อยากเป็นสาว “ขาสวย – เรียวยาว” เทคนิคดีๆนี้ช่วยคุณได้ เห็นนางแบบใน magazine , นางเอกหนัง , ดารา , ฝรั่ง เยอะแยะสารพัด สาวๆก็อยากจะสวยเหมือนไอดอลที่ตัวเองชื่นชม ไม่ว่าจะผิวพรรณ รูปร่าง แต่!พอกลับมามองตัวเรา ทั้งขาสั้น ขาตัน สารพัด ..แต่สาวๆก็อย่าเพิ่งท้อถอยนะจ๊ะ เรามีเทคนิคดีๆที่จะแปลงร่างสาวตัวเดี้ย ขาสั้นให้กลายเป็นสาวสูงยาว ขาเรียวกัน ^^ 1. รองเท้าส้นสูงสีเนื้อ รองเท้าส้นสูงสีเนื้อจะช่วยให้ขาของคุณดูยาวขึ้น หากคุณสงสัยว่าทำไมถึงต้องเป็นสีเนื้อ นั่นก็เพราะว่า สีที่กลมกลืนไปกับผิวของคุณ จะไม่สร้างความแตกต่างให้เห็น ระหว่างความยาวของช่วงขากับความสูงของส้นรองเท้า เหมือนกับรองเท้าส้นสูงสีสด ๆ ทั้งหลายนั่นเอง 2. เพิ่มประกายวิ๊งให้ขา บรอนเซอร์ที่มีกลิตเตอร์เล็ก ๆ ระยับ ๆ นอกจากจะใช้เพิ่มประกายให้กับผิวกายได้แล้ว ยังใช้เป็นตัวช่วยพรางตาให้ขาของคุณดูเรียวขึ้นได้ด้วย โดยใช้บรอนเซอร์ทาที่บริเวณหน้าแข้ง ประกายเล็ก ๆ จะช่วยเน้นและสร้างมิติตรงส่วนที่เป็นกระดูกหน้าแข้งให้ชัดเจนขึ้น ทำให้ขาดูเรียวเล็กลงได้ หากคุณไม่มีบรอนเซอร์ก็สามารถใช้โลชั่นที่มีประกายในตัว หรือใช้สีบรอนซ์ในตลับอายแชโดว์ของคุณก็ได้เช่นกัน 3. กระโปรงชายรุ่งริ่งหรือเล่นระดับไม่เท่ากัน หลาย ๆ คนไม่ค่อยชอบใส่กระโปรงที่มีชายรุ่งริ่ง หรือกระโปรงที่เล่นระดับชายกระโปรงสั้นยาวไม่เท่ากัน แต่ลูกเล่นที่ชายกระโปรงแบบนี้นี่เอง ที่เป็นตัวหลอกตาให้ขาคุณดูยาวขึ้นได้ โดยมันจะเล่นกับสายตาของคนมองไม่ให้รู้ว่า ช่วงขาของคุณเริ่มตรงไหนและสิ้นสุดตรงไหนนั่นเอง 4. แต่งกายในโทนเดียวกัน การแต่งกายในโทนเดียวกันเป็นการเล่นมิติกับสายตา เพราะไม่ว่าจะกวาดตาขึ้นมองช่วงบนหรือช่วงล่าง ก็เป็นสีเดียวกันหรือเป็นสีที่กลมกลืนกัน ทำให้รูปร่างคุณดูเพรียวขึ้นและช่วยหลอกตาให้ขาดูเรียวขึ้นด้วย ทั้งนี้ไม่จำเป็นว่าต้องใส่สีเดียวกันเป๊ะ ๆ ทั้งท่อนบนและล่าง คุณสามารถจับคู่โทนสีใกล้เคียงกัน อย่าง สีม่วงพลัมกับสีม่วงลาเวนเดอร์, สีแดงเลือดนกกับสีแดงอมส้มแบบดอกกุหลาบ ฯลฯ ทั้งนี้สียิ่งเข้มยิ่งช่วยพรางตาให้คุณดูผอมลงด้วยล่ะ 5. เสื้อผ้าลายยาว ลวดลายในแนวยาวให้ผลตรงข้ามกับแนวขวางที่ทำให้ดูสั้นและกว้างขึ้น เพราะฉะนั้นกระโปรงหรือกางเกงที่มีลวดลายพาดในแนวยาว หรือการเย็บโชว์ตะเข็บในแนวยาว จะช่วยให้คุณดูผอม สูง และ เพรียว กับขาที่ดูเรียวยาวขึ้นนั่นเอง 6. กางเกงและกระโปรงเอวสูง ใครที่ไม่ค่อยชอบใส่กางเกงหรือกระโปรงเอวสูง อาจจะต้องเปลี่ยนใจ เพราะกางเกงและกระโปรงเอวสูง ช่วยให้จุดเริ่มต้นของช่วงขาอยู่สูงขึ้น นั่นหมายถึงทำให้คุณดูขายาวขึ้นด้วย