พระพุทธบาทบัวบาน
พระพุทธบาทบัวบาน ตั้งอยู่บนเนินเขาในเขตตำบลเมืองพาน อำเภอบ้านผือ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองอันเก่าแก่และมีการขุดค้นพบใบเสมาที่ทำด้วยหินทรายเป็นจำนวนมาก บางหลักถูกทำให้ล้ม และอีกหลาย ๆ หลักถูกดินทับถม ใบเสมาเหล่านี้สลักเป็นรูปเทวดา และนางอัปสร เป็นศิลปะทวาราวดีตอนปลายผสมกับศิลปะลพบุรี ปักอยู่ ๘ ทิศ แต่ละทิศ ปักซ้อนกัน ๒ หลัก เท่าที่ขุดพบมีจำนวนทั้งหมด ๓๑ หลัก
จากการศึกษากลุ่มเสมา และการจำหลักภาพขนาดของเสมา จำนวนเสมา น่าจะเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีความอุดมสมบูรณ์จึงสามารถสร้างศิลปกรรม ประติมากรรมหินทรายขนาดใหญ่และงดงามได้ สภาพของชุมชนคงจะได้ร้างไป ต่อมาชุมชนลาวล้านช้างในสมัยที่สมเด็จพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชหนีศึกพม่า พระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง ได้เข้ามาตั้งชุมชนที่นี่ จึงมีศิลปกรรม สถาปัตยกรรมล้านช้างมากมาย เช่น มณฑปครอบรอยพระพุทธบาท พระพุทธรูปไม้ ฯลฯ และคงจะสร้างไป จนเมื่อเกิดศึกฮ่อ พวกลาวพวนจึงได้อพยพหนีศึกฮ่อมาตั้งชุมชนใหม่ สภาพชุมชนสมัยนั้นเป็นป่าดงดิบแล้ง มีไม้ที่มีค่าหนาแน่น เช่น ไม้มะค่า ไม้ตะเคียน ตะเคียนทอง ประดู่ ฯลฯ
วันที่พวกเราเดินทางไปปฏิบัติภาวนากันที่พระพุทธบาทบัวบานนั้น เป็นเวลาประมาณ ๔ โมงเย็น ไม่พบเห็นผู้คนในบริเวณนั้นเลยสักคน แวะที่ศาลาพระสงฆ์เล็ก ๆ ก่อนทางขึ้นพระพุทธบาท แต่ก็ไม่พบพระสงฆ์เลยสักรูป บรรยากาศเงียบและวังเวงมาก ปอป้าคิดเองว่า ถ้ามาคนเดียวแล้วเจอบรรยากาศแบบนั้น คงเผ่นลงเขาแทบไม่ทัน..อิ อิ
ว่าแล้ว พวกเราก็เดินขึ้นไปกราบพระพุทธบาทจำลอง และไต่ระดับขึ้นสู่ลานเสมาหินข้างบน เมื่อไปถึงลานเสมาหิน ถึงกับอึ้ง-ทึ่ง ที่พบเห็นเสมาหินขนาดเล็กใหญ่มากมาย มีการสร้างหลังคาคลุมองค์ที่สมบูรณ์เอาไว้ ณ. ที่นั้น พวกเราได้ปฏิบัติภาวนากันจนเวลาพลบค่ำ
ระหว่างที่สวดมนต์ ปฏิบัติภาวนากันนั้น ก็มีเสียงกรอบแกรบเหมือนคนเดินวนอยู่รอบ ๆ พวกเราตลอดเวลา ต่างคนต่างนั่งปฏิบัติภารกิจของตนเองไป ไม่มีใครวอกแว่ก จนได้เวลาอันสมควร คือเริ่มพลบค่ำแล้ว ปอป้าก็สะกิดเพื่อนทั้งสองให้เตรียมตัวกลับ คุณชายเพื่อนเลิฟบ่นกระปอดกระแปดว่าจะรีบกลับไปไหนกัน ปอป้าก็เลยบอกให้เธออยู่ไปคนเดียวล่ะกัน ส่วนสาวงามทั้งสองขอลากลับก่อนล่ะ ขืนอยู่นานไปกว่านี้ ไม่มีไฟ มืด ๆ วังเวง ๆ เกรงว่าผมอันสวยงามของเราจะโกร๋นหมดหัวเสียก่อน..(ฮา)
ขอบคุณ ข้อมูลจากคู่มือท่องเที่ยวอุดรธานี
เพลง ลมพัดชายเขา
| | |
| ถ้าจะโหวตให้ปอป้า...สาขา Dharma Blog...นะคะ ขอบคุณ...ค่ะ
| |
| | |
กลิ นตฺถิ ขนฺธสมา ทุกฺขา นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ
ไม่มีไฟใดเสมอด้วยราคะ ไมีมีโทษใดเสมอด้วยโทสะ
ไม่มีทุกข์ใดเสมอด้วยเบญจขันธ์ ไม่มีสุขใดเสมอด้วยความสงบ
ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ด้วยการรู้เท่าทันอารมณ์ ตลอดไป...นะคะ