เศรษกิจ USA ยังอยู่ได้เพราะ US Dollar Hegemony เกริ่นนิดนึง จริงๆ เรื่องของเรื่องคือ เราไปนั่งอ่านบทความเกี่ยวกับการเงินหลายๆ อย่างใน www.imf.org นั่งอ่านไป มีเรื่องนึง คือ foreign-exchange rates มันทำให้เราหงุดหงิดขึ้นมาอีก ... ก็เลยอ่านเลยเถิดไปถึงเรื่อง US Dollar และ น้ำมันด้วย เราเห็นว่ามันเป็นประโยชน์ดี และเผื่อหลายๆ คนยังไม่คิดในแง่มุมนี้ ก็เอาไว้อ่านและคิดกันเล่นๆ และต้องขอออกตัวก่อนว่า เราไม่ได้จบมาทางด้านเศรษฐศาสตร์ ดังนั้น คำศัพท์บางคำเราอาจจะใช้ผิดไปบ้าง ก็คงไม่ว่ากัน US Dollar Hegemony Has Got To Go โดยหลักๆ เราอ่านมาจาก "US Dollar Hegemony Has Got To Go" เป็นบทความที่เขียนขึ้นโดย Henry C K Liu นะคะ ... แต่ก็ไมไ่ด้เอามาหมด ... และออกความเห็นบ้างไปตามเรื่องของเรา หลักๆ คือ Henry C K Liu พูดถึงสิ่งที่เรียกว่า Dollar Hegemony คืออะไร และบอกว่าเป็นส่ิงที่ทำให้เศรษฐกิจโลก Unhealthy จึงสมควรถูกกำจัดทิ้งไป "World trade is now a game in which the US produces dollars and the rest of the world produces things that dollars can buy." อัตราแลกเปลียนเงินตราระหว่างประเทศ หลายคนคงจะเข้าใจว่าอัตราแลกเปลียนเงินตราระหว่างประเทศ จะถูกกำหนดด้วย "demand and supply" ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของตลาด ... จริงๆ เป็นแบบนั้นรึเปล่า แล้วทำไมเราขึ้นไปขึ้นกับ US Dollar ด้วย ... แล้วเงิน US ตก เราก็ตกตามด้วย ... และเผื่อใครสะสม US Dollar ด้วย ... ก็ลองอ่านๆ กันดูค่ะ US Dollar เป็นที่รู้กันดีว่า ... ในปัจจุบัน การเงินของโลกขึ้นอยู่กับเงิน US Dollar ... คือใครจะซื้อขายอะไรก็ตาม ก็ต้องแลกเงินของประเทศตัวเองเป็นเงิน US Dollar ก่อน ... จากประโยคสั้นๆ แค่นี้ ... มีคำถามตามมาทันที 2 ข้อ คำถามที่ 1: ทำไมเราต้องทำแบบนั้น คำถามที่ 2: ทำแบบนี้แล้ว US ได้อะไร คำถามที่ 1: ทำไมเราต้องทำแบบนั้น สมัยก่อน คนเราซื้อขายแลกเปลี่ยนกันด้วยทองคำ ... แต่พอเกิดสงครามโลก (ซึ่งจุดศูนย์กลางอยู่ในยุโรป) ประเทศมหาอำนาจเหล่านั้น (รวมไปถึงญี่ปุ่น) ก็บอบช้ำกันหมด ... ยกเว้นแต่อเมริกา (เพราะสงครามไม่ได้เกิดในบ้านเค้า) ... ทำให้เศรษฐกิจของอเมริกาในช่วงสงครามเป็นไปได้ด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรม ส่งป้อนประเทศต่างๆ ทั่วโลก ... ซึ่งก็ทำให้ทองส่วนใหญ่ในโลก ไหลไปอยู่ในมือของประเทศสหรัฐ เนื่องจากมีการค้าขายกับประเทศสหรัฐมาก ทำให้ แทนที่จะจ่ายเป็นทองคำ ก็จ่ายเป็นเงิน USD ไปซะเลย ... การขนส่งทองคำก็ยากลำบากกว่าเงินกระดาษหลายเท่า ... และด้วยเหตุผลนี้ ทำให้ประเทศต่างๆ หันมาสะสม USD แทนทองคำ ประกอบกับว่าไม่มีเงินประเทศไหนแข็งเลย ... และเนื่องจากว่ารัซเซีย มีทองคำ (อยู่ใต้ติน) มาก (กลัวกัน) ... จึงมีข้อตกลงกันว่า จะให้ USD เป็นตัวกำหนดราคาทองคำ (เนื่องจาก USA มีทองคำในครอบครองจำนวนมาก จึงสามารถพิมพ์ USD ได้มาก และก็ทำให้เงิน USD มีอยู่มากมายกระจายอยู่ทั่วโลก) โดยที่ ทองคำ 1oz. = 35USD หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดมาซักระยะนึง ... ประเทศมหาอำนาจต่างๆ ก็เริ่มฟื้นตัว ทำให้การค้าขายกับ USD ก็ลดน้อยลงไปด้วย ... เงินที่ US เคยได้เป็นกอบเป็นกำ ก็เริ่มลดน้อยถอยลง ... เงิน USD ที่เคยเป็นที่ต้องการของใครๆ ก็ เป็นที่ต้องการน้อยลงไปด้วย ด้วยสาเหตุนี้ จึงทำให้ ประธานาธิบดี Nixon ได้ประกาศเงิน US Dollar ลอยตัว ไม่ผูกติดกับทองคำอีกต่อไป ... จากนี้ไป ทองคำ 1oz. จะซื้อจะขายกี่ USD ก็ได้ แต่ ... เนื่องจากว่า ช่วงที่ผ่านมา หลายๆ ประเทศ ได้มีการกักตุน USD แทนการเก็บ ทองคำ ... ดังนั้น หากจะต้องเปลียน จาก USD เป็นทองคำ ... อาจจะทำให้ประเทศขาดทุนหนักก็เป็นได้ ... ดังนั้น หลายๆ ประเทศทั่วโลก จึงตัดสินใจ แทนที่จะเปลี่ยนกลับมาสะสมทองคำ ก็ไปสะสมเงิน USD แทน ... ซึ่งก็เป็นผลเรื่อยมา คำถามที่ 2: ทำแบบนี้แล้ว US ได้อะไร ซึ่งขณะนี้ แต่ละประเทศ จะพิมพ์เงินออกมาได้ ก็ต้องดูว่า ในคลังแผ่นดี มีเงิน USD มากเท่าไหร่ (ใช่ว่าจะพิมพ์ออกมาแค่ไหนก็ได้) ... ประเทศไทยเรา ก็จำเป็นต้องเก็บเงิน USD ไว้เช่นกัน ต่างกับสหรัฐ ซึ่งเงินของเค้าแทบจะเรียกได้ว่า ไม่ต้องอ้างอิงกับอะไรเลย ทำให้สหรัฐสามารถพิมพ์แบงค์ออกมาแค่ไหนก็ได้ (ตามอำเภอใจ) ... ถึงแม้ว่าจริงๆ จะมีธนาคารของสหรัฐออกมาตั้งกฎโน่นกฎนี่มากมาย (เพื่อไม่ให้โจ่งครึ้มมากไป) แต่ความเป็นจริงก็ยังเป็นความเป็นจริงวันยังค่ำ เมื่อสหรัฐเคยชินกับการมีเงินกระดาษใช้เป็นฟ่อน ... โจ่งครึ่มมากไป ก็จะเป็นที่ครหาได้ ... และหากคนไม่พอใจ คนก็จะหันมาต่อต้าน ... ดังนั้นสหรัฐจึงได้หันมาพี่งหาหนทางใหม่ คือ น้ำมัน Everyone accepts dollars because dollars can buy oil! World Oil Reserves น้ำมันเป็นส่ิงที่ใครๆ ที่ไหนในโลกนี้ก็ต้องการ ... ดังนั้น สหรัฐจึงเอาตัวไปเป็นส่วนนึงของน้ำมันโดยการที่ "รณรงค์ (บังคับ)" ให้ประเทศที่มีน้ำมันเยอะ ขายน้ำมันเป็น USD เพียงอย่างเดียว ... ซึ่งก็จะเป็นการการันตีว่า USD จะมีคนต้องการต่อไปเรื่อยๆ ประเทศส่วนมากที่ผลิตน้ำมันเยอะๆ ก็ล้วนแต่ขายน้ำมันเป็น USD ทั้งนั้น ... เช่น ซาอุดิอาเรเบีย (ุมีน้ำมันราวๆ 23% ของน้ำมันในโลก) คูเวต ดูไบ บาเรน เยเมน จอร์เจีย ... ถ้านับในตะวันออกกลาง เนี่ย 56% เลยทีเดียว ... ถ้าสังเกตกันดีๆ จะพบว่า ประเทศเหล่านี้ไม่เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นคนเลวเลย!! (ทั้งๆ ที่ประเทศพวกนี้ ไม่เห็นมีใครเป็นประชาธิปไตยแบบเต็มใบเลย (ทั้งๆ ที่ปากก็อ้างด่าอิรัก อิหร่าน รัซเซีย จีน ว่าเลว เพราะไม่เป็นประชาธิปไตย) "the US essentially owns the world's oil for free!" เป็นคำพูดที่ไม่เกินความเป็นจริงเลย US ก็พิมพ์แบงค์ออกมาซิ พิมพ์เข้าไป คนก็จำเป็นต้องหาเงิน USD เพื่อที่จะเอาไปซื้อน้ำมัน ... ดังนั้น US ก็ส่งออกเงิน US โดยไม่ต้องลงทุนซักกะแดงเดียว!!! (ถ้าไม่นับเงินค่าเศษกระดาษ และเครื่องพิมพ์แบงค์!!) ลองดูว่า World oil reserves มีที่ไหนในโลกบ้าง ... Saudi Arabia, Canada, Iran, Iraq, Kuwait, UAE, Venezuela, Russia, Libya, Nigeria, United States, Mexico (ไล่จากมากไปหาน้อย) World Oil Reserves แล้วทีนี้ ... เมื่อประเทศทางยุโรปรวมตัวกัน หันมาใช้เงิน EURO ... ทำให้ความต้องการเงิน euro มีมากขึ้น ... และประเทศอย่างอิรักอิหร่านก็ต้องการจะเปลี่ยนไปขายน้ำมันเป็นเงิน euro แทน พูดถึงอิรัก ... ในปี 1998 อิรักประกาศว่า ต้องการขายน้ำมันเป็นเงิน euro ไม่ต้องการที่จะขายเป็น USD อีกต่อไป ... แล้วถ้าเป็นเช่นนี้ ถ้า US ปล่อยให้หลายๆ ประเทศ ขายน้ำมันเป็นเงินตราอื่น แล้ว เค้าจะส่งออกเงิน USD ได้อีกยังไง ต้องหาเรื่องบุกอิรักซักหน่อย (ทั้งๆ ที่เมือก่อนรักกันจะตายห่า) ... พอบุกอิรัก แล้วก็จัดตั้งรัฐบาลเอง ตอนนี้ก็หวานหมูไปหนึ่ง บอกซ้ายหัน ก็ซ้ายหัน บอกขวาหัน ก็ขวาหัน ต่อมาอิหร่าน ก็จะเอามั่ง ... มันก็เริ่มละ นิวเคลียร์เอย จะตีอิหร่านล่ะ (ปล. ตอนนี้อิหร่านก็ขายน้ำเป็นเป็นเงิน euro แล้ว) ... มีเรื่องจอร์เจีย รัชเชียอีกล่ะ สหรัฐต้องทำทุกวิธีทางเพื่อการันตีว่า เงิน USD ยังเป็นที่ต้องการเสมอ ก็การส่งออกเงิน USD มันไม่ต้องเสียต้นทุนอะไรเลย! แล้วก็มาอีกละ ... ไม่นาน ... USA and Libya มาอีกแล้ว ... เป็นศัตรูกันมาตั้งนาน ... อยู่ดีๆ ... Libya ก็มายอมรับว่าตัวเองเป็นคนทำเครื่องบินแพนแอมที่สก็อตแลนด์ตก (ทั้งๆ ที่ปากแข็งมากี่ปีก็ไม่รู้) ... แถมให้เงินขอโทษขอโพยไปตั้งเยอะ (เงินนี่มันมาจากใคร ... ลองเดากันเอง) ... แล้ว USA ก็เอา Libya ออกจาก blacklist ... เตรียมตัวจะไปสูบน้ำมันที่ Libya อีกแล้ว ... เสร็จไปอีกราย จากแผนภูมิข้างต้น ... จะเห็นได้ว่า USA มีผลประโยชน์โดยตรงกับน้ำมันในประเทศ ซาอุ (23%) + อิรัก (10%) + คูเวต (9%) + UAE (9%) + Nigeria (3%) + USA (2%) และถ้ารวม Libya (ว่าที่) อีก 4% และถ้ารวม Canada อีก 16% ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ อิหร่าน (12%), เวเนซูเอล่า (7%), รัชเชีย (5%) = 24% เท่านั้น ดูเหมือนว่าเราก็คงจะเห็นประเทศทัั้งสามเป็น ผู้ร้ายต่อไปเรื่อยๆ จนกว่า ... (คิดเอาเอง) หนทางแก้ไข หนทางแก้ไขในทางอุดมคติมีอยู่ แต่คนเหล่านี้ ไม่ยอมให้เกิดขึ้นแน่ อยู่ดีๆ ต้องไปทำงานหนัก งกๆๆ ทำไม สู้เป็นเสือนอนกินดีกว่า การซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วยเงินตราประจำชาติ การรวมกลุ่มซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วยเงินประจำชาติ ... เป็นหนทางที่ Liu เสนอ ... เราคิดว่าเป็นหนทางที่ดี และเป็นไปได้ อาจจะไม่ทั้งโลก แต่ในส่วนของประเทศที่ส่งออกของเยอะๆ น่าจะเป็นไปได้ อย่างไทยเรา หากเรามีการรวมกลุ่มกันทางการค้า ในประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง ... เช่น ไทย จะซื้อของจาก อินโด จำเป็นจะต้องจ่ายเป็นเงินอินโด (ไม่ต้องไปแลกเป็น USD ก่อน) ... พออินโดจะซื้อของจากไทย ก็ต้องจ่ายมาเป็นไทยเท่านั้น ... ทำแบบนี้ ... เศรษฐกิจในภูมิภาคจะ healthy มากกว่าที่เป็นอยู่ ... อย่างพวกญี่ปุ่น จีน ยุโรป เค้ามีความแข็งแรงพอ ... แทนที่จะรับเงินเป็น USD ก็ demand เงินเป็นเงินตราประจำชาตินั้น กำหนด fiat money ขึ้นมาใหม่ หรือไม่ก็กำหนด fiat money ขึ้นมาใหม่ (ไม่มีประเทศใดๆ เป็นเจ้าของ และทุกคนก็ต้อง convert เงินของตัวเองไปในระบบเงินตราใหม่) ... ตัวอย่างเช่น Euro ... ทางกลุ่มอาเซียนเรา อาจจะเป็น Asian Dollar! ซึ่งก็จะทำให้เงินตราของแต่ละประเทศ ถูกอิทธิพลของอัตราแลกเปลียนน้อยลง และไม่จำเป็นต้องไปอุดหนุน USD โดยไม่จำเป็น แล้วเศรษฐกิจโลกก็จะเรียกว่า fair มากขึ้น ... ใครทำมากได้มาก ใครทำน้อยได้น้อย และนี่ก็คงเป็นสาเหตุให้ USA ร้อนตัว กัดไม่เลือก เพื่อที่จะครอบครองน้ำมันทั้งหมดในโลกนี้!! เศรษฐกิจ USA ประเทศ USA รวย เศรษฐกิจดี เพราะรากฐานเค้าดีงั้นหรือ? เพราะเค้าฉลาดกว่างั้นหรือ? เพราะเค้าทำงานหนักกว่าเรางั้นหรือ? ก็คิดกันให้ดีๆ หลายๆ รอบ ... หากวันนึง USA ส่งออก US Dollar ไม่ได้ อะไรจะเกิดขึ้น ไม่เหมือนประเทศอย่างเราๆ นะ ... ต้องทำงานกันแทบตาย ทำงานหนักเท่ากับคนใน USA แต่เงินที่เค้าหาได้ มันมากกว่าเราหลายสิบเท่า ... นั่นไม่ใช่เราทำงานน้อยกว่าเค้า เพียงแต่เราตกอยู่ใต้อำนาจมืด ของคนพวกนี้ ที่กำลังเอารัดเอาเปรียบเราอยู่นั่นเอง ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ... ค่าเงิน USD ก็จะไม่มีวันตก ... อาจจะมีอ่อนลงบ้าง ... แต่คนทั้งโลกก็จะทำทุกวิถีทางให้เงิน USD แข็งขึ้นอีก (เพราะทุกคนเก็บ USD ไว้ในคลัง) ... ดังนั้น ทุกคนในโลกนี้ ก็ทำทุกวิถีทางให้ USA รวยขึ้นไปเรื่อยๆ หรือพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ เศรษฐกิจของสหรัฐ มีคนทั้งโลกช่วยกันปกป้องอยู่นั่นเอง และพอ USA มีเงินมากๆ ... ก็ใช้เงินฟาดหัว ซื้อวัตถุดิบราคาถูกจากประเทศจนๆ อย่างเรา แล้วเอาไปเพิ่มมูลค่า และขายราคาสูงลิบ ซึ่งจนๆ อย่างเราก็ไม่มีปัญญาซื้อ (หรือบางคนก็ซื้อมาด้วยหยาดเหงื่อ) ในขณะที่เงินบาทตก ไม่มีใครหน้าไหนจะมาช่วยเรา นอกจากตัวเราเอง   Create Date : 08 กันยายน 2551 21 comments Last Update : 9 กันยายน 2551 4:28:31 น. Counter : 3252 Pageviews. Share Tweet

