Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
5 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 

Canadian Health Care

• Canadian Health Care •


ช่วงนี้ยุ่งมากๆ ... กะว่าจะเขียนเล่าเรื่องสวัสดี Thailand ต่อ แต่ว่าก็ยังไม่มีอารมณ์เขียน ... ก็เอาเรื่องวุ่นๆ ของสัปดาห์ที่ผ่านมามาเล่าให้ฟังดีกว่า ... เรื่องอะไรเหรอ ..ก็เรื่อง Canadian health care นี่แหล่ะ

หลายๆ คน คงคิดว่า ... ประเทศแคนาดา ... ประเทศที่เจริญแล้ว ... เรื่อง health care เนี่ย คงไม่ต้องพูดถึง ... ฝรั่งสุขภาพดี ยืนยาว ไม่เหมือนเมืองไทย ... ทั้ง โรงพยาบาล หมอ พยาบาล ผู้เชี่ยวชาญ คงจะเก่ง และมีเยอะแยะไปหมด ... ก็ประเทศพัฒนาแล้วนิ





• Canadian Health Care •


... เรื่องมีอยู่ว่าที่นี่เค้ามีจัดงานกันนิดหน่อยในมหาลัย เราก็ได้ไปมีส่วนร่วมช่วยกับเค้าด้วย (งานตัวเองก็ยุ่งจะแย่ แต่ก็ต้องไปทำงานอาสาสมัครอีก) ... เอาเป็นว่า ระหว่างทำงานในบ่ายวันจันทร์ ... ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ... แต่เป็นกับน้องคนนึง ... เราก็พาน้องเค้าไปหาหมอ



• Canadian Health Care •




ก่อนจะบ่น ก็เล่าเรื่องคร่าวๆ เกี่ยวกับระบบ health care ในแคนาดาซักหน่อย ... ความจริงเราก็ต้องออกตัวก่อนว่า เราอยู่ใน SK เท่านั้น ไม่รู้ว่าที่อื่นๆ ในแคนาดาจะเป็นแบบนี้รึเปล่า ... แต่เท่าที่ดูข่าว ก็ไม่แพ้กันเลย

คร่าวๆ ก็คือว่า ... ที่ SK ทุกคนมีสวัสดิการรัษาพยาบาลฟรีหมด ไม่ต้องไปซื้อประกันสุขภาพ (เฉพาะที่ SK นะที่ฟรี ที่ province อื่นๆ เราไม่รู้ ... บาง province ก็ต้องมีประกันสุขภาพด้วย) ... หาหมอฟรีหมด แต่ค่ายาที่ซื้อไปกินเองที่บ้าน จะต้องซื้อเอง คือหมอจะออกใบสั่งยามาให้ แล้วเราก็ไปหาซื้อเอาตาม drugstores ทั่วๆ ไป

ที่นี้พอคนป่วย ก็จะไปหาหมอ ตามคลีนิค หรือพวก healt care centre อะไรพวกนี้ ... พวกนี้เป็นของรัฐหมด (ไม่ต้องจ่ายเงิน) ... ใครมี family doctor หรือหมอประจำ ก็ต้องนัด แล้วก็ไปตามนัด ... คือ ง่ายๆ ว่าต้องรู้ล่วงหน้าว่าจะป่วย (ซักอาทิตย์นึงกำลังดี) ... แต่ก็จะมีบางแห่งก็ welcome พวก walk-ins ด้วยเช่นกัน ... ประเภทนี้ ไม่ต้องนัด แต่คนจะเยอะมาก ... แล้วคุณภาพ ไม่อยากจะพูดถึง

ส่วนถ้าใครเจ็บป่วยฉุกเฉิน ประมาณว่าตามคลีนิค อาจจะมีอุปกรณ์ไม่ครบ ก็อาจจะไปที่ emergency service ก็ได้ ... ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของโรงพยาบาล ... ส่วนโรงพยาบาล ก็จะต้องมีนัดก่อน แล้วถึงจะไปได้ ... ส่วนมากก็ประมาณว่า ไปหมอที่คลีนิคแล้วหมอจะส่งต่อมาที่โรงพยาบาล ... ซึ่งก็ต้องนัดก่อน ... ระยะเวลาการนัดเพื่อที่จะเข้าโรงพยาบาลก็ .... โชคดีกว่าเดือนครึ่ง ... บางคนต้องรอถึง 3 เดือน หรือนานกว่านั้น ... คือประมาณว่า ถ้าเป็นมะเร็งขึ้นแรก ... กว่าจะได้เจอหมอ ก็เป็นขั้นสุดท้ายพอดี ... นี่ไม่ได้เว่อร์นะ



