ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด
<<
กรกฏาคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
6 กรกฏาคม 2555

ปฏิบัติธรรมภาวนา ณ วัดป่าห้วยส้มสุก จ.เชียงใหม่

ปฏิบัติธรรมภาวนา ณ วัดป่าห้วยส้มสุก จ.เชียงใหม่

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก watpahuaisomsuk.com

หลังจาก พระเจสัน ปิยาจาโร (ยัง) ซึ่งอุปสมบทไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน ได้ฝึกปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดที่วัดป่าห้วยส้มสุก และได้เปรยว่าวัดแห่งนี้มีความสงบเงียบเป็นธรรมชาติที่สุด กระทั่งในเวลาต่อมา พระเจสัน ปิยาจาโร (ยัง) มีความประสงค์ที่จะอยู่ในสมณเพศต่อไปอย่างไม่มีกำหนดเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ทำให้ วัดป่าห้วยส้มสุก กลายเป็นที่สนใจของผู้ที่กำลังใฝ่หาสถานที่ปฏิบัติธรรมท่ามกลางธรรมชาติขึ้นมาทันที

โดย วัดป่าห้วยส้มสุก ซึ่งเป็นวัดที่พระเจสัน ปิยาจาโร (ยัง) ใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมหลังอุปสมบทในช่วงที่ผ่านมานั้น ตั้งอยู่ที่ ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ โดยอยู่ห่างจากตัว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ กว่า 10 กิโลเมตร โดยวัดดังกล่าว มีพระอาจารย์ยุทธนา ธีรธัมโม เป็นเจ้าอาวาส และมีพระสงฆ์จำพรรษาที่วัดอีก ประมาณ 3 รูป 

          วัดป่าห้วยส้มสุก เป็นวัดที่เคร่งครัดในหลักปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง บรรยากาศภายในวัด เหมาะแก่การนั่งสมาธิ เจริญภาวนา และปฎิบัติธรรม ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 45 นาที หากต้องการเดินทางไปยังวัดป่าห้วยส้มสุก สามารถใช้ถนนสายแม่ริม-แม่แตง เส้นทางเดียวกับทางที่จะไปวัดพระพุทธบาทสี่รอย อ.แม่แตง ได้

          ส่วนความเป็นมาของวัดป่าห้วยส้มสุกนั้น เดิมทีวัดป่าห้วยส้มสุก เป็นวัดร้าง ซึ่งมีเรื่องเล่าว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์พร้อมสาวกประมาณ 500 กว่ารูปได้เสด็จมาถึงบริเวณพื้นที่ที่มีคนยาง คนม้ง คนแคระ ตั้งถิ่นฐานอาศัยอยู่ ปรากฏว่าขณะนั้นส้ม และผลไม้ตามป่าสุกพอดี ชาวบ้านในบริเวณนั้นจึงได้นำมาถวายพระพุทธเจ้า และพระสงฆ์สาวกทั้งหมด 

          ต่อมา หลวงปู่มั่น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ พระกัมมัฏฐาน และพระธุดงค์ที่จะขึ้นไปนมัสการพระพุทธบาทสี่รอยได้แวะมาปักกลดภาวนาบริเวณนี้เป็น ประจำ จนกระทั่งพระยุทธนา ธีรธัมโม ที่ธุดงค์มาจากภาคใต้ และคณะศิษยานุศิษย์หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร เห็นว่าสถานที่แห่งนี้มีความสงบวิเวก เหมาะแก่การปฏิบัติภาวนาเป็นอย่างยิ่ง จึงได้มีการช่วยกันบูรณะให้เป็นวัดป่าเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา

กระทั่ง คณะศรัทธาเห็นว่า ควรจะสร้างศาลาปฏิบัติธรรม ที่พักญาติโยม และเสนาสนะ (เรือนรับรองสงฆ์) ในบริเวณเชิงเขา ณ วัดป่าห้วยส้มสุก โดยลักษณะการก่อสร้างของวัดป่าส้มสุกจะเป็นแบบเรียบง่ายตามหลักวัดป่าสายกรรมฐาน พร้อมมีห้องน้ำ และทางเดินจงกรมที่เป็นสัดส่วน เพื่อให้ครูบาอาจารย์ และผู้มาปฏิบัติได้รับความสะดวกในการพัก และภาวนาอย่างสงบ ซึ่งการจัดสร้างศาลา และเสนาสนะแห่งนี้ เป็นมหาทาน ด้วยลักษณะ 2 ประการ ดังที่กล่าวไว้ในพระไตรปิฎก คือ

          1) เป็นสังฆทานบริสุทธิ์ เนื่องจากเป็นการสร้างเสนาสนะถวายแด่หมู่สงฆ์ที่มาจากทั้ง 4 ทิศ มิได้เจาะจงถวายแด่พระสงฆ์องค์ใดองค์หนึ่ง

          2) เป็นทานที่ถวายแด่พระพุทธเจ้าและพระอริยเจ้า เนื่องจากการก่อสร้างดังกล่าวเป็นการพัฒนาวัดร้างที่พระพุทธองค์และพระสาวก เคยเสด็จมาประทับจำวัดก่อนขึ้นพระพุทธบาทสี่รอย ให้มีความสมบูรณ์เพียงพอต่อการใช้เป็นที่ปฏิบัติภาวนาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา อีกทั้งมีโอกาสรับรองครูบาอาจารย์สายปฏิบัติที่บรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคล ขั้นใดขั้นหนึ่ง ซึ่งมีเมตตามาอบรมธรรมและนำภาวนา

          นอกจากนี้ บริเวณโดยรอบวัดป่าห้วยส้มสุกยังมีความเป็นสวนป่าธรรมชาติในลักษณะใกล้เคียงกับสมัยพุทธกาล พร้อมประดิษฐานพระพุทธมหามงคลเพื่อปฏิบัติบูชาอีกด้วย ดังนั้นหากใครที่ต้องการหาสถานที่เงียบสงบ เพื่อการปฏิบัติธรรม หรือต้องการไปนมัสการพระพุทธบาทสี่รอย ก็สามารถแวะเวียนไปหาความสงบร่มเย็นทางจิตใจได้ที่นี่เช่นกัน


ขอขอบคุณข้อมูลจาก 



Create Date : 06 กรกฎาคม 2555
Last Update : 6 กรกฎาคม 2555 23:00:40 น. 1 comments
Counter : 3854 Pageviews.  

 


โดย: Kavanich96 วันที่: 7 กรกฎาคม 2555 เวลา:7:53:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ข่าวดี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]