วิ่งมาอ่านก่อนเข้านอนคนแรกแบบนี้จะได้เหรียญทองไม๊ค้ะคุณฟีบี้ 5 5 5+ ขอเม้นท์ ทักทายก่อนน้ะ แต่รับปากว่าจะอ่านให้จบแน่นอน เพราะเนื้อหาที่ super girl คนนี้เขียนแต่ละเรื่องแต่ละอย่างถูกใจที่สุด เนื่องจากว่ามีความคิดตรงกันหลาย ๆ เรื่อง หลาย ๆ อย่าง แต่ปุ้มรู้ไม่ลึกเท่าคุณฟีบี้น้ะ เลยต้องเข้ามาอ่านข้อมูลหลาย ๆ เรื่องที่นี่บ่อย ๆ เด๋วขอกลับขี้นไปอ่านต่อก่อนน้ะ   โดย: pumorg 9 กันยายน 2551 7:39:37 น.

เอาเหรียญทองไปเลยค่ะ   โดย: Phoebe Buffay 9 กันยายน 2551 8:18:12 น.

เรื่องนี้เคยมีคนไทยเอามาเขียนเหมือนกันค่ะ (อาจจะแปลมาจากบทความนี้ก็ได้) แล้วเราได้รับเมลล์มา ตอนแรกยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่นะคะ อะไรมันจะง่ายขนาดน้าน (เรื่องพิมพ์แบงก์ดอลล่าร์) ประเด็นของเขาคือทำไมเราต้องซื้อน้ำมันแพง และทำไมเมกาถึงบุกอิหร่าน เหตุผลก็ตามที่คุณฟีบี้ว่ามานี่แหล่ะค่ะ ตอนนั้นเราก็งงนะว่าทำไมอิหร่านจะมี nuke ไม่ได้ในเมื่อเมกายังมีได้เลย เอาเหตุผลอะไรไปบังคับเขา (วะ) ได้ยินว่าอิหร่านจะซื้อขายน้ำมันเป็นเงินเยนด้วยล่ะ ขัดใจเมกาสุดๆ สงสัยว่า 1. ประเทศในโลกที่มีอำนาจและฉลาดๆเยอะแยะ ทำไมยอมให้เมกาทำอย่างนี้ได้คะ มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ 2. หรือว่าพวกเขามีผลประโยชน์ร่วมกันลับๆ ช่วงนี้เราจะเริ่มซื้อทองคำแท่งเก็บแล้วค่ะ Gold is the girl's best friendเศรษฐกิจโลกเป็นแบบนี้ ไม่มีอะไรแน่นอนเลยจริงๆ   โดย: Galilee 9 กันยายน 2551 11:16:35 น.

