ป้าเอง..ตลอดการเดินทาง ก็ปฏิเสธอาหารอินเดียทั้งหมด ยกเว้นพวกแป้ง เช่น นาน หรือ จาปาตี อันนี้ของชอบ..อิ ๆ ๆ
โดยเฉพาะ จาปาตีร้อน ๆ เอามาใส่หมูหยองเป็นไส้เข้าไป แล้วม้วน ๆ หม่ำ...
โอ๊ะ..อาหย่อย อย่าให้เซด..

สรุปว่า....อาหารการกิน
ไม่น่ากลัวมากมายหรอกค่ะ...คุณแมว
พอทำใจ พอทนได้..ค่ะ
ถ้าเรามีศรัทธาแรงกล้า ในการแสวงบุญ
อะไร ๆ ก็ไม่เป็นอุปสรรค หรอก...ค่ะ

สุดท้าย..ป้า ขออนุโมทนาบุญ
กะ คุณแม่บุญธรรม ของคุณแมว ด้วย
ที่ท่านมีศรัทธาสูงส่ง อันน่าสรรเสริญ
ขอโมทนา..สาธุ ๆ ๆ ..ด้วยค่ะ






โดย: พรหมญาณี วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:10:22:51 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: katoy วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:13:13:42 น.  

 


แวะมาส่งความสุขให้บ้างค่ะ
ขอบคุณที่พาไปเที่ยวอินเดียนะค่ะ
^0^


โดย: วังน้ำปาย วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:14:30:22 น.  

 
มาตามคุณป้า...

พาเที่ยวเนปาลครับ

เสียดายจริงๆเลยนะครับ

ที่ไม่สามารถถ่ายภาพตอนที่คุณป้า

มองเห็นยอดหิมาลัยมาได้

ของจริงคงจะน่าทึ่งมากเลยนะครับ

ขอให้คุณป้ามีความสุข

ในทุกๆวันนะครับ


โดย: Romancini วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:18:10:57 น.  

 
สวัสดีเย็นวันหยุดค่ะคุณป้า

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: ญามี่ วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:19:20:38 น.  

 
๐ หมีพู หมู่พี่น้อง     ชวนฝัน ค่ำส่ง คงสำ คัญ      ห่มให้ หลับนอน หล่อนนับ วัน   คืนเปลี่ยน ขอจิต คิดจ่อ ได้     สุขนั้นเนาเสมอ ๚ ...  คนสาธารณะ  ...


โดย: คนสาธารณะ วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:21:13:03 น.  

 

Comment Zuzaa...




โดย: กชมนวรรณ วันที่: 3 สิงหาคม 2551 เวลา:22:16:16 น.  

 
มาราตรีสวัสดิ์ คุณป้า
ฝันดี นะครับ....


โดย: Romancini วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:0:36:16 น.  

 
๐ อรุณสวัสดิ์เช้า.............วันจันทร์
วันเริ่มทำงานกัน..............อีกครั้ง
ทักทายเพื่อนฝูงพลัน........รีบเร่ง เร็วแล
เสร็จรุดแจวบ่ยั้ง..............ย่องเข้า ทำงาน ฯ

หวัดดีค่ะ ป้าปอ ปอป้า อิอิ




โดย: porranat วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:6:52:03 น.  

 


แง๊ มองมะเหงรูปเลยค่ะคุณป้า เปงกากบาทหมดเลย
ต้องพึ่งวันหน้าแระค่ะ เครื่องปอคงมีปัญหาแน่เลย เสียดายจัง...

อ่านแล้วก้ออิ่มเองใจ
วันนี้ใส่บาตรด้วยค่ะ ดีใจจัง อิอิ...

คุณป้าสบายดีนะคะ ปอเอาของว่างมาฝากคะ


โดย: Butterflyblog วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:11:26:29 น.  

 
แวะมาเยี่ยมคะ่ป้า ขอบคุณค่ะที่ตามไปตอบคำถามให้ถึงที่บล็อก


โดย: maew_kk วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:14:50:40 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

ดึกแล้วอย่าลืมปิดประตูลงกลอน แล้วปิดไฟนอนนะคะคืนนี้ฝันดีค่ะคุณป้า


โดย: ญามี่ วันที่: 4 สิงหาคม 2551 เวลา:23:21:44 น.  

 
๐ แวะหวัดดียามสายล่วงบ่ายคล้อย
ฝนตกปรอยลงมาคงชื่นฉ่ำ
ด้วยยามนี้ร้อนเหลือแทบระกำ
ฝนตกพรำเย็นใจใสปิ๊งพลัน..ฯ อิอิ

ทักทาย ทายทัก ค่ะ ปอป้า ป้าปอ



โดย: porranat วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:13:59:40 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

หลานจะมีบุญได้ไปแบบคุณป้าบ้างไหมน้า


โดย: ดอกไม้ ได้หมอก วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:18:57:07 น.  

 


ปอมาเยี่ยม พร้อมกาแฟมาฝากค่ะคุณป้า
วันนี้เห็นภาพแล้ว เย้ๆๆๆ
บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใหญ่มากๆ เลยนะคะ


โดย: Butterflyblog วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:19:04:50 น.  

 



H A P P Y : : N I G H T

รักษาสุขภาพ และมีความสุขกับวันดีๆทุกทุกวันนะจ๊ะ




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 5 สิงหาคม 2551 เวลา:21:56:31 น.  

 


คุณป้าทานมื้อเที่ยงหรือยังคะ

กาแฟสำหรับเที่ยงนี้ค่ะคุณป้างุงิ


โดย: Butterflyblog วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:12:25:56 น.  

 
สวัสดีค่ะ..

ขอขอบคุณที่แวะเข้ไปอวยพรวันเกิดนะค่ะ

วันนี้แวะมาชวนไปออกกำลังกายกันค่ะ

ไปด้วยกันนะค่ะ..

zwani.com myspace graphic comments
Myspace Avatars
อยากไปต่างประเทศด้วยจัง!


โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 6 สิงหาคม 2551 เวลา:17:54:05 น.  

 
นอนหลับ " ฝันดี " ราตนีสวัสดิ์ครับคุณป้า.....


โดย: Romancini วันที่: 7 สิงหาคม 2551 เวลา:0:02:01 น.  

 
ฝันดีค่ะคุณป้า

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]


โดย: ญามี่ วันที่: 7 สิงหาคม 2551 เวลา:3:26:08 น.  

 
สวยงามสง่า ที่นี่คือที่ไหนหนอ


โดย: สัจพจน์ สีหเมธีร์ IP: 124.120.5.54 วันที่: 21 พฤษภาคม 2554 เวลา:14:20:03 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

พรหมญาณี
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]








Prommayanee Tansukchai




ส่งอีเมล์ถึงป้า
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
2 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add พรหมญาณี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.