• Canadian Health Care •


ประสบการณ์ครั้งแรกที่เราไปหาหมอ ... คือ เราปวดหลังมากๆ (ช่วงเรียน) เพราะเรานั่งทำงานหนักติดต่อกันเป็นเดือน ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง เที่ยงคืน (มีอาจารย์คอยคุมแจ) ... ทำให้ปวดหลังมากๆ ... เลยแวะไปหาหมอ ตอนแรกเราไม่ค่อยรู้ระบบ ... เลยไปที่ emergency service หุๆๆ ... เราไปถึงโน่น เราวๆ 10 โมงเช้า ... มีคนไข้นั่งรอประมาณ 4 คน ... เรานั่งรอหมอจนถึง .... 4 โมงครึ่ง (ตอนเย็น) ... ในที่สุดก็ถูกเรียกตัว เข้าไปนั่งรอในห้องข้างใน ... อีกประมาณ 1 ชม หมอ ถึงเข้ามาพูดคุยด้วย ... อึม

ที่ emergency service เนี่ย ไปทีไร มีหมอคนเดียวทุกที ... อ้อ ทั้งเมืองมี emergency service แค่ 2 แห่ง (เมืองหลวงนะเนี่ย)



• Canadian Health Care •


อีกครั้ง ป่วย เป็นไข้หวัดใหญ่ ไม่นานนี่เอง ... ไข้ขึ้นสูงมากๆ ... เป็นไข้หวัดไหญ่ แล้วก็คออักเสบมาก ... ไปหาหมอที่คลีนิค ... รอหมอ 2 ชม ... เจอหมอ 2 วิ เขียนใบสั่งยาแก้อักเสบให้เลย ... 2 วิจริงๆ ไม่เว่อร์ ... คือ ให้เราอ้าปาก แล้วก็ลุกไปเขียนใบสั่งเลย ... ไม่ถามไม่ไถ่ ไม่พูดไม่จา ... ได้ยามา กินไปวันนึงแล้วยามันไม่ได้ช่วยอะไร แถมเราแพ้ยาด้วย ... อาการอักเสบก็ยิ่งรุกลาม (สะกดไงเนี่ย) ... แพ้ยาอย่างหนัก ... เลยต้องซมซานไปหมอหมอที่โรงพยาบาล

แพ้ยา ... ปากและคออักเสบ กินอะไรไม่ได้เลย (น้ำยังดื่มไม่ได้เลย) เคี้ยวก็ไม่ต้องพูดถึง ... ไข้ขึ้นสูงมากๆ ทุรนทุรายเหมือนหัวจะระเบิด ตาแดงก่ำสองข้าง ... ไปถึงโรงพยาบาล ... มีคนไข้นั่งรออยู่ก่อนหน้า 3 คน ... เรานั่งรอ 3 ชม แล้วก็ได้เข้าพบหมอ ... นี่เราได้ลัดคิวนะ .. คือ เค้าใช้ระบบ ใครป่วยมากกว่า ให้เข้าพบก่อน ... แต่พอได้พบหมอแล้วเค้าก็ดูแลดี คือ เช็คหมดทุกอย่างละเอียดมาก ... กว่าจะหายเริ่มลุกจากเตียงได้ กินอะไรได้ ... ใช้เวลา 6 อาทิตย์

อีกครั้ง ... มีคนปวดใส้ติ่ง ... ตอนเช้า ... ไปนั่งรอจนใส้ติ่งแตก ... แล้วก็ยังไม่ได้เข้าพบ ... พอได้พบ ... ฉีดยาฆ่าเชื้อเข้าช่องท้องแล้วไล่คนป่วยกลับบ้าน

เพื่อนอีกคน ... หอบ ... พาไป emergency service ... ไปถึงต้องนั่งรอในรถเข็ญ (หมดสติ) หมอก็ให้รอ ... คนป่วย หมดสติ แล้วก็ได้สติกลับมา ... ก็ยังต้องนั่งรอต่อไป