เคยคิดมานานแล้วเหมือนกันว่าทำไมอะไรๆ ก็ต้อง US Dollar ?? มาอ่านที่คุณฟีบี้เขียนเข้าใจขึ้นมาอีกเย้ออออ ถ้าคุณฟีบี้เราก็งมโข่งอีกนานอะ เพราะเราไม่ค่อยชอบอ่านไรที่มันวิชาการจัด (อ่านแล้วพาลจะหลับ) สงสัยเหมือนคุณ galilee อะค่ะ ว่าประเทศอื่นทำไมถึงยอม ยอมแล้วได้อะไร ยิ่งอ่านยิ่งเกลียดเมกาอะ (แต่ชอบดูหนังฮอลลีวู้ดนะ -_-'') หน้าด๊าน หน้าด้าน ยิ่งกว่ารัฐบาลไทยอีก (อุ๊ย นอกเรื่อง)   โดย: ningpotter IP: 202.183.183.226 9 กันยายน 2551 15:57:28 น.

ตกคำว่า ถ้าคุณฟีบี้ไม่เล่านะคะ พิมพ์เมามันไปหน่อย อิอิ   โดย: ningpotter IP: 202.183.183.226 9 กันยายน 2551 15:58:26 น.

แวะมาเยี่ยมค่ะ อ่านจากข้างบนเนี่ยแล้วได้ความรู้ดีนะค๊ะ ปนปวดหัวหน่อยๆ คิคิ   โดย: วิสกี้โซดา 10 กันยายน 2551 0:44:29 น.

