แป๊บๆ ก็วันศุกร์อีกแล้ว ... เฮ้อ ... กี่ปีมาแล้วที่วันๆ ก็นั่งอยุ่แต่หน้าคอม
Thanks to technology by the way!

ช่วงนี้ก็ดู Euro 2008 ... ค่อยหายเบื่อได้หน่อย

เรามาอยู่แคนาดาจะครบ 8 ปี แล้ว ... 6 ปีที่ผ่านมา แทบจะไม่เคยมีฝนตก ... ปีนึงจะตกซัก 2 หนได้มั๊ง ... ตกทีก็แบบ 3 เม็ด เหงื่อเรายังออกมากกว่าเลย ... ประมาณว่าเดินๆ อยู่ ... ฝนตกก็ไม่ต้องวิ่งหรอก ... มันไม่ทันจะเปียกมันก็หยุด ... ตกลงหัวไม่เกิน 10 หยดก็หยุด ประมาณนั้น ... และด้วยสาเหตุนี้ ทำให้คนแถบทุ่งหน้าแพรรี่นี้ ... ไม่มีใครมีร่ม ... ไม่ได้ล้อเล่นนะ

สามปีที่ผ่านมา ... ฝนตกสองสามครั้ง ... ครั้งนึงนานเกิน 5 นาที ... ตื่นเต้นกันใหญ่ ... ปีที่แล้ว (2007) ฝตตกเยอะกว่าปกติ หลายทีใช้ได้ ... บางทีตกเกือบชั่วโมงเหมือนกัน แต่ก็ตกไม่หนัก พอหนาวเข้า หิมะเลยเต็มเลย

พอเข้าปี้นี้ ... ฝนตกเยอะมากๆๆๆ ... นี่ก็ตกมากว่า 2 อาทิตย์แล้ว ... ตกทุกวัน ... วันละหลายๆ รอบ ตกๆ หยุดๆ ... เมื่อวาน ฝนตกเหมือนฟ้ารั่ว ตกทั้งวันเลย ... ประหลาดมาก

แต่ที่ประหลาดไปกว่านั้น ... (เมือวานเราไปซื้อโน่นซื้อนี่) ... ฝนตกเป็นลงมากี่ห่าก็ไม่รู้ ... ตกขนาดนั้น ... ไม่มีใครถือร่ม ... เดินตากฝนตัวเปียกกันงั้นเอง ... แปลกคน ... คนเดินตามถนน ใส่หมวกแก๊บ ตัวเปียกโซก ... บางคนดีหน่อย ใส่เสือผ้าร่มกันลมแบบมีฮูด ตัวเปียกโชก ... เสื้อผ้าร่มนะ ไม่ใช่เสื้อกันฝน ... ถ้าทางปีหน้า คงจะมีคนคิดเอาร่มมาขายแน่เลย

อากาศก็ยังหนาวอยู่เลย ... ปกติ ช่วงนี้น่าจะร้อนได้แล้ว จะเปิดแอร์กันหูดับตับไหม้ ... แต่ปีนี้พิเศษ ต้องเปิดฮีตเตอร์อยู่ ยิ่งตอนเช้าๆ อากาศยังเย็นๆ อยู่ ต้องใส่เสื้อกันหนาวอยู่เลย ... เฮ้อ อีกสองสามเดือนความหนาวก็จะมาเยือนแล้ว ... ยังไม่ได้สัมผัสอากาศร้อนเลย

homestay father เราเค้าก็ยังบ่นๆ ว่า ... เฮ้อ ราคาพืชผลก็แสนดี ... แต่ harvest ไม่ได้ ... ฝนมันไม่ยอมหยุด ... homestay father เค้าเป็นนักบัญชี เปิดบริษัทบัญชี ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นพวกเกษตรกร ช่วงหน้าหนาวเค้าก็จะทำงาน office ของเค้าเอง ส่วนเวลาที่เหลือเค้าจะไปอยู่ farm ก็ปลูกพวก canola, wheat, potato อะไรพวกนี้ ปลูกกันที่ก็แบบเป็นหมื่นๆ (รึพันๆ หว่า ... จำไม่ได้แล้ว) เอเคอร์เลย (ที่มันเหลือเฟือก็งี้แหล่ะ)