ส่วนระดับความยาวของชายกางเกงหรือกระโปรง หากเป็นแบบขาสั้น ก็ควรให้ชายอยู่ที่ช่วงต่ำกว่าหัวเข่าหรือเหนือเข่ากำลังดี หากเป็นแบบขายาวก็ให้ชายกางเกงตกลงคลุมข้อเท้าพอดี ลองสวมดูให้มั่นใจว่า ชายกางเกงหรือกระโปรงไม่ได้ค้างเติ่งอยู่ตรงกึ่งกลางหน้าขา ไม่ว่าจะเป็นขาท่อนบนหรือล่าง เพราะจะทำให้คุณยิ่งดูอวบและตันนั่นเอง เทคนิคง่ายๆ แค่เพื่อนแต่งตัวให้เป็น .. แค่นี้ก็เวิร์คแล้วละคะ ^^ ใคจะมาว่าเราไม่สวยไม่ได้แล้วนะ ออกจากบ้านไปไหนมาไหนทั้งทีก็ขอสวยหน่อยละกันนะ .. จำเอาวไว้นะคะสาวๆ ผู้หญิงอย่าหยุด “สวย!!!” ขอบคุณข้อมูล bbberry.net   Create Date : 29 เมษายน 2555     0 comment Last Update : 29 เมษายน 2555 20:29:47 น.     Counter : 10884 Pageviews.   Share Tweet

รวมเด็ด การ์ดแต่งงานของคนดัง รวมเด็ด การ์ดแต่งงานของคนดัง    ชีวิตคนเราหนนึงจะแต่งงานได้สักกี่ครั้งกันเชียว ยิ่งเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม การ์ดแต่งงานก็เปรียบเหมือนหน้าตาด่านแรกของเจ้าบ่าว – เจ้าสาว  ถ้าเป็นสมัยก่อนการ์ดแต่งงานก็เรียบๆ ง่ายๆ กี่งานๆ หน้าตาการ์ดก็เหมือนกันไปหมด  แต่เดี๋ยวนี้ลูกเล่นดีไซน์เยอะแยะเต็มไปหมดขึ้นอยู่กับเจ้าบ่าว – เจ้าสาวจะถูกชะตากับแบบไหนใส่รายละเอียดอะไรที่สื่อถึงคน 2 คนบ้าง  ลองมาดูการ์ดแต่งงานของเหล่าคนดังกันค่ะ ว่าสไตล์ความรักหวานๆ หรือจะสู้ รักทะเล้นของ เอ๋ พรทิพย์ กับ ป๋อ ณัฐวุฒิ  การ์ดแต่งงานของคู่นี้ทำเอาอื้ออึงกันเลยทีเดียว  น่ารักอ่ะ เรียบเรียงเนื้อหาโดย Women.MThai Team  การ์ดแต่งงาน ชาย ชาตโยดม – วิกกี้ สุนิสา การ์ดแต่งงาน ทิม พิธา กับ ต่าย ชุติมา การ์ดแต่งงาน มอส – เกม การ์ดแต่งงาน ตุ๊กตา พนิดา – บอย ตรัย ภูมิรัตน์ การ์ดแต่งงาน ป๋อ ณัฐวุฒิ – เอ๋ พรทิพย์ การ์ดแต่งงาน วุ้นเส้น – ชาคริต การ์ดแต่งงาน สงกรานต์ – แอฟ ทักษอร การ์ดแต่งงาน เอ็ดเวิร์ด – พอลล่า การ์ดแต่งงาน นิน่า – แบงค์ การ์ดแต่งงาน เอม พินทองทา – พงศ์ ณัฐพงศ์ การ์ดแต่งงาน นุ่น – ต๊อด การ์ดแต่งงาน หนิง – จิน   Create Date : 29 เมษายน 2555     0 comment Last Update : 29 เมษายน 2555 20:28:56 น.     Counter : 2633 Pageviews.   Share Tweet

ตกขาว ปัญหาที่ต้องใส่ใจ ตกขาว ปัญหาที่ต้องใส่ใจ       สรีระของผู้หญิงสลับซับซ้อนมีสิ่งที่ต้องระวังและดูแล มากมาย รวมทั้งจุดซ่อนเร้นภายในด้วยค่ะ จำเป็นต้องดูแล และรักษาความสะอาดเพื่อป้องกันเชื้อโรคและโรคต่างๆ ที่ อาจเกิดขึ้นได้มาเรียนรู้เกี่ยวกับโรคและวิธีการป้องกันกันค่ะ เพื่อสุขอนามัยที่ดี ตกขาว (leucorrhea)        นับเป็นปัญหาที่พบบ่อยในสตรี นอกจากสร้างความเหนอะหนะแล้ว