ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
12 มิถุนายน 2555

ย้อนรอย ยูโร : ได้เวลาอัศวินสีส้ม 1988 ดัตช์ถึงคราแชมป์

เยอรมันที่ผิดหวังกับผลงานในยูโร 1984 หลังต้องตกรอบไปอย่างเจ็บปวดเมื่อ 4 ปีก่อนที่ฝรั่งเศส กลับมาหมายมั่นปั้นมืออีกครั้งใน ยูโร 1988 ที่จัดขึ้นในบ้านเกิดของตัวเอง และเป็นฟร้านซ์ เบคเค่นบาวเออร์ อดีตตำนานผู้เคยพาทีมคว้าแชมป์รายการนี้เมื่อปี 1972 รับหน้าที่เป็นผู้จัดการทีมชาติเยอรมัน ได้ถ่ายเลือดนักเตะใหม่ที่ประกอบไปด้วยโลธ่าร์ มัทเธอุส, เจอร์เก้น คลิ้นส์มันน์, รูดี้ โฟลเลอร์, อันเดรียส เบรห์เม่, โอลาฟ โธน, กีโด้ บุควัลด์ และปิแอร์ ลิทบาร์สกี้

โดยการแข่งขันครั้งนี้ยังคงแบ่งเป็น 8 ทีมในรอบสุดท้ายเหมือนครั้งก่อน โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มเพื่อหาทีมที่ดีที่สุดในสายไปเล่นรอบรองชนะเลิศ ซึ่งกลุ่ม A ประกอบด้วย เยอรมัน, อิตาลี, สเปน และเดนมาร์ก ส่วนกลุ่ม B มีทีมอย่าง เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ, สาธารณรัฐไอร์แลนด์ และสหภาพโซเวียต

การแข่งขันในกลุ่ม A เยอรมันและอิตาลี ต้องมาพบกันในนัดประเดิมสนาม ก่อนจะเสมอ 1-1 แบ่งแต้มกันไป ก่อนที่ทั้งสองทีมจะสามารถเก็บชัยชนะเหนือสเปน และเดนมาร์กได้ แต่เป็น “อินทรีเหล็ก” ที่เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มด้วยจำนวนประตูได้-เสียที่ดีกว่า 1 ลูก

ส่วนกลุ่ม B ฮอลแลนด์ ประเดิมแพ้ให้กับสหภาพโซเวียต 0-1 ก่อนจะเอาชนะ อังกฤษ ได้ 3-1 ส่งทีม “สิงโตคำราม” กลับบ้านเป็นทีมแรก ก่อนจะต้องไปชี้ชะตากับ ไอร์แลนด์ และเป็น “อัศวินสีส้ม” มาทำประตูชัยได้ในช่วง 8 นาทีสุดท้าย แต่ก็เป็นเพียงรองแชมป์กลุ่ม เนื่องจากสหภาพโซเวียตสามารถเก็บชัยได้ในนัดสุดท้ายทำให้มีสถิติชนะ 2 เสมอ 1 ผ่านเข้ามาเป็นแชมป์กลุ่ม

รอบรองชนะเลิศ เนเธอร์แลนด์ ที่มีสามทหารเสืออย่างมาร์โก แวน บาสเท่น, รุด กุลลิท และ แฟรงค์ ไรจ์การ์ด และพี่น้อง เออร์วิน-โรนัลด์ คูมัน ภายใต้การคุมทีมของนายพล ไรนุส มิเชลส์ กลายเป็นทีมที่ยิ่งเล่นยิ่งดี และก็สามารถดับฝันของเจ้าภาพที่แข็งแกร่งอย่าง เยอรมัน ลงได้ แม้โลธ่าร์ มัทเธอุส จะยิงจุดโทษนำไปก่อน แต่โรนัลด์ คูมัน ก็กดจุดโทษตีเสมอ และเป็น “เพชฌฆาตพรายกระซิบ” ฟาน บาสเท่น เป็นฮีโร่ในช่วง 2 นาทีสุดท้ายให้ “อัศวินสีส้ม” เข้าชิงชนะเลิศไปพบกับ สหภาพโซเวียต ที่เอาชนะอิตาลี ด้วยสกอร์ 2-0 ทำให้รอบชิงแชมป์หนนี้เป็นการรีแมตช์รอบแบ่งกลุ่มนัดแรกที่ ฮอลแลนด์ มีโอกาสแก้ตัวกับ “หมีขาว”

นัดชิงชนะเลิศ “อัศวินสีส้ม” ยังคงรักษาฟอร์มร้อนแรงไว้ได้ และเป็นรุด กุลลิท ลอยตัวโขกเต็มหัวอย่างสะใจตั้งแต่ช่วงครึ่งชั่วโมงแรกของเกม ก่อนจะเป็นมาร์โก แวน บาสเท่น จะปิดท้ายทัวร์นาเมนท์นี้ด้วยลูกยิงใบไม้ร่วงในนาทีที่ 54 ไปแบบสุดงาม พร้อมกับเป็นประตูที่ 5 ให้ดาวยิงรายนี้คว้ารางวัลดาวซัลโวไปครอง พร้อมกับการเถลิงบัลลังก์แชมป์ ยูโร เป็นครั้งแรก




//sport.mthai.com/euro2012/clip/5337.html


Create Date : 12 มิถุนายน 2555
Last Update : 12 มิถุนายน 2555 23:14:09 น. 0 comments
Counter : 1936 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ข่าวดี
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 55 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add ข่าวดี's blog to your web]