มาตอบคำถามค่ะ ... ก่อนที่จะตอบคำถาม ... ขอเล่าเรื่องพวกนี้ก่อน ก่อนหน้า 1971 ... ทั่วโลกใช้ข้อตกลงว่า USA จะพิมพ์เงินออกมา เท่ากับทองคำที่ USA มี (1oz = 35USD) ประมาณ ปลายทศวรรต 60 (1968 รึไงนี่แหล่ะ) ... เศรษฐกิจยุโรปฟื้นตัว ... คนเริ่มจะรู้สึกว่า มี US Dollar ในตลาดมากเกินความเป็นจริง (เนื่องจาก USA พิมพ์แบงค์มากกว่าที่ทองคำตัวเองมี) ... ใน UK ขายทองคำกันที่ 1oz = 40 USD (แสดงว่า เงิน USD ถูกกว่าที่ควรจะเป็น) ประมาณ 1 ปีล่วงเลยผ่านไป ... France แสดงความจำนงต่อ USA ว่า ... เราไม่ต้องการ USD แต่ต้องการทองคำจาก USA เท่านั้น ... ทาง USA จึงต้องจ่ายทองออกไปเกือบหมดประเทศ ก็ยังไม่สามารถทดแทนจำนวน US dollar ที่พิมพ์ออกไป (ตามข้อตกลง) ดังนั้นในปี 1971 ... ประธานาธิบดี Nixon ได้ประกาศล้มละลาย ... บอกว่า กรูไม่มีให้แล้ว กรูไม่สน กรูไม่มีทองแล้วโว้ย (ประมาณนี้) จะขายทองคำที่เท่าไหร่ก็เชิญ ทีนี้แหล่ะ เศรษฐกิจโลก เจ๊งบ๊งกันหมด (ถูกเรียกว่า Nixon shock) ประเทศใหญ่ จะไปบีบคอ USA ให้ตายก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ... เงิน US dollar ก็มีกระจายอยู่ทั่วโลก ... West Germany ได้เงินสนับสนุนจาก USA เยอะมากๆๆ (แน่นอนว่าไม่ใช่ทองคำ แต่เป็น US dollar) ... และยังประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น สวิส ... พวกเค้าเหล่านี้ล้วนมีแต่ USD ... West Germany ประกาศว่า จะไม่สะสมทองคำ (แต่จะสะสม USD แทน) คือ Germany ไม่มีทองคำเลย มีแต่ USD เป็นฟ่อน แล้วทีนี้ ประเทศใหญ่ๆ จะยอมถือแต่ทองคำ ... ไม่เอา USD ด้วยรึเปล่า? แล้วจะค้าขายกับคนอื่นยังไง สิ่งที่ทำได้คือปล่อยเลยตามเลย ... เศรษฐกิจก็ดำเนินไป ... USA ก็พิมพ์แบงค์ส่งออกไป หมดยกที่หนึ่ง (พักหายใจก่อน)   โดย: Phoebe Buffay 10 กันยายน 2551 0:51:29 น.

ต่อมา เกิดวิกฤตการณ์น้ำมัน ... และ USA ก็ได้เข้าไปมีบทบาทในกลุ่ม OPEC อย่างเต็มตัว (เพราะ USA พิมพ์แบงค์ได้ ... และการค้าขายในตอนนั้นก็ใช้ USD กันทั่วโลก) ... USA สัญญากับประเทศกลุ่ม OPEC ว่าจะช่วยปกป้องประเทศเหล่านี้จากการรุกรานจากประเทศภายนอกและภายใน (ปฏิวัติรัฐประหารในประเทศด้วย) ... แต่มรึงต้องขายน้ำมันเป็น USD เท่านั้น ใน ตอนนั้น USA มีกำลังทหารที่เข้มแข็งที่สุดในโลก (เพราะประเทศอื่นๆ ยังคงบอบช้ำจากสงครามกันอยู่ เพิ่งเริ่มฟื้นตัว) ... สหภาพโซเวียตก็ยังมี Cold War ดำเนินไปอยู่กับ USA (เดี๋ยวก็เอา missiles ไปตั้งโน่น ตั้งนี่ ขู่กันไป ขู่กันมา) ง่ายๆ ... ถ้าคุณเห็นหมาสองตัวกำลังกัดกัน จะเข้าไปยุ่งรึเปล่า ตัวเองก็เพิ่งจะหายบาดเจ็บ และในที่สุด USA ก็ได้ครอบครอง OPEC ไปโดยปริยาย ......................................... จากสิ่งที่พูดมาข้างบน 1. ไม่อยากให้เงินสำรองในกระปุกลดค่า 2. ไม่อยากมีปัญหากับ USA (ที่อ้างว่าจะช่วยปกป้องตนจากสหาภาพโซเวียต) ทำให้ USA จึงสามารถพิมพ์แบงค์ออกจำหน่ายได้ต่อไป หมดยกที่สอง (พักหายใจก่อน)   โดย: Phoebe Buffay 10 กันยายน 2551 0:54:42 น.