ยังนำมาซึ่งอาการคันที่ช่องคลอดด้วย ตกขาวเกิดจากความผิดปกติของช่องคลอดที่มีของเหลวออกมา โดยอาจมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น คัน อักเสบระคายเคือง มีกลิ่นเหม็นร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้ ทั้งนี้แล้วแต่ต้นเหตุที่ทำให้เกิดตกขาวขึ้น ตกขาวหรือระดูขาว มีทั้งที่ปกติ และผิดปกติ ตกขาวที่ปกติจะมีลักษณะคล้ายแป้งเปียก ไม่มีกลิ่น จะมีก่อนหรือหลังประจำเดือนก็ได้ ส่วนตกขาวที่ผิดปกตินั้นจะมีลักษณะแตกต่างออกไปตามสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อ ซึ่งเชื้อที่เป็นสาเหตุก็แตกต่างกันไปตามอายุ การมีเพศสัมพันธ์ โรคประจำตัวบางอย่าง เช่น เบาหวานก็จะพบเชื้อราได้บ่อย  ตกขาวปกติ ผู้หญิงทุกคนต้องมีตกขาว ช่วงเป็นเด็กอาจมีเพียงเล็กน้อย แต่เมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งเป็นช่วงเริ่มมีประจำเดือนตกขาวจะมากขึ้น และมีปริมาณที่พอเหมาะจนถึงวัยสูงอายุ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่มีปริมาณลดลงจนแทบไม่มีอีกครั้ง ปกติช่องคลอดของผู้หญิงจะบุผิวด้วยเซลล์ชนิดเยื่อเมือกเหมือนกับเซลเยื่อเมือกที่บุในช่องปาก และจมูก ทำหน้าที่สร้างเยื่อเมือก และความชื้นให้กับช่องคลอด ตกขาวปกติสร้างมาจากต่อมที่ปากช่องคลอด และปากมดลูก รวมทั้งยังสร้างมาจากผนังช่องคลอดด้วย ลักษณะคล้ายแป้งละลายน้ำ ปกติไม่มีกลิ่น แต่อาจมีกลิ่นคาวเล็กน้อย เนื่องจากเป็นสารคัดหลั่งจากเยื่อบุช่องคลอด มูกปากมดลูก และบางส่วนจากต่อม Skene´s gland และ Bartholin´s gland ตกขาวจากแหล่งต่างๆ จะมารวมกันในช่องคลอดเพื่อทำหน้าที่หลายอย่าง เช่น หล่อลื่นช่องคลอด ช่วยขับสิ่งแปลกปลอม ฆ่าเชื้อโรคที่เข้าไปในช่องคลอด และปรับสภาพความเป็นกรดด่างในช่องคลอดให้สมดุล ในบางช่วงตกขาวที่มีอยู่ตามปกติอาจมีจำนวนมากขึ้น มักเกิดในช่วงใกล้ๆ ตกไข่ โดยมีมูกปากมดลูกเพิ่มขึ้น จึงมีตกขาวเป็นน้ำใสๆ ออกมา หรือมีออกมาในระยะใกล้ๆมีระดู ซึ่งมีเลือดมาหล่อเลี้ยงเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญตกขาวที่มีอยู่ตามปกติจะไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น แสบหรือคันช่องคลอด และจะหายไปได้เอง โดยไม่ต้องให้การรักษาใดๆ ปริมาณตกขาวมากหรือน้อยจะขึ้นกับแต่ละคน โดยทั่วไปตกขาวจะมีมากช่วงวันที่ไข่ตกซึ่งอยู่ระหว่างวันที่ 14 ของรอบเดือน นอกจากนั้นขณะตั้งครรภ์ก็จะพบว่าตกขาวมากจนบางครั้งอาจจะเหนียวหนืด การกระตุ้นทางเพศสัมพันธ์ก็จะมีการหลั่งน้ำออกมาหล่อลื่นมาก หลังจากมีกิจกรรมทางเพศก็มีตกขาวเป็นปริมาณมาก และการใช้ยาคุมกำเนิดก็ทำให้ตกขาวเพิ่มขึ้นได้ เช่นกัน ตกขาวปกติเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ถ้าเป็นในช่วงวันที่ 14 ของรอบเดือน ตกขาวจะมีลักษณะเหลวใสปริมาณมาก ถ้าเป็นในช่วงก่อนหรือหลังมีประจำเดือนตกขาวจะมีลักษณะข้น ขาวขุ่นคล้ายแป้งเปียก  ตกขาวผิดปกติ       บางครั้งผู้ป่วยมีตกขาวเพิ่มขึ้น ถือว่าไม่ใช่ตกขาวที่มีอยู่ตามปกติ ผู้ป่วยมักจะมีอาการคัน หรือปวดแสบปวดร้อน ตกขาวมีกลิ่นเหม็น ที่สำคัญอาการจะไม่หายไปเอง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการอักเสบติดเชื้อ รองลงมาได้แก่ เนื้องอก ซึ่งหากเกิดจากเนื้องอกแล้วมักจะมีเลือดปนด้วย บางรายเกิดจากสิ่งแปลกปลอม เช่น การใส่วัตถุหรือวัสดุต่างๆ เข้าไปในช่องคลอด ผ้าอนามัยชนิดสอดช่องคลอด หรือถุงยางคุมกำเนิด เป็นต้น เชื้อโรคที่ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อ เกิดจากเชื้อราเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อราชื่อ Candida albicans รองลงมาพบว่าเกิดจากพยาธิ Trichomonas vaginalis และเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ระยะหลังพบตกขาวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดที่ไม่อาศัยออกซิเจนที่มีชื่อเรียกว่า Garnerella vaginalis ดังนั้นการรักษาจึงขึ้นกับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุ แพทย์จะทำการตรวจภายในและนำตกขาวมาตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ ซึ่งจะพบลักษณะเฉพาะของการติดเชื้อแต่ละชนิดหรือย้อมสีเพิ่มเติมเพื่อตรวจหาเชื้อก่อเหตุ จากนั้นจึงพิจารณาใช้ยาฆ่าเชื้อโรคเพื่อบำบัดรักษาการอักเสบติดเชื้อ ซึ่งยาที่ใช้มีได้หลายชนิด ทั้งชนิดสอดช่องคลอด ชนิดรับประทาน หรืออาจพิจารณาให้ยาทาภายนอกร่วมด้วยตามความเหมาะสม  ตกขาวคันที่เกิดจากเชื้อรา       ลักษณะของตกขาวที่เกิดจากเชื้อราจะคล้ายนม หรือยางมะละกอ บางครั้งเป็นก้อนคล้ายเต้าหู้ มักจะมีอาการคันมาก ร่วมกับมีผื่นคันแดงที่บริเวณปากช่องคลอด สาเหตุสำคัญเกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่ง มีชื่อเรียกว่า Candida albicans เชื้อราชนิดนี้อาศัยอยู่ตามที่ต่างๆ ทั่วไป แต่ชอบสภาพสิ่งแวดล้อมที่ร้อนชื้นเป็นพิเศษ ซึ่งช่องคลอดของคนเราก็เป็นอวัยวะที่ชื้นอยู่แล้ว เชื้อราชอบสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจนถึงร้อนมาก บางคนใส่เสื้อผ้าที่อบมาก สภาพร่างกายที่อ้วนมาก บางคนแค่ยืนเฉยๆ ขาก็มาชนกันแล้วทำให้ช่องคลอดถูกอบอยู่ตลอดเวลา เหตุนี้จึงทำให้ผู้หญิงไทยมีการติดเชื้อราในช่องคลอดกันง่ายมาก บางทีอยู่เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์ ก็ยังเป็นเชื้อราในช่องคลอดได้ ผิดกับผู้หญิงในเมืองหนาวที่มีการติดเชื้อราน้อยกว่า ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดเฉพาะรายที่เป็นโรคเบาหวาน หรือเป็นโรคที่ต้องกินยากดภูมิต้านทาน ตกขาวบ่อยๆ ไม่ทำให้เป็นมะเร็ง ผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์ ไม่ทำให้ลูกพิการ ปัญหาสำคัญของตกขาวคืออาการคัน ถ้าไปเกามากๆ อาจทำให้เกิดแผลติดเชื้อตามมา อาการของโรคเชื้อราในช่องคลอด       ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่มีการติดเชื้อราโดยไม่มีอาการอะไรเลย ที่รู้ว่ามีเชื้อราก็เพราะเผอิญไปตรวจภายในด้วยเหตุอื่น เช่น ไปตรวจภายในประจำปี หรือตรวจเนื้องอกมดลูก กลุ่มนี้อาจไม่จำเป็นต้องให้การรักษาอะไรก็ได้ เพราะเชื้อราที่ไม่ก่ออาการพวกนี้ ส่วนมากก็จะถูกตกขาวขับทิ้งออกไปจากร่างกายได้เอง แต่ในรายที่การติดเชื้อลุกลาม โดยเมื่อได้รับเชื้อราเข้าไปในช่องคลอด มันจะเจริญเติบโตต่อไป ในระยะแรกจะมีรูปร่างคล้ายดอกเห็ด ซึ่งยังไม่ทำให้เกิดอาการอะไร แต่ถ้าไม่ได้รับยารักษา เชื้อราจะเจริญต่อไปกลายรูปร่างเป็นสายยาวๆ ซึ่งสามารถแทรกเข้าไปในผนังช่องคลอดได้ ถึงขั้นนี้จะเริ่มมีอาการคัน นอกจากคันแล้ว ลักษณะของตกขาวที่มีก็จะเปลี่ยนไปด้วย จากที่เคยเป็นมูกใสๆ หรือขาวขุ่นๆ ก็จะกลายเป็นคล้ายนมที่เด็กอ้วกออกมา ของบางคนอาจมีลักษณะคล้ายแป้ง ลักษณะของตกขาวที่เกิดจากเชื้อรา จะคล้ายนมหรือยางมะละกอ บางครั้งเป็นก้อนคล้ายเต้าหู้ มักจะมีอาการคันมากร่วมกับมีผื่นแดงที่บริเวณปากช่องคลอด  การวินิจฉัยโรคเชื้อราในช่องคลอด       โดยนำเอาตกขาวที่มีเชื้อรามาส่องกล้องจุลทรรศน์ ตรวจด้วยวิธี wet mount หรือ KOH preparation  การรักษาโรคเชื้อราในช่องคลอด       การติดเชื้อราในช่องคลอดสามารถรักษาหายได้ด้วยยา ยาเหน็บช่องคลอดที่นิยมใช้ ได้แก่ clotrimazole vaginal tab, nystatin vaginal tab ยารับประทาน ได้แก่ fluconazoloe 150 mg ครั้งเดียว, itraconazole 200 mg วันละสองครั้งวันเดียว, ketoconazole 400 mg วันละครั้งเป็นเวลา 5 วัน บางครั้งอาจพิจารณาใช้ชนิดครีมทาในช่องคลอดร่วมด้วย  การป้องกันโรคเชื้อราในช่องคลอด       ไม่ใส่เสื้อผ้าที่คับ อึดอัด ไม่ปล่อยให้บริเวณช่องคลอดชื้นแฉะ เวลารู้สึกร้อนหรือเหนอะหนะบริเวณปากช่องคลอด ควรทำความสะอาดเช็ดให้แห้ง ไม่นำเอาผ้าอนามัยแผ่นเล็กๆ ปิดปากช่องคลอด จะทำให้ร้อนมากขึ้น ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วน  แบคทีเรียในช่องคลอด       ปกติในช่องคลอดจะมีแบคทีเรียอยู่หลายชนิด โดยไม่ก่อให้เกิดโรคหรือความผิดปกติใดๆ ที่สำคัญได้แก่ แบคทีเรียที่มีชื่อเรียกว่าแลคโตบาซิลลัส (lactobacillus) ซึ่งจะเปลี่ยนสารไกลโคเจนจากเยื่อบุช่องคลอดเป็นกรดแลคติก ทำให้ pH ในช่องคลอดต่ำกว่า 4.5 ความเป็นกรดในช่องคลอดจะช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียอื่นเจริญเติบโต ธรรมชาติสร้างให้ช่องคลอดมีฤทธิ์เป็นกรดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยจะเริ่มสร้างเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นจนกระทั่งวัยทอง ดังนั้นผู้หญิงอาจจะรู้สึกชื้นๆ บริเวณอวัยวะเพศ หากช่องคลอดแห้งจะทำให้เกิดการติดเชื้อที่ช่องคลอด และรู้สึกเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ ตกขาวที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย จะมีสีออกเหลืองหรือเขียว มีกลิ่นเหม็น บางรายอาจคัน และมีกลิ่นคาวปลาไหลออกมาจากช่องคลอด สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด เช่น Gardnerella vaginalis, Mycoplasma hominis, Prevotella sp., Mobiluneus sp., Bacteroides, Peptostreptococcus พิจารณาให้การรักษาด้วยยา metronidazole 500 mg วันละสองครั้งเป็นเวลา 7 วัน, metronidazole 2000 mg วันละครั้งเป็นเวลา 7 วัน, tinidazole 2000 mg วันละครั้งเป็นเวลา 7 วัน, clindamycin 300 mg วันละสองครั้งเป็นเวลา 7 วัน  ตกขาวจากการติดเชื้อโปรโตซัว       ตกขาวที่เกิดจากการติดเชื้อโปรโตซัวจะมีสีออกเทาหรือเขียว และมีลักษณะเฉพาะคือ จะมีกลิ่นเหม็นคล้ายปลาเน่าหลังมีเพศสัมพันธ์ ช่องคลอดอักเสบ แสบช่องคลอด คันมาก สาเหตุเกิดจากการติดเชื้อ Trichomonas vaginalis สามารถให้การรักษาได้ด้วยยาเหน็บช่องคลอดชนิด di-iodohydroxyquin vaginal tab, clotrimazole vaginal tab หรือพิจารณาใช้ยารับประทาน metronidazole 2000 mg ครั้งเดียว, tinidazole 2000 mg ครั้งเดียว  การดูแลเรื่องตกขาวที่ผิดปกติ        ใช้ยาตามที่แพทย์สั่งให้ครบและไปตรวจนัดของแพทย์ รักษาเรื่องความสะอาดบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ภายนอก โดยเฉพาะเรื่องความอับชื้น ในรายที่มีโรคประจำตัวที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น เบาหวาน ก็ต้องรักษาโรคให้ดี ในบางสาเหตุ จะต้องรักษาคู่นอนด้วยทุกคน ไม่เช่นนั้นจะเป็นซ้ำอยู่เรื่อยๆ ในบางรายต้องพาคู่นอนไปตรวจหาเชื้อกามโรคด้วย  เกี่ยวกับสุขภาพเพิ่มเติม MORSENG BANGKOK   Create Date : 28 เมษายน 2555     0 comment Last Update : 28 เมษายน 2555 23:12:58 น.     Counter : 2856 Pageviews.   Share Tweet

