วนอุทยานแพะเมืองผี จังหวัดแพร่
วันนี้ ปอป้าพาเที่ยวออกนอกเส้นทางวัดวาอารามหน่อย..นะคะ แวะไปเที่ยวชมอุทยานแพะเมืองผี ที่จังหวัดแพร่กันแป๊บนึง..ค่ะ
คำว่า " แพะเมืองผี " เป็นภาษาพื้นเมือง แพะ แปลว่า ป่าละเมาะหรือป่าโปร่ง เมืองผี หมายถึง ความรู้สึกที่ดูเงียบ วังเวงเหมือนเมืองผี เมื่อรวมกันจึงแปลว่า ป่าละเมาะที่เงียบวังเวงเหมือนเมืองผี
แพะเมืองผี ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลน้ำซำ อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ อยู่ห่างจากอำเภอเมืองแพร่ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ ๑๕ กิโลเมตร การเข้าถึงพื้นที่ทำได้โดยใช้เส้นทางหลวงสายแพร่-ร้องกวาง ออกจากตัวเมืองไปถึงหลักกิโลเมตรที่ ๙ จะมีเส้นทางแยกขวาเข้าบ้านน้ำซำ ไปประมาณ ๓ กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาไปอีกประมาณ ๓ กิโลเมตร ก็จะถึงวนอุทยานฯ
แพะเมืองผี เป็นเนินที่พังยุบลงไปเป็นแอ่ง คล้ายแอ่งกระทะหงาย มีขนาดความกว้างประมาณ ๓๐ เมตร ยาวประมาณ ๑๐๐ เมตร ขอบแอ่งด้านทิศตะวันตกเป็นหน้าผาที่มีต้นไม้เตี้ยๆ ปกคลุม มีความสูงไม่แน่นอน คือ สูงตั้งแต่ ๖ ถึง ๑๔ เมตร หน้าผามีความลาดชันลดระดับลงมาทางด้านตะวันออกเข้าสู่ภายในแอ่ง โดยลดระดับลงมาอยู่ที่ความสูง ๒-๓ เมตร ภายในแอ่งมีโคกหรือเนินสูง ๆ ต่ำ ๆ ไม่ต่อเนื่องกัน เกิดจากการพังทะลายที่ไม่สม่ำเสมอกันของชั้นตะกอน ทำให้เนินที่เหลือมีลักษณะเป็นแท่งคล้ายเสา เป็นโคกรูปร่างคล้ายจอมปลวก คล้ายดอกเห็ด หรือบางเนินคล้ายสะพานโค้ง ดูแปลกประหลาด
ธรณีวิทยาของแพะเมืองผี ประกอบด้วยตะกอนที่ยังไม่แข็งตัวเป็นหิน ๒ ชนิด คือ
ตะกอนชั้นล่าง เป็นตะกอนเม็ดเล็กละเอียด ประกอบด้วย ดินเหนียวปนทรายเม็ดละเอียด มีสีเทา และมีจุดประสีน้ำตาล และน้ำตาลปนเหลือง บางบริเวณมีตะกอนทรายหยาบแทรกเป็นชั้น ตะกอนชั้นนี้ปรากฏร่องรอยการถูกกัดเซาะให้เป็นริ้วและร่องมากที่สุด ทั้งนี้เนื่องจากมีดินเหนียวเป็นส่วนประกอบอยู่มาก นอกจากนี้ตามผิวของเสาดินเหนียวจะพบก้อนปูนพอก (Lime concretion) ก้อนกลม ๆ ปะปนอยู่ในเนื้อด้วย
ตะกอนชั้นบน เป็นตะกอนเม็ดหยาบ มีการวางตัวเป็นแนวชั้น ตะกอนประสานเกาะตัวกันเป็นชั้นแข็ง และมีผิวภายนอกเป็นสีน้ำตาลแดงถึงดำ ประกอบด้วย ชั้นล่างสุด เป็นชั้นตะกอนกรวดและทรายปนดินเหนียว มีชั้นเฉียงระดับ (Cross-bedding) และมีชั้นบาง ๆ (Lamination) ปรากฏให้เห็น กรวดเป็นควอรตซ์ เชิร์ต หินทรายและหินดินดาน มีน้ำเหล็กหรือแมงกานีสเคลือบประสาน ทำให้เป็นชั้นแข็ง วางตัวเอียงเทไปทางทิศตะวันตก ถัดขึ้นไปเป็นชั้นตะกอนทรายปนดินเหนียว มีก้อนกรวดแทรก ถัดขึ้นต่อไปอีกคือตะกอนชั้นบนสุดของแพะเมืองผี เป็นชั้นกรวดที่มีควอรตซ์สีขาวและ ลูกรังเนื้อแข็งแทรก ทำให้เกิดเป็นชั้นแข็ง ตะกอนชั้นนี้รองรับชั้นตะกอนทรายละเอียด สีแดง มีเศษใบไม้ รากไม้และถ่านไม้แทรกในเนื้อ ซึ่งจัดเป็นตะกอนผิวดิน