อีกอัน ... เพื่อนของเพื่อนเรา ... ประสบอุบัติเหตุ ที่มือ ... นิ้วขยับไม่ได้เลย 1 หรือ 2 นิ้ว จำไม่ได้ ... ปวดมากๆ ... แบบว่าอาการหนักมาก ... ไปหาหมอ ... หมอทำไงรู้มั๊ย ... เขียนใบสั่ง advil ให้ ... ไอ้นิ้วที่ขยับไม่ได้เนี่ย ... ชั่งมันรึไง ... คือประมาณว่า ถ้าจะรักษาต้องบินไปเมืองนอก ไปรักษา เพราะถ้าไม่รักษา ต้องเป็นคนพิการแน่



• Canadian Health Care •


วันนี้ก็เป็นอีกวัน ... ที่น้องคนนี้เค้าได้รับบาดเจ็บที่มือ (สงสัยว่ากระดูกจะหัก) ... วิ่งไปที่คลีนิค แล้วมีคนเยอะมากๆ 30 คนเห็นจะได้... น้องเค้าก็ร้องไห้ ... เราก็เลยวิ่งไป emergency service คิดว่าคงจะได้ลัดคิว ... ไปไปถึง ... ลงทะเบียนเสร็จ เค้าบอกว่า คงได้เจอหมอค่อนข้างเร็ว ... เค้าใช้คำว่า "pretty soon" ... เราก็นั่งรอ รอแล้วรออีก ... รู้สึกว่าจะราวๆ 3 ชม ... ในที่สุดก็ได้พบ ... ในวันนั้น มีคนนั่งรออยู่ราวๆ 15 คน ... ก่อนหน้านั้นรู้สึกว่ามีคนได้พบหมอ 2-3 คนเท่านั้น



• Canadian Health Care •


พอน้องคนนั้นเค้าเข้าไป ... เราก็นั่งรอข้างนอก ... เราก็รู้ว่าต้องไปนั่งรอหมอข้างในอีกพักใหญ่ ... ระหว่างที่นั่งรอ ... ก็มีชายคนนึงเดินเข้ามากับแฟนหญิงของเค้า ... รู้สึกว่า จะเกิดอะไรกับตาเค้าทั้งสองข้าง ... ประมาณ 30 นาที หมอก็เรียกเค้าก็ไปพบ ... ทันใดนั้นเอง ... มีชายอ้วนคนนึงพูดดังๆ ออกมาว่า fuck you! แล้วก็บ่นพรึมพรำ ... ประมาณว่า เค้ามาตั้งนานยังไม่ได้เจอหมอ แล้วไอ้นี่มาถึงปุ๊ปก็ได้เจอหมอปั๊บ

ทันทีเลย คนที่นั่งๆ รอ อยู่ก็เสริมกันทันที ... ชายแก่คนนึง พูดขึ้น ชี้ไปที่หญิงชราคนนึง ที่นั่งกินอาหารเย็น (coffee and muffin) ... บอกว่า she มาถึงตั้งแต่ 8:30AM!!! ฟังไม่ผิดหรอก ... ตอนนี้กี่โมงเหรอ ... ประมาณทุ่มนึง หรือ 7PM เห็นจะได้ ... กี่ชั่วโมงเหรอ ... นับเอาเอง ... คือ กินอาหารเช้าแล้วมา ... กินอาหารเที่ยง และอาหารเย็นที่โรงพยาบาลแล้วก็ยังไม่ได้เจอหมอ ... อีตาคนที่พูดว่า fuck you ก็บอกว่า มาตั้งแต่ 10:30 AM ... คนแก่อีกคน มากับถัง oxygen ก็มาตั้งแต่บ่ายโมงกว่าๆ ... แล้วเค้าก็บอกว่า สงสัยพวกเราจะมาช้าเกินไป ... คงจะตัองมาตั้งแต่ ตี 5 ... แล้วก็หัวเราะกับแบบเซ็งๆ ... จนในที่สุด ... คุณย่าคนแก่ๆ ก็บอกว่า ... I'm going home ด้วยสีหน้าที่หงุดหงิดมาก ... แล้วก็เดินออกไป ... ซักพัก ... คุณตาที่มากับถัง oxygen ก็ได้เข้าพบหมอ



• Canadian Health Care •


หลายๆ คนฟังดูแล้ว อาจจะไม่เชื่อ ... แต่ขอบอกว่านี้คือเรื่องจริง ... ระบบ health care เราอยากจะบอกว่า เค้าไม่ได้เรื่องเลย ... แย่มากๆ ... ควรจะต้องจัดระบบกันใหม่หมด ... เราก็ไม่รู้ว่าคนพวกนี้เค้าทนกันได้ยังไง ... ได้แต่บ่นกัน

ใครเรียนหมอ หรือเป็นหมออยู่แล้ว สนใจจะมาทำงานที่นี่นะ ... เราว่า เป็นอะไรที่น่าสนใจดีนะ

บ่นพอแล้วหล่ะ ... ใครจะเจ็บ จะป่วยอะไร ... ก็รีบๆ ป่วย ก่อนมาเที่ยว หรือมาเรียน หรือมาอยู่ที่แคนาดานะ




 

Create Date : 05 พฤษภาคม 2550
6 comments
Last Update : 8 พฤษภาคม 2550 7:45:57 น.
Counter : 968 Pageviews.

 

โอ...ตอนแรกสนใจจะไปเรียนต่อที่แคนาดานะคะ แต่อ่านมาถึงตอนนี้....เอ่อ...

 

โดย: behappier IP: 58.8.9.190 5 พฤษภาคม 2550 20:56:59 น.  

 

yeah..i think about to study derm there too.but just can't believe the things i just read..

 

โดย: Angellique IP: 58.8.52.34 5 พฤษภาคม 2550 23:46:49 น.  

 

โอ้โห มิน่า อาจารย์เราเป็นคนแคนาดาถึงไม่ยอมกลับบ้าน
ทำให้การรอหมอที่ศิริราชนี่ ดูดีขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน

 

โดย: DKW IP: 58.136.69.15 6 พฤษภาคม 2550 3:36:05 น.  

 

มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอคะ
นึกว่ามีแค่เมืองไทย
มันแย่ขนาดนี้ยอมเสียตังค์ดีกว่าเนอะ

 

โดย: rocky oreo 8 พฤษภาคม 2550 17:18:36 น.  

 

ที่เมกาก็แย่นะ จนกว่าจะมีประกันดี ๆ มี primary doctor ดี ๆ
แต่พอมี primary doctor ดี ๆ คราวนี้เค้าจัดการให้ทุกอย่าง จะหาหมอเฉพาะด้าน ต้องทำ MRI ทำอะไร test อะไรเค้าติดต่อให้หมด นัดจอง ประสานงานให้หมดเลย ได้เร็ว ได้ดีด้วย เป็นโชคดีไป

แต่ตอนไม่มีประกันนี่แย่มาก เคยหกล้มปากแตก เข่ากับข้อมือเลือดไหล ไปล้างแผล นั่งรออยู่ 2 ชม. คิดในใจว่า ถ้าเป็นหนักนี่เลือดออกหมดตัวตายไปแล้วล่ะ เพราะนางพยาบาลไรไม่มีมาห้ามเลือด ไม่มีปฐมพยาบาล

มาถึงล้างแผลให้ ยาบาดทะยักก็ไม่ได้ฉีด ทั้ง ๆ ที่บอกไปแล้วว่าฉีดครั้งสุดท้ายนานมากแล้ว

แถมค่าใช้จ่าย $200 บ้าป่าวฟระ แค่ล้างแผล ยาที่ต้องใช้ต่อจากนั้นก็ต้องไปหาซื้อเองด้วย โชคดีมีประกัน co-pay ไม่งั้นเสร็จ

 

โดย: vamos_ferrero 11 พฤษภาคม 2550 4:09:44 น.  

 

โห...............อ่านแล้วรักเมืองไทยในเรื่องการแพทย์เยอะเลย

 

โดย: skyrocket IP: 58.9.188.10 11 พฤษภาคม 2550 23:54:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Phoebe Buffay
Location :
ทุ่งหญ้า Canada

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 173 คน [?]




"It's Phoebe! That's, P as in Phoebe; H as in hoebe, O as in oebe; E as in ebe; B as in bebe; and E as in ... Ello there mate." Friends

There is no copyright here, unless otherwise specifically mentioned. If you find it useful, just take it. Thanks!

CHAT BOX



LAST UPDATES
LOSEING WEIGHT (BBC)
SKINCARE MINI SERIES
FAVORITES

Friends' blogs
[Add Phoebe Buffay's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.