ขำๆ เกมส์ออนไลน์ ฉบับคนเล่น   Create Date : 28 เมษายน 2555     0 comment Last Update : 28 เมษายน 2555 23:11:45 น.     Counter : 1438 Pageviews.   Share Tweet

ทายนิสัย จากลีลารัก ของชาว 12 ราศี ทราบมั้ยคะว่า ลีลารัก ของแต่ละราศีนั้น มีความแตกต่างกันนะคะ เซ็กส์แบบบางเบา หรือจะเป็นอารมณ์เซ็กส์แบบเร่าร้อน อยากรู้มั้ยว่า ราศีไหน จะมีอารมณ์ไฟแรง ร้อนแรงกว่ากัน อย่ามัวช้า มาดูคำทำนายกันเลยจ้า ราศีมังกร (22 ธ.ค. – 19 ม.ค.) ..อารมณ์รักของชาวราศีนี้ เป็นคนที่มีไฟรักแรงสูง นิสัยที่โดดเด่นคือเป็นคนที่มีความโรแมนติก ช่างฝัน บางครั้งเร้าร้อน ความคิดส่วนใหญ่ มักจะยกให้เซ็กส์เป็นสำคัญมากที่สุด ราศีกุมภ์ (20 ม.ค. – 18 ก.พ.) ..อารมณ์รักของชาวราศีนี้ เป็นคนที่เก่งทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติ มักจะชอบใช้สมองมากกว่าการใช้อารมณ์เข้าจัดการกับปัญหา นิสัยส่วนตัวเป็นคนเขินอาย ไม่กล้าสู้หน้า ไม่ค่อยฝักใฝ่ในเรื่องเซ็กส์มากสักเท่าไหร่ มุมมองเกี่ยวกับเรื่องเซ็กส์ของชาวราศีนี้ จะเห็นว่า ความรักกับเซ็กส์เป็นคนละเรื่องกัน ราศีมีน (19 ก.พ. – 20 มี.ค.) ..อารมณ์รัก นิสัยที่แน่นอนของชาวราศีนี้ ก็คือความโรแมนติก ที่มีอย่างสม่ำเสมอ เรื่องเซ็กส์เป็นคนที่ไม่ชอบความเร่าร้อน หรือแบบโลดโผน แต่จะชอบให้คนรัก คลอเคล้ามากกว่า อ๊ะๆ แต่ก็ใช่ว่าจะชอบหมกมุ่นเรื่องเซ็กส์ และมีมุมมองความคิดว่า เซ็กส์คือการแสดงความรัก แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิตคู่ ราศีเมษ (21มี.ค. – 19 เม.ย.) ..อารมณ์รัก ชาวราศีนี้ นิสัยที่เด่นเอามากๆ ก็คือ เขาชอบที่จะเป็นฝ่ายรุกมากกว่า ชอบความตื่นเต้นเร้าใจ แต่ก็ยังคาดหวังว่า จะให้คู่รักเป็นฝ่ายรุกบ้าง โดยรวมแล้วอารมณ์รักของชาวราศีนี้ มีทั้งเร้าร้อน รุนแรง และโรแมนติก แต่ก็มีมุมมองเรื่องลีลาเซ็กส์ที่ต่างออกไปอีกเช่นกันนั่นก็คือ เขาจะคิดว่าเรื่องเซ็กส์ เปรียบเสมือนเป็นเกมอย่างหนึ่ง ราศีพฤษก (20 เม.ย. – 20 พ.ค.) ..อารมณ์รัก เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ค่อยคุ้นกับความโลดโผน นิสัยส่วนใหญ่จะเป็นคนเขินอาย ไม่ค่อยกล้ารุก อ๊ะๆ แต่ถ้าลองได้ถึงขีดสุดล่ะก็ รับรองเลยว่า จะปลดปล่อยอารมณ์และลีลารักอย่างเต็มที่ มุมมองความรักกับเรื่องเซ็กส์ ชาวราศีนี้จะคิดว่าเซ็กส์คือการแสดงความรักต่อกัน และคิดว่าเรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์เรานั่นเองค่ะ ราศีเมถุน (21 พ.ค. – 20 มิ.ย.) ..