เมื่อวานออกไปซื้อของ ซื้อพวกหมูเห็ดเป็ดไก่ ... ปกติเราจะซื้อมาอย่างละ pack ใหญ่ ... แล้วเอามา pack ใส่ถุงเล็กๆ ย่อยๆ ไว้ใช้เป็นมื้อๆ ไป

วันนี้ได้ tights (เราชอบส่วนนี้มากสุด), beef จะเอามาทำ stew, แล้วก็ได้ sirloin ... หมูส่วนมากที่เราซื้อจะเป็น loin (สันนอก), sirloin (รึว่านี่สันนอก?), หรือไม่ก็ tenderloin (สันใน) ... เราไม่รู้เหมือนกันว่า sirloin มันคืออะไรแน่ ... แต่ทีชอบเพราะว่ามัน lean มาก แล้วก็นุ่มใกล้เคียงกับ tenderloin แต่ว่า ราคาแค่ครึ่งนึงเอง ... ส่วน loin มัน lean ก็จริง แต่มัน dry ไปหน่อย ... แม้บ้านเต็มตัวเลยวะเราเนี่ย

ผ่าน Winners ... เลยได้เสียเงินกับอะไรที่ไม่ได้ตั้งใจอีก ... แล้วก็แวะไป Londondrugs ก่อนซื้อกับข้าวด้วย ... นอกจากกับข้าวแล้ว ... อะไรๆ มันงอกออกมาเต็มเลย



อันนี้เป็นครีมนวดผม ... ซ้ายสุดคือ Joico (เป็นของ Shiseido) ปกติมันมีแต่ขวดเล็กขาย 250ml ราคาแพงใช่เล่นเลย ... แต่วันนี้ไปเจอ salon size (1 litre) ในราคาที่แพงกว่าตัว 250ml นิดเดียว ... ก็เลยซื้อมาซะเลย

ส่วนผสมของครีมนวดตัวนี้ก็มีพวก silicones, fats, jojoba oil, thickener, fragrances ... เนื้อครีมค่อนข้างข้น สีออกฟ้าๆ เทาๆ กลิ่นหอม นวดผมแล้วผมลื่น นิ่มมากเลย (วันนี้นั่งจับผมทั้งวัน ... เหอะๆๆ) ... นิ่ม ลื่น แต่ไม่ลีบติดหัว แล้วก็ไม่ฟู ... ชอบอ่ะ

ใครไม่เคยลอง ครีมนวดตัวนี้น่าลองมากทีเดียวแหล่ะ ลองหา salon size ดู ประหยัดกว่าแบบขนาดปกติเยอะเลย (ราคาจะประมาณแพนทีน ถ้าซื้อขวดใหญ่)

แล้วก็ตามด้วยของตาย neutrogena ... ตัวนี้เป็นครีมนวดของตาย ... ราคาแพงอยู่ แต่ก็ไม่แพงมาก ... เราเอาไว้ใช้สลับกับครีมนวดที่ราคาถูกกว่า ... อันนี้หอม ลื่น ผมนิ่มมาก

อีกสองอันทางด้านขวาก็คือ suave ไม่รู้ใครเคยใช้มั่ง ... เป็นครีมนวดที่เรียกได้ว่าราคาถูกที่สุดใน supermarket แล้วมั๊ง ... อันนี้ราคา $1.7 รึไงนี่แหล่ะ จำไม่ได้แล้ว ... กลิ่นมันหอมมากกกกกเลย ... โดยเฉพาะกลิ่นสตอเบอรี่เนี่ย หอมมาก ... กลิ่นแอบเปิ้ลก็หอมสดชื่นดีเลย ... ใช้แล้วผมก็โอเคนะ ลื่นพอประมาณ ผมนุ่มใช้ได้ ราคามิตรภาพมาก ... เราว่ามันดีกว่าพวกแพนทีน หรือพวก got2b อีกอ่ะ

ปกติเราจะเปิดครีมนวดใช้พร้อมๆ กันทีละ 2-3 ยี่ห้อตลอด ... ชอบใช้สลับกันไปมา ... ดีกับผม แล้วก็ไม่เบื่อดีด้วย ... ส่วนแชมพูเนี่ย ... ไม่ค่อยเปลี่ยน Johnson สีเหลือง แบบ original ตลอดกลาล

ต่อมาก็เป็นโลชั่นทาตัว ... เป็นอะไรที่เราขาดไม่ได้ ... ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ... ไม่เคย ไม่ทา body lotion แม้แต่วันเดียวก็ไม่เคย ... เจ้า luberderm สีเหลืองนี้ ใช้ได้นะ ... ไม่ข้นเกินไป ... ซึมเร็วไม่เหนอะดี