แพะเมืองผีที่จังหวัดแพร่แสดงให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป เริ่มตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ ๓๐,๐๐๐ ปีที่แล้วมา ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เป็นลักษณะธรณีสัณฐาน (Landform) ของการสึกกร่อนที่เกิดขึ้นกับชั้นตะกอนที่สะสมใหม่ ยังไม่จับตัวกันจนแน่นแข็งเป็นชั้นหิน ภูมิประเทศซึ่งเกิดจากการสึกกร่อนแบบนี้ มักจะมีความสัมพันธ์กับธรณีแปรสัณฐาน (Geotectonics) หรือการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก ทำให้พื้นที่สะสมตัวของตะกอนใหม่ยกตัวขึ้นสูงกว่าระดับข้างเคียง น้ำซึ่งเป็นตัวการทำลายที่สำคัญ จึงได้กัดเซาะให้พื้นที่สึกกร่อนผุพังลง การสึกกร่อนอย่างกว้างขวางของเนินตะกอนแพะเมืองผีเกิดจากมีต้นไม้ปกคลุมพื้นดินน้อยลงร่วมกับกิจกรรมของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งมีหลักฐานของการเข้าอยู่อาศัยในบริเวณนี้
วนอุทยานแพะเมืองผีอยู่บนเนื้อที่ประมาณ ๕๐๐ ไร่ เป็นหน่วยงานสังกัดสำนักบริหาร จัดการในพื้นที่อนุรักษ์ ๑๓ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ได้มีการประกาศจัดตั้งเป็นวนอุทยาน เมื่อวันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๒๔
ภาพข้างล่างนี้แสดงให้เห็นถึงชั้นดินแต่ละชั้น
ชั้นบนสุด เป็นทรายละเอียดปนลูกรัง
ชั้นที่สอง เป็นกรวดหยาบปนลูกรัง
ชั้นที่สาม เป็นทรายปนดินเหนียว มีลูกรังและกรวดละเอียดอยู่ส่วนบน
ชั้นที่สี่ เป็นกรวดและทรายปนดินเหนียว มีชั้นเฉียงระดับ และชั้นราบธรรมดา
ชั้นที่ห้า เป็นดินเหนียวปนทราย มีก้อนปูนพอกขนาดใหญ่ปน
ชั้นที่หก เป็นทรายหยาบเชื่อมประสานด้วยน้ำเหล็ก
ชั้นที่เจ็ด เป็นดินเหนียวปนทรายเนื้อแข็ง
ชั้นที่แปด เป็นทรายปานกลาง เชื่อมประสานด้วยน้ำเหล็ก
แพะเมืองผีในสมัยโบราณเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ ชาวบ้านตำบลทุ่งโฮ้ง และใกล้เคียงให้ความนับถือมาก เพราะมีประวัติความเป็นมาที่ลึกลับ โดยคนโบราณเล่าสืบต่อกันมาว่า มียายแก่เข้าไปเที่ยวในป่าหาผักหน่อไม้มาเป็นอาหาร ได้หลงไปในที่แห่งนี้แล้วพบหลุมเงินหลุมทองจึงเอาเงินเอาทองใส่หาบจนเต็มแล้วยกใส่บ่าเพื่อจะหาบกลับบ้านแต่ก็หลงไปหลงมาในป่าแห่งนั้น เพราะเทวดาเจ้าถิ่นนั้นไม่ให้เอาไป เพียงแต่เอามาอวดให้เห็น ยายผู้นั้นจึงหาหนทางเอาหาบนั้นกลับบ้านไม่ได้ จึงได้วางหาบนั้นไว้แล้วจัดแจงตัดไม้มาคาดทำเป็นราว แต่ก็ยังไม่สามารถนำหาบเงินหาบทองนั้นออกมาได้สักที ยิ่งยกเท้าไปข้างหน้าก็ยิ่งเหมือนยกถอยหลังไปอีกเหมือนหนึ่งว่ามีคนดึงหาบนั้นไว้ ยายแก่จึงวางหาบไว้ที่นั่นแล้วรีบไปบอกชาวบ้านให้มาดูหาบเงินหาบทองนั้น พอชาวบ้านหลั่งไหลไปเป็นจำนวนมาก
ครั้นเมื่อไปถึงเงินทองนั้นกลับหายไปตามป่านั้น เมื่อพบรอยเท้าจึงสะกดจามรอยเท้าไปจนถึงเสาเมโร และไม่มีรอยปรากฏไปทางอื่นเลย ยายแก่กับชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อสถานที่นี้ว่า แพะเมืองผี ซึ่ง แพะ หมายถึง ป่าละเมาะ, เมืองผี หมายถึง ความเงียบเหงาเหมือนเมืองผี และ เสาเมโร หมายถึง เสารูปเหมือนปราสาทศพผู้ตายทางภาคเหนือ
วันที่ปอป้าไปแวะเที่ยวชมนั้น อากาศร้อนมากจนตับของสอวอเกือบแปรสภาพเป็นตับหวาน แต่โชคดีที่มีคุณเพื่อนเลิฟองค์การฯ คอยกางร่มให้ยามที่ปอป้าถ่ายรูป สองคนสองเกลอ ยักแย่ยักยันกันไปได้สักพัก ก็ต้องบอกลา เร่งฝีเท้ากลับขึ้นรถ ดมยา เป่าแอร์ เร่งบูรณะสังขารกันเป็นการใหญ่...ฮ่า ๆ ๆ
ขอบคุณ ข้อมูลจาก กรมทรัพยากรธรณี และกูเกิ้ล
เพลง ลาสาวสวนแตง
กุญฺชรา จ มหานาคา อตฺตทนฺโต ตโต วรํ
อัสดร อาชาไนย สินธพ กุญชร และช้างหลวง ฝึกแล้วล้วนดีเลิศ
แต่คนที่ฝึกตนแล้ว ประเสริฐยิ่งกว่านั้น
มีความสุขกับการฝึกตน ตลอดไป...นะคะ