อารมณ์และลีลารักของชาวราศีนี้ มักจะปลดปล่อยอารมณ์ออกมาอย่างเต็มที่ จะมีความรู้สึกชอบมาก กับความแปลกใหม่ของลีลารัก ชอบความหวือหวา นิสัยโดยรวม บางครั้งเร่าร้อน บางครั้งอ่อนหวาน สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป และมีมุมมองเรื่องนี้ว่า การที่จะมีรัก ก็ต้องมีเรื่องเซ็กส์เข้ามารวมอยู่ด้วยอยู่แล้ว มันเป็นของคู่กันที่ถูกสร้างขึ้นมา ราศีกรกฎ (21 มิ.ย. – 22 ก.ค.) ..อารมณ์รัก เป็นคนที่ชอบความโรแมนติก ถ้าเป็นเรื่องเซ็กส์ ขอเป็นแบบเรียบง่ายไม่โลดโผน รับได้แต่ไม่ขอรุก จะดีที่สุด ไม่ชอบทำอะไรที่แปลกใหม่ มักจะมองว่าการมีเซ็กส์นั้น เป็นสิ่งสวยงามเหมือนกับความรัก จะรู้สึกทนไม่ได้ หากต้องเจอกับคู่รักที่มีอารมณ์เร่าร้อนมากจนเกินไป ราศีสิงห์ (23 ก.ค. – 22 ส.ค.) ..อารมณ์รักของชาวราศีนี้ ค่อนข้างน่ากลัวอยู่เหมือนกันนะคะ เพราะมักจะชอบหมกมุ่นในเรื่องนี้มาก มีไฟแรงสูง และสามารถมีอารมณ์รักได้ แม้กับคนที่ตัวเองไม่รักจริงจัง มีความกล้าแสดงออกตามใจปรารถนามาก แต่ก็สามารถทำให้คู่รักมีความสุขได้อย่างดีเยี่ยม มุมมองความรักของชาวราศีนี้ คิดว่าเซ็กส์เป็นเรื่องธรรมชาติ ที่ไม่ว่าใครต่อใคร ก็มักจะเรียกร้องและต้องการเสมอๆ ราศีกันย์ (23 ส.ค. – 22 ก.ย.) ..อารมณ์รักและลีลาเรื่องเซ็กส์ ชาวราศีนี้ จะไม่ฝักใฝ่ แต่ก็สนใจที่จะเรียนรู้ในทางทฤษฎี ข้อได้เปรียบของชาวราศีนี้ก็คือ ชาวราศีนี้ จะมีอารมณ์รักกับคู่รักเท่านั้น แถมยังมีลีลาเซ็กซี่เป็นเลิศอีกต่างหาก และยังชอบสร้างความประทับใจให้กับคู่รักอีกด้วย ราศีตุล (23 ก.ย. – 22 ต.ค.) ..อารมณ์รัก มักจะไม่ค่อยเรียกร้องหรือต้องการมากนัก ลักษณะภายนอกดูเป็นคนเซ็กซี่ แต่ที่จริงแล้ว ความเซ็กซี่ก็ไม่ช่วยให้เรื่องเซ็กส์ของเธอ เร่าร้อนขึ้นมาได้ ไม่ค่อยกล้าที่จะเป็นฝ่ายรุก มักจะทำแบบค่อยเป็นค่อยไป คิดว่าเซ็กส์ไม่ใช่ของคู่กันกับความรัก หากหลีกเลี่ยงก็จะหลีกออกให้ห่างทันที ราศีพิจิก (23 ต.ค. – 21 พ.ย.) ..อารมณ์รัก เป็นคนที่มีความเซ็กซี่ เร้าร้อน มีไฟแรงสูง และมีความกล้ามาก ที่จะเปิดเผยอารมณ์รัก ที่เต็มเปรี่ยมไปด้วยความรู้สึกและความต้องการในเรื่องเซ็กส์ มักจะชอบที่จะเป็นฝ่ายรุก มากกว่าการเป็นฝ่ายรับ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับคนรักนั่นเอง ราศีธนู (22 พ.ย. – 21 ธ.ค.) ..อารมณ์รักของชาวราศีนี้ เป็นคนที่มีความสนใจ ฝักใฝ่ ชอบคลอเคล้าเล้าโลม เป็นคนอบอุ่นโรแมนติก แต่มักจะเก่งในทางทฤษฎีมากกว่าการลงมือปฏิบัติ  ชาวราศีนี้ มีมุมมองความรักกับเรื่องเซ็กส์คือ เซ็กส์เป็นที่น่าท้าทาย แต่ก็ต้องมาพร้อมกับความรักที่จริงใจด้วยเช่นกัน ขอบคุณข้อมูลจาก Baanpayakorn.com   Create Date : 28 เมษายน 2555     0 comment Last Update : 28 เมษายน 2555 23:10:28 น.     Counter : 1859 Pageviews.   Share Tweet