อีกอันก็เจ้า carbtree อันนี้เป็น goatmilk ซื้อเพราะมันกลิ่นหอมดี ... ทาแล้วไม่ค่อยให้ความชุ่มชื้นผิวเท่าไหร่ ... ทาแล้วเหมือนไม่ทา ... ทาแล้วซึมหาย หายไปเลย ไม่หลงเหลือความชุ่มชื้น แต่ก็ยังทาอยู่ เพราะมันหอมดี ^^ หอมสดชื่นเย็นๆ บอกไม่ถูก

อีกอัน ก็ shea butter อันนี้ของตาย ... ใช้ได้ head to toe ... ครีมสามัญประจำบ้าน

อีกอันก็เป็นตะไบ ... $0.99 ... เอามาตะไบเล็บ ... สีชมพูแบบหยาบ สีขาวหยาบน้อย ... ส่วนอีกด้านนึงละเอียด เอาไว้ตะใบหน้าเล็บให้เงาๆ เหมือนทาเล็บ

จากนั้นก็ยังไปสอยพวกครีมบ้าพวกนี้มาอีก ... ไรไม่รู้ ไร้สาระมากเลย

AminoGenesis ยี่ห้อนี้ ตัวนี้ก็ได้ยินคนเค้าพูดถึงเหมือนกัน ... มีพวก amino acids ผสมอยุ่หลายตัวเลย ... แล้วยังพวก coq10 ในปริมาณสูง และก็พวก vitamin a,c,e อีกด้วย มันก็น่าลองดีอ่ะ ... ก็เลยสอยมาซะ T_T ... แต่ว่ามันแพงใช้ได้เลยตัวนี้

เดินวนไปวนมา ... ก็ดันไปหยิบไอ้ HA serum กะ eye cream สองตัวนี้มาอีก ... ดูส่วนผสมก็โอเคดีอ่ะ ตอนก่อนจะซื้อก็งี้แหล่ะ ... ยี่ห้อบ้าไรก็ไม่รู้ไม่เคยได้ยินชื่อเลย ... พอซื้อกลับมา ... เปิดออกมา ... กลิ่นมันช่างรุนแรงและปวดหัวมาก เซ็งเลย ... อย่างที่คนโบราณว่า

ตอนไปเหมือนไก่จะบิน
ตอนมาเหมือนห่าลงกิน

ไม่รู้ตรงเปล่า ... แต่ประมาณตอนก่อนจะซื้อ มันช่างดูสวยงามน่าใช้ไปซะหมด ... แต่พอซื้อมาแล้วไหงมันมีข้อเสียเยอะแยะเลยวะ



พรุ่งนี้จะเอาไปคืน ... ซื้อเพราะอารมณ์ชั่ววูบจริงๆ ... เฮ้อ

นี่กำลังคิดๆ อยู่ ... เวลาเอาไปคืน ... มันก็ให้คืนอยู่แล้ว เป็นเรื่องปกติ ... แต่มันจะถามสั้นๆ ว่า "ทำไมถึงเอามาคืน" ... คืนชิ้นเดียวมันก็โอเคอยู่ ... แค่คืนที 3 ชิ้น ... ไม่รู้จะตอบไรดี ... ตอบว่ามันเหม็นดีมั๊ย ... รึว่า จะซื้อเป็นของขวัญ แต่เปลี่ยนใจ ดีป่าว ... จริงๆ เค้าไม่ซักหรอก ... แต่ตอบว่า I don't like them แค่นี้ก็ได้เนอะ ... ไม่เห็นต้องยกแม่น้ำทั้ง 5 เลยเนอะ

ท่องเอาไว้ ... ด้านได้ อายอด

ทั้งหมดก็มีอยู่เท่านี้

สอย french rabbit มากอีกสองกล่อง ... คราวนี้เอา merlot 2006 แล้วก็ sauvignon 2005 มาอีกหนึ่ง

ขากลับ ... เห็นคนแห่เติมน้ำมันกันคิวยาวเลย ... ก็เลยเอามั่ง ... ท่าทางน้ำมันจะขึ้นอีก ... เห้อ ... ไม่รู้จะขึ้นไปถึงไหนนะเนี่ย

บ่นอะไรก็ไม่รู้เรา