ต่อมา สหาภาพโซเวียตล่มสลาย (ต้นทศวรรต 90) ... เลยมีการคิดว่า ... เออ กรูทำมั่งดีกว่า ... USA ก็พิมพ์แบงค์ตามใจชอบ ... กรูก็ตั้งเงินขึ้นมาบ้าง ... ตั้งชื่อว่า euro เป็นไง ... ก็ใช้เวลาในการจัดตั้ง อยู่พักนึง ... และก็ผ่านไปได้ด้วยดี ทีนี้ ... ก็มี fiat money งอกขึ้นมาอีกหนึ่ง ... เข้าทำนองอยากจะพิมพ์เท่าไหนก็ได้ ... แต่ก็ต้องเนียนๆ งุบงิบกันใน 11 ประเทศ แถม ตอนนี้ 11 ประเทศ ... มี 450 ล้านคน มากกว่าประชากรใน USA ซะอีก (300 ล้านคน) ... ก็เลยทำให้ euro มีรากฐานที่มั่นคงกว่า ... และยุโรปก็ผลิตของเองใช้เองและเหลือส่งออกออกด้วย (ต่างกับ USA ที่ซื้อของเข้าบ้านซะมาก) หลายๆ ประเทศ แทนที่จะไปกัด USA แง่งๆ ... ก็ทำมันเองซะเลย นี่คือคำตอบว่า ทำไมยุโรปถึงไม่กัดตอบ (มีภาคต่อ)   โดย: Phoebe Buffay 10 กันยายน 2551 0:56:45 น.

ทีนี้ ถามว่า ทำไม จีน ญี่ปุ่น ถึงไม่ทำอะไร คำตอบคือ ... อย่าลืมว่า ... คู่ค้าสำคัญที่สุดของ จีน และ ญีุ่ปุ่น (และไต้หวัน) คือใคร ก็จะเป็นใครไม่ได้นอกจาก USA และไม่มีเหตุผลใด ที่ประเทศเหล่านี้ จะทุบไหเงินไหทอง ของตัวเอง ถึง แม้ว่าญี่ปุ่น จะมีกำลังทรัพย์พอที่จะทำ ... แต่อย่าลืมว่าญี่ปุ่นไม่มีกำลังทหาร และ ที่สำคัญ คือ มีฐานทัพของสหรัฐตั้งหลาอยู่ในญี่ปุ่น (โอกินาวา อะไรพวกนี้น) ... ทำไมจะต้องหาเรื่องใส่ตัว ลองถามตัวเองดู ... ถ้ามี เพื่อนคนนึงที่มีมนต์ดำ สามารถเรียกเงิน เท่าไหร่ก็ได้ ตอนไหนก็ได้ ... คุณจะไปแจ้งตำรวจให้จับเพื่อนคนนั้น ... หรือว่าจะปล่อยไป และตีสนิท รับผลประโยชน์จากเพื่อนคนนั้นไปเรื่อยๆ และนี่ก็คงจะตอบคำถามข้างบนได้นะคะ   โดย: Phoebe Buffay 10 กันยายน 2551 0:58:26 น.

ส่วนโซเวียต (รัชเชีย) ทำไม ไม่คิดจะทำอะไรซักที คำตอบ ก็คือ ก็เค้าอยู่โดดเดี่ยวมาตั้งสี่สิบกว่าปี ... ไม่ได้มีผลประโยชน์ หรือ ผลเสีย อะไร ... และรัชเชีย พูดอะไร ก็ไม่มีใครฟังอยู่แล้ว พอรัชเชียอ้าปาก ... คนก็ปิดหูแล้วพูดว่า มรึง คอมมิวนิสต์ มรึงจะรู้อะไร ... จบ ................................................. และด้วยเหตุผลนาๆ ประการ เหล่านี้ ... ก็น่าจะเพียงพอให้ USA พิมพ์แบงค์ส่งออกได้ต่อไป ที่ สำคัญ คือ ... ตอนนี้ โลกเรามีทางเลือกใหม่ นั่นคือ เงิน euro ... ถึงแม้ว่า USA จะพิมพ์แบงค์ออกมาใช้กี่ฟ่อนต่อกี่ฟ่อน ... เดี๋ยวท้ายสุดเค้าก็จะประสบปัญหาเงินเฟ้อกับตัวเค้าเอง (มีเงินที่มีค่าไม่ต่างไปจากเศษกระดาษ) ... ดังนั้นคือ ปล่อยๆ ไป ไม่ต้องหาเรื่องใส่ตัว เดี่ยวมันก็ซวยของมันเอง (ประมาณนั้น) เรื่อง น่าเศร้าก็คือ ประเทศรวยๆ (ที่ไม่ได้ใช้เงิน euro) ก็เริ่มหันมาสะสมเงิน euro กันแล้ว ... แต่ประเทศจนๆ อย่างเรา ... ลองดู โดย USA กัดแน่นอน เราก็ต้องตั้งหน้าตั้งตารอดูกันต่อไป จบข่าว   โดย: Phoebe Buffay 10 กันยายน 2551 1:01:57 น.

สังคมนี้ มันช่างโหดร้ายจริงๆ   โดย: Phoebe Buffay 10 กันยายน 2551 1:02:48 น.

โห เรื่องมันลึกล้ำซับซ้อนดีแท้ๆ สังคมเดี๋ยวนี้คนเราก็เห็นแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง อะไรที่ทำแล้วไม่เสียผลประโยชน์ ถึงจะผิดก็ไม่สน เฮ้อ   โดย: ningpotter IP: 202.183.183.226 10 กันยายน 2551 10:29:35 น.

ลึกซึ้ง ลึกซึ้ง เลยค่ะคุณฟีบี้ เป็นอย่างนี้นี่เอง เฮ้อออออออออออออ สรุปแล้วประเทศมหาอำนาจต่างปกป้องผลประโยชน์ของตัวเอง ประเทศเล็กๆอย่างเราก้ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเออเออ ออออ กับเขาไปไม่งั้นอยู่ไม่ได้ อ่านแล้วหงุดหงิดจริงๆ ค่ะ   โดย: galilee IP: 125.25.34.10 10 กันยายน 2551 13:21:09 น.

ชอบมากๆ เลยอ่ะคุณฟีบี้ อ่านแล้วได้ความรู้มั่กๆ ชอบการเล่าของคุณฟีบี้อ่ะค่ะ มันไม่ได้ดูวิชาการจ๋าเลยทำให้อ่านได้หนุกๆ ไม่ง่วงดี.. อ่านแล้วก็รู้สึกว่าสังคมนี้มันช่างโหดร้ายจริงๆ นั่นแหละค่ะ   โดย: แมวจอมกวน 13 กันยายน 2551 1:22:51 น.

โอ ความรู้อีกแล้ว เรื่องทำนองนี้ได้ยินปะป๊าพูดออกบ่อย แต่ไม่ติดต่อกันและละเอียดขนาดนี้ ได้คุณฟีบี้มาจับให้เข้ากันแบบนี้ก็ถึงบางอ้อ้มากขึ้น ขอบพระคุณมากนะขอรับที่เอาสิ่งดี ๆแบบนี้มาฝากกัน   โดย: PuPe_so_Sweet 17 กันยายน 2551 14:03:57 น.

เคยสงสัยว่าทำไมต้องอ้างอิง USD ทุกเรื่องเลยที่เกี่ยวกับน้ำมัน การค้า ตอนนี้ถึงบางอ้อแล้วค่ะ ขอบคุณมากมายค่ะ   โดย: sriwis IP: 125.26.174.246 20 กันยายน 2551 13:49:04 น.

บล๊อคนี้ก็ไอเดียคล้ายๆ กันค่ะ แต่เป็นไอเดียที่มีไทยกะเขมรเป็นตัวประกอบด้วย //www.oknation.net/blog/brave/2008/09/25/entry-2   โดย: แอ่นแอ๊น 25 กันยายน 2551 16:47:59 น.

ได้ความรู้มากๆ ขอบคุณค่ะ   โดย: Bud Ice 1 ตุลาคม 2551 3:07:32 น.

ตอนอยู่อเมริกาได้มีโอกาสเรียนประวัติศาสตร์อเมริกา...ยิ่งเรียนยิ่งไม่ชอบประเทศนี้เอาซะเลย เป็นประเทศที่เห็นแก่ตัวมากๆ อยากได้ไปหมดซะทุกอย่าง เฮ้อ..ไม่รู้จักพอจริงๆค่ะ แต่ขอบคุณคุณฟีบี้ ที่นำเอาเรื่องระบบการเงินมาอธิบายให้ฟังอย่างง่ายนะคะ   โดย: เจ้าหนูลูกชิ้น 25 พฤศจิกายน 2551 23:15:14 น.

เป็นคนนึงที่ติดตามบล็อคคุณฟีบี้ด้วยเรื่องสวยๆงามๆ แต่พอได้อ่านเรื่องเศรษฐกิจ ชอบมากเลยค่ะ เข้าใจง่ายมาก กระจ่างเลย   โดย: nance IP: 110.164.134.175 9 กรกฎาคม 2556 15:15:47 น.